วันนี้คือวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดของหนุ่มๆ มาเลซาสโซ แมทธิวกับ เมสันนั่งจิบชาคุยกันอยู่ภายในสวนข้างบ้าน บรรยากาศร่มรื่นมีแสงแดดรำไรพอให้ได้ไอของความอบอุ่น
“ผมถามพี่ไมค์จริงๆ เถอะครับ สนใจยัยเด็กนรกมัทนาบ้างหรือเปล่า”
เมสันวางถ้วยชาลง และมองน้องชายอย่างพิจารณา “จู่ๆ ทำไมถามพี่เรื่องนี้ล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
คนเป็นน้องชายไหวไหล่กว้างทรงพลังน้อยๆ “ก็แค่อยากรู้เฉยๆ น่ะครับ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก ว่าแต่พี่ไมค์จะเอายัยเด็กบ้านั่นมาเป็นพี่สะใภ้ผมจริงๆ หรือเปล่าครับ”
เมสันหัวเราะร่วน “พี่เคยมีท่าทางพิเศษกับน้องมัทมากกว่าความเอ็นดูหรือเปล่าล่ะ เคยเห็นไหม”
คนเป็นน้องชายส่ายหน้าน้อยๆ
“ไม่เคยเห็นครับ”
“งั้นก็ตามนั้นแหละ พี่ไม่เคยคิดอะไรกับน้องมัทเกินกว่าคำว่าเอ็นดูเหมือนน้องสาว”
“แต่ยัยเด็กบ้านั่นคิดกับพี่ไมค์มากกว่านั้นนี่ครับ วันๆ ก็จ้องแต่จะหาทางอ่อยพี่ไมค์ตลอด” ไม่รู้ทำไมเขาจะต้องรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้ด้วย แมทธิวไม่เข้าใจตัวเองเลย
“ตบมือข้างเดียวมันดังที่ไหนกัน นายก็รู้นี่”
“ผมรู้ครับ แต่ผมเกรงว่าพี่ไมค์จะใจอ่อน แล้วก็รับยัยเด็กบ้านั่นมาเป็นพี่สะใภ้ผมน่ะสิ”
“ดูนายจะเดือดร้อนเรื่องนี้มากนะแมท” เมสันหรี่ตาแคบมองหน้าน้องชาย แต่แมทธิวรีบปฏิเสธ
“ผมก็แค่ไม่อยากได้เด็กที่เกลียดมาเป็นพี่สะใภ้เท่านั้นเองครับ”
เมสันหัวเราะขบขัน “เกลียดยังไง ไปแอบดูอะไรเขานั่นน่ะ”
โหนกแก้มสูงของแมทธิวมีสีระเรื่อขึ้นทันที ก่อนที่เขาจะหลบตาพี่ชาย
“ผมจะเข้าไปหาพี่ไมค์นั่นแหละครับ แต่ไม่เจอ”
“ก็เลยไปสวมรอยแทนพี่?”
“มันก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมก็แค่อยากแกล้งยัยนั่น”
“นายไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะแมท อย่าทำแบบนี้อีก มันไม่ดี นายต้องเป็นสุภาพบุรุษที่ดีอย่างที่แม่กับพ่อสอน เข้าใจหรือเปล่า”
เพราะรู้ว่าตัวเองผิดจึงจำต้องก้มหน้าโดนตำหนิ “ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับคุณพี่ชาย…”
สองพี่น้องยังคุยกันต่อไป แต่ลัลดาเดินขาสั่นเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน หญิงสาวรีบก้มหน้าและรายงานทันที
“เอ่อ…ขออภัยนะคะ คือว่า…คุณมัทนามาขอพบคุณไมค์ค่ะ”
เมสันตวัดตามองร่างของลัลดาด้วยสายตาไม่พอใจ “แล้วทำไมไม่ให้คนอื่นเข้ามาบอกฉัน ทำไมจะต้องเป็นเธอ”
หญิงสาวที่ถูกตำหนิเผลอช้อนตาขึ้น และก็ประสานกับดวงตาคมกริบดุดันของเมสันเข้าพอดี
“เอ่อ…ดิฉันขอโทษค่ะ”
“ไสหัวไปให้พ้น คราวหน้าคราวหลังอย่ามาวุ่นวายใกล้ๆ ฉันอีก” เมสันเค้นเสียงดุดันใส่อย่างไม่ปรานี แมทธิวเห็นลัลดาตัวสั่นเทาก็อดสงสารไม่ได้
“พี่ไมค์ดุลัลดาทำไมครับ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“นายนั่งเฉยๆ เถอะน่ะแมท” เมสันบอกน้องชาย ก่อนจะตวัดตาจ้องหน้าซีดเผือดของลัลดาอีกครั้ง “ไปเรียกให้น้องมัทเข้ามา ส่วนเธอจะไสหัวไปไหนก็ไป”
“ค่ะ…ค่ะ คุณไมค์”
ลัลดารับคำเสียงเจือสะอื้น ก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แมทธิวมองตามร่างเล็กไปอย่างสงสาร
“พี่ไมค์ยังไม่หายโกรธลัลดาอีกเหรอครับ”
“พี่ไม่ได้โกรธแม่นั่น”
“ไม่ได้โกรธ แต่แทบจะกินหัวเข้าไปแบบนี้ เป็นผมก็กลัวจนหัวหดเหมือนกันล่ะครับ” แมทธิวส่ายหน้าน้อยๆ “ทีกับผมบอกให้เป็นสุภาพบุรุษ แต่พี่ไมค์ไม่เห็นเป็นสุภาพบุรุษกับลัลดาเลยนะครับ”
“ยกเว้นผู้หญิงคนนี้ แมท” น้ำเสียงของเมสันดุกระด้าง
“ครับ” แมทธิวระบายลมหายใจออกมา “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่อยากทะเลาะกับยัยเด็กบ้านั่นอีก”
ชายหนุ่มลุกขึ้น จะรีบปลีกตัวหนีไป แต่มัทนาปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน
“สวัสดีค่ะพี่ไมค์…”
มัทนายกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยและระบายยิ้มหวาน เมสันสำลักน้ำชาที่กำลังจิบอยู่จนไอค่อกแค่ก
‘พี่ไมค์จะต้องสำลักความสวยของเราแน่ๆ’
มัทนาคิดอย่างดีอกดีใจ ความไม่มั่นใจจางหายไปจนหมดไม่เหลืออีกเลย
“สวัสดีครับน้องมัท”
เมสันแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ ตรงกันข้ามกับแมทธิวที่หัวเราะลั่นโดยไม่คิดจะกักเก็บแม้แต่น้อย
มัทนาหันไปมองศัตรูคู่อาฆาตตาขุ่นเขียว “แค่เห็นคนสวยแค่นี้ จะต้องเป็นบ้าเลยหรือไง นายแมทธิว”
แมทธิวยกมือขึ้นกุมหน้าท้องเพราะหัวเราะจนจุกไปหมด ก่อนจะรีบตอบออกมา
“นี่เธอ เอาดวงตาหรือตาตุ่มมองน่ะ ถึงคิดว่าสวย”
“ไอ้บ้า…ฉันสวยจนคนมองกันทั้งตลาด มีนายคนเดียวนั่นแหละตาต่ำเป็นตาตุ่ม”
มัทนาจับจีบกระโปรงบานทรงสุ่มลายดอกกุหลาบสีแดงพื้นสีดำ ตัดด้วยเข็มขัดผ้าสีเหลืองสดบาดตาด้วยความมั่นใจ พลางเชิดหน้าที่แต่งจัดจ้านราวกับหลุดมาจากยุคของพี่คล้าวและน้องทองกวาวขึ้นสูงจนดอกไม้สีแดงดอกใหญ่กระพือพั่บๆ
“จริงไหมคะพี่ไมค์”
เมสันที่กำลังหัวเราะอยู่รีบยกมือขึ้นปิดปาก และพยักหน้ารับน้อยๆ ไม่พูดอะไรออกมา
“เห็นไหม พี่ไมค์ยังมองว่าฉันสวยเลย”
แมทธิวส่ายหน้า และเดินเข้ามาหาแม่ทองกวาวหลงยุค “ถามจริงๆ เถอะ อะไรเข้าฝันน่ะถึงได้แต่งตัว…” เขาลากเสียงยาว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงสูง “ซวยยยยย แบบนี้”
“สวยย่ะ ออกเสียงให้ถูก สวยยยย ชัดๆ แบบนี้ สอเสือ ไม่ใช่ ซอโซ่” แม่คุณยังคงมั่นใจไม่หยุด
“พี่ไมค์ขา วันนี้วันหยุด ไปเที่ยวกับมัทนะคะ”
เมสันตาเหลือก จะส่ายหน้าก็ไม่กล้า จึงหันมองน้องชายอย่างขอความช่วยเหลือ แมทธิวจึงจัดให้
“พี่ไมค์เป็นคุณหมอนะเธอ ไม่ใช่พี่คล้าว จะได้ไปเดินกับแม่ทองกวาวหลงยุคแบบเธอได้”
“ปากเสีย ฉันออกจะสวย”
แมทธิวส่ายหน้าน้อยๆ และยังหัวเราะไม่หยุด “นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ…ตรงท้ายตลาดตรงนู้นน่ะ เขากำลังจัดงานรำแก้บนอยู่ เธอลองไปร่วมงานสิ ชุดเธอมันออกจะตรงคอนเซ็ปต์ของงาน”
“ไอ้…ไอ้คนปากเสีย!”
“ฉันเสียแค่ปาก แต่เธอน่ะ สมงสมองไปหมดแล้ว” แมทธิวส่ายหน้าอย่างระอาใจ “พี่ไมค์เราไปกันเถอะครับ ผมไม่อยากย้อนวันวานกลับไปยุคพี่คล้าวกับทองกวาวน่ะครับ”
แมทธิวหันไปชวนพี่ชาย ก่อนจะรีบเดินหนีเข้าไปในบ้าน เมสันรีบลุกขึ้นบ้าง
“น้องมัท พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ” แล้วเมสันก็รีบก้าวตามน้องชายของตัวเองไป “เฮ้ย เจ้าแมท รอพี่ด้วยสิ”
มัทนายืนงง มองตามร่างของเมสันที่หายวับไปกับตาด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมคนสวยๆ อย่างเราจะต้องถูกทอดทิ้งด้วยนี่” หล่อนถอนหายใจเศร้าหมอง “กลับก็ได้” แล้วหญิงสาวก็เดินออกไปจากรั้วของคฤหาสน์หลังงาม จะข้ามถนนไปยังรถของดลกรที่จอดรถอยู่อีกฝั่งหนึ่ง แต่แล้วฝูงสุนัขจรจัดกว่าสิบตัวก็ต่างเหลียวมามองที่หล่อน
“ขนาดหมายังตกตะลึงในความสวยของเราเลย ไอ้แมทธิวตาถั่ว เชอะ”
มัทนาเชิดหน้าสูงด้วยความมั่นใจในตัวเอง กำลังจะก้าวข้ามถนน แต่เสียงเห่าของสุนัขก็ดังขึ้น
โฮ่งๆ ๆ ๆ
เท้าบอบบางในรองเท้าส้นสูงย้อนยุคชะงัก และหันไปมองเหล่าสุนัขด้วยความประหลาดใจ
“รู้นะว่าชื่นชมในความสวยของฉัน แต่ไม่ต้องเห่าก็ได้นะ มันตกใจ”
หล่อนคุยกับสุนัขเป็นตุเป็นตะ และกำลังจะเริ่มเดินอีกครั้ง ฝูงหมาจรจัดก็วิ่งมุ่งหน้าเข้ามาหาหล่อน
“เฮ้ย…เอาแล้วไง” มัทนาตกใจช็อกเมื่อฝูงสุนัขวิ่งเข้ามาใกล้ทุกขณะ “แบบนี้มันสวยจนหมาทนไม่ไหวใช่ไหมเนี่ย ไม่ไหวแล้ว วิ่งดีกว่า…” แล้วหล่อนก็รีบโกยอ้าวข้ามถนนไปอย่างรวดเร็ว “นังนัตตี้ ปลดล็อกประตูเร็วสิยะ หมามันมาแล้ว!!!”
ดลกรที่กำลังคุยกับผู้ชายอยู่รีบเอาหูฟังออก เมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกแรงๆ ข้างรถ
“อะไรของแกนังมัท!”
มัทนารีบกระชากประตูเปิด และพุ่งเข้ามานั่งอย่างรวดเร็วในสภาพกระหืดกระหอบ
“ก็หมามันไล่ฟัดฉันน่ะสิ”
“เฮ้ยยย แก…สวยจนหมาฟัดเลยเหรอ”
มัทนาส่ายหน้าไปมา และพยายามตั้งสติ ขณะที่ดลกรค่อยๆ บังคับรถให้เคลื่อนขึ้นไปสู่ท้องถนน
“ฉันว่าไม่ใช่แล้วล่ะ”
“ทำไมแกพูดแบบนี้ล่ะนังมัท ฉันอุตส่าห์สละเวลาคุยกับผู้ชายไปเป็นคอสตูมให้แกเชียวนะยะ”
“นังนัตตี้…”
“หือ? ว่าไงแก”
“จอดรถ”
“ฮะ?”
“ฉันบอกให้จอดรถไงยะ”
มัทนาระเบิดเสียงแหลมดังลั่น และดลกรก็แสบหูมากจนต้องรีบทำตาม
“จอดแล้ว ว่ามามีอะไรยะ”
“มีอะไรเหรอ” มัทนาจ้องหน้าเพื่อนกะเทยคนสนิทอย่างแสนขุ่นเคือง “มีแบบนี้ไง นังนัตตี้!”
“โอ๊ยๆ ๆ ๆ แก…ตีฉันทำไม ฉันเจ็บ…”
“นี่มันยังไม่สาสมกับที่แกให้ฉันแต่งตัวบ้าๆ แบบนี้ไปพบพี่ไมค์เลยนังนัตตี้”
“โอ๊ยยยยย แก…ฉันขอโทษ เดี๋ยวฉันคิดพร็อพให้ใหม่”
“ไม่อาวววววว…แกไปตายซะ นังนัตตี้!!!”
สงครามในรถยังคงร้อนระอุ และกว่าจะมอดดับดลกรก็ถูกเพื่อนชะนีทุบตีจนสะบักสะบอมเลยทีเดียว
MANGA DISCUSSION