“แมท…กินอะไรมาหรือยัง”
มาเรียเอ่ยถามบุตรชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่เดินทางมายังอิตาลีกะทันหัน พ่อลูกชายก็เอาแต่ทำงานและทำงาน ไม่พูดไม่จา และไม่ยิ้มแย้มเหมือนแมทธิวคนเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมกินมาแล้วครับ ขอตัวนะครับ คุณพ่อคุณแม่”
“แมทธิว…”
มาเรียถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อลูกชายเดินหนีขึ้นบันไดไปแล้ว หล่อนหันมาหาสามี
“แมทธิวดูแปลกๆ ไปนะคุณ เหมือนคนมีแต่ตัวไม่มีหัวใจ”
“คุณคิดมากไปหรือเปล่า ลูกคงเหนื่อยน่ะ”
“แต่แมทธิวไม่เคยกลับมาอิตาลีและจะอยู่นานๆ แบบนี้เลยนะคะ ฉันว่า…”
“เอาน่า ถ้าลูกไม่สบายใจอะไร เราก็รอให้เขาหายเสียก่อน เดี๋ยวเขาก็คงจะบอกเราเอง”
มาเรียค้อนสามีวงใหญ่ “คุณก็ทำทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ไปเสียทุกเรื่องเลยนะคะ”
คนเป็นสามีไม่อยากจะโต้แย้งกับภรรยาจึงเอาแต่หัวเราะ และนั่งดูรายการโทรทัศน์ต่อไปเงียบๆ
เมื่ออยู่ตามลำพังในห้องนอน ใบหน้าของแมทธิวก็ยิ่งเคร่งเครียด อะไรบางอย่างที่พยายามจะลืมก็จดจำได้อย่างน่ารังเกียจ เขาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง ดวงตาคมกล้าจ้องมองผ่านความมืดออกไปนอกหน้าต่าง
“ผู้หญิงใจร้าย”
เขากัดปากตัวเองแน่น เอนกายนอนหงายลงกับเตียงนอน ดวงตาจับจ้องที่เพดานห้อง ภาพของมัทนาปรากฏอยู่บนนั้น ความเจ็บปวดเต้นระริกในดวงตา
“ยังจะตามมาหลอกหลอนฉันอีกนะ มัทนา”
เขาหลับตาลงช้าๆ สีหน้าราบเรียบ แต่ภายในอกเต็มไปด้วยความปวดร้าวรุนแรง
เมื่อไหร่กัน เขาถึงจะลบเลือนเรือนร่างที่หอมหวานของมัทนาได้ และเมื่อไหร่กัน เขาถึงจะหยุดรักผู้หญิงคนนี้ได้
บ้าชิบ…
นี่เขารักหล่อนจริงๆ หรือ
แมทธิวกัดฟันแน่น กรามแกร่งขบกันเต็มแรงจนขึ้นสันนูนเป่ง เขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด ความรู้สึกผิดหวังทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ
มัทนารักเมสัน ซึ่งเป็นพี่ชายของเขา และมันก็คือความจริง…ใช่ มันคือความจริงที่เขาต้องยอมรับ
หลายวันต่อมา คนที่เจ็บช้ำก็ยังคงเจ็บปวดไม่สร่างซา มัทนาลุกขึ้นมายืนอยู่หน้าบ้าน เหม่อมองท้องฟ้าอย่างใจลอย ราวกับจะมองให้เห็นถึงอิตาลี
รถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอด พอหันไปมองก็รู้ทันทีว่าเจ้าของรถยนต์คันนั้นเป็นใคร
“พี่ไมค์”
เมสันก้าวลงจากรถและเดินมาหามัทนา “สวัสดีครับน้องมัท อยู่บ้านคนเดียวหรือครับ”
“เอ่อ ค่ะ พ่อไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดค่ะ”
เมสันระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ”
“ต้องเป็นเรื่องสำคัญเลยใช่ไหมคะ ไม่อย่างนั้นคุณหมอที่งานยุ่งสุดๆ อย่างพี่ไมค์คงไม่แวะมาหามัทหรอก”
เมสันระบายยิ้มอีกครั้ง ขณะเดินตามร่างอรชรไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก
“เรื่องนายแมทน่ะ”
มัทนาตัวแข็งทื่อ พยายามรวบรวมสติ “เอ่อ…อย่าพูดถึงเขาเลยได้ไหมคะ มัท…”
“พี่รู้ว่าน้องมัทกำลังรู้สึกยังไง แต่ฟังพี่ก่อนนะ”
หญิงสาวน้ำตาไหลออกมา แต่ก็รีบป้ายทิ้งและฝืนยิ้ม “ค่ะ พี่ไมค์พูดเถอะค่ะ มัทรอฟังอยู่”
เมสันถอนหายใจแผ่วเบาก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “เมื่อเช้าคุณแม่ของพี่โทรมาบอกว่านายแมทก็อาการไม่ดีนัก”
มัทนาตกใจ “เขาป่วยเหรอคะ แล้วเป็นอะไรมากไหมคะ แล้วไปหาหมอหรือยัง”
“น้องมัทใจเย็นๆ นะครับ นายแมทไม่ได้ป่วยทางกายหรอก น่าจะป่วยทางใจเหมือนกับน้องมัทนั่นแหละ”
มัทนาอึ้งไป มองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ “เขา…จะมาป่วยใจได้ยังไงกันคะ เขาน่าจะมีความสุขมากกว่า”
“ก็ทีน้องมัทยังป่วยใจได้เลย แล้วทำไมน้องชายพี่จะป่วยใจบ้างไม่ได้ล่ะ”
“ก็เขาไม่ได้รักมัทเหมือนกับที่มัทรักเขานี่คะ”
เมสันระบายยิ้มบางๆ ออกมา “อย่าเดาสิครับ บางอย่างก็ต้องขุด ต้องเจาะ ถึงจะเห็นข้างในจริงๆ”
“แต่มัทแน่ใจค่ะว่าเขาเกลียดมัท”
“ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมปล่อยพ่อของผู้หญิงคนหนึ่งให้รอดคุกรอดตะรางในข้อหายักยอกทรัพย์หรอกครับ น้องมัทลองคิดดูดีๆ สิครับว่าแมทธิวทำอะไรให้เห็นว่าเกลียดน้องมัทบ้าง”
มัทนาก้มหน้าหลบสายตาของเมสันอย่างอดสู หล่อนยังละอายใจเรื่องของบิดาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“เรื่องของพ่อ…มัทขอโทษนะคะ มัทจะรีบหาเงินมาใช้คืน”
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอกครับ เรื่องสำคัญก็คือ น้องมัทควรจะพูดความจริงกับนายแมท คิดยังไงก็บอกไปเลย”
“แต่มัท…ไม่กล้า มัทกลัว…”
“กลัวอะไรล่ะครับ ชีวิตของคนเรามันสั้นนัก รักก็บอกว่ารัก ชอบก็บอกว่าชอบ ทำตามหัวใจของตัวเองเถอะน้องมัท อย่าปล่อยให้ทิฐิมาขวางกั้นเลย อย่ารอให้มันสายเกินไป”
มัทนานั่งนิ่ง ปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลรินออกมาเป็นสายจนแก้มนวลเปื้อนเปรอะ
“มัทรักเขา…แต่เขา…อาจจะไม่ได้รักมัท”
หล่อนกลัว…กลัวว่าสารภาพออกไปแล้วจะถูกแมทธิวหัวเราะเยาะและไล่ส่ง
“ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ถือว่าน้องมัททำตามที่หัวใจต้องการแล้ว ผลมันจะออกมายังไง อย่าไปสนใจมันเลยครับ ขอแค่เราทำในสิ่งที่เราต้องการก็พอ”
“มัท…ขอคิดดูก่อนนะคะ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา ถ้าน้องมัทตัดสินใจที่จะสารภาพความในใจกับ แมทธิวก็บอกพี่นะ พี่จะรีบให้คนของพี่จองตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีให้”
“คะ?” หญิงสาวตกใจ “ไป…อิตาลีเหรอคะ”
“ใช่ครับ ถ้าน้องมัทอยากเจอนายแมทก็ต้องไปหาหมอนั่นที่อิตาลีครับ”
“แต่มัท…”
เมสันระบายยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะลุกขึ้นยืน “น้องมัทมีเวลาคิดเต็มที่เลยนะครับ เอาที่ต้องการจริงๆ พี่ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อนนะครับ”
เมสันหมุนตัวเดินจากไปจะถึงรถอยู่แล้ว แต่มัทนารีบเรียกเอาไว้เสียก่อน
“พี่ไมค์คะ”
“ครับ?” เมสันหันกลับมามองคนเรียก
“มัทจะไปอิตาลีค่ะ”
คนฟังระบายยิ้มกว้างทรงเสน่ห์ “พี่มั่นใจ…ว่าน้องมัทกับนายแมทจะต้องลงเอยกันด้วยดี”
“มัทไม่หวังถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็แค่อยากบอกให้เขารู้ว่ามัทคิดยังไงเท่านั้นค่ะ”
“ทุกอย่างมันจะต้องผ่านไปด้วยดี เชื่อพี่เถอะ”
หล่อนก็หวังแบบนั้น หวังว่าแมทธิวจะไม่ขับไล่ไสส่งให้หล่อนกลับมาอย่างเหี้ยมโหดเช่นที่แอบกลัวอยู่ภายในใจ
MANGA DISCUSSION