เมสันเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มของคนไข้ เมื่อประตูห้องตรวจถูกผลักเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“แมทธิว…” เขาครางชื่อน้องชายออกมา “นายมีประชุมตอนเช้าไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ก็เพิ่งจะเก้าโมง ประชุมไม่น่าจะเสร็จเร็วขนาดนี้”
คนเป็นน้องชายหน้าหงิก เขาโทรหาพี่ชายเป็นร้อยๆ สายตลอดเส้นทางที่ขับรถมาที่นี่ แต่เมสันไม่รับสาย
“ผมเบื่อ ขี้เกียจฟัง”
“นายนี่นะเบื่องาน ไม่น่าเชื่อ นายบ้างานมากกว่าพี่เสียอีก”
แมทธิวพยายามควบคุมตัวเอง ทรุดกายลงนั่งตรงหน้าพี่ชาย “ผมโทรหาพี่ไมค์ตั้งหลายสาย ไม่เห็นรับเลยล่ะครับ”
“อ้าวเหรอ” เมสันรีบมองหาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ก่อนจะพบว่าอยู่ในลิ้นชัก “พี่ไม่ได้ยิน ตั้งเสียงสั่นน่ะ” เขาหยิบออกมาดู ก่อนจะอุทานด้วยความพิศวง “นี่นายโทรหาพี่สิบสองครั้งเลยหรือแมทธิว นายมีอะไรด่วนหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ”
“แล้วโทรหาพี่ทำไมเยอะขนาดนี้”
“ก็…” แมทธิวหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ “ผมก็แค่อยากรู้ว่าแม่นั่นตายหรือยัง”
เมสันหัวเราะร่วนเลยทีเดียว “เป็นห่วงเมียว่างั้นเถอะ”
“ผมเปล่าเป็นห่วงนะครับ” เขาปฏิเสธเสียงดังฟังชัด แต่โหนกแก้มกลับแดงระเรื่อ
เมสันส่ายหน้าน้อยๆ มองน้องชายอย่างรู้ทัน “รักเขาก็บอกเขาไปสิ จะมาทำปากแข็งปากไม่ตรงกับใจไปทำไม เสียเวลาเปล่าๆ”
“ผมไม่ได้รักมัทนาสักหน่อย”
“ไม่ได้รัก แต่ห่วงจนต้องโดดประชุมมาหาเนี่ยนะ”
“ผมไม่ได้โดดประชุมนะครับ ผมก็แค่ยกเลิกไปก่อนเฉยๆ”
เมสันหัวเราะไม่หยุด “นั่นไง สารภาพบาปออกมาแล้ว นี่แมทธิว อย่าปากแข็งนักเลย ชีวิตคนเรามันสั้นนะ ดูอย่างพี่เป็นตัวอย่างสิ ยังไม่ทันได้บอกรักญาญ่าได้มากเท่าที่ต้องการเลย ก็ต้องแยกจากกันไปตลอดชีวิตเสียแล้ว” ท้ายประโยคน้ำเสียงของเมสันเศร้าหมองนัก
“ผม…เสียใจกับพี่ไมค์ด้วยครับ แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว ผมว่าพี่ไมค์ควรจะมองคนอื่นได้แล้ว”
“พี่รักญาญ่า”
“ผมรู้ครับ แต่ผมก็ยังอยากเห็นพี่ไมค์มีครอบครัวที่สมบูรณ์” สุดท้ายเขากลับต้องมาเป็นฝ่ายปลอบใจพี่ชายแทน
“ช่างเถอะ อย่าพูดถึงมันเลย นายจะไปหาน้องมัทใช่ไหม อยู่ชั้นสิบน่ะ ห้องยี่สิบเอ็ด”
“ผมก็แค่…จะขึ้นไปดูว่าเป็นหนักแค่ไหนเท่านั้นแหละครับ ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเลย”
“อืม พี่เชื่อคำพูดนายก็แล้วกัน”
แมทธิวลุกขึ้นยืน ไม่สนใจคำประชดประชันที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ของพี่ชายอีก
“งั้นผมขอตัวนะครับ”
“ไปเถอะ อ้อ พี่ลืมพูดไป”
“อะไรหรือครับ”
“นายอย่ารุนแรงกับน้องมัทมากนักนะแมทธิว”
น้องชายนิ่งเงียบ พี่ชายจึงพูดต่อ “พี่หมายถึง อย่าหักโหมให้มากนัก น้องมัทตัวนิดเดียวเอง รับมือนายทั้งคืนไหวที่ไหนกันล่ะ”
“ผมก็ไม่ได้…”
“พี่รู้ว่านายจะพูดอะไร แต่เพลาๆ มือหน่อยนะ ถือว่าพี่ขอร้องล่ะ”
“แล้วพี่ไมค์รู้ได้ยังไงครับ แม่นั่นบอก?”
“หมอผู้หญิงที่ตรวจร่างกายให้น้องมัทบอกมาน่ะ”
แมทธิวเป่าปากโล่งใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าเป็นหมอผู้หญิงที่ตรวจร่างกายให้กับมัทนา
“ผมจะระวังให้มากขึ้นนะครับ”
“เจ็ดวันหลังจากนี้อย่าเพิ่งทำอะไรน้องมัทนะ ให้เธอได้พักผ่อน อ้อ แล้วน้องมัทต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนนะ เธออ่อนเพลียน่ะ ต้องได้รับน้ำเกลือ”
แมทธิวรู้สึกเกลียดตัวเองไม่น้อย นี่เขาทำรุนแรงเกินไปจนมัทนาต้องเจ็บป่วยเลยหรือ
“ครับ” เขารับคำพี่ชาย “ผมขอตัวนะครับ”
“ไปเถอะ น้องมัทน่าจะนอนหลับอยู่”
แมทธิวฝืนยิ้มให้พี่ชายอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องตรวจของพี่ชาย มุ่งหน้าขึ้นไปหามัทนาบนห้องพักฟื้นชั้นสิบ
มัทนาลืมตาขึ้นบนเตียงภายในห้องพักฟื้นกว้างขวางของโรงพยาบาลของตระกูลมาเลซาสโซ หล่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง และนั่นก็ทำให้คนที่ฟุบหน้าลงกับเตียงรู้สึกตัว เขารีบผงกศีรษะขึ้น พอเห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้วและพยายามจะขยับตัวก็อดดุไม่ได้
“นอนลงไปเลย”
“นาย…”
“ฉันเอง มีอะไรไหม หรือคิดว่าเป็นพี่ไมค์”
คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีอย่างโมโห “นายจะมากวนโมโหฉันอีกทำไม ไม่เห็นหรือไงว่าฉันป่วยอยู่น่ะ”
“ก็เพราะว่าป่วยไง ถึงต้องยกเลิกประชุมกลางคันเพื่อมานั่งเบื่อๆ อยู่ที่นี่น่ะ” คนตัวโตโกหกหน้าตาย
“งั้นก็กลับไปเลย”
“กลับไม่ได้ พี่ไมค์บอกให้ฉันดูแลเมียให้ดี”
มัทนาหน้าร้อนจัด แก้มแดงก่ำ “ใครเป็นเมียนาย นี่พูดให้มันดีๆ นะ”
“แล้วไอ้ที่ฉันฝังเข้าไปในตัวเธอทั้งคืนน่ะ ไม่เรียกว่าเมียแล้วเรียกว่าอะไร”
หล่อนทั้งโกรธทั้งอาย ยกมือจะตีเขา แต่ถูกดุอีกครั้ง “ไม่เห็นหรือไงว่ามีสายน้ำเกลืออยู่น่ะ นอนเฉยๆ เลย”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” หล่อนพูดอย่างแง่งอน น้ำตาซึม
แมทธิวถอนหายใจออกมาแรงๆ “โอเค ฉันจะไม่ด่าว่าเธอแล้ว จะเอาอะไรก็บอกมา”
หล่อนปรายตามองเขาอย่างไม่เชื่อถือ ก่อนจะหันหน้าหนี “ฉันหิวน้ำ หยิบน้ำเสร็จแล้วก็ออกไปเลย”
“เสียใจด้วย ฉันจะเฝ้าเธอทั้งคืน” เขากลับมาพร้อมกับแก้วน้ำ
หล่อนมองเขาอย่างโมโห จะลุกขึ้นนั่งแต่ชายหนุ่มปรับเตียงให้ตั้งขึ้นเสียก่อน
“เอานี่ดื่มน้ำซะ จะได้มีแรงด่าฉันไง”
เพราะกระหายน้ำมากจึงต้องรีบดื่ม ก่อนจะส่งคืนให้เขาและเอ่ยปากไล่อีกครั้ง
“ฉันยังไม่ตายหรอกน่า นายไปได้แล้ว”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ไป จะเฝ้าทั้งคืน”
“ไม่ต้อง”
“เธอจะต้องการหรือไม่ก็แล้วแต่เธอ แต่ฉันจะเฝ้าเธอที่นี่ จะนอนบนโซฟานั่นคืนนี้” เขาชี้ไปที่โซฟาตัวยาวริมห้อง
หล่อนมองตามนิ้วแกร่งไปก็เห็นว่าโซฟาตัวยาวมันสั้นไปสำหรับผู้ชายตัวสูงใหญ่อย่างแมทธิว
“นายไม่มีทางนอนสบายหรอก โซฟามันเล็กแค่นั้นน่ะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันนอนได้ก็แล้วกัน”
เขาเดินเอาแก้วน้ำไปเก็บ แล้วเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้หน้าเตียงคนไข้เช่นเดิม
“หายปวดหัวหรือยัง แล้วตัวล่ะหายร้อนไหม”
เขาถามและยกมือขึ้นอังหน้าผากของหล่อนทันที ซึ่งหล่อนเอียงหน้าหลบไม่ทัน
“ไม่ร้อนแล้วนี่ ดีแล้วล่ะจะได้กลับบ้านพรุ่งนี้” เขาพูดเองเออเองหมดทุกอย่างจนหล่อนอดหมั่นไส้ไม่ได้
“นายไม่ควรมาเสียเวลาอยู่เฝ้าฉัน”
“ถ้าเสียเวลาฉันจะบอกเอง”
“แต่นายควรเอาเวลาตอนนี้ไปอยู่กับผู้หญิงของนายดีกว่า สนุกกว่าเยอะ จริงไหม” หล่อนอดประชดประชันไม่ได้
“แน่นอน อยู่กับเธอมันไม่มีทางสนุกเท่ากับผู้หญิงคนอื่นของฉันได้หรอก”
“งั้นก็ไปสิ ไปเลย”
หล่อนตวาดแว้ดอย่างโมโห
“ถ้าฉันไป เธอก็จะได้โอกาสไปอ่อยพี่ไมค์น่ะสิ ฉันไม่เปิดโอกาสนั้นให้เธอหรอก”
“ไอ้คนความคิดสกปรก”
“แล้วไง ในเมื่อเธอมันชอบทำอะไรสกปรกๆ นี่นา”
หล่อนสะบัดหน้าหนี และรีบตะแคงหันหลังให้เขาทันที น้ำตาไหลออกมา เกลียดปากผู้ชายคนนี้นัก
แมทธิวมองแผ่นหลังบอบบางในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลด้วยสายตาอ่อนแสงลง ความห่วงใยเพิ่มมากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังไม่เท่ากับความโหยหาภายในกาย
เขาต้องการจับหล่อนถอดเสื้อผ้า ถอดให้เกลี้ยงเกลา จากนั้นก็จัดการกัดกินดูดกลืนร่างสาวอวบอัดอีกครั้งและอีกครั้ง จนกว่าเขาจะหมดเรี่ยวหมดแรงเช่นเมื่อคืน
บ้าชิบ!
นับวันมัทนาก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อระบบสมองและร่างกายของเขามากยิ่งขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลย
แมทธิวลุกพรวดขึ้น “ฉันจะออกไปสูบบุหรี่นอกห้อง พักผ่อนไปล่ะ”
แล้วเขาก็ก้าวยาวๆ เดินออกไปจากห้อง เสียงบานประตูกระทบกับวงกบดังขึ้น และมันก็ทำให้มัทนารู้ว่าแมทธิวหายออกไปจากห้องเสียแล้ว
หล่อนค่อยๆ หมุนตัวกลับมา ดวงตาฉ่ำไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความปวดร้าวทรมาน
“คนบ้า…ทำไมในสายตาของนาย ฉันถึงได้เลวนักล่ะ”
ก๊อก ก๊อก
คนตัวเล็กรีบป้ายน้ำตาทิ้ง เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมๆ กับร่างของนางพยาบาลก้าวเข้ามาหา
“พยาบาลเอายามาให้ค่ะ”
หล่อนรับถ้วยยาใสๆ จากมือนางพยาบาลมาเทลงไปในลำคอ ก่อนจะรีบยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่
“ขอบคุณค่ะ”
นางพยาบาลระบายยิ้มอ่อนหวาน “กลางวันนี้รับประทานอะไรดีคะ เดี๋ยวพยาบาลสั่งขึ้นมาให้ค่ะ”
“เอ่อ…อะไรก็ได้ค่ะ มัทไม่ค่อยหิว”
“ค่ะ งั้นพยาบาลเลือกให้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
นางพยาบาลเอาแก้วน้ำไปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ
มัทนาล้มตัวลงนอนอีกครั้ง หยาดน้ำตาค่อยๆ เอ่อล้นออกมาอีก หัวใจปวดร้าวเหลือเกิน
MANGA DISCUSSION