หนังกำลังสนุก แต่คนดูที่นั่งข้างๆ เขากลับนั่งสัปหงกจนน่าเวทนาแมทธิวอมยิ้มน้อยๆ อย่างเอ็นดู ตวัดแขนดึงศีรษะทุยของมัทนาเอนลงมาพิงที่หัวไหล่
“เด็กบ้า หนังตลกใครเขาหลับกัน”
ชายหนุ่มนั่งดูหนังต่อไปเรื่อยๆ พยายามจะไม่สนใจสัมผัสของคนตัวเล็กข้างกายที่หลับไม่รู้เรื่อง แต่กลิ่นหอมๆ ผิวกายเนียนๆ ของหล่อนปลุกความหื่นกระหายของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางอย่างภายในกายตื่นคึกคะนอง และยากที่จะข่มเอาไว้ มันจึงปูดเป่งจนน่าอับอาย เขาจำต้องกัดฟันข่มมันไว้สุดกำลัง และหนังตลกก็กลายเป็นตลกร้ายไปในบัดดล เมื่อเขาคิดผิดดึงร่างของมัทนาเข้ามาแนบกาย
บ้าเอ๊ย!
อีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นที่หนังจะจบลง แต่เขากลับทนรอไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงจำต้องสะกิดแก้มนวลแผ่วเบา
“ฉันจะกลับแล้ว”
เจ้าหล่อนยืดตัวตรงและมองเขาด้วยสีหน้างัวเงีย “หนังจบแล้วเหรอคะ”
“ยัง แต่ฉันอยากจะกลับ”
แล้วเขาก็กระชากมือเล็กให้ลุกขึ้นและเดินตามออกมาจากโรงหนัง ในขณะที่มัทนายังมึนๆ งงๆ อยู่เลย
“อุ๊ย…” หล่อนอุทานและล้มลงไปกองกับพื้น แมทธิวรีบหันไปมอง ก่อนจะย่อตัวลงไปนั่งตรงหน้า ทั้งถามด้วยความเป็นห่วงและก็อดตำหนิไม่ได้
“เดินให้มันระวังหน่อยได้ไหม”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ขาก็เจ็บ อายก็อาย แถมอีตาบ้านี่ยังมาดุใส่อีก
“ก็แล้วนายจะรีบเดินไปตามควายที่ไหนกันล่ะ เดินซะเร็วเชียว”
แมทธิวถอนหายใจออกมาแรงๆ กับวาจาเผ็ดร้อนของมัทนา ก่อนจะหรี่ตามองที่ขาขาวเนียนของหล่อน
“แล้วนี่เดินไหวไหม”
หล่อนมองเขาอย่างโกรธๆ “ไม่ไหวก็ต้องไหว ฉันไม่มีทางนั่งอยู่ตรงนี้จนห้างปิดหรอกน่า” แล้วหล่อนก็กัดฟันลุกขึ้นยืน แต่คงเพราะข้อเท้าแพลงจึงต้องย่อตัวลงไปนั่งกับพื้นอีกครั้ง แมทธิวส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะตัดสินใจอุ้มร่างอรชรขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วก้าวเดินไป
“นี่นาย ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้”
“ฉันขี้เกียจรอเธอคลานตามน่ะ”
“คนบ้า”
“เลิกบ่นเป็นยายแก่ได้แล้ว ฉันรำคาญ” เขาย่นจมูกใส่ ก่อนจะพาหล่อนไปที่ลานจอดรถ และวางหล่อนลงบนเบาะรถด้วยกิริยาที่ไม่นุ่มนวลสักเท่าไหร่นัก พร้อมกับปิดประตูใส่หน้าแรงๆ จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถ
“หนังยังไม่จบเลย นายจะรีบลุกมาทำไม เสียดายเงินค่าตั๋ว”
“เงินเธอเหรอ” เขาย้อนถามเสียงต่ำ
หล่อนเม้มปาก ก่อนจะตอบออกไป “ถึงไม่ใช่เงินฉัน แต่ฉันก็เสียดายก็แล้วกันน่ะ”
“ถ้าเธอเสียดายนัก ก็ไม่ควรนั่งหลับสัปหงกตลอดทั้งเรื่องแบบที่เธอทำลงไป จริงไหม”
คนตัวเล็กหน้าเจื่อน ก่อนจะแก้ตัวถูๆ ไถๆ “ก็ฉันเพิ่งกินอิ่มๆ นี่ กินอิ่มแล้วหนังตามันหย่อน มันก็เลยง่วงนอนเป็นธรรมดา”
“ทั้งๆ ที่ฉันพามาดูหนังตลกเนี่ยนะ” เขาถามเสียงประหลาดใจ
“อืม”
แมทธิวส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาใจ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปจากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง มุ่งหน้าขึ้นไปบนถนนเส้นหลัก
“เราจะกลับบ้านกันเลยใช่ไหม” นั่งมาสักระยะ หล่อนก็อดที่จะทำลายความเงียบขึ้นไม่ได้ ก็ความอึดอัดที่มันมาพร้อมกับออร่าความหล่อของแมทธิวมันไม่ต่างจากคลื่นความถี่ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงเลยนี่นา
“ยัง”
“อ้าว แล้วนายจะพาฉันไปไหนอีกล่ะ นี่มันก็จะสี่ทุ่มแล้วนะ”
“ร้านเสื้อผ้า”
“ฮะ?”
“นั่งเฉยๆ เถอะน่า ฉันรำคาญ” เขาตัดบทและขับรถต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่หล่อนนั่งย่นจมูกใส่คนบ้าอำนาจอย่างหมั่นไส้
สักพักรถสปอร์ตคันงามก็แล่นมาเทียบจอดที่หน้าห้องเสื้อหรูที่ราคาน่าจะแพงระยับแห่งหนึ่ง
“ที่นี่เหรอ”
“อืม ลงไปสิ”
เขาก้าวลงไปก่อน และเมื่อเห็นหล่อนยังคงนั่งบื้ออยู่บนรถเช่นเดิม จึงกระชากประตูเปิดออก
“ลงมาสิ หรือว่าต้องให้จับโยนเข้าไปในร้าน”
หล่อนย่นจมูกใส่เขาอีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงจากรถด้วยท่าทางกระเง้ากระงอด แต่เขาไม่สนใจหล่อน ก้าวเดินตรงไปยังประตูร้าน หล่อนรีบวิ่งตามไปคว้าแขนล่ำเอาไว้
“นี่นายจะพาฉันมาซื้อเสื้อผ้าที่นี่จริงๆ เหรอ”
เขาเอียงหน้ามามองด้วยสายตาติดรำคาญ “ใช่”
“แต่ฉันว่ามันน่าจะแพงนะ”
“แล้วไง”
“ก็ตอนนี้เงินฉันไม่ค่อยมีน่ะสิ”
แมทธิวจ้องหน้าหล่อนอย่างรำคาญ “ฉันพามา ฉันก็ต้องซื้อให้สิ เข้าไปได้แล้ว รับรองว่าเธอจะต้องชอบเสื้อผ้าที่นี่แน่ มีชุดลายดอกอย่างที่เธอชอบด้วยนะ”
แล้วเขาก็เดินนำเข้าไปทันที หล่อนยืนลังเลอยู่สักพักจึงตัดสินใจเดินตามเข้าไป
“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ไม่ทราบว่าต้องการให้ร้านของเรารับใช้เรื่องอะไรคะ”
“ผมต้องการซื้อชุดให้ภรรยาของผมสิบชุด คุณช่วยพาเธอไปเลือกด้วย อ้อ แล้วถ้ามีชุดลายดอกรีบพาเธอไปเลือกเลยนะครับ เธอชอบแนวนั้น”
“นี่จะบ้าหรือไง ใครว่าฉันชอบกันล่ะ”
“อ้าว ก็ฉันเห็นเธออยากเป็นทองกวาวไม่ใช่หรือ” แล้วเขาก็หัวเราะออกมาคงเพราะกลั้นไม่ไหว
หล่อนหน้าแดงก่ำ อดนึกถึงวีรกรรมนั้นของตัวเองไม่ได้ “มันก็แค่ความผิดพลาดเดียวของฉันเท่านั้นแหละ” มัทนาเชิดหน้าใส่พ่อคุณสุดหล่อ “ฉันไปล่ะ เดี๋ยวจะเลือกมาเยอะๆ เลือกชุดแพงๆ เอาให้ล่มจมกันเลยทีเดียว คอยดูนะ”
“ตามสบาย” เขายักไหล่ก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งบนโซฟา แล้วหยิบนิตยสารขึ้นมาเปิดอ่านด้วยท่าทางสบายๆ หล่อนมองอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินตามพนักงานไป
ยี่สิบนาทีต่อมา แมทธิวเงยหน้าขึ้นจากนิตยสารในมือเมื่อพนักงานสาวของห้องเสื้อดังเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า
“ภรรยาผมล่ะครับ”
“เธอลองชุดอยู่น่ะค่ะ น่าจะอีกสักพักคงเสร็จ ดิฉันเกรงว่าคุณผู้ชายจะรอนานเลยออกมาแจ้งข่าวก่อนนะคะ”
แมทธิวระบายยิ้มน้อยๆ วางนิตยสารในมือลงกับโต๊ะกระจก พร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ผมเข้าไปดูเธอได้ไหมครับ”
“อ้อ เชิญค่ะ ตามสบายเลยค่ะ”
แมทธิวยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเดินตัวตรงเข้าไปยังบริเวณหน้าห้องลองเสื้อ ซึ่งมีพนักงานผู้หญิงยืนอยู่อีกสองคน
“ผมจัดการเองครับ คุณสองคนไปรอที่หน้าร้านเถอะครับ”
“เอ่อ…”
“เธอเป็นภรรยาผมครับ ผมจะได้ช่วยดูว่าชุดสวยหรือเปล่า”
พนักงานสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มน้อยๆ และเดินออกไปแต่โดยดี
แมทธิวยืนกอดอกอยู่หน้าห้องลองเสื้อแค่เพียงไม่ถึงสิบวินาที เสียงใสๆ ของมัทนาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“คุณคะ เข้ามาช่วยรูดซิปหน่อยได้ไหมคะ ฉันรูดไม่ขึ้นน่ะค่ะ”
แมทธิวไม่ตอบ แต่ขยับเข้าไปชิดบานประตู และยกมือขึ้นเคาะเบาๆ หนึ่งครั้ง
มัทนาเปิดให้ ก่อนจะชะงักค้าง เมื่อเห็นว่าเป็นแมทธิวไม่ใช่พนักงานสาว
“นี่นาย…”
แมทธิวไม่พูดพล่ามทำเพลง แทรกตัวเข้ามาภายในห้องลองชุด และจัดการล็อกประตูให้เสร็จสรรพ
“ออกไปนะ ฉันกำลังลองชุดไม่เห็นหรือไง”
“ก็ไหนว่ารูดซิปไม่ขึ้นไง” เขาว่าและเดินเข้ามาประชิดตัว จนหล่อนตัวลีบไปกับผนังห้อง
“แต่ฉันไม่ได้เรียกนาย”
“ก็ฉันอยู่พอดีนี่ ไหนมาจะช่วย”
“ไม่ต้อง”
คนปฏิเสธหน้าตาแดงก่ำและผลักไส แต่แมทธิวไม่ยอมออกห่าง แถมยังกระชากร่างของหล่อนเข้ามากอดรัด
“นี่ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย”
“บอกให้ปล่อยไง ฉันอึดอัด” หล่อนแดงไปทั้งตัวเลยทีเดียว และรู้สึกร้อนผะผ่าวในบางจุดที่ไม่ควรจะรู้สึกเลย
“ไม่เห็นอึดอัดเลย” เขาพูดเสียงต่ำจนน่าตกใจ ขณะกดร่างของหล่อนจนแทบจะจมหายเข้าไปในผนังห้องลองชุด หญิงสาวพยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรับรู้ถึงความตื่นตัวของเขา จนต้องเงยหน้าขึ้นมองและห่อปากตกใจ
เขาระบายยิ้มหื่นกระหาย โน้มศีรษะต่ำลงมาหา ลมหายใจอุ่นร้อนจากปลายจมูกโด่งสวยทำให้หล่อนมึนเมา แม้จะพยายามฝืนใจแต่ก็อดคล้อยตามไม่ได้
“นี่นายจะ…ทำอะไร”
เขาอมยิ้ม ปากกระด้างชิดใกล้เข้ามาทุกขณะ “เธอคิดว่า…ฉันควรจะทำอะไรล่ะ ในเวลาที่กำลังยืนกอดเมียเนื้อตัวนุ่มนิ่มอยู่แบบนี้”
“บ้า…นี่นายจะ…จะเข้ามาในตัวฉันเหรอ” หล่อนเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ยัยหื่น…ใครจะทำแบบนั้นกันล่ะ ฉันโยกทีเดียวห้องลองชุดนี่ก็กระจุยแล้ว”
“ก็นาย…บอกว่า…”
“ก็แค่จะจูบ…” เขาลูบไล้ผิวต้นแขนของหล่อนแผ่วเบา “จะดูด…” และแนบปากกระด้างเข้ามาหามากยิ่งขึ้น ในขณะที่หล่อนหัวใจเต้นระรัวจนแทบเป็นลมด้วยความคาดหวัง “และจะขยำหน้าอกของเธอ”
“แมทธิว…”
ครางเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ แสดงให้รู้ว่าเต็มใจให้เขาทำในสิ่งที่พูด
แมทธิวระบายยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะรีบประกบปากลงไปหาทันที บดขยี้อย่างหิวกระหายสุดหัวใจ เจ้าตัวเผยอปากจูบตอบด้วยความน่าเอ็นดู และนั่นก็ยิ่งเร่งเร้าให้เขาขยี้หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น เขากระแทกร่างเล็กเข้ากับผนังห้องมากยิ่งขึ้น บดจูบป่าเถื่อน มือใหญ่บีบเคล้นปลุกเร้าไปทั่วทั้งกายสาว ลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปตวัดรัดรึงหาความหวานฉ่ำ
“อา…” สาวน้อยเผลอครางออกมา เมื่อคนตัวโตก้มหน้าลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอระหง พร้อมๆ กับรั้งชุดสวยลงไปกองที่เอวคอด นิ้วแกร่งถูไถยอดทรวงสีหวานจนมันคัดบวมเป่ง ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะต่ำลงมาดูดอม
“อ๊ะ…อา…แมทธิว…”
หล่อนเงยหน้าไปด้านหลัง ขยี้เส้นผมดกดำและกดให้เขาดูดอมถนัดปากมากยิ่งขึ้น แมทธิวทั้งดูดทั้งขยำเต้าสวยด้วยความหื่นกระหายตามแรงราคะที่อัดแน่นอยู่ภายในกาย บางอย่างของเขาชูชันและต้องการปลดปล่อย
“ฉัน…ทนไม่ไหว…” เขาหอบหายใจ น้ำเสียงกระเส่า “ขอฉัน…เข้าไปในตัวของเธอ เดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มลนลานพยายามรูดซิปกางเกง และมัทนาก็เตรียมพร้อมที่จะเปิดรับเขาเข้ามา แต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน
“เอ่อ…ไม่ทราบว่าลองชุดได้ไหมคะ”
ทั้งแมทธิวและมัทนาต่างช็อก และละสายตาจากบานประตูมาจ้องหน้ากัน ก่อนที่แมทธิวจะตั้งสติได้ ขานตอบออกไป
“ทุกอย่างโอเคครับ”
“อ้อ ค่ะ งั้นดิฉันยืนรอเอาชุดต่อไปให้ลองเลยนะคะ”
กรามแกร่งของแมทธิวขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง เขาจ้องหน้าหล่อนนิ่ง ก่อนจะเค้นเสียงกระด้างตอบออกไป
“ครับ”
ชายหนุ่มผละออกห่าง จัดการรูดซิปที่ดึงลงไว้ค้างๆ คาๆ ขึ้นจนสุด จากนั้นก็ยืนมองหล่อนดึงชุดที่กองอยู่ที่บั้นเอวกลับขึ้นไปไว้ที่เดิมอย่างใจเย็น
“เพราะนายคนเดียวเลย ไอ้คนหื่นกาม” หล่อนเค้นเสียงต่อว่าทั้งๆ ที่หน้าตาแดงก่ำ และพยายามจะรูดซิปด้านหลังแต่รูดไม่ได้ แมทธิวจึงจับร่างบอบบางหมุนด้านหลังมาและจัดการทำให้จนสำเร็จ
“ฉันจะออกไปก่อน ส่วนเธอก็ลองชุดต่อไปให้เสร็จ”
เขาเดินไปปลดกลอนประตูและเดินผ่านพนักงานสาวออกไป ทำราวกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ในขณะที่หล่อนทำหน้าเนียนๆ อย่างเขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะใบหน้าร้อนผ่าว สองแก้มแดงก่ำ
“เอ่อ…” หล่อนอึกอักเมื่อสบตาพนักงานสาวที่มองมายิ้มๆ ราวกับล่วงรู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้
“ชุดใส่พอดีไหมคะ”
“อ้อ ใส่พอดีค่ะ”
พนักงานสาวยังคงยิ้มอีก ก่อนจะยื่นอีกชุดให้ “ชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่คุณผู้หญิงเลือกไว้ค่ะ”
มัทนารีบรับมาถือเอาไว้ และยิ้มเจื่อนๆ “งั้นฉันเข้าไปลองต่อนะคะ”
“เชิญค่ะ อ้อ แล้วต้องให้สามีเข้าไปช่วยอีกไหมคะ”
มัทนายิ่งแก้มแดงจัด “เอ่อ ไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” หล่อนพูดจบก็รีบปิดประตูห้องลองชุด และยืนเอาแผ่นหลังพิงกับบานประตูเอาไว้ หน้าอกอวบที่เพิ่งถูกขยำและดูดอมกระเพื่อมแรงๆ เพราะเจ้าของกำลังหอบระรัว
“คนบ้า…” แม้จะต่อว่าเขา แต่กลับรู้สึกดีอย่างประหลาด
MANGA DISCUSSION