“พ่อ…มัทมีเรื่องอยากจะถามพ่อน่ะค่ะ”
เมื่อกลับมาถึงบ้านและเผชิญหน้ากับบิดาเข้าพอดี หล่อนจึงตัดสินใจพูดขึ้น
“ถ้าจะถามถึงเรื่องคืนนั้น ข้าไม่รู้เรื่อง” มนตรีไม่มีความกล้าพอที่จะบอกเรื่องเลวระยำของตัวเองให้ลูกสาวรับรู้ “ข้าไปนอนก่อนนะ กับข้าวอยู่บนโต๊ะในครัว”
“พ่อคะ มัทแค่อยากรู้ว่ามัทไปที่ห้องพี่ไมค์ได้ยังไง” หล่อนดึงมือของบิดาเอาไว้
มนตรีมองหน้าเศร้าๆ ของลูกสาว และก็ยิ่งละอายใจ “ก็ข้าบอกแล้วไงว่าไม่รู้”
“พ่อ…บอกมัทมาเถอะ มัทสัญญาว่าจะไม่โกรธไม่เกลียดอะไรพ่อ แค่บอกมัทมาว่ามัทไปที่ห้องนั้นได้ยังไง”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้!”
บิดาของหล่อนสะบัดแขนแรงๆ จนมือของหล่อนที่เกาะเอาไว้หลุด ก่อนจะรีบเดินหนี แต่หล่อนก้าวตามไปติดๆ
“พ่อพามัทไปที่ห้องพี่ไมค์ใช่ไหมคะ”
มนตรีชะงักกึก ยืนนิ่งงัน
มัทนารีบเดินอ้อมไปหยุดขวางหน้า มองหน้าบิดาทั้งน้ำตา วิงวอนให้ท่านช่วยไขความกระจ่างให้เสียที
“พ่อ…บอกความจริงกับมัทเถอะ มัทจะได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้แรดไม่ได้เลว ไม่ใช่ผู้หญิงร่านที่ไปให้ท่าผู้ชายถึงห้อง อย่างที่คนอื่นเขาประณาม”
มนตรีตาแดงก่ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม ก่อนจะหันหน้าหนี “ใช่…ข้าเป็นคนพาแกไปห้องคุณเมสันเอง”
“พ่อ…?”
“และข้าก็เป็นคนใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในแก้วน้ำหวานของเอ็งด้วยเหมือนกัน”
“พ่อ?!” มัทนาตกใจมาก “นี่พ่อ…พ่อใส่ยานั่น…กับมัทได้ยังไงกันคะ พ่อทำได้ยังไง” หล่อนส่ายหน้าดิก มองบิดาอย่างผิดหวัง
“ข้าก็แค่อยากช่วยให้เอ็งจับคุณเมสันได้สำเร็จ แต่ไม่คิดว่าจะผิดพลาดกลายเป็นคุณแมทธิวไปได้ ข้าขอโทษ…แกจะโกรธ จะเกลียดข้า หรือจะไม่นับว่าข้าเป็นพ่ออีกก็แล้วแต่แกเถอะ” แล้วพ่อของหล่อนก็เดินเลี่ยงเพื่อที่จะเข้าห้องพัก
“พ่อ…”
“ข้าขอโทษ”
“มัทไม่โกรธพ่อหรอกค่ะ” หล่อนสะอื้นไห้ ขณะเดินมาหยุดใกล้ๆ ร่างของบิดา “แต่มัทมีบางอย่างอยากจะขอพ่อ…”
มนตรีหมุนตัวกลับมามองหน้าลูกสาว “ข้ายินดีทำทุกอย่าง ถ้ามันจะช่วยล้างความผิดบาปของข้าลงไปได้บ้าง”
“มัทขอไปอยู่กับนัตตี้สักพักนะคะ”
“อืม ตามใจแกเถอะ ข้าจะไม่ห้ามอะไรแกอีกแล้ว ขออย่างเดียวติดต่อกลับมาบ้าง”
“ค่ะ” หล่อนสวมกอดร่างของบิดาเอาไว้ ร้องไห้กับอกของท่านด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
ไม่เคยมีวินาทีไหนที่เขาจะเบื่อรับสายลูกค้า เบื่อที่จะเจรจาต่อรองธุรกิจกับผู้ร่วมทุนทำธุรกิจ แต่ตอนนี้ นาทีนี้ และขณะนี้ เขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ฟุ้งซ่านจนเกินจะควบคุมได้ หลายครั้งที่เขาเผลอตวาดคนปลายสายไปด้วยความโมโหเมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่เข้าหู ทั้งๆ ที่ปกติสามารถควบคุมโทสะได้มากกว่านี้
ระยำ!
เขาสบถออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า หงุดหงิดจนแม้แต่เลขาฯ ที่ทำงานร่วมกันมานานยังเข้าหน้าไม่ติด นี่เขาเป็นอะไรไป เขากำลังเป็นบ้าอะไรไป ทำไมถึงได้งุ่นง่านทรมานเช่นนี้
ชายหนุ่มเอนตัวพิงกับเบาะเก้าอี้หนังตัวใหญ่ หลับตาลง สมองที่ควรจะหมกมุ่นอยู่กับงานและเงิน ตอนนี้เอาแต่ละเมอถึงแต่เรื่องคาวๆ บนเตียงนอน กับ…
มัทนา!
บ้าชิบ นี่เขาควรจะทำยังไงดี ควรจะจัดการกับระบบสมองที่แปรปรวนอย่างหนักนี่ยังไงดี
คนตัวโตลุกขึ้นยืน เดินกลับไปกลับมาภายในห้องทำงานครั้งแล้วครั้งเล่า ในสมองเต็มไปด้วยเรื่องราวของมัทนาเต็มไปหมด เขาพยายามที่จะหยุดคิดถึงหล่อน แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งประสบกับความล้มเหลว เมื่อเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นมันยังคงตามหลอกหลอนราวกับผีบ้าตลอดเวลา
ความรู้สึกยามถูกโอบกระชับบีบรัดจากกล้ามเนื้อสาวภายในของมัทนาทำให้เขาเผลอครางออกมาเสียทุกครั้งไป เนื้อตัวยังร้อนรุ่มทรมาน ความรู้สึกต้องการจะสอดแทรกเข้าไปในเรือนกายคับแคบนั้นยังคงล้นปรี่
เขาควรจะอิ่มเอมหลังจากดื่มกินเจ้าหล่อนหลายครั้งในค่ำคืนนั้น แต่ความรู้สึกที่มีในตอนนี้มันยังห่างไกลจากคำว่าอิ่มเอมมากมายนัก เขายังต้องการหล่อนอย่างรุนแรง ต้องการฝากฝังความเป็นชายลงไปในร่องลึกซ้ำๆ ทำให้หล่อนครวญคราง และแดงก่ำไปทั้งตัวเหมือนกับที่เคยทำ
โอ้…พระเจ้า นี่เขากำลังเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมจะต้องโหยหามัทนามากมายขนาดนี้ หล่อนก็แค่ผู้หญิงน่ารังเกียจคนหนึ่ง และก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่มักจะมองข้ามเขาไปตลอดเวลา
กรามแกร่งขบกันแน่น พยายามควบคุมโทสะร้ายภายในอก แต่มันก็ทำได้ยากเย็นนัก สภาพของเขาตอนนี้ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มร้อนรักที่แข็งชันทุกครั้งที่เห็นสิ่งเร้าทางเพศ เขาควรจะควบคุมมันให้สงบเงียบ แต่มันกลับผงาดคึกคักร้อนแรง
แมทธิวเดินไปหยุดที่หน้าต่างกระจก ยื่นมือไปเลื่อนกระจกใสตรงหน้าให้เปิดกว้างออก สายลมเย็นๆ พัดเข้าใส่ร่าง แต่ก็ไม่อาจดับไฟปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ภายในกายให้มอดลงได้เลย
ชายหนุ่มยิ้มเครียดๆ แต่กลับทำให้เขาลุ่มหลงและคิดถึงได้ทุกลมหายใจ
หรือว่าเขาควรจะทำตามสิ่งที่หัวใจต้องการดีนะ ไปหาหล่อน ลากหล่อนมาเก็บไว้ข้างกาย รอจนกว่าจะเบื่อหน่าย ค่อยจัดการโยนหล่อนทิ้งลงไปในถังขยะ
ใช่…นี่แหละคือความคิดที่เยี่ยมยอดที่สุด
เช้าวันต่อมา มัทนาก็ลากกระเป๋าออกมาที่รถของดลกรที่จอดรออยู่ หล่อนหันไปยกมือไหว้บิดา
“มัทไปนะพ่อ ถ้ารู้สึกดีขึ้นแล้วมัทจะกลับมาหาพ่อจ้ะ”
มนตรีตาแดงๆ แต่ก็พยายามฝืนยิ้ม “ไปเถอะ พักผ่อนให้สบายกายสบายใจ มีแรงแล้วค่อยกลับมา”
“มัทไปไม่นานหรอกพ่อ เดี๋ยวมัทก็กลับมา”
มัทนาโผเข้ามากอดบิดา ร้องไห้กับอกของท่าน ก่อนจะเดินห่างออกไป
“มัทไปนะพ่อ”
“อืม โชคดี”
มนตรีมองลูกสาวที่กำลังหายไปกับรถยนต์ของดลกรด้วยความเศร้าหมอง
“ข้าขอโทษ…”
ผู้เป็นบิดาสำนึกผิดเต็มหัวใจ ปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม ก่อนจะต้องรีบยกมือขึ้นป้ายทิ้ง เมื่อมีซูเปอร์คาร์คันคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดตรงหน้า
“คุณ…แมทธิว…”
แมทธิวก้าวลงมาจากรถ แล้วเดินมาหยุดตรงหน้ามนตรี
“ผมมาหามัทนา”
“เอ่อ…”
“ไปตามเธอออกมาพบผม”
“คือว่า…”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ” แมทธิวย้ำเสียงดุดัน ดวงตาคมกริบจ้องหน้ามนตรีเขม็ง
มนตรีตัวสั่นเทา ขยับปากตอบออกไปเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน “ยัยมัท…ไม่อยู่ครับ”
“โทรตามให้กลับมาหาผมเดี๋ยวนี้”
“คือว่า…ยัยมัทคงไม่ยอมกลับมาหรอกครับ”
“โทรเดี๋ยวนี้ครับ คุณมนตรี” น้ำเสียงของแมทธิวดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ทำให้มนตรีต้องรีบต่อสายหาลูกสาว
“มัท…พ่อเองนะ”
ขวับ…
โทรศัพท์ในมือของมนตรีถูกแมทธิวกระชากไปแนบหูของตัวเองทันที
“พ่อ…มีอะไรกับมัทเหรอคะ”
“เธออยู่ที่ไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ”
เสียงที่กรอกมาตามสายไม่ใช่เสียงของบิดา แต่เป็นเสียงของ…?!
“นาย…แมทธิว!”
“ใช่ ฉันเอง กลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้ ฉันรอเธออยู่”
มัทนาเม้มปากแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ฉันไม่มีทางกลับไปเจอหน้านายอีกเด็ดขาด ไสหัวไปลงนรกซะ”
แทนที่เขาจะรามือกลับหัวเราะร่วน “ถ้าไม่กลับมาลงนรกด้วยกัน พ่อเธอก็จะลงนรกนำหน้าไปก่อนนะ มัทนา”
“นี่…นายจะทำอะไรพ่อฉันน่ะ”
แมทธิวหัวเราะร่วน “ก็พ่อเธอยักยอกเงินฉันไปตั้งหลายสิบล้านไม่ใช่หรือ เธอคิดว่าฉันควรทำยังไงดีล่ะ จับเข้าซังเต หรือว่าจ้างมือปืนมาเป่าสมองดี”
“ไอ้…ไอ้คนบ้าเลือด!”
“กลับมา ฉันให้เวลาเธอสิบนาที”
“เดี๋ยวสิ ไอ้คนบ้า…นี่นายอย่าเพิ่งวางนะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน นาย แมทธิว!”
ไม่ว่าหล่อนจะตะโกนดังแค่ไหนแต่คนปลายสายก็ตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี
“เกิดอะไรขึ้นเหรอนังมัท คุณแมทธิวเรียกร้องค่าตัวจากแกเหรอ”
ดลกรที่ขับรถอยู่ถามขำๆ แต่คนถูกถามกลับหัวเราะไม่ออก
“ไม่ใช่ แต่เขาให้ฉันกลับไปที่บ้าน”
“นี่คุณแมทธิวสุดหล่อมาหาแกที่บ้านอย่างนั้นเหรอ ตายแล้วแก สงสัยคุณแมทธิวติดใจแกแน่ๆ เลยอะ”
“จะบ้าหรือไงนังนัตตี้ หมอนี่จะต้องคิดอะไรร้ายๆ อีกอย่างแน่นอน”
“แล้วแกจะเอายังไง จะไปต่อหรือจะกลับไปที่บ้าน”
“ฉันไม่มีทางเลือกนี่ หมอนั่นขู่ฉันว่าถ้าไม่กลับไปในอีกสิบนาทีนี้จะจับพ่อฉันเข้าคุก”
“ตายแล้ว…แล้วนี่ฉันจะพาแกกลับบ้านทันไหมเนี่ย” ดลกรสีหน้าตื่นตระหนก “ยูเทิร์นๆ ๆ มันอยู่ตรงไหนเนี่ย” คนขับร้องโวยวายอย่างร้อนรน
“แกคงต้องเหยียบร้อยยี่สิบแล้วนัตตี้” มัทนาพูดเสียงเศร้า
“ร้อยยี่สิบบ้าบออะไรล่ะ แค่สี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ให้มันได้เถอะ นี่แกไม่เห็นหรือไงว่ารถมันติดน่ะ” ดลกรบ่นอย่างหัวเสีย แต่ก็พยายามที่จะพาเพื่อนรักกลับบ้านให้ทันเวลา
MANGA DISCUSSION