สวาทร้ายเมียนอกหัวใจ ชุด วิวาห์ไร้รัก - ตอนที่ 32
มนตรีเงียบไป เถียงไม่ออก เขาร้องไห้ ตาแดงก่ำ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับแมทธิวอย่างขอความเห็นใจ
“ผม…ผมผิดเองครับ ผมวางยายัยมัท…”
แมทธิวชะงักไป ดวงตาคมกริบจ้องมองมนตรีเขม็ง “คุณว่าอะไรนะคุณมนตรี…?”
“ยัยมัทกำลังจะกลับกรุงเทพฯ อยู่แล้ว แต่ผม…ผมวางแผนใส่ยาเลิฟในน้ำให้กิน แล้วก็พายัยมัทมาที่ห้องของคุณไมค์ ผมขอโทษ…ผมผิดไปแล้ว แต่ผมคิดว่านี่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ผมรอดตะราง”
แมทธิวกัดฟันแน่น ถลาจะเข้ามาต่อยมนตรี แต่เมสันลุกขึ้นคว้าตัวของน้องชายเอาไว้ได้เสียก่อน
“ใจเย็นๆ นายแมท”
“พี่ไมค์จะให้ผมใจเย็นได้ยังไงครับ พี่ไมค์ไม่ได้ยินที่มันพูดหรือครับ มันทำได้แม้กระทั่งลูกสาวของตัวเอง…”
“ผมผิดไปแล้วครับ ผมขอโทษ…” มนตรีคุกเข่าลงกับพื้น สำนึกผิดจนร้องไห้ออกมา “ผมคิดถึงแต่ตัวเองจนลืมคิดถึงคนอื่น แม้แต่ลูกสาวของผม ผมก็ยังใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ผมขอโทษครับ ผม…ผมยอมรับผิดทุกอย่าง แต่อย่าโกรธ อย่าโทษมัทนาเลยนะครับ ลูกสาวของผมไม่รู้เรื่อง…เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ”
แมทธิวโกรธจัด ในอกเต็มไปด้วยกองไฟ “ไปให้พ้น ไปให้พ้นหน้าเลยนะ ไอ้คนเลว!”
“ผมขอโทษนะครับ” มนตรีเอ่ยเสียงอ่อนล้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินออกไป
แมทธิวเดินกลับไปกลับมาอย่างหงุดหงิด ในอกลุกเป็นไฟด้วยความรู้สึกมากมาย อะไรคือความจริง อะไรคือความเป็นจริงที่เขาควรจะเชื่อกันแน่
ชายหนุ่มเดินไปทรุดนั่งลงบนโซฟา ยกมือขึ้นลูบหน้าด้วยอารมณ์ที่ยังติดลบ
“แมท…นายจะทำอะไรก็คิดให้ดีๆ นะพี่เป็นห่วง”
แมทธิวลดมือจากใบหน้า และมองพี่ชายด้วยสายตาทรมาน “ถ้าพี่ไมค์เป็นผมในตอนนี้ พี่ไมค์จะทำยังไงครับ”
“พี่ก็จะรับผิดชอบน้องมัท”
“ทั้งๆ ที่แม่นั่นไม่ได้ตั้งใจเข้ามาหาผมเนี่ยนะครับ”
“อืม” เมสันพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย “นายลองถามใจตัวเองดูสิ ว่าอะไรคือสิ่งที่นายต้องการกันแน่ แต่ถ้าพี่เดาไม่ผิด ที่นายโมโหน้องมัทขนาดนี้ก็เพราะนายหึง”
“ทำไมผมจะต้องหึงด้วยครับ” แมทธิวปฏิเสธ และไม่ยอมสบตากับพี่ชาย
“ก็เพราะนายชอบน้องมัทยังไงล่ะ”
“ผมไม่ได้ชอบยัยนั่นครับ” เขาปฏิเสธทันควัน แต่ก็ยังไม่ยอมสบตาเช่นเดิม
“พี่เป็นพี่ชายของนาย เราอยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี ทำไมพี่จะไม่รู้จักนิสัยของนาย แมทธิว…”
แมทธิวหันมาสบประสานสายตากับพี่ชาย เมสันระบายยิ้มก่อนจะพูดออกมาอีก
“ถ้านายไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องมัท เมื่อคืนนายคงไม่ปล่อยเลยตามเลยหรอก จริงไหม”
“ผม…”
“น้องมัทยังเด็ก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ตามตื๊อตามติดพี่คือความรักแบบไหน นายควรจะหยุดคิดสักนิด ว่าควรจะทำยังไงต่อไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น พี่ให้อภิสิทธิ์นายเต็มที่ สัญญาว่าจะไม่ก้าวก่ายเด็ดขาด”
แมทธิวนั่งนิ่ง ยกสองมือขึ้นลูบหน้าตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ความเคร่งเครียดทรมานก็ยังไม่ยอมสลายหายไปเสียที แล้วนี่เขาจะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นและผู้หญิงที่ชื่อมัทนา
“ว้ายตายแล้ว…นี่แกกับคุณแมทธิวสุดหล่อได้กันแล้วจริงๆ เหรอ นังมัท?!”
“ชู่ว์…แกจะเสียงดังไปทำไมนัตตี้ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังโศกเศร้าอยู่เนี่ย”
มัทนาลดฝ่ามือที่ปิดหน้าลง และตัดพ้อเพื่อนรักอย่างเจ็บปวดใจ
“จะโศกาไปทำไมกัน แกควรจะฟินมากกว่า” ดลกรทำหน้าทำตาเคลิ้มฝัน “เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะฟัดคุณแมทธิวสุดหล่อทั้งวันทั้งคืน จะไม่ให้มีแรงลงจากเตียงเลยทีเดียว”
“ก็ฉันไม่ใช่แกนี่ ฉันก็เลยไม่ฟินยังไงล่ะ”
มัทนาน้ำตาร่วง เจ็บใจน้อยใจจนปวดร้าวแน่นอก ตั้งแต่เกิดเรื่อง นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้ว หล่อนยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย หมอนั่นคงจะลืมหล่อนไปแล้วล่ะ
“แกๆ ๆ แล้วคุณแมทธิวสุดหล่อใหญ่ไหม”
“นังนัตตี้ นี่แกเลิกพูดถึงเรื่องอัปยศนั่นสักทีได้ไหม ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังเสียใจอยู่”
“เสียใจที่เสียตัวน่ะเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แถมเสียตัวให้ใครไม่เสีย ต้องมาเสียให้กับไอ้ผู้ชายใจร้ายปากร้ายอย่างนายนั่นอีก” มัทนายกมือขึ้นปิดหน้าอีกครั้งและร้องไห้สะอึกสะอื้น
“แก…ใจเย็นๆ”
“แกจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไงกัน ในเมื่อฉันเป็นคนเสียตัวนะ ไม่ใช่แกนี่”
“แหม นังมัท ถ้าฉันเลือกได้ ฉันก็คงยินยอมพร้อมใจไปเสียตัวแทนแกแล้วล่ะ” ดลกรพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้เพื่อน ก่อนจะถามต่อ “ว่าแต่แกเถอะ จู่ๆ ไปที่ห้องนั้นทำไม”
มัทนาลดมือที่ปิดหน้าลง ก่อนจะส่ายศีรษะน้อยๆ “ฉันก็จำไม่ได้เหมือนกันน่ะนัตตี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไปโผล่ที่ห้องพี่ไมค์ แล้วก็ไปนอนกับหมอนั่นได้”
“แล้วแกถามพ่อแกหรือยัง เผื่อพ่อแกจะรู้เห็นอะไร”
“ฉันถามแล้ว แต่พ่อเอาแต่บอกว่าไม่รู้”
มัทนาตอบเสียงเศร้า
“ฉันว่าพ่อแกมีพิรุธนะ”
“ไม่หรอกมั้งนัตตี้ พ่อคงไม่จับฉันไปที่ห้องพี่ไมค์หรอก แต่ถ้าพ่อจับฉันไปที่นั่น ฉันก็ต้องจำได้บ้างแล้วสิ แต่นี่จำอะไรไม่ได้เลย หลังจาก…”
“หลังจากอะไรมัท…?”
“หลังจากดื่มน้ำหวานน่ะ”
ดลกรดีดนิ้วเสียงดังลั่น “นั่นไง ว่าแล้วเชียว มันเหมือนในละครเป๊ะเลย พ่อวางยาลูกสาว แล้วพาไปให้พระเอกย่ำยี เพื่อที่จะเรียกร้องเงินหรือว่าอะไรบางอย่าง”
“ไม่มั้ง…พ่อคงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก” มัทนาพยายามแก้ตัวแทนบิดา
“นี่แกลืมเรื่องที่พ่อแกส่งไปหาไอ้เสี่ยข้างขวดซีอิ๊วแล้วหรือไง ฉันว่าเรื่องนี้พ่อแกเป็นตัวการแน่ๆ”
“ฉัน…” มัทนาพูดไม่ออก
“ฉันรู้ว่าแกรักพ่อมาก แต่แกก็ต้องแยกแยะหรือเปล่าวะว่าอะไรถูกอะไรผิด ฉันว่างานนี้พ่อแกผิดเต็มๆ เลยว่ะ” สีหน้าของดลกรจริงจัง และน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“แกต้องไปถามพ่อแก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น”
“อืม ฉันจะกลับไปถามพ่ออีกรอบ ได้เรื่องยังไงแล้วฉันจะมาบอกแกก็แล้วกันนะนัตตี้”
ดลกรมองเพื่อนชะนีด้วยความเป็นห่วง “แกไหวหรือเปล่าเนี่ย มีอะไรไม่สบายใจอีกก็พูดออกมาให้ฉันฟังได้นะ ฉันยินดีฟังแกระบาย”
“ขอบใจมากนะนัตตี้” มัทนามองเพื่อนรักผ่านม่านน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจ “ตอนนี้หัวใจของฉันแย่มากเลย ฉันสับสนไปหมด แถมยังรู้สึกไม่ต่างจากถูกฟันแล้วทิ้งเลยแก”
“โอ๋ๆ ๆ แกอย่าคิดมากไปนะ” ดลกรดึงร่างของเพื่อนรักมากอดปลอบใจ “ถือเสียว่าเรื่องคืนนั้นมันเป็นกำไรของชีวิต มองบวกๆ เข้าไว้สิ แกจะได้มีความสุขไง”
“มันจะเป็นกำไรของชีวิตได้ยังไงกันนัตตี้ ในเมื่อฉันเสียตัวให้ไอ้ผู้ชายใจร้ายที่ไม่เห็นค่าฉันเลยนะ”
“แหมแก…ก็ได้ฟันผู้ชายหล่อลากน่าปล้ำอย่างคุณแมทธิวสุดหล่อไง”
“บ้า ใครจะคิดแบบแกได้ล่ะ” มัทนาน้ำตารินไหลไม่หยุด สะอื้นกับอกของเพื่อนรักด้วยความเสียใจ
“อย่าบอกนะว่าที่แกเสียใจแบบนี้ก็เพราะว่าแกชวดจากคุณหมอ เมสัน”
มัทนาส่ายหน้าน้อยๆ “ตอนนี้ฉันแทบไม่ได้คิดถึงพี่ไมค์แล้วล่ะนัตตี้”
“อ้าว แล้วในหัวของแกตอนนี้คิดถึงใคร”
คำถามตรงไปตรงมาของเพื่อนรัก ทำให้มัทนาหยุดคิด และก็พบว่าในหัวของตัวเองตอนนี้มีแต่เรื่องของแมทธิวทั้งนั้น
“ที่ไม่ตอบนี่ ก็เพราะว่าในหัวของแกมีแต่เรื่องของคนที่แกประกาศปาวๆ ว่าเกลียดอย่างคุณแมทธิวสุดหล่อใช่หรือเปล่ายะ”
“เปล่า ฉันไม่ได้คิดถึงหมอนั่น” มัทนาปฏิเสธ
“แต่ฉันว่าแกโกหกว่ะ แกเริ่มชอบคุณแมทธิวสุดหล่อแล้วล่ะสิ ใช่ไหม แม่ชะนีมัทนา”
“ไม่ใช่นะ”
มัทนาเงยหน้าจากอกของเพื่อน แล้วสบตากับดลกรอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะหลบตาพัลวัน
“เราคบกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันมองตาแกก็เห็นไปถึงรูทวารแล้วย่ะ”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับหมอนั่น ฉันเกลียด…”
“เออ…ปากแข็งให้ตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน” ดลกรพูดอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยถาม “จะกลับบ้านหรือยังล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“อืม”
มัทนาผงกศีรษะน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตามเพื่อนสนิทตรงไปที่รถด้วยสภาพไม่ต่างจากคนไร้วิญญาณ