สวาทร้ายเมียนอกหัวใจ ชุด วิวาห์ไร้รัก - ตอนที่ 17
“ว่าไงนะแก…คุณแมทธิวสุดหล่อดูดนมแกเหรอ”
ดลกรเหยียบเบรกรถกะทันหันด้วยความตื่นตกใจ เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของเพื่อนรักเต็มสองหู
“ชู่ว์…เบาๆ หน่อยได้ไหม แค่นี้ฉันยังอายไม่พอหรือไงนังนัตตี้”
คนพูดหน้าตาแดงก่ำ ความร้อนผะผ่าวน่ารังเกียจยังคงกัดกินไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะตรงจุดที่ถูกแมทธิวสัมผัส
“ไม่น่าอายนะ น่าจะฟินมากกว่า” ดลกรทำหน้าเคลิบเคลิ้ม อยากให้ตัวเองโดนบ้าง
“อีเพื่อนบ้า ใครจะไปฟิน ฉันเกลียดหมอนั่นมาก แกก็รู้นี่”
“แล้วแกครางหรือเปล่ายะ”
“ครางเหรอ”
เมื่อเห็นเพื่อนสนิททำหน้าเจื่อนๆ คล้ายกับนึกไม่ออก ดลกรจึงแนะแนวทางขึ้น
“ใช่ แบบ อ๊า…ซี้ด…อู๊ย…โอ้ว…อะไรพวกนี้”
“ก็…นิดหน่อย” มัทนารีบก้มหน้าลงมองมือบนตักของตัวเอง และแก้ตัวเสียงผะแผ่ว “แต่…ฉันครางแค่เบาๆ นะ ไม่ได้ครางดังเลย”
“จะเบาจะดังมันก็ครางเหมือนกันนั่นแหละ ถ้าครางก็แสดงว่าฟิน”
“ฉันไม่ได้…ฟินนะ ฉันขัดขืน”
“ขัดขืนจนจะถูกเสียบแล้วเนี่ยนะ อย่ามาโกหก ต่อให้เกลียดแค่ไหน แต่ถ้าเจอหล่อระดับคุณแมทธิว ขาก็ถ่างกันทั้งนั้นแหละ”
ดลกรกลอกตามองบนอย่างหมั่นไส้เพื่อน แต่มัทนาก็ยังยืนกรานปฏิเสธ
“ไม่ใช่สำหรับฉันนะ”
“นี่ถ้าฉันไม่โทรไป แกคงฟินโลกแตกมากกว่าโดนดูดนมไปแล้วล่ะ นังมัทเอ๊ย”
“พอ…พอได้แล้ว ฉันไม่อยากคิดถึงมันอีก มันน่าอับอาย ฉันเกลียดหมอนั่นที่สุด”
“ฉันไม่เชื่อแกหรอก ตอนนี้ในหัวของแก คงมีแต่คุณแมทธิว ไม่มีคุณหมอเมสันแล้วสินะ”
“ไม่…ไม่ใช่ ฉันไม่ได้คิดถึงไอ้หมอนั่นเลย”
“จ้ะ เชื่อจ้ะ แม่คุ้ณ”
ดลกรกลอกตามองบนอีกครั้งอย่างหมั่นไส้ ขณะเร่งความเร็วรถให้มากขึ้น
“ว่าแต่แกเถอะ จะทำยังไงต่อไป เรื่องพ่อแกน่ะ”
หน้าที่เคยแดงก่ำตอนนี้ค่อยๆ จางลงจนเหลือแต่สีซีดขาว ความหม่นหมองกัดกินหัวใจจนรวดร้าว
“ถึงตอนนี้ ฉันก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยว่าพ่อต้องการเงินมากมายขนาดนั้นไปทำอะไร”
“แกใจเย็นๆ นะ ฉันว่าพ่อแกต้องมีเหตุผลที่บอกไม่ได้แน่ๆ”
“แล้วเหตุผลอะไรล่ะ ถึงทำให้พ่อหลอกฉันไปให้เสี่ยบ้ากามนั่นได้ พ่อไม่คิดถึงใจฉันเลย” มัทนาน้ำตาร่วงกราว “นี่ถ้านายนั่นไม่ผ่านไปเจอเข้า ฉันคง…”
“นี่แกเชื่อจริงๆ เหรอว่าคุณแมทธิวสุดหล่อแค่ผ่านไป ฉันว่าแกน่าจะคิดอะไรได้มากกว่านี้บ้างนะ นังมัท” คนที่กำลังร้องไห้อยู่ชะงัก และพยายามคิดตามคำพูดของเพื่อน
“แกหมายถึง…”
“คุณแมทธิวสุดหล่อก็ตั้งใจตามแกไปยังไงล่ะยะ”
มัทนานิ่งงันไป ก่อนจะพูดออกมาเสียงแผ่วเบา “แล้ว…เขาตามฉันไปทำไม…”
“เขาคงกลัวว่าแกจะไปปล้ำไอ้เสี่ยอ้วนนั่นล่ะมั้ง” ดลกรประชดมัทนาเสียงหมั่นไส้
“แกกำลังหมายความว่า…”
“เขาก็เป็นห่วงแกน่ะสิถึงได้ตามไปช่วยน่ะ แกควรจะสำนึกบุญคุณของคุณแมทธิวสุดหล่อเอาไว้เสียด้วย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะด่าจะตีเขาตลอดแบบนี้” ดลกรออกตัวแทนแมทธิวเสมอต้นเสมอปลาย
“แต่…หมอนั่นก็ดูดนมฉันไปแล้วนะแก”
“นั่นมันเสียวด้วยกันทั้งสองฝ่ายย่ะ วินวินทั้งคู่”
มัทนาหน้าตาแดงก่ำอีกครั้ง สัมผัสร้อนฉ่าจากปากของแมทธิวยังคงกรุ่นอยู่ในความทรงจำ
“แล้ว…แกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ”
“ไปขอบคุณเขา”
“แต่ฉันไม่…” หล่อนส่ายหน้าดิก
“นี่ถ้าแกไม่ไปนะ ฉันจะจอดรถ แล้วถีบแกลงตรงนี้แหละนังมัท หัดเป็นคนแยกแยะเสียบ้าง”
“นี่แกเห็นผู้ชายดีกว่าฉันเหรอนังนัตตี้” มัทนาตัดพ้อเพื่อนสนิท
“ในสายตาของฉัน ผู้ชายหล่อๆ มาก่อนเพื่อนเสมอย่ะ”
“อีตุ๊ดบ้า” มัทนาน้ำตาไหล แม้จะรู้ว่าเพื่อนแค่ขู่เล่นๆ แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้
ดลกรเห็นมัทนาเงียบไปจึงพูดขึ้น “มัท…ฉันก็แค่อยากให้แกเป็นคนดีน่ะ ใครมีบุญคุณก็ต้องตอบแทนรู้ไหม”
“อืม” มัทนาพยักหน้ารับอย่างไร้ทางเลือก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะสั่งกระเช้าผลไม้เตรียมไว้ให้ แกเอาไปขอบคุณคุณแมทธิวสุดหล่อนะ”
“แต่ฉัน…ยังมองหน้าเขาไม่ติดนี่ หมอนั่นเพิ่งดูดนมฉันไปเองนะ ฉัน…อาย…”
“ไม่ต้ององไม่ต้องอายหรอก เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
มัทนาหันหน้ามองเพื่อนที่กำลังขับรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพักของตัวเอง
“ขอบใจมากนะนัตตี้”
“ไม่ต้องขอบใจหรอก นี่มันเป็นแผนของฉันเองแหละ ฉันอยากเห็นหน้าคุณแมทธิวสุดหล่อ ก็เลยจะใช้แกเป็นเครื่องมือ”
“นังนัตตี้!”
“โอเค ฉันล้อเล่น แกรีบลงไปเคลียร์กับพ่อแกเถอะ แล้วใจเย็นๆ นะ มีอะไรโทรหายี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันเปิดแข่งกับเซเว่นรอแกเลยล่ะ”
“ขอบใจมากนะแก” มัทนามองอย่างซาบซึ้งใจ
“ก็ฉันรักแก แล้วก็สัญญาว่าจะรักผัวแกด้วย”
“นัตตี้บ้า…”
มัทนาหัวเราะทั้งน้ำตา โผเข้ากอดเพื่อนรัก ก่อนจะตัดสินใจลงจากรถ
“ไปนะ”
“ขับรถดีๆ ล่ะ”
หล่อนโบกมือลาดลกร รอจนรถของเพื่อนหายออกไปนอกรั้ว จึงเงยหน้ามองเข้าไปในตัวบ้าน กลีบปากอิ่มเม้มแน่น หล่อนจะเริ่มต้นพูดกับพ่อยังไงดีนะ
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ขณะค่อยๆ ก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน ประตูบ้านเปิดกว้างเอาไว้ หล่อนก้าวเข้าไป ก่อนจะเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ เมื่อข้าวของในบ้านล้มระเนระนาด
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
ความแปลกใจเกิดขึ้นเป็นความรู้สึกแรก ก่อนที่ความตกใจจะวิ่งตามมาสมทบ หล่อนหมุนตัวมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะอุทานออกมา
“พ่อ?!”
ใช่…พ่อของหล่อนล่ะ พ่ออยู่ไหน?
“พ่อ…พ่ออยู่ไหนจ๊ะ พ่อ…?”
หล่อนวิ่งหาบิดาไปทั่วทั้งบ้านด้วยอารมณ์ตกใจและหวาดกลัว ก่อนจะมาพบร่างของท่านนอนสะบักสะบอมอยู่ภายในห้องนอนของท่านเอง หล่อนรีบถลาเข้าไปประคอง
“พ่อ…พ่อจ๋า…ใครทำพ่อจ๊ะ”
มือเล็กเช็ดหยาดเลือดจากใบหน้าของท่านออกด้วยความเป็นห่วง ท่านค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“มัท…แกกลับมาแล้ว”
“พ่อ…ใครทำพ่อ ใคร?!”
หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น มองสภาพบอบช้ำของบิดาด้วยความสงสารจับใจ
“พวกมัน…พวกมันทำพ่อ…”
“ใคร? ใครจ๊ะพ่อ”
“เสี่ย…สมบูรณ์”
พอหล่อนได้ยินชื่อนี้เข้าก็รู้ทันที น้ำตาของหล่อนยิ่งไหลไม่หยุด
“พ่อไปรับเงินเขามา พ่อขายมัทให้เสี่ยบ้ากามนั่น พ่อทำอย่างนี้กับ มัทได้ยังไงกัน พ่อใจร้าย…”
“พ่อขอโทษ…พ่อไม่มีทางเลือก พ่อต้องใช้เงิน”
“ตั้งยี่สิบล้าน พ่อจะเอาไปทำไมคะ แล้วในบัญชีเงินฝากของพ่อก็มีตั้งหลายล้าน”
“มันไม่เหลือแล้ว…พ่อเอาไปใช้หมดแล้ว”
“พ่อ?!” หล่อนอุทานเรียกชื่อบิดาอย่างตกใจ “พ่อเอาไปใช้อะไรคะ เงินตั้งเยอะแยะขนาดนั้น”
มนตรีน้ำตาไหล กัดฟันพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง “พาพ่อไปนั่งบนเตียงก่อนนะมัท แล้วข้าจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง”
หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง พร้อมกับช่วยพยุงบิดาให้ลุกขึ้นเดินไปนั่งบนเตียง
“พ่อควรจะไปหาหมอ”
“ไม่…ข้าไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่กินยาแก้ฟกช้ำก็คงจะหาย”
“แต่เลือดพ่อออกที่หัวด้วยนะคะ”
แม้จะโกรธกับการกระทำของพ่อ แต่ด้วยความเป็นลูก ทำให้อดห่วงใยท่านไม่ได้
“ข้าไม่เป็นไรจริงๆ เอ็งนั่งลงเถอะ แล้วฟังพ่อ”
หล่อนจำต้องทำตามคำสั่ง น้ำตายังคงไหลไม่หยุด หากคนที่หลอกล่อให้หล่อนไปหาเสี่ยบ้ากามนั่นไม่ใช่บิดา หล่อนคงไม่เสียอกเสียใจและผิดหวังมากมายขนาดนี้
“พ่อติดการพนัน”
คำสารภาพของพ่อทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก “พ่อ?!” ใบหน้าของหล่อนส่ายไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ “พ่อ…ล้อมัทเล่นใช่ไหมคะ พ่อไม่ได้ติดการพนันใช่ไหม”
มนตรีมองหน้าลูกสาว และน้ำตาไหลออกมาอย่างสำนึกผิด “พ่อขอโทษ…ตอนแรกพ่อก็แค่เล่นสนุกๆ แต่สุดท้ายมันก็กลืนกินชีวิตของพ่อไปทั้งหมด”
“พ่อ…”
หล่อนครางเรียกบิดาเสียงเบาหวิว ไม่น่าเชื่อว่าบิดาผู้รักและตามใจหล่อนทุกอย่างจะกลับกลายเป็นผีพนัน
“พ่อเล่นจนหมดตัว เอาเงินเก็บทั้งหมดไปเล่น และเมื่อไม่มีต่อทุน พ่อก็ร่วมมือกับคนในบริษัทฯ ยักยอกเงินที่ลูกหนี้จ่ายหนี้บริษัทฯ มาเข้ากระเป๋าตัวเอง…”
“นี่พ่อกำลังจะบอกว่า…พ่อยักยอกเงินจากบริษัทของนายแมทธิวอย่างนั้นเหรอคะ”
หล่อนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองกำลังนั่งฟังความจริงจากปากของบิดาอยู่ บางทีอาจจะกำลังฝันไป ใช่…ต้องฝันไปแน่ๆ มัทนายกมือขึ้นหยิกแขนของตัวเอง ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความเจ็บ
ไม่ได้ฝัน…งั้น…มันก็คือเรื่องจริง!
“พ่อขอโทษ…พ่อผิดไปแล้ว…”
“พ่อ…”