สวาทร้ายเมียนอกหัวใจ ชุด วิวาห์ไร้รัก - ตอนที่ 11
เช้าวันต่อมา…มัทนาแต่งตัวด้วยชุดสุภาพเพราะต้องไปสมัครงานตามบริษัทที่หมายตาเอาไว้
บริษัทแรกผ่านด้วยคำพูดที่ว่าแล้วเราจะติดต่อกลับ ซึ่งบริษัทที่สอง สาม สี่ ห้า ที่เหลือก็บอกด้วยคำพูดเดียวกัน ไม่มีอะไรต่างกันสักนิด หญิงสาวถอนหายใจยาวเหยียดอย่างท้อแท้
“ทำไมหางานทำมันยากเย็นขนาดนี้นะ”
ปิ๊น ปิ๊น
หล่อนสะดุ้งหันไปมองข้างตัว ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นรถสปอร์ตคันงามของแมทธิว
“นี่เมื่อเช้าก้าวขาผิดข้างออกจากบ้านใช่ไหมเนี่ย ถึงได้เจอแต่อะไรซวยๆ”
หล่อนเม้มปากแน่น มองคนที่ลดกระจกรถลงมาเกือบหมดบานตาขวางขุ่น
“วันนี้ที่ชลบุรีมีแข่งวิ่งควายนี่ นายไม่ไปร่วมงานเหรอ”
แมทธิวที่ยิ้มยั่วยวนอยู่แทบสำลักน้ำลายกับวาจาร้ายกาจของสตรีตรงหน้า
“แล้วเธอล่ะ ต้องอยู่ในสวนสัตว์ไม่ใช่หรือ ออกมาเพ่นพ่านแถวนี้ได้ยังไง เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งกลับโอเคไหม อ้อ ว่าแต่เธออยู่สวนสัตว์ไหนกันล่ะ เขาดิน หรือว่าเขาเขียว…” พูดจบชายหนุ่มผู้มีใบหน้าราวกับเทพบุตรก็หัวเราะลั่น
“ไอ้…ไอ้ผู้ชายปากเสีย!” หล่อนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ไปลงนรกซะ!”
หญิงสาวระเบิดโทสะใส่ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าหนีไปอีกทางเพื่อที่จะรอเรียกรถแท็กซี่ แต่เขาก็ก้าวลงมาจากรถ และเดินเข้ามาหาเพื่อหาเรื่องเต็มที่
“นี่นายทำบ้าอะไร ไปให้พ้น”
“อ้าว ก็เธอบอกว่าให้ฉันไปลงนรกไม่ใช่หรือ”
“ใช่ แล้วมาหยุดตรงหน้าฉันทำไม” หล่อนยังไม่เข้าใจ
แมทธิวอมยิ้มยียวน พลางโน้มศีรษะต่ำลงมาหา จนคนที่อยู่ตรงหน้าต้องรีบเอนตัวหนี
“นรกสำหรับฉัน…ก็คือเธอยังไงล่ะ”
หล่อนเบิกตากว้างทั้งโกรธทั้งอาย “ไอ้คนสารเลว! ไอ้ผู้ชายปากเสีย ไปให้พ้นหน้าเลยนะ”
เขาไหวไหล่กว้างน้อยๆ และเปลี่ยนข้อหัวสนทนาไปอย่างรวดเร็วจนหล่อนตามแทบไม่ทัน แต่กระนั้นก็ยังอดเหน็บแนมหล่อนไม่ได้
“เธอมาทำอะไรที่นี่ หรือว่าในนี้มีสวนสัตว์”
“แล้วนายล่ะมาทำอะไรที่นี่ หรือที่นี่มีหญ้าเยอะ”
“นี่เธอ…” แมทธิวขบสันกรามแน่นเพื่อข่มโทสะ ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย “มาทำอะไรที่นี่”
“มันเรื่องของฉัน” หล่อนเชิดหน้าสูงอย่างอวดดี
แมทธิวมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะระบายยิ้มหยันออกมา
“คงมาสมัครงานที่นี่สินะ”
มัทนาหน้าร้อนจัดเมื่อถูกรู้ทัน “แล้วไงล่ะ ฉันมาสมัครงานมันผิดตรงไหน”
“เด็กกะโปโลอย่างเธอ จะทำอะไรเป็นกัน นอกจากตามตื๊อผู้ชายไปวันๆ”
“นายแมทธิว!”
“หรือว่าฉันพูดผิดกันล่ะ” เขายังทำหน้ายียวนกวนโทสะต่อไป
หล่อนเม้มปากแน่นสนิท พยายามนับหนึ่งถึงล้านในใจ เพราะไม่อย่างนั้นคงซัดหน้าหล่อๆ ของนายนี่ไปแล้ว
“ก็แล้วแต่นายจะคิด ฉันไปล่ะ ไม่อยากเสียเวลากับผู้ชายประสาท”
หล่อนหมุนตัวหนี และรีบก้าวลงมายืนที่ขอบถนน เมื่อเห็นรถแท็กซี่กำลังวิ่งตรงมา
“ไปพระรามสี่ค่ะ”
รถแท็กซี่จอด และหล่อนก็รีบบอกสถานที่เป้าหมายของตัวเอง แต่เขามาคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน
“ถ้าเธออยากทำงานที่นี่ ก็ต้องอยู่คุยกับฉันก่อน”
มัทนาอึ้ง มองเจ้าของคำพูดด้วยสายตาไม่ไว้ใจนัก
“นาย…หมายความว่ายังไง”
“ฉันเพิ่งซื้อบริษัทนี้มาเป็นของตัวเองเมื่อสามเดือนก่อน ถ้าเธออยากทำงานที่นี่ ฉันสามารถช่วยเธอได้นะ”
“คนอย่างนายเนี่ยนะจะมาช่วยเหลือฉันฟรีๆ ฉันไม่เชื่อหรอก”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉันมีบางอย่างที่ต้องให้เธอช่วยเหลือเช่นกัน”
มัทนายืนนิ่งอย่างกำลังตัดสินใจ
“นี่มันเป็นโอกาสทองเชียวนะ ถ้าไม่รีบคว้าเอาไว้ เด็กกะโปโลแบบเธอคงต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นสิบคู่นั่นแหละกว่าจะมีบริษัทตาบอดรับเข้าทำงาน”
“นี่นายแน่ใจนะว่าไม่ได้กำลังล่อลวงฉัน”
เขาอมยิ้มน้อยๆ ดวงตาเป็นประกาย
“แล้วทำไมฉันจะต้องล่อลวงเธอด้วยล่ะ ในเมื่อเธอกับฉัน เราเป็นอริกัน”
นั่นสินะ…มัทนาคิดในใจอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหันไปบอกแท็กซี่ว่าไม่ไปแล้ว
“เสียเวลา” แท็กซี่ต่อว่ากลับมา ก่อนจะขับออกไปอย่างหัวเสีย
มัทนาหรี่ตามองคู่สนทนา “งั้นก็บอกมาเลยว่านายจะให้ฉันช่วยทำอะไร เพื่อแลกกับการได้เข้าทำงานที่นี่”
แมทธิวระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขึ้นรถ”
“นายบอกมาก่อนสิ”
“ฉันจะบอกบนรถ ขึ้นมา” เขาเปิดประตูรถให้หล่อน “หรือว่ากลัวฉันกันล่ะ”
มัทนาส่ายหน้าดิก “ฉันไม่มีความจำเป็นต้องกลัวผู้ชายอย่างนาย” หล่อนพูดโต้ตอบ และก้าวขึ้นไปนั่งบนรถคันงามทันที
แมทธิวระบายยิ้มบางๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อถูกลากเข้ามาในร้านจิวเวลรี่ชื่อดังกลางห้างหรู มัทนาก็ถึงกับต้องรีบกระชากแขนของตัวเองที่ถูกแมทธิวกุมเอาไว้แรงๆ เพื่อให้เขาหยุดเดิน
“นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย”
“ยังไม่พาไปส่งสวนสัตว์หรอกน่า”
มัทนาตีต้นแขนกำยำของแมทธิวอย่างโมโห “นี่นายจะเลิกเหน็บแนมฉันสักวินาทีไม่ได้เลยหรือไง”
เขาโน้มศีรษะลงมาหา ใกล้มากจนแก้มนวลอดแดงก่ำไม่ได้ หัวใจเต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่ได้สบตากับแมทธิว
บ้าๆ ๆ ๆ นี่หล่อนจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หมอนี่มันมัจจุราชปากเสียชัดๆ ผู้หญิงคนไหนหลงคารมมีแต่ตกนรกทั้งนั้น
“นี่นาย…เอาหน้าไปไกลๆ ฉันนะ”
“ทำไมล่ะ หวั่นไหวเหรอ”
“ปละ เปล่าสักหน่อย ฉันเหม็นขี้หน้านายต่างหาก”
เมื่อเขาไม่ยอมขยับออกห่าง หล่อนจึงตั้งท่าจะถอยหลังหนีเสียเอง แต่จู่ๆ มือใหญ่ก็ตวัดวางที่บั้นเอวคอด และรั้งหล่อนเข้ามาหา ร่างเล็กเสียหลักแทบพุ่งเข้าชนความกำยำบึกบึน
“นี่นาย…ทำอะไรเนี่ย”
“ฉันก็แค่สงสัย…ทำไมพี่ไมค์ไม่มองเธอ”
“ไอ้…คนบ้า นายรู้ได้ยังไงว่าพี่ไมค์ไม่มองฉัน อีกไม่นานหรอก ฉันจะได้ขึ้นเป็นพี่สะใภ้ของนาย คอยดูสิ”
แทนที่เขาจะสลด กลับหัวเราะร่วน
“พี่ไมค์น่ะไม่ชอบผู้หญิงที่ด้านหน้ากับด้านหลังเหมือนกันจนแยกไม่ออกหรอก”
“นายหมายถึงอะไร” หล่อนงง
“ก็…”
ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มเลื่อนต่ำลงมาจับจ้องที่หน้าอกหน้าใจของหล่อน และแน่นอนว่ามัทนารู้ความหมายทันที
“ไอ้คนบ้า!”
“ชู่ว์…เบาหน่อยสิ เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าฉันรังแกสัตว์พอดี”
“ไอ้…ไอ้…” หล่อนโกรธมากแต่กลับคิดคำด่าที่คู่ควรกับชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้
“โอเค…สงบศึกชั่วคราว” เขาปล่อยมือจากบั้นเอวของหล่อน และถอยออกห่างสองก้าว “ฉันต้องการให้เธอช่วยเลือกแหวนให้หน่อย ในร้านนั่นน่ะ” แล้วพ่อคุณก็หมุนตัวเดินเข้าไปในร้านจิวเวลรี่หรูเบื้องหน้าทันที ทิ้งให้หล่อนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตามลำพัง
“ไอ้คนบ้า!”
และถึงแม้จะโมโหมากแค่ไหน แต่ก็จำต้องรีบเดินตามเขาเข้าไปอย่างไร้ทางเลือก
“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย…”
พนักงานสาวยกมือไหว้ ดวงตาที่มองแมทธิวเป็นประกายวิบวับ แต่พอเห็นหล่อนเดินตามเข้ามา ก็เปลี่ยนแววตาเป็นผิดหวังทันที
“เอ่อ…มาด้วยกันใช่ไหมคะคุณผู้หญิง”
หล่อนยังไม่ทันตอบ แมทธิวก็พูดขึ้นเสียก่อน พร้อมๆ กับการตวัดแขนวางบนบ่าของหล่อน
“ใช่ครับ เธอเป็น…” เขามองหน้าหล่อนเล็กน้อย มุมปากมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “คนพิเศษของผมครับ”
“นี่นายจะบ้าหรือไง ฉันไม่ใช่…”
“ชู่ว์…เงียบๆ ไว้ ทำตามที่ฉันบอก อยากทำงานไหม”
หล่อนเม้มปากมองเขาตาขุ่น แต่ก็จำต้องทำตามคำสั่งเผด็จการของจอมมารร้าย
แมทธิวระบายยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปพูดกับพนักงานสาว “ผมขอดูแหวนสวยๆ สำหรับผู้หญิงสักวงครับ”
“ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ”
แล้วพนักงานก็หันไปเปิดตู้กระจกด้านหลัง ยกกระบะใส่แหวนเกือบยี่สิบวงมาวางตรงหน้า
มัทนาตาโต มองแหวนทุกวงด้วยความตื่นเต้นดีใจ “นี่นายจะซื้อให้ฉันเหรอ”
“เลือกมาหนึ่งวง เอาที่เธอชอบที่สุด”
มัทนายังคงยิ้มกว้าง ตื่นเต้นไม่หยุด “แต่มันสวยหลายวงเลยนะ ฉันเหมาหมดได้ไหม”
“ได้ แต่เธอต้องจ่ายเงินเอง”
คนฟังหน้าเจื่อนลง ก่อนจะย่นจมูกใส่ผู้ชายข้างๆ “ไม่เห็นจะอยากได้เลย”
“เลือกมาหนึ่งวง เร็วเข้า”
“ก็ได้”
ในใจลิงโลดเพราะคิดว่าจะได้แหวนสวยๆ มาใส่ฟรี จึงพยายามเลือกวงที่สวยและแพงที่สุด
“วงนี้ค่ะ สวยแพงและเหมาะกับนิ้วเรียวๆ ของฉันที่สุด” มัทนายื่นแหวนให้แมทธิว “นายคิดว่าไง สวยไหม”
แมทธิวยักไหล่น้อยๆ “ฉันไม่มีความเห็น เพราะฉันไม่ชอบของพวกนี้”
“ผู้ชายกระด้างอย่างนาย ไม่มีวันเข้าใจจิตใจอันอ่อนโยนของผู้หญิงหรอก” ว่าแล้วหญิงสาวก็กำลังจะสวมแหวนวงที่เลือกใส่นิ้วของตัวเอง แต่ แมทธิวคว้าเอาไปเสียก่อน
“นี่นาย…”
แมทธิวอมยิ้มน้อยๆ มือข้างหนึ่งถือแหวนเอาไว้ อีกข้างก็คว้ามือข้างซ้ายของหล่อนไปจับ
“นาย…จะทำอะไรน่ะ”
“ก็สวมแหวนไง”
หล่อนเบิกตากว้างตกใจ แก้มนวลแดงระเรื่อ “มันจะดีเหรอ คือเรา…ไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ นายไม่ควรจะทำอะไรปุบปับแบบนี้ ฉัน…ปรับตัวไม่ทันนะ”
แมทธิวหรี่ตาแคบมองหน้ามัทนา ขณะสวมแหวนลงบนนิ้วนางของหญิงสาวไปด้วย
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่”
“ก็…นายกำลังจะซื้อแหวนให้ฉันนี่นา หรือว่าฉันกำลังเข้าใจผิด”
เขาจ้องหน้าหล่อนอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว
“ใช่ เข้าใจผิดเวอร์วังเลยล่ะ”
เคล้ง…
เสียงกระจกบนใบหน้าของหล่อนร้าวระรัว เสี้ยวเศษของใบหน้าร่วงกราวหล่นลงกับพื้น
“นาย…หมายถึง…”
“ฉันให้เธอมาช่วยเลือกแหวนให้ผู้หญิงของฉันต่างหาก”
“ว่าไงนะ”
“ตามนั้นแหละ” แล้วแมทธิวก็หัวเราะร่วน หรี่ตาแคบมองอย่างขบขัน “ผู้ชายอย่างฉันไม่พิศวาสเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก”
“ไอ้…” หล่อนรีบรูดแหวนออกจากมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะปาใส่หน้าของแมทธิว “ไปตายซะ!” แล้วมัทนาก็ก้าวยาวๆ เดินแกมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แมทธิวมองตามไปและอมยิ้ม
“เอ่อ…แล้วแหวนล่ะคะ” พนักงานสาวเอ่ยถาม เพราะเห็นลูกค้าหนุ่มสาวมีปากเสียงกัน
“เอาวงนี้แหละครับ”
เขายื่นแหวนวงที่มัทนาเลือกคืนให้กับพนักงาน ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
มัทนาวิ่งออกมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าก็หยุดหอบ ก่อนจะเค้นเสียงด่าทอแมทธิวไม่หยุด
“ไอ้คนบ้า…นี่เห็นฉันเป็นอะไร หลอกพามาซื้อแหวนให้แฟน บ้าที่สุด ไอ้คนบ้า”
มัทนาไม่เคยโมโหใครเท่านี้มาก่อนเลย หล่อนกำมือแน่นจนโทรศัพท์มือถือในมือแทบแหลกละเอียด