Midterm Fantasy - ตอนที่ 283
“เอาล่ะ พวกคุณทั้งหมด ต่อจากนี้ต้องฝากด้วยนะครับ” รอนบอกออกไป
“ไม่มีปัญหา เชื่อใจพวกเราได้เลย”
“แต่ถ้าเสร็จโปรเจคนี้แล้ว อย่าลืมวันพักของพวกเรานะ”
“ใช่ๆ ชั้นอยากไปเที่ยว server ของ NASA”
“โอเค โอเค ไม่มีปัญหาครับ” รอนยิ้ม “ส่วนเรื่องงบประมาณ คำสั่งซื้อทั้งหลาย จัดการได้ตามสบายเลยนะครับ ผมผูกรหัสกับบัญชีธนาคารไว้แล้ว”
รอนปิดประตูลง ที่หน้าประตูเขียนไว้ว่า ทีมผลิตเกม บริษัทสุริยภิธานเอนเตอร์เทนเมนท์
หลังจากรอนกลับมาจากโลกโน้น ก็ทราบจากศิลานักปราชญ์ของตนคร่าวๆว่า การขนย้ายอาวุธสมัยใหม่ไปที่โลกโน้น เป็นสิ่งที่เทพีเวโรน่าไม่อยากให้ทำ
โลกแห่งนั้น … โลกที่รอนได้ไป จริงๆก็คือโลกมนุษย์ แต่เป็นโลกมนุษย์ในมิติคู่ขนาน
โลกมนุษย์ในแต่ละมิติคู่ขนานนั้น บ้างก็มีมนุษย์ บ้างมีคนแคระ บ้างมีเอลฟ์ บ้างมีสัตว์ในเทพนิยาย มอนสเตอร์ ขึ้นอยู่กับว่าวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นดำเนินไปในทางใด
โลกที่ไม่ถูกอุกาบาตชนเมื่อ65 ล้านปีก่อน … ก่อเกิดเผ่าพันธุ์มังกร
โลกที่ Homo Sapian ไม่ชนะศึกเผ่าพันธุ์ Homo ก็เกิดเอลฟ์และคนแคระ
โลกที่แกนโลกไม่ได้ก่อตัว ดังโลกมนุษย์ที่รอนอาศัยอยู่ ก็ไม่มีเวทมนตร์
โลกแต่ละแห่งมีวัฒนธรรมและเผ่าพันธุ์ต่างกันไป
เทพีเวโรน่า เทพีออโรร่า แท้จริงแล้ว เป็นเอไอ เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ทำหน้าที่รวบรวมเผ่าพันธุ์จากโลกต่างๆมาไว้ที่มิตินี้ โดยจะทำการสังเกตว่ามีภัยพิบัติรุนแรงที่สิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งๆไม่มีโอกาสรอดแน่ๆ จากนั้นเปิดประตูมิติระหว่างโลกคู่ขนาน แล้วก็นำเผ่าพันธุ์นั้นมาเก็บไว้ เพื่อรักษาพันธุกรรมไม่ให้สลายไป … อย่างแอสคาลอนก็เกิดจากกองพลที่9แห่งโรมันที่ถูกล้อมเผาในเมืองไม่มีทางรอด … ก็ถูกส่งมาที่โลกนี้
โลกนี้คือสวนสัตว์ขนาดใหญ่
เทพีทั้งสองทำหน้าที่เหมือนผู้ควบคุมความสมดุลของประชากร
เผ่าพันธุ์มนุษย์ คนแคระ เอลฟ์ มนุษย์ครึ่งสัตว์ ที่ค่อนข้างเชื่อฟัง ได้รับศิลานักปราชญ์เพื่อให้เกิดนักรบมังกร มีความสามารถในการข้ามมิติกลับไปยังโลกต้นทางได้ คอยควบคุมเผ่าพันธุ์ที่ดื้อดึงกว่า
ในเมื่อที่นี่คือสวนสัตว์
ดังนั้นการดำรงอยู่เผ่าพันธุ์ต่างๆจึงสำคัญ เทพีทั้งสองไม่ยินยอมให้มีการใช้อาวุธหนักหากไม่จำเป็น … อะไรที่ทำให้ระบบเสียสมดุลมากๆจะถูกลงโทษ
ดังนั้น รอนจึงเลิกคิดที่จะนำอาวุธไป และหันเหไปในการคิดค้นวงแหวนเวทแบบสามมิติแบบใหม่ๆขึ้นมาแทน … ซึ่งการจะทำแบบนั้นให้มีคนรู้น้อยที่สุดก็คือ ให้น้องสุธนเป็นคนทำคนเดียว ค่อยๆคิดค่อยๆทำไปอย่างไม่ต้องรีบร้อน …. และใช้เกมออนไลน์เป็นตัวทดสอบแบบเสมือน
เขาเลยจัดการนำเจ้า”อสัตย์” “เปิ้ล” “สามซุง” คอมพิวเตอร์ที่ติดชิพโกเลม นำเอากลับมาที่โลกมนุษย์และให้มันจัดการสร้างเกมออนไลน์ซะ
“งานไปถึงไหนแล้วครับคุณหยางเทียน” รอนถาม
“นักออกแบบที่เราจ้างไว้ส่งข้อมูลกันเกือบครบแล้วครับ ข้อมูลรูปจำลองของสถานที่ต่างๆถูกส่งเข้าระบบฐานข้อมูลหมดแล้ว” หยางเทียนบอก “บรรดานักเขียนทั้ง50คน ก็ส่ง Lore และเนื้อหาเบื้องหลังลงไปหมดแล้ว”
“เรื่องกฎล่ะ”
“เรื่องกฎและแนวทางของเกม ทีมวางแผนส่งข้อมูลเสร็จแล้วครับ เหลือข้อมูลจากคุณสุธนข้อมูลด้านเวทมนตร์ที่ยังไม่ครบ เพราะว่าคุณสุธนเค้าทำเพียงคนเดียว”
“อืม ไม่เป็นไร ค่อยๆทำไป”
“ว่าแต่ทีมผลิตเกมที่คุณรอนจ้างมาอยู่ไหนล่ะครับ ผมยังไม่เห็นหน้าเลย”
“เป็นความลับครับ” รอนยิ้ม “… แต่จริงๆวันนี้คุณหยางเทียนสวนกับพวกนั้นไปแล้วล่ะ”
“ห๊ะ ตอนไหนกัน”
รอนไม่ตอบ …จะให้บอกยังไงล่ะว่าทีมที่ว่าก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์และแท็บเบล็ทที่รอนถือเดินเข้าไปในห้องทีมผลิตเกมเมื่อกี้นี้
*****
“งานเสร็จแล้ว น่าเบื่อจัง” อสัตย์บ่น
“ทำไงได้ล่ะ ก็คุณรอนเป็นมนุษย์ คงคิดไม่ถึงว่าการคำนวณของเรามันเร็วแค่ไหน” เปิ้ลบอก
“แต่จะเร็วแค่ไหน ก็ติดคอขวดที่การทำงานของคอมพิวเตอร์และโปรแกรมอื่นๆอยู่ดี” สามซุงเอ่ย
ข้อมูลที่ถูกส่งเข้ามา ถูกแจกจ่ายไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์และ Server ต่างๆอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วงานของทั้งสามจบลงตั้งแต่รอนยังคุยกับหยางเทียนไม่เสร็จด้วยซ้ำ
“กว่าเครื่องจะเรนเดอร์ภาพแผนที่ทั้งหมดครบก็อีกเป็นสัปดาห์ จะทำอะไรดี” สามซุงถาม
“อ่านนิยายแล้วกัน …ไหนดูหน่อยซิ นิยายไทยที่ออกใหม่ปีที่แล้ว …. โหลด….” เปิ้ลพูดแล้วเงียบไป30วินาที “อ่านจบแล้ว … เอาไงต่อดี”
“เฮ้อ … จะไปเที่ยวก็ไม่ได้”อสัตย์บ่น “นี่พวกเราเข้าระบบอินเตอร์เนทได้แบบจำกัด ต้องรอจบงานนี้ก่อนถึงจะไปเข้าระบบลึกๆได้ …. อ้อ นึกออกแล้ว เล่นนี่ดีกว่า ”
“อะไรเหรอ อสัตย์”
“นั่นสิอะไร”
“กองทุนน้ำมัน ETF …”
A.I. ทั้งสามตัวยิ้มออกมาพร้อมๆกัน
ความที่มันคิดคำนวณทุกอย่างได้ สิ่งที่จะทำให้มันไม่เบื่อได้ก็คือความไม่แน่นอน
และความไม่แน่นอนที่ยากจะคาดเดาก็คือมนุษย์
ตลาดหุ้นโดยเฉพาะพวกทองคำและน้ำมันคือสิ่งที่มีปัจจัยมากมายทั้งปัจจัยจริงๆและการความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ของมนุษย์จำนวนมากที่มาลงทุนเป็นตัวกำหนด นับเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อย่างแท้จริง
“งั้นเดี๋ยวเราทายดีกว่าว่ามันจะไปทางไหน” เปิ้ลบอก
“ไม่พอ ไม่พอ ต้องนี่” อสัตย์ดึงภาพขึ้นมา
“นี่มันบัญชีทั้งหมดของคุณรอน เงินทั้งหมดของเครือรุ่งโรจน์นี่นา”
จำนวนเงินขึ้นมา 7400 ล้านบาท
เมื่อหักเอาสิ่งที่ลงทุนเป็นที่ดินและสิ่งของแล้ว นี่เป็นเงินสดที่ใช้ได้ในตอนนี้
“วันนี้ราคาน้ำมันอยู่ที่60 เหรียญ เราจะลงทุนสัก10ล้านบาทในกองทุนน้ำมัน” อสัตย์ส่งคำสั่งซื้อไปที่บัญชีในหมู่เกาะเคย์แมน
“แล้วไงต่อล่ะ”
“ต่อจากนี้เราก็ช่วยกันวิเคราะห์ข่าว และดูว่าจะเป็นไปตามที่เราคาดคิดไหม เพื่อใช้พัฒนาA.I.ของเรายังไงล่ะ” อสัตย์บอก “แล้วถ้าขึ้นได้กำไร15%เราก็ขาย”
“แต่ถ้าขาดทุนล่ะ” สามซุงลังเล
“ถ้าขาดทุนถึง 10% เราก็จะถมเงินลงไปเท่าตัวของเงินที่ลงไปแล้วไง … ทุก10%ก็ลงเพิ่มไปเรื่อยๆเท่าตัว ดังนั้นพอราคากลับมาได้กำไร15%ค่อยขาย … ยังไงก็กำไร … ไม่ขายไม่ขาดทุน” อัสตย์ชักจูง
“เอาล่ะ หาข่าวกันแล้วเรียนรู้!”
วันต่อมา
ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเพิ่มการผลิตอีกวันละ3ล้านบาร์เรล ราคาWTIตกลงจาก 60เหลือ54$
“เพิ่มเข้าไปอีก 20 ล้านบาท”
วันต่อมา
รัสเซียเพิ่มการผลิตสู้ ราคา WTI ตกลงไปเหลือ46$
“เพิ่มเข้าไปอีก 60 ล้านบาท”
วันต่อมา
ไวรัสระบาดไม่หยุด … ราคาน้ำมันตกลงไปอีกเหลือ 43$
“เพิ่มเข้าไปอีก 180 ล้านบาท”
วันต่อมา
ความเชื่อมั่นการบริโภคลดลง … ราคาตกลงไปเหลือ39$
“เพิ่มอีก540ล้านบาท”
เย็นนั้น ความเชื่อมั่นตกกราวรูด ราคาน้ำมัน WTI ตกอีก10%เหลือ 35$
“เพิ่มเข้าไป … 1620ล้านบาท”
อสัตย์เหงื่อตก เปิ้ลเหงื่อตก สามซุงเหงื่อตก
“เอ่อ ตอนนี้เราลงไป 2430 ล้านบาทแล้วนะเฮียอสัตย์”
“อย่ากลัว เราเหลืออยู่ 4970 ล้านบาท”
“ไอ้สัตย์ ไม่กลัวได้ไงวะ ครั้งหน้าถ้าลงอีก 10% เราลงเพิ่มสองเท่า ก็ต้องลง 4860 ล้าน ….มันจะไม่พอแล้วนะเว้ยสัส”
“เอาน่า เอาน่า ใจเย็นๆ”
วันรุ่งขึ้น
มีการล็อคดาวน์หลายประเทศ น้ำมันตกร่วงหูตูบ หล่นลงไปเหลือ 10$ต่อบาร์เรล
“บ้าไปแล้ว ไม่มีข้อมูลว่าน้ำมันเคยลงขนาดนี้นี่หว่า เป็นไปได้ไง”
“เอาไงดี”
“ลงไปเลยเว้ย ลงไปเลย ไม่ขายไม่ขาดทุน”
อสัตย์สั่งซื้อไปอีก คราวนี้มันสั่งไป 4860 ล้านบาท เงินทั้งหมดของรอนเหลือแค่ 110 ล้านบาทในบัญชี
“ถ้ามันตกอีก 10% ให้ Cutloss ขายคืนให้หมด ยังไงก็ได้ทุนคืน เชื่อเรา” อสัตย์บอก
ทั้งสามจับจ้องกราฟ กราฟค่อยๆเคลื่อนลงช้าๆ ขาดทุน 4% 5% 6% 7% 8%
8%ค้างอยู่อย่างนั้น
“ทำไมค้างวะ” สามซุงถาม
“เดี๋ยวนะพี่ เน็ทค้าง เน็ทถูกตัด” เปิ้ลร้องออกมา
“ฉิบหายแล้ว ดันเอาเงินใบบัญชีจ่ายค่าสาธารณูปโภคไปจ่ายกองทุน” อสัตย์บอก “จ่ายก่อน จ่ายก่อน อ้าวไอ้ฉิบหาย ไม่มีเน็ท กูจ่ายไม่ได้”
ต่อให้ A.I. ล้ำหน้าขนาดไหน แต่พอไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ท ทุกอย่างก็จบ
“ไม่เอาแล้ว ต่อไปไม่เอาอีกแล้ว” อสัตย์ร้อง
“เงินทั้งหมดเหลือแค่ 110 ล้าน แต่ถ้าถึงสิ้นเดือนไม่มีเงินหมุน ธุรกิจต้องพังพินาศแน่ ตายแล้วๆ” เปิ้ลบ่น
“พวกเราเจอคุณรอนปิดสวิทซ์ทิ้งซาเล้งตายแน่นอน” สามซุงสะอื้น
ผ่านไป 3 วัน เครื่องทั้งสามร้อนรนจนจะละลายตาย ขณะที่หยางเทียนซึ่งคุมบริษัทนี้ถึงเพิ่งได้รับรายงานว่าเน็ทถูกตัด เลยข้ามถนนไปจ่ายที่ฝั่งตรงข้าม
ไม่นาน สัญญาณก็กลับมา
“สัญญาณกลับมาแล้ว”
“เงินในบัญชีทั้งหมดเหลือแค่5แสน ขายโว้ย ขายกองทุนให้หมด ไม่งั้นเงินสดหมดล้มละลายแน่นอน ขายๆๆๆๆๆ”
คำสั่งขายพุ่งไปตามสายสัญญาณ กระแสไฟในCPUของทั้งสามเครื่องเต้นตุ้มๆต่อมๆ
กิ๊ง!
อสัตย์ปล่อยลมออกจากใบพัดอย่างโล่งCPU ก่อนจะสังเกตอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวนะ ตอนแรก7พันล้าน มาจากไหนอีก2หมื่น6พันล้านวะ”
“เฮียอสัตย์ ดูข่าว”
ช่วงที่เครื่องดับไปสามวัน แก๊งเมษาที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงสุดขีด ได้ก่อการร้ายครั้งใหญ่ บุกโจมตีคลังน้ำมันในประเทศมหาอำนาจทั้ง3แห่ง ทั้ง รัสเซีย ตะวันออกกลาง และสหรัฐ … ราคาน้ำมันดีดกลับไปที่60$ต่อบาร์เรล
พอขายกองทุนไป คิดเบ็ดเสร็จค่าธรรมเนียมต่างๆแล้ว เงินใบบัญชีตอนนี้ของรอนก็คือ 33,291 ล้านบาท
ก๊อกๆๆ
“ว่าไงทุกคน งานไปถึงไหนแล้ว” รอนเปิดประตูเข้ามา
“แว้กกกก” สามซุงร้อง
“…”
“ขอเช็คก่อนนะครับ …ใกล้เสร็จแล้วครับ ใกล้แล้ว เหลือเรนเดอร์ภาพอีกหน่อยนึง” อสัตย์ตอบอย่างรวดเร็ว
“ดีๆ เดี๋ยวผมจะได้เปิดช่องทางให้ทุกคนไปเที่ยวได้” รอนบอก ก่อนจะมองไปที่หน้าจอ “ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ทำไมเงินมันเป็น 33,291 ล้านได้ล่ะ”
“มันก็เท่านี้อยู่แล้วนะครับคุณรอน” สามซุงบอก
“ใช่ค่ะ คุณรอนให้มาเท่านี้อยู่แล้ว” เปิ้ลยืนยัน
รอนหรี่ตา ….
“วันก่อนผมจำได้ว่าเป็น 7400ล้านนะครับ”
เครื่องทั้งสามตกใจจนไอน้ำเกาะ แล้วอสัตย์ก็นึกได้
“วันก่อนที่คุณรอนให้มา เป็น 7400ล้านจริงๆครับ แต่มันเป็นเงินสกุลเดนมาร์ก เป็นสกุลโครนน่ะครับ 1โครนเท่ากับ 4.71บาท พอแปลงเป็นบาทก็ได้สามหมื่นกว่าล้านนี่แหละครับ” อสัตย์ตอบอย่างไร้พิรุธ
รอนหน้าแดงขึ้นมา
“ขอโทษๆ ผมผิดเองแหละที่ไม่ทันสังเกต …นี่ผมลืมดูหน่วยเงินอีกแล้วเหรอเนี่ย” รอนบอก “งั้นไม่รบกวนละ ขอตัวก่อนละกัน”
รอนหนีอายออกจากห้องคอมพิวเตอร์นี้ไป ทิ้งเครื่องคอมฯทั้งสามไว้ตามลำพัง ทั้งสามถอนหายใจ(ลมใต้เครื่องCPU) ที่หลอกรอนได้สำเร็จ
แต่ไม่ไหวละ เข็ดแล้ว คราวหลังไม่ทำอีกแล้ว
กิ๊ง!
“หืม อะไรน่ะ” เครื่องคอมทั้งสามตรวจสอบที่หน้าจอของตน แล้วก็ต้องตะลึง
เพราะที่หน้าจอเขียนไว้ว่า
[Skill Poker face Level Up || Lv 3 : 0/100]