Midterm Fantasy - ตอนที่ 278
ครืน ครืน
ท่ามกลางความมืดมิด ประตูมิติเริ่มรวมตัวกันเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ประตูขนาดยักษ์ที่มีความกว้างกว่า100เมตร เสาประตูทั้งสองข้างสูงกว่า 30 เมตร
ประตูนั้นประดับไปด้วยรูปปั้นเทพ เทวดา มอนสเตอร์ และเผ่าพันธุ์ต่างๆ ลักษณะเป็นเงาวาวดั่งโลหะที่ไม่อาจจำแนกชนิดได้ และที่รอบๆประตูนั้น มีร่างเรืองแสงคล้ายเด็กทารกที่มีปีก บินไปมาโดยรอบ
นี่คือประตูมิติระหว่างอาณาจักรทั้ง 3
และที่หน้าต่อประตูนี้ ก็คือกองทัพใหญ่แห่งคาร์พาเธีย
“ท่านแม่ทัพโลธ่าร์ ใกล้ถึงเวลาแล้วครับ”
จอมเวทกระซิบบอก
แม่ทัพใหญ่โลธ่าร์ ก้าวไปข้างหน้า เปิดหมวกอัศวินของตนขึ้น แล้วหันมองกองทัพนับแสนที่อยู่เบื้องหลัง
“เหล่าทหารผู้กล้าของคาร์พาเธีย เวลาใกล้เข้ามาถึงแล้ว”
แม่ทัพใหญ่กล่าว
“จากข่าวสารสุดท้ายที่เราได้ก่อนที่ทุกอย่างจะตัดขาดไป พระราชาแห่งแอสคาลอนและรัชทายาท ได้ยกกำลังทัพทั้งหมดประทะเข้ากับกองทัพออร์คที่มีจำนวนประมาณ2แสน และเป็นกองทัพออร์คที่มีเผ่ามังกรไม่ถึง100ตัว”
“แต่กองทัพของนักรบมังกรเวก้า มีกำลังมากกว่า 3 แสน และมีเผ่าพันธุ์มังกรจำนวนมาก ทั้งมังกรดินนับร้อย ไวเวิร์นหลายร้อยตัว และที่สำคัญคือมีมังกรแท้จริงอีก6ตัว” โลธ่าร์กวาดสายตามองกองทหาร “กำลังเผ่าพันธุ์มังกรที่ว่ามานี้ ไม่ได้ปรากฎที่สนามรบฝั่งเมืองหลวงแห่งแอสคาลอน นั่นก็หมายความว่า … ”
ครืน ครืน … เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง ๆ ๆ
แรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เทวดาตัวน้อยที่บินรอบประตูมิติดึงเอาแตรที่เหน็บไว้ออกมา ทั้งหมดไปบินอยู่ที่เสาทั้งสองด้านของประตู
“นั่นหมายความว่า เวก้าได้ทุ่มกำลังหลักของมันในการทำลายเขตเมืองกาล่า …. และเมื่อเราออกจากประตูนี้ไป สิ่งที่จะรอต้อนรับเราอยู่ก็คือ ฝูงมังกรที่แข็งแกร่ง การศึกที่หน้าประตูมิตินี้ จะต้องเป็นการศึกที่รุนแรงยิ่ง”
เทวดาตัวน้อยที่สองฟากฝั่งประตูยกแตรขึ้นจรดที่ริมฝีปาก ปู้นนนนนนนนนนนนนน เสียงแตรดังยาว ประตูมหึมาเปิดออก ภายในเป็นแสงแวววาวดุจดั่งของเหลวสีเงินที่กระเพื่อมอยู่
“ข้าขอบอกความจริงต่อท่านทั้งหลายในที่นี้ ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก พวกเราในที่นี้เกินครึ่งจะไม่ได้กลับบ้าน … แต่หากเราไม่ไป หายนะที่ทำลายแอสคาลอนก็จะเดินทางมาทำลายบ้านของเรา”
“ทหารหาญทั้งหลาย ตามข้าพเจ้ามา”
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
ชายชรากระโดดขึ้นหลังม้า ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณ ทหารม้าในชุดเกราะโลหะสีเงินที่เบื้องหลังยกมือขวาขึ้น
ซูมมม วงแหวนเวทสีทองปรากฎที่ใต้เท้าม้าทุกตัว
ออร่าแห่งพาลาดิน!
“หน่วย Golem Armor ทั้งหมด บุกได้”
“พาลาดินทั้งหลาย เคลื่อนพล”
ครืนนนนนนนน
หุ่นรบสีเงินนับร้อยพุ่งไปเบื้องหน้ามุ่งเข้าหาประตูมิติ โลธ่าร์และอัศวินพาลาดินทั้งหลายควบม้าติดตาม
พวกเขาไม่รู้ว่าการรบที่ฝั่งโน้นเป็นอย่างไร … หากแต่ประตูมิติยังทำงานได้ แปลว่าอีกด้านยังมีคนของแอสคาลอนต่อสู้อยู่ ….แต่ประตูนี้จะปรากฎขึ้น 2 ชั่วโมงก่อนเปิดใช้งาน ดังนั้นเวก้าจะต้องใช้กำลังทั้งหมดบุกโจมตีอย่างแน่นอน
หน่วยรบหุ่นโกเลมยักษ์ จะกรุยทางยึดพื้นที่รอบประตูเอาไว้
และถ้าจำเป็น ก็จะเกาะเกี่ยวมังกร แล้วระเบิดตนเองตายตกตามกันไป
วูบบบ
ม้าของโลธ่าร์ผ่านพื้นผิวสีเงินนั้น ระลอกคลื่นเล็กๆปรากฎขึ้น จากนั้นทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนเป็นแสงสว่าง เขารู้สึกเหมือนกับกำลังแล่นผ่านอุโมงค์บางอย่าง จนกระทั่งทางออกเลื่อนใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา
แวบ!
ร่างมหึมาดำทะมึน ปรากฎขึ้นทั่วท้องทุ่งหน้าประตูมิติ
“นั่น มังกร”
“ทั้งหมด เตรียมโจมตี”
“เฮฮฮฮ”
Golem Armor และอัศวินพาลาดินดึงอาวุธของตนออกมา ควบตะบึงไปข้างหน้าพร้อมๆกัน โลธ่าร์ชักดาบในมือขึ้น ควบม้านำดิ่งไปเบื้องหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
“เดี๋ยว เดี๋ยว หยุดก่อน”
โลธ่าร์ร้องคำรามเสียงดังและยกมือขึ้นห้าม
กองทัพที่กำลังบุกชาร์จค่อยๆลดความเร็วลง และตอนนั้นทุกคนก็ค่อยเห็นสิ่งตรงหน้าชัดขึ้น
ร่างของมังกร มังกรดิน และไวเวิร์นหลายร้อยตัว กองตามจุดต่างๆทั่วทุ่ง
และบนร่างของมันนั้น มีมนุษย์ กำลังช่วยกันชำแหละชิ้นส่วนอยู่
ใช่แล้ว …ทั้งหมดคือซากศพมังกร
****
กองกำลังพันธมิตรทั้งสองอาณาจักรเคลื่อนพลผ่านประตูมิติมาอย่างเป็นระเบียบ
โลธ่าร์แห่งคาร์พาเธีย และอาร์ธัสแห่งเอ็มโพเรีย สองแม่ทัพใหญ่ผู้นำกองกำลังพันธมิตรต่างประหลาดใจที่หมู่บ้านเล็กๆของแอสคาลอนสามารถเอาชนะการศึก สังหารเวก้าและกำจัดกองทัพมังกรได้
“ข้าได้ยินว่าเพื่อการรบครั้งนี้ ศาสนจักรได้อนุญาตให้ใช้นักรบมังกรแห่งแสงถึง 6 คน ดูท่านักรบมังกรจะเป็นผู้ควบคุมกองทัพที่นี่สินะ”
“มิได้ท่านอาร์ธัส” เจ้าเมืองโซล่าบอก “นักรบมังกรของศาสนจักรสู้ติดพันอยู่ที่อีกเมืองหนึ่ง คนที่จัดการกับเวก้าและมังกรทั้งหลายไม่ใช่นักรบมังกรแห่งแสงหรอก”
“จัดการเวก้ากับมังกรทั้งหลาย … ท่านพูดเช่นนี้ หรือว่าผู้ที่จัดการกับเวก้ากับมังกรคือคนๆเดียว” โลธ่าร์ถาม
“ถูกต้อง เมื่อวานนี้หมู่บ้านแห่งนี้ถูกมังกรดิน ไวเวิร์นจำนวนมากและมังกร5ตัวบุกโจมตี … เด็กคนนั้นอพยพชาวบ้านในบริเวณนั้นออกไปจนหมด ล่อให้พวกมันเข้าไปยังกับดัก จากนั้นก็ลงมือสังหารมังกรทั้งหมดไม่มีเหลือ” โซล่าเล่า “หลังจากนั้นเมื่อเวก้าวกกลับมาโจมตีเมืองอีกครั้ง เธอก็เป็นผู้ตัดคอสังหารเวก้าด้วยตนเอง”
“โอ้ มีเรื่องเช่นนี้ด้วย ข้าชักอยากจะเห็นผู้กล้าท่านนี้แล้ว หญิงผู้นี้คือใครกัน” โลธ่าร์เอ่ย
“เธอเป็นเด็กกำพร้าของหมู่บ้านโอลเซ่นนี้เอง มีชื่อว่าโรล่า”
“โรล่า โรล่า ข้านึกออกแล้ว ผู้กล้าหญิงที่สร้างชื่อด้วยการกำจัดแม่ทัพออร์คไปหลายตัว , กำจัดก็อบลินลอร์ดแขนกล , และสังหารธานอส นักรบอันดับหนึ่งของเผ่าลิง” แม่ทัพอาร์ธัสกล่าวอย่างเนื้อเต้น “ตอนนี้เธออยู่ไหนกัน ข้าอยากจะประดาบกับผู้กล้าคนนี้สักครั้ง”
“ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่หรอกท่าน โรล่าอยู่ที่เรือนพยาบาล” โซล่าตอบ
“ได้รับบาดเจ็บงั้นรึ” อาร์ธัสถามต่อ
“มิได้ … แต่กำลังดูแลคนสำคัญของเธออยู่” เจ้าเมืองโซล่าตอบ
ขบวนรถม้าเคลื่อนมาตามถนนผ่านตรงจุดที่แม่ทัพทั้งสามยืนคุยกัน ชายหนุ่มที่อยู่บนม้าตัวหน้าสุดลงจากหลังม้า
“ท่านโซล่า ท่านแม่ทัพทั้งสอง”
“เจ้าชายดีโอ”
ต่างฝ่ายต่างแสดงความเคารพกันและกัน แล้วหันมองรถม้า
“ท่านอาร์ธัสและท่านโลธ่าร์ ต้องขออภัยที่ข้าไม่อาจออกไปทักทายท่านได้” เสียงดังมาจากรถม้าด้านใน ตามด้วยเสียงไอโขลกๆอย่างอ่อนแรง
“จักรพรรดิลูเซียส” โลธ่าร์และอาร์ธัสแสดงความเคารพจากเบื้องนอก
“เอาล่ะ เวลาของข้าใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ข้าต้องขอตัวทุกท่านก่อน” จักรพรรดิตรัสออกมา “โซล่า ท่านประสานงานกับกองทัพพันธมิตรด้วย”
“ครับ” โซล่ารับคำ
รถม้าเคลื่อนตัวออกไป มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านโอลเซ่น
ที่เรือนพยาบาล โรล่าเดินถือชามอาหารออกจากห้องพัก สวนกับแพทที่เดินมา
“โรล่า … อาการบาดเจ็บของรอนเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ปกติดีแล้วใช่ไหม” แพทถาม
โรล่าหน้าแดงเรื่อๆ หันหน้าไปอีกทาง
“ปกติดีแล้วค่ะ น่าจะใช้งานได้ปกติ”
แพทหัวว่างไปวูบหนึ่งก่อนจะนึกได้
“โรล่า ชั้นไม่ได้หมายความอย่างนั้น ชั้นหมายถึงอาการโดยรวมน่ะ โดยรวมเข้าใจไม๊ … แล้วนี่ที่บอกว่าน่าจะใช้งานได้ปกติมันยังไง”
“เอ่อออ คือโรล่าแค่อยากรู้ ก็เลยทดสอบอะไรนิดหน่อยน่ะค่ะ … โรล่าไปก่อนนะคะ”
เด็กสาววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แพทเดินตรงไปที่ประตูเปิดผัวะเข้าไป รอนสะดุ้งโหยงยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงทำท่ากลัวสุดขีด
“หายแล้ว หายแล้ว”
“อะไรของนาย …แล้วเมื่อกี้โรล่าเค้าทำอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ” แพทเสียงเขียวปั๊ด “เห็นตะกี้บอกว่ากระตุ้นจนรู้ว่าใช้การได้”
“ฟาด” รอนตอบอย่างหวาดกลัว
“?” แพทหน้างง
“โรล่าเค้าไปได้ยินจากไหนมาไม่รู้ว่าให้กระตุ้นแล้วจะได้รู้ว่าใช้การได้ไหม เข้ามาไม่พูดพล่ามทำเพลง เอาท่อนไม้มาฟาดเต็มๆเลย” รอนมองอย่างไม่ไว้ใจ “นี่เธอคงไม่ได้คิดจะทำแบบเดียวกันใช่ไหม”
แพทส่ายหน้าทันที …. ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดเองแฮะ
“แล้วนี่คุยกันไม่รู้เรื่อง ดูแลกันไม่ลำบากแย่เหรอ” แพทถาม “แม่เรายังไม่ได้คืนศิลานักปราชญ์ให้นายนี่นา”
“ก็คุยกันไม่รู้เรื่องน่ะแหละ แต่ว่าเข้าใจกันอยู่ … สัก70%” รอนบอก “แบบอยากกินอะไร อยากได้อะไร โรล่าเค้ารู้โดยไม่ต้องบอก แต่ถ้าเป็นแบบละเอียดๆเลยคงไม่ใช่ …”
ก็ตอนที่เจอเวก้าล็อคคอ รอนส่งสายตาให้โรล่าขว้างหอกใส่
เขาส่งสายตาให้นึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกันสองคน ตอนที่สู้กับเสือดำแล้วโรล่าให้เขาดื่มเลือดฟื้นพลังจากหน้าอก … กะว่าจะให้โรล่าขว้างหอกใส่ตำแหน่งหน้าอกแล้วเขาจะได้หลบ
ใครจะนึกว่าโรล่านึกถึงตอนอยู่ด้วยกันสองคนที่ปราสาท ที่เขาใช้ปิ่นปักผมปักพวงป๋องแป๋งตัวเอง …
นึกแล้วยังสยองไม่หาย ยังดีที่แม่ของแพทตามมาภายหลังแล้วใช้เวท Regenerate ช่วยรักษาจนหายดี
แพทเดินไปนั่งข้างๆรอน
“ขอบคุณนะ”
“หืม”
“ขอบคุณที่เธอมาช่วย ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ ไม่รู้ว่าตอนนี้เราจะเป็นยังไงแล้ว”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เรื่องแค่นี้เอง”
“แค่นี้ที่ไหนกัน” เด็กสาวเอาศีรษะพิงไปที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม “เธอมาทั้งๆที่ไม่มีศิลานักปราชญ์ในตัว ถ้าพลาดไปล่ะก็ … คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“ถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายแบบนี้อีก เราก็จะทำอีก” รอนตอบสั้นๆ “ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เธอก็คงทำแบบเดียวกันใช่ไหมล่ะ”
“อือ” แพทตอบสั้นๆ
ทั้งสองนั่งนิ่งๆกุมมือไม่ได้พูดอะไรกัน
ต่างคนต่างรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
ความรู้สึกที่ต่างยอมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อกันและกัน
“รอน” แพทเอ่ยขึ้น
“หืม”
“เรารักเธอนะ”
“เราก็รักเธอเหมือนกัน”
แพทยกศีรษะออกจากไหล่ของเพื่อนชายแล้วหันหน้ามอง รอนเองก็ค่อยๆหันหน้ามาสายตาประสานกัน
และโดยไม่พูดอะไร แพทเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ จูบลงไปที่ริมฝีปากของเด็กหนุ่ม … จูบอย่างเนิ่นนาน แล้วค่อยๆถอนริมฝีปากออก ทั้งสองจ้องตาประสานกัน ใจเต้นสั่นรัว
แล้วแพทก็โถมเข้าใส่รอนอีกครั้ง ริมฝีปากของเด็กหนุ่มถูกปิดด้วยความอบอุ่น มือของแพทเลื่อนลงไปที่หน้าอกของรอน ค่อยๆปลดกระดุมจากด้านบนลงไปทีละเม็ด ละเม็ด
“คุณรอน คุณแพท ข้าเอง” เจ้าชายดีโอเปิดประตูผัวะเข้ามา “อ๊ะ!”
เจ้าชายอ้าปากค้าง ขณะที่แพทเงยหน้าขึ้นหันมาเป็นคนแรกตามด้วยรอนที่ค่อยๆลุกขึ้น พับสาบเสื้อเข้าหากัน
“เอ่อ…เจ้าชายมีอะไรเหรอคะ” แพทหน้าแดงก่ำ แม้จะอายแค่ไหนแต่ก็ต้องเอ่ยปากถามเองเพราะว่าตอนนี้รอนฟังภาษาที่นี่ไม่เข้าใจ
“คือท่านพ่อต้องการตามคุณแพทกับคุณโรล่าไปคุยด้วย แต่เห็นแบบนี้แล้วข้าคิดว่าคงไม่ต้องแล้วล่ะ” เจ้าชายกระแอมไอ “เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าตามโรล่าคนเดียวก็พอ … ข้าไปล่ะ ไม่รบกวนท่านทั้งสองแล้ว”
เจ้าชายดีโอกลับออกไปปิดประตู แพทและรอนถอนหายใจโล่งอกเลื่อนหน้าผากมาชนกัน
ปัง ประตูเปิดออก เจ้าชายดีโอเปิดผัวะเข้ามาอีกครั้ง
“ว้าย” “เฮ้ย” เด็กทั้งสองกระโดดผึงออกจากกัน
“เอ่อ ข้าเห็นไม้กลอนประตูวางอยู่ด้านนอก เลยหยิบเอามาให้ … ข้าไม่รบกวนแล้ว ไปล่ะ”
เจ้าชายวางไม้ขัดกลอนประตูลงแล้วปิดประตูจนสนิท แพทพุ่งไปที่ประตู เอาไม้ขัดลงไปในร่อง กระชากแรงๆทดสอบจนแน่ใจแล้วกระโดดกลับขึ้นไปที่เตียงอีกครั้ง
ใจเต้นตึกตัก ปรับอารมณ์กันไม่ถูกทั้งสองคนจากการถูกขัดจังหวะเมื่อครู่
…
ปัง!
“แว้กก”
“ว้าย”
หน้าต่างด้านหลังถูกผลักเปิดออกชายหนุ่มผมยาวในเกราะพาลาดินยื่นศีรษะเข้ามา
“โฮ่ๆๆๆ ท่านโรล่า ข้าคืออาร์ธัส แม่ทัพแห่งเอ็มโพเรีย ข้าอยากจะขอประลองกับท่านสักหน่อย”
อาร์ธัสชะงักไปเมื่อเห็นว่าในเรือนพยาบาลมีคนอยู่สองคน ผมสีดำทั้งคู่ ไม่ใช่โรล่าที่เป็นเด็กสาวผมทอง
“ท่านทั้งสองคือ …” แม่ทัพอาร์ธัสถาม
“ชั้นชื่อแพทค่ะ ส่วนนี่รอน” แพทแนะนำตัว
“โอ้ ท่านแพทผู้สังหารมังกรดำ …และท่านรอน ผู้กำจัดดราซัคและมีเพลงดาบลึกล้ำ คนเดียวบุกตะลุยต้านออร์คได้อย่างนับไม่ถ้วน” อาร์ธัสปีนหน้าต่างเข้ามา “ข้าคงไม่ได้มารบกวนท่านทั้งสองหรอกนะ … ข้าเข้าใจดีว่าท่านบาดเจ็บอยู่ งั้นข้าขอเป็นสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการต่อสู้ก็พอ ฮ่าๆๆๆ”
แพทและรอนมองหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้ …
ไม่เป็นไร ยังมีเวลากันอีกทั้งชีวิต
******
ที่ทำการหมู่บ้าน กองทหารองครักษ์เพรเตอร์เรี่ยนยืนเฝ้าล้อมรอบพื้นที่โดยรอบ ที่ด้านนอกนั้นเจ้าชายดีโอเดินพาโรล่ามาถึงประตู
“ท่านพ่อ ข้าพาโรล่ามาแล้วครับ”
“โรล่าเข้ามาได้ …ส่วนเจ้าและคนอื่นๆ รออยู่ด้านนอกก่อน”
โรล่าเดินเข้าไปภายในที่ทำการหมู่บ้าน หลอดไฟLEDส่องสว่าง ทำให้เห็นใบหน้าของจักรพรรดิอย่างเด่นชัด ใบหน้าอันเข้มแข็งนั้นซีดเซียวกว่าครั้งสุดท้ายที่พบกันที่เมืองหลวง ที่เบื้องหลังของจักรพรรดินั้น บิชอปคาร์มิลล่ายืนอยู่ ที่ไหล่ซ้ายมีผ้าพันแผลพันไว้
“โรล่า ผู้กล้าแห่งแอสคาลอน เชิญนั่งก่อน” จักรพรรดิลูเซียสผายมือ เด็กสาวเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย
“จักรพรรดิ … ท่านให้ตามตัวข้ามามีประสงค์ใดหรือคะ” โรล่าถาม
“ข้าต้องการให้เจ้า … อภิเษกกับดีโอ บุตรชายของข้า”
“ขอปฏิเสธค่ะ ข้าไม่ได้…” โรล่าเอ่ย “ข้ารักท่านรอน”
“ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างไรกับเด็กหนุ่มที่ชื่อรอน แต่เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ขอให้เจ้าฟังเหตุผลของข้าก่อน” จักรพรรดิลูเซียสยันร่างขึ้น บิชอปคาร์มิลล่าค่อยๆประคองแล้วช่วยเปิดเสื้อออก แผลสีดำขนาดใหญ่ปรากฎที่หน้าท้องของจักรพรรดิ เลือดไหลซึมไม่หยุด
“ตอนนี้ประชาชนแอสคาลอนกำลังเสียขวัญ เจ้า เจ้าจะรับฟังคำขอของข้าได้หรือไม่”