Midterm Fantasy - ตอนที่ 201
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์หลิวลี่จงเดินทางไปอเมริกาใต้พร้อมกับหยางเทียนและหวังหลินโดยไม่ลืมจัดหาของให้กับรอนตามสั่ง
รอนพาแพทไปที่โกดัง และพบว่าคุณหลิวเตรียมพวกเครื่องปั่นไฟแบบมือหมุนและแบตเตอรี่ให้เรียบร้อยแล้ว แพทจัดการเอาของเก็บใส่เข้าแหวนเก็บสิ่งของเพื่อขนเอากลับบ้านตัวเอง เตรียมการขนย้ายไปต่างโลกในตอนเที่ยงวัน
“แล้วช่วงที่คุณหลิวไม่อยู่นี่ใครเป็นคนคุมที่นี่เหรอ” แพทถามขึ้น
“นั่นสินะ” รอนเกาหัว มองไปรอบๆสำนักงานก็ดูทุกคนยังทำงานกันตามปกติ
“อ้าว รอน แพท มาเอาของเหรอ” เสียงใสๆดังมาจากประตู เจนัสเดินเข้ามาในสำนักงานในชุดธรรมดา
“คุณเจนัส มาทำอะไรครับ วันนี้วันหยุดของคุณไม่ใช่เหรอครับ” รอนทัก
“วันหยุดจ๊ะ แต่ว่าเมื่อเช้าคุณหลิวลี่จงโทรตาม ขอให้มาช่วยดูแลโกดังสำนักงานน่ะ” เจนัสบอก “เห็นว่าจะรีบไปต่างประเทศ”
“โอ้ แบบนี้นี่เอง งั้นฝากด้วยนะครับ” รอนบอก
ทั้งรอนและแพทเดินออกจากสำนักงาน พอมองย้อนไปก็เห็นว่าพวกอดีตนักเลงทั้งหลายที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นยามรักษาความปลอดภัย ต่างคุยกับเจนัสอย่างนอบน้อม
“ดูทุกคนสนิทกับคุณเจนัสดีนะ” แพทบอก
“ก็ใช่แหละ เพราะพอทั้งสามสาวเข้าไปทำงานในหน่วยรักษาความปลอดภัยห้าง ก็เป็นเหมือนกับครูฝึกการต่อสู้ให้กับทุกคน” รอนบอก
“ว่าแต่คุณเจนัสมานี่แล้ววันนี้อาม่าอยู่กับใครล่ะ วันนี้คุณเจนหรือคุณแจนไปทำงาน”แพทถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน เราจำตารางสองคนนั้นไม่ได้ จำได้แต่ของคุณเจนัส”รอนตอบ
“…” แพทไม่ตอบอะไร มองไปที่สนามอีกด้านหนึ่ง คนในชุดยามกลุ่มหนึ่งกำลังฝึกซ้อมในสนาม มีการถือโล่กันกระสุนเคลื่อนที่ไปโดยมีคนอีกกลุ่มยิงปืนเพนท์บอลเข้าใส่ โดยมีชายคนนึงยกโทรโข่งสั่ง
“เฮ้ย เบอร์3 ก้มต่ำๆ อย่าให้หัวเลยขึ้นมา”
ปุ ปุ ปุ เพนท์บอลยิงเข้าที่หมวกที่โผล่พ้นโล่กันกระสุนขึ้นมา
“เบอร์6 เดินช้าๆ รอคนข้างหลังด้วย เจ้าเบอร์1ที่ลากคนเจ็บตามมาลากให้ทันคนข้างหน้าด้วย อย่าเปิดช่องว่าง เบอร์4ยกโล่มาปิดช่องว่างด้วย” ลุงบัวตะโกนผ่านโทรโข่ง มืออีกข้างยิงปืนเพนท์บอลเข้าใส่ช่องว่างที่เปิดออกจนคนที่อยู่ด้านในเปื้อนไปหมด “ซ้อมกันหลายครั้งแล้วทำไมไม่จำ”
“นั่นซ้อมอะไรกันอยู่เรอะ” รอนถามคนที่อยู่ในชุดฝึกซ้อมข้างสนาม
“คุณบัวดำกำลังฝึกซ้อมรับเหตุก่อการร้ายครับ” ชายคนนั้นบอก “ให้พวกเราซ้อมการถอยออกจากพื้นที่โดยช่วยตัวประกันออกมา”
“เห มีฝึกกันขนาดนี้เลยเหรอ” แพทถามขึ้นอย่างงงๆ
“ครับ นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่บ้านของคุณหนูถูกแก็งเมษาถล่ม คุณวิทวัสก็ส่งคุณบัวดำมาฝึกพวกเราให้ต่อสู้และฝึกการเป็นพ่อบ้านที่ดี” ชายคนนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้พวกเราที่ได้รับการฝึกพิเศษมีสามกองร้อยอยู่ในความควบคุมของคุณเจน แจน เจนัส รับรองว่าไม่น้อยหน้าบริษัทรักษาความปลอดภัยอื่นแน่ๆ”
รอนและแพทมองดูรอบๆ ทางด้านโน้นมีคนกำลังโรยตัวลงจากหลังคาโกดัง ด้านนี้อีกกลุ่มกำลังใช้เชือกตะขอขว้างไปเกี่ยวกำแพงเพื่อปีน อีกด้านมีกลุ่มคนกำลังคลานลอดใต้ลวดหนาม พอลอดพ้นก็วิ่งไปถอดชุดยามออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตและเสื้อกั๊ก ผูกหูกระต่าย แล้วรินชาลงถ้วยแบบไม่ให้มือสั่นแม้จะหายใจหอบเหนื่อย
“เอิ่ม แพท พ่อบ้านเค้าฝึกกันอย่างนี้เหรอ” รอนถามอย่างไม่แน่ใจ
“น่าจะนะ เพราะเวลาอยู่บ้านลุงบัวก็ฝึกแบบนี้เหมือนกัน” แพทตอบ แม้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แต่ที่ผ่านมาก็เห็นลุงบัวฝึกแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็ก
“ทำลายประตู โก โก โก”
กลุ่ม4คนในชุดพ่อบ้าน ถือแท่งแรมทำลายประตูวิ่งเข้าไปแล้วยกขึ้นพร้อมเพรียงกันก่อนจะเหวี่ยงแท่งแรมกระแทกลูกบิด
ตูม ตูม ตูม
“ฝึกทำลายประตูนี่ก็ด้วยเหรอแพท”
“จะว่าไป ตอนที่ประตูห้องน้ำในบ้านบวมเปิดไม่ออก ลุงบัวก็ใช้ของแบบนี้ทำลายประตูนะ”
อืมมมม
ตูม ตูม ตูม
และขณะที่เหวี่ยงกันอยู่นั้น แท่งแรมโลหะขนาด25กิโลก็หลุดจากมือของคนทั้ง4ลอยมาเบื้องหลังที่รอนและแพทกำลังยืนอยู่
“เฮ้ย ระวังงงงง”
หมับ!
แพทยกมือรับเอาไว้ แขนสั่นเล็กน้อยจากแรงส่ง แต่ด้วยกำลังแขนที่อัพStatจนยกของได้300กิโล ของแค่นี้มันจิ๊บๆ
“ไอ้พวกบ้าทั้งหลาย ระวังกันหน่อยสิ” ลุงบัวหันโทรโข่งไป “มารดาแกเถอะ แค่นี้มือไม้อ่อนกันหรือไง ของเบาๆแค่นั้นยกไม่ได้เรอะ อายเด็กผู้หญิงกันบ้างไม๊”
“คุณหนูครับ โยนไว้แถวนั้นแหละ ให้พวกมันไปเก็บเอาเอง” ลุงบัวหันโทรโข่งกลับไปสนใจอีกด้านต่อ “เร็วเข้า ดี ดี แบบนั้นแหละ ยกโล่ดีๆ เข้ามาๆ”
แพทมองแท่งเหล็กในมือก่อนจะขว้างกลับไป แท่ง25กิโลพุ่งกระแทกลูกบิดจนแตกกระจาย ประตูที่ปิดอยู่เปิดอ้าออก ชายทั้งสี่คนมองตาค้างก่อนจะหันไปมองแพทพร้อมกันด้วยสายตาที่ชื่นชม
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสงสัยว่าพ่อบ้านมันฝึกกันอย่างนี้ด้วยหรือ แต่เห็นแบบนี้ข้าไม่สงสัยแล้ว”
“ใช่ ขนาดคุณหนูที่พวกเราต้องคุ้มครองยังทำได้ขนาดนี้ เราก็ต้องฝึกให้หนักยิ่งกว่านี้”
“ไม่แปลกใจเลยที่พี่ใหญ่หลิวหันมาติดตามคุณรอน วันก่อนข้าเห็นในคลิปลับในอินเตอร์เนท คุณรอนขึ้นเครื่องบินข้ามทวีปไปจัดการกับแก็งเมษาที่ต่างประเทศ ฝีมือพละกำลังเยี่ยมสุดๆไปเลย”
“ข้าก็ดู เจนัสก็อยู่ด้วยฝีมือก็สุดๆ เห็นคุณรอนคุณเจนัสในคลิปนั้นแล้วไม่สงสัยเลยว่าทำไมพอพี่ใหญ่ไม่อยู่ถึงได้มอบอำนาจสั่งการให้คุณเจนัส”
สี่คนนั้นคุยกันอย่างชื่นชม รู้สึกคิดไม่ผิดที่ติดตามพี่ใหญ่หลิวมาพึ่งพิงคุณรอนและนายหญิงทั้งสอง
“เฮ้ย เจ้าพวกขี้เกียจ ซ้อมด้วย”
“ครับคุณบัว”
ทั้งสี่รีบวิ่งกลับไปซ้อมต่อทันทีอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ขณะที่รอนและแพทเดินกลับบ้านกันสองคน
ที่สนามบิน พี่ใหญ่หลิวยกโทรศัพท์คุยบนเครื่องที่กำลังจอดอยู่
“มิสเตอร์โบลิวาร์ ผมกำลังขึ้นเครื่องที่สนามบิน อีก12ชั่วโมงเราเจอกัน … ได้ ได้ พอไปถึงเราไปตกลงราคากันก่อน แล้วคุณค่อยพาผมไปพบกับคนขาย โอเค เจอกัน” หลิวลี่จงวางและปิดโทรศัพท์มือถือ มองออกไปนอกหน้าต่าง สัญญาณปิดโทรศัพท์มือและรัดเข็มขัดดังขึ้น จากนั้นเครื่องบินก็วิ่งออกจากรันเวย์และค่อยๆทะยานขึ้นฟ้าไป
ชายสองคนที่ยืนตรงนอกอาคารผู้โดยสารลดกล้องส่องทางไกลลงแล้วกดโทรศัพท์มือถือ
หลงเว่ยรับโทรศัพท์และฟังรายงาน เขาพยักหน้าก่อนจะวางสาย หันไปมองหลงจิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ
“สายรายงานมา หลิวลี่จง หยางเทียน หวังหลิน ทั้งสามคนเดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อกี้นี้” หลงเว่ยบอก
“จริงเรอะ ถ้าอย่างนั้น …” หลงจิ่งยิ้มร่า
“ไป! รายงานตั่วเจ๊เมษา ตอนนี้ระดับหัวหน้าของสมาคมรุ่งโรจน์ออกนอกประเทศไปแล้ว” หลงเว่ยบอก “องค์ประกอบครบพร้อมที่จะส่งคนไปตามกำจัดเสี้ยนหนามทั้งหมดตามแผนปฏิบัติการณ์ที่วางไว้”
“ปฏิบัติการเชงเม้งสายฟ้า”