Midterm Fantasy - ตอนที่ 190
ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ
เสียงฝีเท้าวิ่งมาตามถนนอย่างรวดเร็ว ร่างของพอลวิ่งมาบนถนนเพียงลำพัง และเมื่อมองไปที่เบื้องหลังของเขาไกลออกไปเกือบ100เมตรนั้นก็คือฝูงก็อบลิน
ฝูงก็อบลินเกือบ50ตัว !
“แฮ่กๆๆ นี่แน่ะ [Heal]” พอลหยิบเอาม้วนเวทรักษาออกมาแล้วก็ใช้ออก แสงสว่างเรืองขึ้นทั่วร่างกาย ความเหน็ดเหนื่อยค่อยๆคลายลง ทำให้ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าขึ้นได้อีกครั้ง เขาหันกลับไปมองฝูงก็อบลินที่ไกลออกไป หยิบไม้ง่ามหนังสติ๊กออกมา
เฟี้ยว ปัง!
ลูกกระสุนเวทพุ่งออกไปแล้วก็ระเบิดออกที่หน้าของก็อบลินตัวหนึ่ง ร่างของมันเซล้มลงมึน หากแต่ก็อบลินที่เหลือก็หลบร่างของมันแล้วพุ่งเข้าหาพอล
“เฮ้ ทุกคน ทุกคนอยู่ไหน” พอลร้องตะโกนออกไป หากแต่เสียงร้องของเขาทำให้ก็อบลินยิ่งตื่นเต้นขึ้นไป เพราะตลอดทางที่ผ่านมาพอลร้องตะโกนขอความช่วยเหลือหลายครั้งแล้ว และแต่ละครั้งที่เขาร้องออกไปก็ไม่มีใครที่ออกมาช่วยเหลือ
พวกมันถูกกองทหารและชาวบ้านกดดันจนกระทั่งต้องหลบซ่อนตัว ยิ่งช่วงหลังๆมนุษย์ก่อสร้างป้อมและหอคอยเตือนภัยเพิ่มมากขึ้นจนพวกมันออกปล้นฆ่าหากินได้ลำบาก ครั้งนี้ที่พวกมันเจอผู้ชายคนนี้ หัวหน้าของพวกมันจึงสั่งให้พวกมันจับเป็นชายคนนี้ จับเป็นเพื่อจะได้ใช้เป็นตัวประกันในการเรียกค่าไถ่จากพวกมนุษย์
หรือถ้าเป็นไปได้ ใช้เป็นตัวประกันเพื่อช่วยในการบุกหมู่บ้านมนุษย์
“แฮ่กๆ แฮ่กๆ ทุกคน ช่วยด้วย” พอลร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างดูจะช้าลงเรื่อยๆ. ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปตรงพื้นที่ลานกว้างข้างทางเหมือนจะพยายามหลบเข้าไปในพงหญ้าสูงที่อยู่บริเวณนั้น
“โอ้ววว กี๊ดๆๆ”
“กี๊ดๆๆ”
เสียงก็อบลินที่วิ่งตามมาร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจ มอนสเตอร์ตัวเขียวพุ่งกรูเข้าหาพร้อมหอกไม้ในมือ แล้วเสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็ร้องดังออกมาจากพงหญ้าข้างทาง
“เทสทูโดฟอร์มเมชั่น”
“เฮ!”
เหล่าชาวบ้านกว่า50คนพร้อมโล่ใหญ่ กรูออกจากพงหญ้า ทั้งหมดตั้งแถวตอนเรียง10
“ตั้งโล่ ตั้งโล่!”
ปึงปึงปึงปึงปึง
เสียงโล่ตั้งกระแทกพื้นเรียงแนวป้องกันที่ด้านหน้า คนที่อยู่แถวที่สองเป็นต้นไปตั้งโล่ขึ้นเหนือศีรษะ
กี๊ดๆๆๆๆ
ก็อบลินที่ยังงงกับภาพเบื้องหน้าแต่ยังคงกรูวิ่งกันเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
“ไพลั่ม!” รอนตะโกนออกสั่งจากเบื้องหลัง
“เฮ!”
เสียงขานรับดังขึ้น ทุกคนในสองแถวหน้าร้องขานรับกระชับหอกซัดในมือ
กี๊ดๆๆๆๆ
เฟี้ยวๆๆ ปึ้กๆๆ
หอกไม้ของก็อบลินถูกขว้างออกมาหากแต่ไม่อาจผ่านแถวโล่ของมนุษย์ได้
“ไพลั่ม ขว้างได้!”
ฉึกๆๆๆ
ก็อบลินนับสิบที่วิ่งนำหน้าถูกหอกซัดที่พุ่งมาปักจนตายดิ้นลงกับพื้น พวกมันที่เหลือกระโดดข้ามร่างพวกเดียวกันแล้วชักมีดและดาบสั้น มุ่งเข้าหาแนวโล่
กี๊ดดดด โอ๊ค!
ดาบสั้นจากชาวบ้านที่อยู่แถวหน้ากระหน่ำแทงเข้าไป เพียงไม่กี่นาทีก็อบลินที่พุ่งเข้ามาจบชีวิตเป็นใบไม้ร่วง พวกมันที่เหลือไม่ถึงสิบตัวเริ่มชะงักและเตรียมหันหลังหนี
“แตกขบวน อย่าให้มันหนีได้”
“เฮ!”
แนวป้องกันแตกออก จากนั้นทุกคนก็ไล่ฆ่าก็อบลินทั้งหมดจนไม่เหลือหลอ
“ระวังลูกไฟ!” ใครคนนึงร้องขึ้น
“ตั้งโล่ตามหมู่ จั๊ดแถว!”
“เฮ!”
ลูกไฟนับสิบพุ่งเข้ามาก่อนจะกระแทกเข้ากับโล่ไม้ เปลวไฟที่ลุกไหม้บนโล่ทำให้ชาวบ้านต่างรวมกลุ่มกันไม่ไปไหน ก็อบลินเมจกว่า10ตัวยืนอยู่ที่ห่างออกไปโดยมีก็อบลินกัปตันร่างใหญ่อีก4ตัวคุมเชิงอยู่ พวกมันเริ่มร่ายเวทขึ้นอีกครั้งเมื่อมีเสียงดังจากข้างถนน
“ยิงได้!”
ลูกดอกหน้าไม้ยิงกราดขึ้นไปบนถนน ทะลุชำแรกเสื้อคลุมของก็อบลินเมจที่ไม่ทันระวังอย่างง่ายดาย มอนสเตอร์ตัวเขียวล้มลงเป็นใบไม้ร่วงขณะที่ก็อบลินกัปตันต่างยกโล่ของมันขึ้นป้องกัน
“หน่วยจู่โจม ตามมา!”
โรล่าพุ่งออกไปเบื้องหน้า ตามด้วยชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ ทุกคนล้วนถือดาบสั้นและ … กระทะเทฟล่อน
“[Shield Bash]”
เป๊ง! ก๊าส! ฉึก!
โรล่าเหวี่ยงกระทะแบนในมือฟาดเข้าหน้าก็อบลินกัปตัน ก่อนจะกระซวกซอกคออย่างไม่ให้มันตั้งตัว เด็กสาวหมุนตัวกลับมา ก็อบลินกัปตันตัวที่เหลือกำลังสู้กับคนอื่นๆอยู่ และเธอก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไป
“[Backstab]”
“[Backstab]”
โรล่าใช้จังหวะที่ก็อบลินกัปตันง่วนกับการต่อสู้ แทงมีดเข้าไปที่หลังคอของพวกมัน
“หมดรึยัง”
“หมดแล้ว!”
“ทางนี้ตายหมดแล้ว”
ชาวบ้านแต่ละคนร้องออกมา
“[Battle map]”
แพทเปิดสกิลแผนที่รบขึ้น จุดสีแดงสามจุดหลบอยู่ในพงหญ้าข้างทาง
“รอน เหลือพวกมันอีก3ตัว” เด็กสาวบอก
“โอเค”รอนรับคำแล้วตะโกนออกไป
“ทุกคน พวกมันตายหมดแล้ว เก็บของที่ใช้การได้แล้วถอยกลับหมู่บ้าน”
สิ้นคำสั่ง ทุกคนจัดการเก็บอาวุธที่ตกอยู่และกรีดเปิดร่างก็อบลินเพื่อเก็บแกนมอนสเตอร์ จากนั้นก็ถอนกำลังกลับไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปพักใหญ่ๆ ก็อบลินเมจสามตัวค่อยๆโผล่หน้าออกจากพงหญ้า พวกมันมองดูว่ามนุษย์หายไปหมดแล้วจึงค่อยๆวิ่งลัดเลาะไปในพงหญ้าข้างทางเพื่อกลับไปที่รังของพวกมัน
“มีใครบาดเจ็บบ้างไหม”
“กลุ่มของผมปลอดภัยดีครับ” พอลตอบ
“ของโรล่ามีคนเจ็บคนนึงค่ะ แผลไม่หนักมาก รักษาด้วยเวทHealได้” โรล่ารายงาน
“ดีแล้ว ไหนพอลลองสรุปการต่อสู้เมื่อครู่ซิ” รอนถาม
“ก็เป็นการล่อให้พวกมันมาอยู่ตรงจุดที่เรากำลังดักซุ่มแล้วโจมตีไม่ให้มันตั้งตัวใช่ไหมครับคุณรอน” พอลตอบ
“โรล่าว่ายังไงบ้าง” เด็กหนุ่มไม่ตอบหากแต่ถามต่อ
“คุณรอนให้พอลไปล่อเพียงคนเดียว และวิ่งมาเป็นระยะทางไกลๆ เพื่อที่ว่าจะได้แยกกลุ่มของก็อบลินเมจที่วิ่งช้าและก็อบลินปกติที่วิ่งเร็วกว่าออกจากกัน ให้ยิงก่อกวนยั่วยุพวกมันเป็นช่วงๆเพื่อให้มันไม่ถอยกลับไปก่อน พอพวกมันมาถึงจุดซุ่มของพวกเรา เราก็จะได้จัดการกับมันทีละกลุ่มใช่ไหมคะ”
รอนพยักหน้าอย่างพอใจ พอลยกนิ้วให้โรล่าอย่างยอมรับ
“โรล่า นักผจญภัยเผ่าสัตว์มาแน่ะ”
“จ๊ะมาเรีย”
มนุษย์ครึ่งเสือสามคนเดินตามหลังมาเรียมา โรล่าเดินออกไปคุยด้วยแล้วกลับมารายงาน
“ทีมนักผจญภัยเผ่าสัตว์ที่ตามก็อบลินสามตัวนั่นไปรายงานว่าเจอฐานของก็อบลินอีกฐานค่ะ ห่างจากที่นี่ไป5ไมล์ มีกำลังไม่เกิน100ตัว” โรล่าบอก
“ดีมาก บอกทุกคนให้เตรียมออกเดินทางได้” รอนบอก “คราวนี้โรล่ากับพอลทำหน้าที่บัญชาการ คุมกองร้อยที่2และ3ในการโจมตี ผมจะอยู่กับพวกนักผจญภัยเป็นกองหนุน อย่าลืมว่าอย่าฆ่าก็อบลินเมจและกัปตันจนหมด ให้พวกมันนำทางพวกเราไปฐานใหญ่ของมันซะ”
ชาวบ้านที่อยู่เบื้องหลังลุกขึ้นยืนจัดแจงข้าวของ ขณะที่นักผจญภัยเผ่าสัตว์อีกร่วม50คนพร้อมอาวุธและเกราะครบมือต่างเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
นักผจญภัยเหล่านี้มาจากเผ่าสัตว์ เป็นนักผจญภัยระดับเหล็กที่รอนจ้างมา ด้วยจำนวนเท่านี้เพียงพอที่จะจัดการกับก็อบลินพวกนี้อย่างสบาย
แต่ว่ารอนไม่ได้จ้างเขาเหล่านี้มาเพื่อสู้กับก็อบลิน หากแต่จ้างมาเพื่อเป็นกองหนุน
เป็นกองหนุนให้กับการฝึกชาวบ้านหมู่บ้านโอลเซ่น การฝึกให้ชาวบ้านสามารถรวบรวมคนเป็นกองกำลังที่ไม่เพียงแต่ป้องกันหมู่บ้านได้ หากแต่เป็นกองกำลังที่สามารถจู่โจมได้
“ทุกคน พร้อมไม๊” โรล่าตะโกนออกมา
“พร้อม” ทุกคนชูอาวุธขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ
ที่ผ่านมาทุกคนถูกก็อบลินข่มเหงรังแกมาตลอด มีแต่ต้องทิ้งหมู่่บ้านหนีตายมาตลอด เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่ทุกคนจับอาวุธไล่ฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้
และคนที่จะนำทัพในคราวนี้ ก็คือเด็กสาวในหมู่บ้านของพวกเขา โรล่า
“ออกเดินทางได้” เด็กสาวร้องขึ้น “จุดหมายต่อไป บุกฐานก็อบลิน”