Midterm Fantasy - ตอนที่ 19
เด็กทั้งคู่เดินเคียงข้างกันไปตามทางเท้าอย่างเงียบๆโดยไม่ได้คุยอะไรกัน รอนมองไปข้างทาง เขานึกได้ว่าเขาต้องขายเหรียญทองที่ได้มาเสียก่อน จะว่าไปก่อนจะถึงท่ารถสองแถวจะมีร้านขายทองอยู่ร้านนึง เขาน่าจะขายที่ร้านนั้นได้อยู่
ทั้งคู่เดินไปบนทางเท้าจนกระทั่งถึงปากซอย แพทหยิบโทรศัพท์มือถือทำท่าจะกดโทร แต่ก็วางลง
“รอนเดินไปส่งเราที่บ้านเลยได้ไหม … ทุกทีเราจะโทรให้พ่อบ้านออกมารับ แต่กว่าจะรอกว่าจะได้เข้าบ้านก็รอนานอยู่”
“ได้สิ” รอนตอบรับโดยไม่ทันฉุกคิดอะไร เขาเดินเข้าซอยไปพร้อมๆกับแพท ซอยนี้ทางเข้าเป็นถนนสองเลน ด้านในไกลๆเป็นบ้านหลังใหญ่หลายหลังสีสดใหม่ ต่างจากด้านหน้าที่เป็นชุมชนเก่า มีร้านกาแฟ ร้านอาหารเก่าๆ
[คุณรับรู้ได้ว่าคุณกำลังถูกเฝ้ามอง]
รอนหันไปมอง วัยรุ่น5คนลุกจากโต๊ะกำลังจะเดินมา ทั้ง5ชะงักนิดนึงตอนที่เห็นว่ารอนมองมาแต่ก็เดินไปหยิบของที่มอเตอร์ไซค์
“พวกนั้นตามเรามา” รอนพูดสั้นๆกับแพท และสังเกตได้ว่าสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดี เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์
“ลุงบัวๆ ตอนนี้แพทเดินเข้ามาในซอยแล้ว ลุงช่วยออกมา …. ว้าย!”
เด็กหญิงร้องอย่างตกใจเมื่อมอเตอร์ไซค์ไม่ติดทะเบียนคันนึงวิ่งมาขวางและปัดโทรศัพท์ของเธอออกจากมือ ในมือคนซ้อนท้ายมีมีด พอหันกลับไปก็พบว่าด้านหลังมีอีกคันนึงกำลังซ้อนสาม
“เอาเงินมา เร็วๆ” คนถือมีดตะคอก
แพทกับรอนรีบร้อนรนกำลังจะหยิบกระเป๋าเงินให้ …
“เฮ้ย น่ารักนี่หว่า มากับกู” คนที่เดินมาจากด้านหลังตรงไปจับข้อมือแพท … “อ๊อค!”
เสียงดังตามมาเกิดจากรอนที่เอาตัวขวางและดันหน้าอกจนหมอนั่นต้องเดินถอยไป
[กระเป๋านักเรียน การป้องกัน ต่ำ]
รอนเช็คสถานะของในมือ มองไปที่ซอยเล็กๆที่ซับซ้อน … ถ้าปล่อยให้แพทเจอพาตัวไปนี่แย่แน่ๆ ต้องถ่วงเวลาไว้ก่อนจนกว่าคนที่บ้านแพทจะออกมา
“เฮ้ย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมึงถอยไป”
“……” รอนไม่ตอบแต่ค่อยๆดึงแพทเดินถอยหลังไปทางกำแพง ดูเผินๆเหมือนคนกำลังกลัว …
ซึ่งจริงๆรอนก็กลัว
แต่เขาแค่อยากจะลดโอกาสการโดนล้อมจากด้านหลังเหมือนเวลาสู้กับเจ้าบราวนี่ …
“แพท … เดี๋ยวถ้าเห็นจังหวะแพทรีบวิ่งหนีไปเลยนะ หนีไปก่อนแล้วค่อยตามคนมาช่วย”
“มึงไม่ต้องคิดหนีเลย อั่ก”
[Battle technique learned : Shield Bash]
รอนใช้กระเป๋ากำบังแล้วพุ่งโถมชนคนที่ใกล้ที่สุดก่อนเตะเข้าไปที่หน้าแข้งจนคนแรกล้มลง แต่ก่อนที่เขาจะได้ซ้ำ เขาก็สะบัดกระเป๋าเข้าหาอีกคนที่ตรงเข้ามา
[Deflect]
มีดกระเด็นหลุดมือไป รอนต่อยตามทันทีตามสัญชาตญาณ
เก็ง! “โอ๊ย”
[-0.3]
ทุกคนชะงักแวบนึงก่อนจะพุ่งเข้ามาต่อ เพราะรอนต่อยหมวกกันน็อคของอีกฝ่ายเต็มๆจนร้องออกมา เขาสะบัดมือที่ช้ำแดงก่อนจะพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“ย้ากกก” รอนวิ่งเข้าไปพร้อมเหวี่ยงกระเป๋าในมือฟาดปลายคาง … กระเป๋าหนักสามกิโลกระทบคางจนอีกฝ่ายหน้าหงายล้มลง
[Battle technique learned : Charge]
“มึงตาย” อีกคนนึงวิ่งเข้ามา
[Battle technique learned : Shield]
มีดปักที่กระเป๋าที่รอนพลิกมาตั้งรับทางด้านซ้าย มีดปักติดในหน้งสือและกระเป๋านักเรียน ก่อนที่เขาจะรู้สึกแปลบที่ต้นแขนขวา เลือดไหลซึมออกมาช้าๆ
[-0.5]
[Shield Bash]
รอนจับกระเป๋ากระแทกอกอีกฝ่ายก่อนจะหมุนตัวเหวี่ยงกระเป๋าฟาดคออีกฝ่าย เสียงกระเป๋ากระแทกหมวกกันน็อคจนอีกฝ่ายล้มลงพื้น รอนตั้งตัวขึ้นก่อนจะรู้สึกกระแทกที่ศีรษะจากทางด้านหลัง
[คุณถูกStun 3วินาที]
เด็กหนุ่มล้มลงพื้น มึนงง มองขึ้นมาเห็นอีกฝ่ายเอาหมวกกันน็อคเหวี่ยงมาอีกครั้ง
[คุณถูกStun 3วินาที][รวม5วินาที]
[-0.3][-0.3][-0.3] ตุบตุบตุบ
เสียงเท้าเตะฟาดเข้าที่หัวและหน้าอก
[-0.3][-0.2][-0.3] [-0.2][-0.3] [-0.3][-0.3][-0.1] [-0.3][-0.3][-0.1]
[คุณถูกStun60วินาทีMax]
รอนกัดฟันข่มความเจ็บปวดไว้ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่ว แต่อย่างน้อยแพทก็หนีทัน … จากมุมที่เขานอนขดอยู่เขามองเห็นวัยรุ่นอีก5คนลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วเดินมาสมทบห่าง ท่าทางเขาคงต้องเจอกระทืบอีกเยอะแน่ๆ
“อีหนู มานี่” เสียงของวัยรุ่นคนนึงดัง รอนมองตามแบบงงๆก่อนที่จะเห็นว่า
**แพทยังไม่ได้หนีไป!**
วัยรุ่นอีก2คนเดินเข้าไปใกล้เด็กสาว คนที่เข้าไปถึงคนแรกสุดยื่นมือเข้าไปจะคว้าข้อมือเด็กสาว ก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้นต่อหน้าเด็กสาว
เอ๊ะ…
คนที่สองก้าวข้ามเพื่อนที่ล้มอยู่ ยกมือพุ่งเข้าไปจับไหล่ แพทขยับไหล่หลบก่อนจะตวัดมือฟาดสันมือขวากระแทกคางจนหน้าหงาย แล้วเหวี่ยงฝ่ามือซ้ายอัดที่ปลายคาง จนล้มลงไปนอนกองที่พื้น
คนที่สามละจากการเตะรอนวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน ก่อนจะเจอกระเป๋านักเรียนของแพทเหวี่ยงเข้าใส่จนต้องหยุดชะงัก จากนั้นก็มีเสียงดังตามมาตาม
“พล่อก”
“อูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
เสียงผู้ชายในที่นั้นทุกคนรวมไปถึงรอนร้องออกมาพร้อมกัน หลังจากได้ยินเสียงเท้าเล็กๆฟาดเข้าที่หว่างขาอย่างแรง
แรงขนาดที่คนโดนล้มเป็นลมโดยไม่ทันได้ร้องออกมา
วัยรุ่น5คนแรกนอนที่พื้นหมดแล้ว อีก5คนที่ตามมาสมทบทีหลังระวังตัวมากขึ้น หยิบท่อนไม้ข้างทางขึ้นมา
“แพท ไปเร็ว” รอนได้แต่ตะโกนเตือนเพราะเขายังตอดสตันอยู่ พลางคิดในใจว่าฉิบหายแน่นอน เพราะไม่ว่าแพทจะอยู่หรือหนีไป ทั้งเท้าทั้งไม้ในมือ5คนนั่นคงประเคนลงตัวเขาเต็มๆแน่ๆ
“ไอ้แก่ มึงอย่ายุ่ง เรื่องของเด็กคนแก่ไม่เกี่ยว” พวกนั้นเดินย่างเข้ามา ยกไม้ในมือชี้หน้าคุณลุงคนนึงที่เดินเข้ามาขวางยกมือทำท่าห้ามไม่ให้เข้าไปทำอะไรเด็กสาว
“หลบไป” ลุงคนนั้นถูกผลัก
“โอ๊ยยยยย” เสียงร้องโหยหวนตามมา จนคนต่างหันไปมอง วัยรุ่นที่เพิ่งผลักชายวัยกลางคนร้องอย่างสุดเสียง มือที่ใช้ผลักอกอีกฝ่ายถูกดึงกลับมากุม นิ้วก้อยบิดหักงอผิดรูปเป็นสีม่วง เพื่อนที่มาด้วยปรี่เข้าไป
“เฮ้ย แก …. อ๊อคคคค”
ร่างวัยรุ่นที่จะเข้าไปช่วยเพื่อนลอยขึ้นประมาณ1ฟุต หลังจากหน้าแข้งของชายวัยกลางคนฟาดเข้าที่ท้อง … และทรุดนิ่งกับพื้น
เท้าซ้ายปักลงกับพื้น เท้าขวาถูกยกวาดเหวี่ยงขึ้นในอากาศ ก่อนที่หน้าแข้งจะฟาดหวดเข้าใส่คนที่สาม …โดยอัตโนมัติท่อนไม้ที่วัยรุ่นคนนั้นกะจะใช้เป็นอาวุธถูกยกมากันหน้าแข้งที่ลอยเข้ามา
ปึก ปึก ปึก พลั่ก!!!
เสียงหน้าแข้งเตะใส่ไม้และมือที่จับไว้จนต้องปล่อยออกกระเด็นหลุด ตามด้วยเสียงแข้งกระทบปาก ร่างที่เลือดกบปากทรุดนั่งจ้ำเบ้าลงกับพื้น
“ยอมแล้ว ยอมแล้ว อย่าอย่าลุงอย่า …. อ๊อค! โอ๊ยยยยยย ผมยอมแล้ว ….. อ๊อคคคคคคคค ยอมแล้ว ….. อ๊อออค”
[คุณรับรู้ถึงจิตสังหาร]
รอนไม่ได้สนใจคำที่ป็อบอัพขึ้นมา …
เพราะภาพการเตะไม้จนนิ้วมือที่ถืออยู่หักบิดผิดรูป ตามด้วยการเตะจนฟันหลุด และเมื่อล้มลงไปแล้วเตะหว่างขาอีกสามครั้งเต็มแรง
…. ไม่ต้องมีสกิลใดๆก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารอย่างเต็มที่แล้ว
“ใครจะเอาอีก!” เสียงร้องถามดังขึ้นดั่งคำราม … วัยรุ่นที่เหลืออีกสองคนมองมีดในมือและแข้งตรงหน้า
ด้วยความรักเพื่อนสุดแสนล่ำลึก สองคนที่เหลือกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วขับหนีออกไปทันที ทิ้งเพื่อนรักแปดคนที่นอนร้องครวญคราง บ้างกุมมือ บ้างกุมหว่างขา บ้างนั่งสะบัดหน้างงๆ
“คุณหนูเป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนบ้างไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะลุงบัว ” แพทตอบพลางเอามือพยุงไหล่ของรอนให้นั่งขึ้น ลุงบัวหรี่ตามองเด็กหนุ่มเล็กน้อยก่อนที่จะลุกเดินไปที่วัยรุ่นที่ยังนอนอยู่ที่พื้น เขาล้วงกระเป๋าเงินของแต่ละคนออกมา โยนให้ชายหนุ่มอีกสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆดู
ชายทั้งสองแยกบัตรประชาชนออกมาจากกระเป๋าโดยไม่สนใจบัตรอื่นๆหรือเงินในนั้น ทั้งคู่เรียงบัตรประชาชนลงบนพื้นแล้วถ่ายด้วยกล้องมือถือก่อนจะกดอะไรบางอย่างส่งออกไป
“พวกแกมีเวลาถึงพรุ่งนี้เช้าที่จะเก็บข้าวของแล้วออกไปจากแถวนี้ …. เพราะเมื่อกี้รูปบัตรประชาชนพวกแกถูกส่งไปให้ตำรวจ……”
แต่ละคนทำท่าเคียดแค้น ไม่มีใครแสดงท่าทางเกรงกลัว
“และแก๊งค์ปรียา”
เมื่อสิ้นเสียงประโยคสุดท้าย แต่ละคนมองหน้าชายวัยกลางคนอย่างขวัญหนีดีฝ่อ ก่อนจะค่อยๆกระเถิบตัวและร่างที่บอบช้ำขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ขับออกไป
รอนค่อยๆพยุงตัวขึ้น โดยเด็กหญิงช่วยพยุงแขนไว้ เขาสำรวจแผลที่แขน ตอนนี้เลือดที่ไหลเป็นทางยาวหยุดไหลและเริ่มแห้งเหนียว เสื้อผ้าเลอะฝุ่น ตามขาและท้องเป็นรอยช้ำ
[พลังชีวิต 39.8/45]
ยังไหวแฮะ นี่ยังดีที่ไม่หน้กไปกว่านี้
ลุงบัวมองเด็กสาวที่กำลังช่วยพยุงรอน แล้วเขาก็พยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา ชายคนนั้นเดินเข้าไปแล้วช่วยพยุงรอนแทน จากนั้นทั้งหมดก็ค่อยๆเดินไปในซอย … ไปจนถึงประตูรั้วสีฟ้า ภายในเป็นสวนโล่ง มีบ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่5หลัง … ใหญ่และกว้าง อย่างที่ไม่คิดว่าจะมาตั้งใจกลางกรุงเทพในเขตนี้ที่ราคาที่ดินแพงระยับได้
“นี่บ้านเราเอง … ใหญ่หน่อยนะ … รอนคงไม่ตกใจนะ” แพทบอกแบบอายๆ
รอนหันไปยิ้มและส่ายหน้า
สำหรับวันนี้ ไม่มีอะไรน่าตกใจไปกว่าการที่เขาเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้Knock Out คนได้ทีเดียว3คนแล้วแหละ