Midterm Fantasy - ตอนที่ 184
รอนและแพทเดินตามโรล่าไปยังลานกลางหมู่บ้าน ตอนนี้ที่ลานล้วนเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งคนของหมู่บ้านเอง ทหารของทั้งเจ้าชายและทหารจากเมืองกาล่า ชาวบ้านไปจนถึงนักผจญภัยพ่อค้าที่ผ่านทางมาต่างมองจากรอบนอกอย่างสนใจ
“ท่านมีอา สวัสดีครับ” รอนร้องทัก
“ท่านรอน คุณแพท สวัสดีค่ะ” มีอาโบกมือทักทาย
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ ทำไมทุกคนมารวมกันมากมายแบบนี้” รอนถมพลางมองไปรอบๆ ตอนนี้นอกจากทหารของเมืองกาล่าที่มากับท่านเจ้าเมืองแล้ว ยังมีพวกนักบวชจากโบสถ์แห่งแสงมากันอีกหลายคน
“เรื่องนั้น..” มีอายังไม่ทันตอบ เสียงจากเบื้องหลังก็ดังมา
“โอ้ คุณแพท คุณรอน มาถึงกันแล้วรึ” เจ้าชายดีโอเดินตรงเข้ามาพร้อมกับท่านโซล่าเจ้าเมือง
“เจ้าชาย” ทั้งสามคนที่กำลังคุยกันอยู่ต่างทำความเคารพเจ้าชาย
“พวกท่านทั้งสองมากันแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็เริ่มเดินทางกันได้แล้ว” เจ้าชายบอก
“เดินทาง” รอนเอ่ยอย่างงงๆ
“ใช่แล้ว พวกเราจะเดินทางไปที่สุสานของนักรบมังกรแห่งแสงสว่าง” เจ้าชายดีโอบอก
รอนและแพทมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“ตอนนี้สถานการณ์ที่ชายแดนกำลังไม่ปกติจากทั้งโรคระบาดและการจู่โจมของมอนสเตอร์ ท่านพ่อจึงตัดสินใจส่งข้อมูลทั้งหมดให้โบสถ์แห่งแสงเพื่อขออนุญาตนำเอาศิลานักปราชญ์ที่มีออกมาใช้“ เจ้าชายบอก
“ศิลานักปราชญ์ … หรือว่า”
“ใช่แล้ว พวกเราจะเดินทางไปที่สุสานของนักรบมังกรอารย่าเพื่อนำเอาศิลานักปราชญ์แห่งแสงมาใช้”
สุสานของนักรบมังกรอารย่า
ศิลานักปราชญ์
เดี๋ยวนะ!!!!!
รอนขนลุกซู่ทั้งตัว
อยู่กับตรูนี่หว่า!
ท่านเจ้าเมืองโซล่ายกมือให้สัญญาณ จากนั้นบรรดาทหารต่างก็เริ่มออกเดินทาง ขบวนอันประกอบไปด้วยนักบวช ทหาร องครักษ์เพรตอเรี่ยนและชาวบ้านค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากกำแพงหมู่บ้าน แพทถูกเจ้าชายดีโอดึงมือเดินออกไปก่อนจนรอนต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ บรรยากาศของการเดินทางนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอันศักดิ์สิทธิ์ นักบวชที่อยู่ด้านหน้าถือธงแห่งศาสนจักรนำไปเป็นทิวแถว
และที่ตรงกลางในหมู่องครักษ์เพรเตอเรี่ยน มีเด็กหนุ่มสาวอายุไล่เลี่ยกับรอนและแพทอยู่ตรงนั้น 5 คน
“คุณแพท คุณรอน ข้าขอแนะนำให้ท่านทั้งสองรู้จักกับนักรบมังกรแห่งแสง” เจ้าชายดีโอแนะนำหนุ่มสาวทั้ง5คนนั้นให้รอนและแพทได้รู้จัก ลีออน จิล อัลเบิร์ต คริส แคลร์ ทั้ง 5 คนเป็นหนุ่มสาวที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักรบมังกรแห่งแสงรุ่นใหม่
ศาสนจักรแห่งทวีปซีแลนเดียอนุญาตให้ใช้ศิลานักปราชญ์ในครั้งนี้ได้ 6 ชิ้น และชิ้นที่6นั่นก็คือชิ้นที่อยู่ในร่างของนักรบมังกรอารย่าที่สละชีพในสงครามครั้งที่แล้ว
“ใจจริงข้าก็ไม่อยากเห็นสุสานของท่านอารย่าต้องเปิดออกแบบนี้ แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันจำเป็นจริงๆ หวังว่าท่านอารย่าบนสวรรค์คงจะเข้าใจ” เจ้าเมืองโซล่าบอก
“ถ้าไม่ใช่ว่าศิลานักปราชญ์อีก 6 ลูกนั้นอยู่ที่ทวีปอื่น พวกเราคงไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกท่านโซล่า” เจ้าชายดีโอกล่าว
ทั้งหมดเดินทางไปตามถนนเล็กๆ เส้นทางที่ปรากฎขึ้นนั้นคุ้นตากับรอนมากเพราะมันคือทางไปยังถ้ำสุสานแห่งนั้น
ถ้ำสุสานห้องศิลาอันเป็นสถานที่แรกที่เขาข้ามมิติมายังโลกใบนี้!
“เอาล่ะ พวกเรามาถึงแล้ว ทุกคนเคลียร์พื้นที่ได้” ท่านโซล่าสั่งการ ทหารใต้บังคับบัญชากว่า50นายเคลื่อนตัวไปที่ถ้ำ จากจุดนี้รอนมองเห็นแถบพลังชีวิตของค้างคาวที่หลบในถ้ำได้
“ข้าแต่เทพแห่งแสงสว่าง โปรดเปิดทางอันมืดมิดให้พวกเรา <ลูมินัส>”
“พลธนูพร้อม ยิง!”
ขวับ ๆ ๆ ๆ สวบ ๆ ๆ ๆ
ค้างคาวนับสิบที่กำลังมึนงงกับเวทแสงสว่างต่างร่วงหล่นจากเพดานถ้ำจากธนูที่ปักเข้าตามร่างของมัน ทหารของท่านโซล่าค่อยๆเดินหน้าเข้าไปเรื่อยๆ เวทแสงสว่างถูกปล่อยออกไปตามด้วยห่าลูกธนู ปลิดชีวิตค้างคาวภายในถ้ำไปเรื่อยๆ
รอนยืนมองเหล่าทหารที่เดินหน้าเข้าไปด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ถ้าทหารเดินเข้าไปถึงภายในห้องศิลานั้นแล้วไม่เจอศิลานักปราชญ์จะเกิดอะไรขึ้น
ครู่ใหญ่ๆ ทหารเดินออกมาเป็นทิวแถวอย่างเงียบสงบไม่มีสีหน้าตกใจแต่อย่างใดจนรอนชักงง ทำไมไม่เห็นมีใครตกใจอะไรเลย
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนท่านนักบวชและท่านนักรบมังกรแล้ว” ท่านเจ้าเมืองหันไปบอก จากนั้นกลุ่มนักบวชและนักรบมังกรหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในถ้ำสุสานนั้น
“ทุกท่าน เชิญ” ท่านโซล่าเชื้อเชิญทุกคน เจ้าชายเดินนำเข้าไปโดยไม่ลืมดึงมือแพทไปด้วย ขณะที่รอนที่ลังเลว่าจะเดินเข้าไปดีหรือไม่นั้นก็ถูกพ่อเฒ่าเบรเซอร์ดันหลัง
“ท่านรอนไม่ต้องเกรงใจ ท่านคือผู้มีพระคุณต่อหมู่บ้านและเมืองของเรา พิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ท่านย่อมเข้าร่วมได้อยู่แล้ว”
“ค ครับ”
รอนเดินตามเข้าไปอย่างเหงื่อตก ทางเดินภายในนั้นถูกเวทลูมินัสส่องสว่างจนมองเห็นชัดเจน และที่สิ้นสุดทางเดินนั้นเหล่านักบวชกำลังทำพิธีอะไรบางอย่าง โดยที่มีนักรบมังกรอัลเบิร์ตกำลังผลักประตูอยู่ รอนมองตามอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าประตูยังปิดอยู่ และเจ้าชายดีโอก็อธิบายให้ฟัง
“ประตูนี้เป็นประตูเวทมนตร์ ผู้ที่จะเปิดได้ก็มีแต่นักบวชชั้นสูงหรือไม่ก็ต้องเป็นนักรบมังกรที่มีประสบการณ์เท่านั้น” เจ้าชายบอก “ถ้าหากคนที่ไม่ใช่นักรบมังกรพยายามเปิดเข้าไปล่ะก็ กับดักที่พื้นจะทำงานขึ้น”
รอนนึกขึ้นได้ว่าประตูนั่นต้องการค่าความรู้ 15 จึงจะเปิดได้ ท่าทางนักรบมังกร 5 คนนี้จะมีค่าความรู้ไม่ถึง เลยต้องใช้พวกนักบวชเข้าช่วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นในตอนนี้แล้ว
คลิ๊ก!
ประตูเลื่อนเปิดออก นักรบมังกรและนักบวชเดินนำเข้าไป ภายในห้องนั้นบังเกิดแสงไฟส่องสว่างขึ้น แล้วอีกครู่หนึ่งนักบวชคนนึงก็เดินออกมาด้วยสีหน้างงงัน
“ท่านโซล่า ร่างของท่านอารย่าล่ะ”
“เห?”
“ร่างของท่านอารย่าอยู่ที่ไหนรึ” นักบวชสูงวัยถามย้ำอีกครั้ง
“อยู่บนแท่นศิลากลางห้องยังไงล่ะท่าน” ท่านโซล่าเดินตรงเข้าไปในห้อง “ในตอนนั้นที่ข้าอุ้มร่างของท่านอารย่าเข้ามา ข้าก็วางร่างของท่านเอาไว้ที่แท่นนี้ …..เอ๊ะ เดี๋ยวสิ …เป็นไปไม่ได้ ท่านอารย่า ท่านอารย่าอยู่ที่ไหน นี่มันชุดของท่านอารย่า แล้วร่างไปไหน ไปไหน ไปไหน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ท่าน อารย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา”
แล้วเสียงกรีดร้องปานใจจะขาดของท่านโซล่าก็กู่ก้องออกมาจากสุสาน