Midterm Fantasy - ตอนที่ 181
รถสองคันมุ่งออกจากเมืองไปตามถนนอันเวิ้งว้างยามค่ำคืน รอนมองไปนอกหน้าต่างรถ แสงดาวพร่าวพราวบนท้องฟ้ายามราตรี
“ชุดที่ใส่อยู่นี่ เอามาจากไหนกันคะ” เจนัสถาม เด็กหนุ่มก้มมองตนเอง เสื้อเกราะกันกระสุนสีดำสวมทับอยู่บนร่างแล้วก็หัวเราะ ไม่แปลกที่เจนัสจะแปลกใจ เพราะก่อนที่เธอจะเดินออกมา เขายังไม่ได้ใส่ชุดนี้
“ความลับครับ”
ระหว่างกำลังเดินทาง รอนโทรบอกแพทให้ไปหาคุณหลิวลี่จง ให้แพทใส่ชุดเกราะกันกระสุนข้ามไปที่โลกโน้น จากนั้นพอเขาไปที่โน่น ก็สวมเกราะกันกระสุนนี่กลับมาด้วย
“แล้วนี่คืออะไรเหรอ” เจนัสถามเมื่อเห็นรอนหยิบเอาไม้ง่ามหนังสติ๊กออกมาพร้อมกับลูกพลาสติกกลม 5 ลูก
“อาวุธครับ” เขาตอบสั้นๆ “คงไม่ดีเท่ากับปืน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร”
ส่วนอาวุธนั้น แน่นอนว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเอาอาวุธจากฝั่งโน้นมา ก็เลยพกได้แต่เครื่องรางและม้วนเวทมาเพิ่มเติม
ที่สำคัญคือ ผลึกแกนมอนสเตอร์ที่พกมาเพิ่มได้อีก 5 ชิ้น แกนระดับ 1 ที่เอามากระตุ้นกระสุนเวทมนตร์3D
“คุยอะไรกัน” ทหารของนายพลแทงโก้ถามด้วยภาษาอังกฤษ
“เธอถามเรื่องอาวุธของผมน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” รอนตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษพร้อมโชว์ไม้ง่ามหนังสติ๊กให้ทหารคนนั้นดู มันหัวเราะออกมาแล้วก็หันกลับไปไม่สนใจอะไรต่อ ส่วนหมอโรเบิร์ตกำลังกดวิทยุสื่อสารคุยกับหมอเจมส์ที่อยู่รถคันหน้าเป็นระยะ ทั้งสองคนคุยเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งทหารของนายพลแทงโก้ฟังไม่ออก
“ตอนนี้ผมให้ทุกคนเตรียมพร้อมแล้วถ้าได้สัญญาเมื่อไหร่จะจัดการกับทหารได้ทันทีครับ” หมอเจมส์ร้องออกมา
“ดี ก็เหลือแต่ทหารจากรถคันหลังนี่เท่านั้น” หมอโรเบิร์ตตอบกลับเป็นภาษาฝรั่งเศส “ยังไม่รู้ว่าจะสลัดหลุดได้ยังไง ถ้ามีอะไรจะจัดการกับยางรถคันหลังได้บ้างล่ะก็…”
รอนที่ฟังการสนทนาของทั้งสองอยู่พูดสอดเข้าไปทันที
“ถ้าเป็นรถด้านหลังนั่น ผมจัดการให้ได้ครับ”
“โอ้ เธอพูดฝรั่งเศสได้เรอะ” หมอโรเบิร์ตถามขึ้น
“ได้ครับ” รอนตอบ
ทหารที่นั่งข้างๆ นั่งขมวดคิ้วเพราะอีกฝ่ายต่างคุยด้วยภาษาที่เขาฟังไม่ออก แต่หมอโรเบิร์ตก็หันไปยิ้มให้
“พ่อหนุ่มนี่บอกว่าคุณน่ะกล้ามใหญ่กำยำมากจนอยากรู้ว่าคุณทำยังไงน่ะครับ”
ทหารคนนั้นชะงักแล้วก็ยิ้มออกมา ความสงสัยเมื่อครู่ลดหายไปทันที หมอโรเบิร์ตหันไปคุยกับรอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พร้อมเมื่อไหร่บอกเลย”
เด็กหนุ่มยิ้มให้ทหารคนนั้นแล้วก็หยิบผลึกแกนมอนสเตอร์และลูกกระสุนเวทมนตร์มาถือไว้ แล้วแง้มหน้าต่าง
“พร้อมแล้วครับ”
“เจมส์ พร้อมไม๊”
“พร้อมครับ” เสียงดังมาจากวิทยุสื่อสาร
“ดีมาก งั้นทุกคน จัดการทหารในรถพร้อมกันใน 3 .. 2 .. 1 จัดการ!”
หมอโรเบิร์ตยิ้มให้กับทหารคนนั้นแล้วเอื้อมมือไปกระชากศีรษะเข้ามาแล้วฟาดหมัดเข้าไปที่ปลายคางย้ำๆ พยาบาลที่นั่งอยู่ด้านหลังโถมเข้ามาล็อคกระชากแขนไม่ให้ขยับได้
“โอ้วโนว์ จะทำอะไร อึ้กๆๆๆ”
เสียงการดิ้นรนค่อยๆหยุดไป หมอโรเบิร์ตใช้มือนึงกดศีรษะไว้ ส่วนอีกสองนิ้วกดเข้าไปที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอจนอีกฝ่ายสงบ รถทหารที่ขับตามหลังมาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติและตบไฟสูงใส่
รอนกระแทกแกนมอนสเตอร์เข้ากับกระสุนเวทมนตร์ แสงสีชมพูเรืองขึ้นระหว่างง่ามหนังสติ๊ก ก่อนจะพุ่งตามแรงยิงมุ่งเข้าหากระจังหน้ารถ
บูม! แสงไฟสว่างวาบ แรงอัดดันเอาเครื่องยนต์ลอยออกจากกระโปรงหน้ารถที่ตลบเปิดขึ้น ควันพุ่งออกมาเต็มไปหมด เสียงร้องของทหารในรถที่ร้องโวยวายดังออกมาปนไปกับเสียงเบรก หมอโรเบิร์ตสั่งให้เร่งเครื่องรถออกไปให้เร็วที่สุดก่อนจะเปิดประตูแล้วปลดอาวุธแล้วถีบทหารที่สลบตกลงไป รถขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วตามถนนยามราตรี
“ไหนดูสิ ระเบิดแสงสองลูกแล้วก็ คลิปกระสุนปืนสองอัน” หมอโรเบิร์ตบอกกับรอน “เธอใช้ปืนนี่เป็นไหม”
“ไม่เป็นครับ”
“น่าเสียดาย ถ้าเรามีคนที่ใช้ได้สักคนก็คงดี”
“เป็นค่ะ” เจนัสตอบ หญิงสาวรับเอาปืนจู่โจมอัตโนมัติกระบอกนั้นมาตรวจเช็คดู แล้วรับเอากระสุนไปเก็บไว้
รถวิ่งไปเรื่อยๆ จากGPS บอกว่าอีก50กิโลเมตรก็จะถึงชายแดนแล้ว พวกเขาทั้งหมดจะปลอดภัยแล้ว ทุกคนกำลังผ่อนคลายและคิดถึงบ้านที่กำลังจะได้กลับไป แล้วรถก็วิ่งเข้าไปตามถนนที่กำลังตัดผ่านเนินเขาหินอันแห้งแล้ง
[คุณรับรู้ได้ว่ากำลังถูกเฝ้ามอง]
รอนดีดตัวขึ้นมา
“มีอะไรเรอะ” หมอโรเบิร์ตถาม
“เราถูกดักซุ่มโจมตีครับ” รอนบอก
ทุกคนในรถตื่นตัวขึ้นทันที พยายามมองไปนอกรถอันมืดมิดแต่ก็ไม่เห็นอะไร
“เธอแน่ใจเหรอ ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“แน่ใจครับ ข้างหน้าบนถนน มีคนอยู่2คน ที่ข้างขวาบนยอดเนินห่างออกไป500 เมตร มีพวกของมันอยู่อีก4คน” รอนตอบ “ส่วนทางด้านซ้ายห่างออกไปราวๆ 500 เมตร มีคนอีก 10 คน สองกลุ่มนี้เป็นคนละฝ่ายกันครับ”
รอนตอบอย่างรวดเร็วแม่นยำ แถบพลังชีวิตของศัตรูในตอนนี้ ขึ้นให้เห็นชัดเจนท่ามกลางความมืด และบนแถบของทั้งสองกลุ่มนี้แยกออกเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน บ่นบอกว่าศัตรูทั้งสองนี้เป็นคนละพวกกัน
“เธอรู้ได้ยังไง”
“อย่าเพิ่งถามเลยครับ เรามีทางเลี่ยงไปที่อื่นไหมครับ”
“มี แต่ต้องย้อนกลับไปที่ถนนเส้นเดิม”
หมอโรเบิร์ตบอก แต่แล้ววิทยุสื่อสารที่ตกในรถของทหารนายพลแทงโก้ก็ดังขึ้น
“ตอนนี้พวกเราพบรถแล้วครับ คนของพวกเราไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถเสียหาย” เสียงจากวิทยุสื่อสารดังออกมา “พวกมันมุ่งหน้าไปตามถนนนี้แน่ๆ เรากำลังติดตามไป”
เสียงจากวิทยุบ่งบอกว่าตอนนี้ทางถอยก็ไม่เหลือแล้ว
และขณะที่ทุกคนนึกไม่ออกว่าจะทำยังไง รอนก็เอ่ยขึ้น
“คุณโรเบิร์ต คุณเจมส์ เจนัส ผมมีแผนครับ”
“วอลรัส 2 รถมันเคลื่อนเข้ามาแล้ว ระวัง ช้าๆ อย่าให้มันรู้ตัว ล่อให้มันเข้าพื้นที่สังหาร”
“วอลรัส 2 ทราบแล้ว วอลรัส 3 คุ้มกันด้วย”
รถของหน่วยแพทย์สองคันค่อยๆเคลื่อนเข้ามา แสงไฟหน้ารถส่องให้เห็นชายสองคนหรือวอลรัส1และ2 ที่โบกมือขอความช่วยเหลือกลางถนน ขณะที่ วอลรัส 3ถึง6 ในชุดทหารลายสีน้ำตาล หมอบซุ่มข้างรถท่ามกลางความมืดโดยแต่ละคนสวมกล้องมองกลางคืนกันอยู่
“มันเข้ามาใกล้แล้ว รออีกนิด” ทหารคนแรกบอก “พอพวกมันเคลื่อนไปได้50เมตร เราจะยิงจากด้านหน้า แล้วพวกข้างล่างจะปิดทางถอยจากด้านหลัง”
“ว่าแต่พวกเราจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ” ทหารคนที่สองบอก
“จำเป็นสิ ถ้าพวกหมอกลุ่มนี้ตายในพื้นที่ขัดแย้งนี้ กองทัพจะมีข้ออ้างในการเข้ามากวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มขุนศึกฝ่ายกบฏ สันติภาพก็จะกลับมา” ทหารคนแรกบอก “เสียสละชีวิตคนไม่กี่คนแลกกับสันติภาพ ถือว่าเป็นเรื่องสมควรแล้ว”
“หัวหน้า ที่รถครับ มีแสงไฟ” ทหารคนที่สามร้อง
“แสงอะไร ไหน ไม่เห็นมีอะไรนี่”
หัวหน้าทีมมองไป หมอโรเบิร์ตคุยกับคนของเขาทั้งสองคนที่ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ก็ดูปกตินี่นา
แต่เมื่อสังเกตดีๆ ที่ข้างหลังหมอโรเบิร์ต มีคนกำลังเปิดปิดไฟฉายเป็นจังหวะ
“รหัสมอร์ส?” หัวหน้าทีมร้องขึ้น “พวกเรา .. ไม่มี .. ปืน .. หลัง .. สัญญาณ .. แสง .. ยิง สนับสนุน … พวกเราด้วย .. เริ่มต้น .. ใน .. 10. .. วินาที … เริ่ม”
หัวหน้าทีมวอลรัสชะงักเมื่อเห็นสัญญาณที่ว่า เขามองมุมที่ไฟฉายนั้นส่องไป มันคือเนินเขาฝั่งตรงข้ามกับที่พวกเขาหลบอยู่ หรือว่า!
มันหันขวับไปฝั่งตรงข้าม ด้วยกล้องมองกลางคืนทำให้เขามองทุกอย่างชัดเจน และที่ฝั่งตรงข้ามนั้นเอง ชายชุดดำ10คนพร้อมปืนจู่โจมอัตโนมัติ กำลังหมอบอยู่ที่พื้น …. และในจังหวะเดียวกันนั้นเอง ทั้ง 10 คนก็หันมาทางเขาพร้อมๆกัน
“พี่หลงจิ่ง สัญญาณมอร์สครับ คนบนรถส่งสัญญาณมาทางเรา”
“มันจะส่งสัญญาณมาทางเราทำไม” หลงจิ่งพูดพร้อมกับแปลรหัส “พวกเรา .. ไม่มี .. ปืน .. หลัง .. สัญญาณ .. แสง .. ยิง สนับสนุน … พวกเราด้วย .. เริ่มต้น .. ใน .. 10. .. วินาที … เริ่ม”
จะว่าไปก็แปลก ที่จู่ๆมีคนมาดักที่ถนนกลางดึก
เดี๋ยวสิ หรือว่าสองคนนั่นจะปลอมตัวมา
หลงจิ่งและลูกน้องหันหน้าไปที่เนินเขาฝั่งตรงข้ามพร้อมๆกัน ด้วยกล้องกลางคืนที่สวมอยู่ทำให้เห็นว่าที่อีกฝั่งมีทหาร4คนซุ่มอยู่
แต่เดี๋ยวสิจู่ๆคนบนรถจะส่งรหัสมาให้มันทำไม รึว่า!
หลงจิ่งหันขวับ ตาประสานตากับรอนที่กำลังวางไฟฉายลง เด็กหนุ่มยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะขว้างอะไรบางอย่างออกมา
“ทุกคนหลับตา!” หลงจิ่งตะโกน
ตูม!
แสงสว่างเจิดจ้าวาบขึ้น พวกคนที่หลบซุ่มอยู่ทุกคนตาพร่าอย่างพร้อมเพรียงกัน
“ทุกคนลืมตาได้ เจนัส ยิงตำแหน่งที่ว่าเลย” รอนตะโกนสั่ง แม้จะมองไม่เห็นว่าข้างนอกนั้นมีอะไร แต่เจนัสก็ยกปืนขึ้นยิงไปตำแหน่งที่รอนชี้ไว้ก่อนหน้านั้น”
แท๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เหยียบให้มิดเลยครับ” รอนตะโกน และโดยไม่รอช้า รถพุ่งมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว ชนร่างสองร่างที่ขวางถนนอยู่จนกระเด็ดไป เจนัสบรรจุกระสุนใหม่แล้วยกขึ้น รอนจับปากกระบอกปืนให้ชี้ไปทางทีมวอลรัสที่ซ่อนอยู่ จากนั้นปืนก็ยิงออกไปอีกรอบ
แท็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แม้จะมองไม่เห็นตัว แต่จากค่าพลังชีวิตที่ลดลงก็บ่งบอกว่าทีม4คนที่ซุ่มอยู่นั้นเจอกระสุนของเจนัสเข้าไปบ้าง หญิงสาวบรรจุแม็กกาซีนสุดท้ายแต่ไม่ได้ยิงออกไป เพราะรถได้พุ่งออกมาไกลแล้ว เหลือไว้แต่เสียงปืนที่ดังจากเนินเขาทั้งสองฝั่ง
“วอลรัสทีม ยิงเมื่อพร้อมๆ ศัตรูอยู่ฝั่งตรงข้าม” หัวหน้าทีมบอก “พวกมันมีทีมคุ้มกัน ระวังตัวด้วย”
มันปาดเหงื่อ ไม่คิดเลยว่าวอลรัสทีมแห่งประเทศUA จะต้องมาเจอกับศัตรูที่ยุ่งยากแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมันสังเกตเห็นสัญญาณไฟฉายล่ะก็ ป่านนี้คงไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนซุ่มที่ฝั่งตรงข้ามแน่
“เรียก UAV มา เราจะถล่มมันด้วย โดรน”
“Roger”
ขณะเดียวกัน หลงจิ่งก็ตะโกนออกไป
“ถอยก่อน ถอย พวกนั้นเป็นวอลรัสทีมของประเทศ UA ไอ้เด็กเปรตชื่อรอนนั่นเล่นเราแล้ว”
บูม!
“อ้ากกกก”
“พี่ใหญ่ พวกมันมีโดรน”
บูม!
คนของแก็งเมษาร่างฉีกเป็นชิ้นๆไปอีกสองคน ขณะที่โดรนบินลอยข้ามหัวไปแล้วเตรียมตีวง
“ฮ่าๆๆ เจ้าพวกโง่ เตรียมรับความตายซะเถอะ” หัวหน้าทีมวอลรัสร้องก้อง “บังคับเครื่องกลับมายิงมัน”
โดรนลำนั้นตีวงไปในอากาศ ก่อนจะโค้งหันกลับไปทางกลุ่มของหลงจิ่งอีกครั้ง และก่อนที่จะมีใครทันทำอะไร แสงไฟก็วาบจากพื้นถนน
บูม!
โดรนระเบิดแหลกละเอียดกลางอากาศ ด้วยแรงระเบิดจากเครื่องยิงจรวดต่อต้านอากาศยานขนาดเล็กที่มาจากหลังรถจี๊ปเบื้องล่าง
รถของทหารนายพลแทงโก้ที่ตามหลังมานั่นเอง
“ผู้กองครับ มีทหารซุ่มอยู่สองข้างทางครับ”
“ยิงมันให้หมดไม่ว่ามันจะเป็นใครฆ่ามันให้หมด” ผู้กองร้อง
“ยิงสกัดไว้ ขอกำลังUAVเครื่องใหม่สนับสนุน” หัวหน้าทีมวอลรัสร้อง
“เก็บทหารประเทศ UA ให้ได้ อย่าให้มันตามโดรนตัวใหม่มา” หลงจิ่งตะโกนสั่ง
แล้วเสียงปืนก็ดังทั่วทั้งบริเวณเนินเขา ผู้ล่าทั้งสามกลุ่มต่างต่อสู้กันเอง … ขณะที่ลูกแกะทีมแพทย์น้อยๆสองคันรถเคลื่อนหนีไปได้อย่างสบายใจ
”ว่าแต่เธอไม่สนใจมาเป็นหมอเหรอ”หมอโรเบิร์ตชวนอีกครั้ง
”ไม่ครับ” รอนตอบอย่างหนักแน่น อิพวกนี้หน้าตายสุดๆ