Midterm Fantasy - ตอนที่ 178
ทหารเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ทำความเคารพแล้วก็เริ่มรายงาน
“ท่านนายพลครับ มีชายหญิงสองคนเดินทางมาที่เมืองของเรา แจ้งความประสงค์ว่าจะขอพบกับหน่วยแพทย์ที่เรากักบริเวณไว้ครับ”
“นักข่าวรึ ไล่พวกมันไปซะ”
“ไม่ใช่ครับ สองคนนั้นบอกว่าเป็นคนรู้จักของหมอในทีมแพทย์ครับ”
“ได้บอกไปหรือยังว่าถ้าหากได้เข้าพบแล้ว จะไม่สามารถออกมาได้จนกว่าทางองค์กรเอพริลจะตรวจสอบเสร็จ”
“แจ้งแล้วครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเข้าไป แล้วกำชับทุกคนว่าห้ามปล่อยพวกมันออกมาเด็ดขาด”
ทหารนายนั้นทำความเคารพอีกครั้งก่อนจะกลับออกไป ขณะที่ผู้ที่อยู่ในห้องก็ละความสนใจกลับมานั่งคุยกันต่อ
“คุณหลงจิ่งจะให้คนเข้าไปตรวจสอบเมื่อไหร่” ชายในชุดนายพลถามไปยังชายที่นั่งตรงข้าม
“คืนนี้ท่านนายพลแทงโก้ คืนนี้” ชายชาวจีนคนนั้นบอก “ท่านนายพลจัดการเคลียร์นักข่าวที่อยู่แถวนั้นออกไปให้หมดก่อน แล้วเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะเข้าไปตรวจสอบก็ขอให้ท่านนายพลพานักข่าวเข้ามาดูพร้อมๆกัน”
“ข่าวของคุณไม่ผิดแน่ใช่ไหม”นายพลแทงโก้ถาม “ตอนนี้ชาวเมืองไม่พอใจคนของผมมากที่จู่ๆก็มากักบริเวณของหน่วยแพทย์จนพวกเขาพาคนป่วยมารักษาไม่ได้ ถ้าเกิดค้นแล้วไม่มีอะไรขึ้นมาล่ะก็ชาวเมืองคงมองผมในแง่ลบแน่”
“ท่านนายพลอย่าได้กังวล สายของเราที่ลอบติดตามรถขนวัคซีนตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์กำลังสูงแล้ว ภายในประตูฝาหลังของรถวัคซีนคันนั้นมีการซ่อนอุปกรณ์สอดแนมมาอย่างแน่นอน” หลงจิ่งบอก “ต่อให้พวกมันส่งคนเข้ามาช่วยเหลือ แต่ถ้ารถยังอยู่กับพวกเรา ท่านนายพลก็สามารถใช้รถนั่นเปิดเผยให้นักข่าวแพร่ภาพไปทั่วโลกถึงความชั่วช้าของพวกมันได้ และถึงตอนนั้นเราก็สามารถใช้หน่วยแพทย์ที่มากับรถคันนั้นต่อรองกับประเทศต้นทางได้”
ทั้งสองคนพยักหน้าให้กันและกันก่อนจะกระดกแก้วไวน์ในมือขึ้นดื่ม
อีกด้านหนึ่งภายในตัวอาคาร ทุกคนกำลังตื่นตะลึงกับแขกที่มาเยือน
“คุณรอน!” หยางเทียนร้องขึ้นอย่างตะลึง
“รอน!” หมอเคตะโกนออกมาอย่างตกใจ
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้างคุณหยางเทียน” รอนถามโดยไม่ยังไม่คุยกับหมอเค
“แย่ครับ เราถูกหลอกใช้จริงๆ” หยางเทียนบอก “ในประตูรถตู้นั่นมีอุปกรณ์สอดแนมซ่อนอยู่จริงๆ ว่าแต่คนๆนั้นคือ”
เจนัสเปิดผ้าคลุมผมที่ปิดใบหน้าไว้ออกให้ดู หยางเทียนซึ่งรู้ว่าเจนัสคือใครถึงกับผงะไปครู่นึง
“นี่คือคุณเจนัสครับ ผมคิดว่าคุณหยางเทียนคงจะจำเธอได้” รอนบอก “พวกเราไปดูที่รถกันก่อนเถอะครับ”
หยางเทียนเดินพารอนไปที่รถ จากนั้นก็ใช้เครื่องตรวจโลหะขนาดเล็กไล่ตรวจไป เสียงดังและไฟสีแดงแวบวาบมาเป็นจุดๆ
“หลังจากพวกเราเข้ามาในเมืองนี้ได้ไม่นานก็ถูกกักบริเวณไม่ให้ไปไหน แล้วระหว่างที่เจอกักตัว คนของผมก็เห็นว่าพยาบาลชายที่ชื่อโทนี่แอบไปที่รถแล้วใช้เครื่องมือบางอย่างเสียบเข้ากับช่องที่ประตูแล้วใช้มันในการคุยสื่อสาร” หยางเทียนบอก “พอจับได้ ผมเลยตรวจสอบดูและพบว่าชิ้นส่วนหลายจุดของรถคันนี้ถูกดัดแปลง ส่วนที่ควรเป็นโฟมหรือพลาสติกของรถกลับมีโลหะแทรกผสมเข้ามา รวมไปถึงมีสัญญาณบางอย่างถูกส่งออกจากรถเป็นระยะๆครับ”
“จากที่คุยกับผู้นำชุมชนที่นี่ นายพลแทงโก้ที่คุมกำลังทหารกำลังรอนักตรวจสอบของแก๊งเมษา ถ้าหากพวกมันพบว่าภายในรถของเรามีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ล่ะก็พวกเราอาจจะไม่ได้กลับออกไปครับ” หยางเทียนบอก “คุณรอนจะให้พวกเราเตรียมตัวฝ่าหนีไหมครับ ถ้ารอจนพวกมันมาพวกเราอาจจะไม่มีโอกาสหนีก็ได้นะครับ”
“ไม่ได้หรอกคุณหยางเทียน ตอนที่ผมเข้ามาที่นี่คุณเจนัสสังเกตเห็นแล้วว่านายพลแทงโก้วางคนไว้ตามจุดสำคัญหลายจุด พวกเราหนีออกไปไม่พ้นแน่” รอนบอก “แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมมีวิธีจัดการกับรถคันนี้ ขอแค่ไม่มีรถคันนี้ก็ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ”
“ถ้าคุณรอนจะทำลายรถทิ้งผมต้องบอกก่อนว่าคงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะเราไม่มีอุปกรณ์ที่จะทำลายรถได้ทั้งคัน” หยางเทียนบอก “หรือต่อให้เราทุบทำลายได้ แต่พวกชิพหรือแผงวงจรก็ไม่ใช่ของที่เราจะทำลายได้ง่ายๆ ยิ่งเราทำลายรถ พวกมันอาจจะอาศัยซากรถให้นักข่าวข้างนอกนั่นดู เราจะยิ่งเป็นฝ่ายเสียเปรียบนะครับ”
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว” รอนถาม
“สามทุ่มครึ่งครับ” หยางเทียนตอบงงๆ
“หาทางถ่วงเวลาไว้จนถึงเที่ยงคืนครับ แล้วเดี๋ยวผมจัดการเองครับ” รอนบอก “ตอนนี้คุณหยางเทียนกับคนอื่นๆออกไปกันก่อนเถอะครับ เดี๋ยวที่นี่ผมจัดการเอง”
หยางเทียนเดินออกไปอย่างงงๆ ขณะที่รอนไปที่ท้ายรถแล้วก็ลองยกรถดู ล้อหลังของรถถูกยกขึ้นได้แต่ก็ทำได้แค่นั้น เขาไม่สามารถยกรถขึ้นจากพื้นได้
“เธอคิดจะจัดการยังไงกับรถนี่” เจนัสถาม
“ทำให้มันหายไปครับ” รอนตอบพลางเมียงๆมองๆรอบข้าง
“ไม่ว่าเธอคิดจะจัดการยังไงกับรถนี่ก็คงต้องจัดการให้เร็วหน่อย ที่ข้างนอกนั่นมีคนของแก๊งเมษาที่ชั้นรู้จักอยู่” เจนัสเดินไปที่หน้าต่างเปิดมูลี่ดู “ครูฝึกหลงจิ่งที่ฝึกพวกเราสามคนอยู่ข้างนอกกับพวกนักข่าว”
“เรื่องรถไม่ต้องห่วงครับ แต่ตอนใกล้ๆเที่ยงคืนผมอยากให้คุณเจนัสป้องกันอย่าให้มีคนเข้ามาในนี้ได้แล้วกันครับ” รอนบอก “แล้วถ้าข้างนอกนั่นคือคนรู้จักล่ะก็ ก็คลุมผ้าปิดหน้าให้ดีแล้วกัน”
เจนัสพยักหน้ารับ แม้เธอไม่รู้ว่ารอนจะทำยังไงแต่เธอก็มั่นใจในตัวเด็กหนุ่มคนนี้
ที่ข้างนอกนั่น หยางเทียนเดินออกมาและปิดประตูโรงรถ ลูกน้อง9คนเดินเข้ามาถาม
“คนๆนั้นคือใครเหรอลูกพี่” ลูกน้องถาม
“คุณรอน เค้าจะมาพาพวกเราออกไปจากที่นี่” หยางเทียนบอก
“มากันแค่สองคนเนี่ยนะจะช่วยอะไรได้ เป็นแค่เด็กวัยรุ่นกับผู้หญิง” ลูกน้องบอกพร้อมแสยะปากเหมือนไม่พอใจ
“อย่าพูดแบบนั้น นั่นน่ะคุณรอนเป็นเจ้าของบริษัทของเรา ถ้าเขากล้ามาก็แปลว่าต้องมีแผนอะไรบางอย่าง” หยางเทียนห้าม
“เจ้าของบริษัท?!”
“ใช่แล้ว คุณรอนเป็นเจ้าของบริษัท แต่เขาก็เดินทางเสี่ยงเข้ามาช่วยเหลือพวกเราทั้งๆที่เขาจะนั่งรอฟังข่าวเฉยๆก็ได้” หยางเทียนบอก
ลูกน้องทั้ง 9 คนพยักหน้าให้แก่กัน ระดับเจ้าของบริษัทแต่กลับเดินทางมาช่วยพวกเขาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะพบได้บ่อยๆ
ปี๊บๆๆๆ
“เสียงอะไรน่ะ” หยางเทียนร้องถามอย่างสงสัยมองไปทางต้นเสียง เขาเห็นโทนี่ เจ้าคนของCIBที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในหน่วยแพทย์กำลังพุ่งไปที่บันไดขึ้นชั้นบน
“ตามมัน จับตัวไว้เร็วเข้า” หยางเทียนร้องแต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะโทนี่พุ่งขึ้นไปชั้นบนแล้วเลื่อนตู้มาบังประตูไว้ ทั้งหมดพยายามพังประตูแต่ไร้ผล
“เสียงอะไร ข้างนอกมีเสียงอะไร” หมอเคร้องขึ้น ทุกคนในนั้นเงียบเสียงลงแล้วฟัง เสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ดังอยู่เหนืออาคาร
“เสียงเฮลิคอปเตอร์ แย่แล้ว พวกเราพังประตูเร็วเข้า” หยางเทียนร้องเสียงหลง
ทุกคนช่วยกันทุบพังประตู ก่อนที่หมอเคจะใช้เท้าถีบเข้าไปที่บานพับทั้งสองจนแตกออกแล้วเหวี่ยงประตูออกไปด้านหลัง เขาโถมตัวผลักตู้ตรงนั้นไปจนสุดห้องเปิดทางให้ทุกคน
“คุณหยางเทียนเร็วเข้า” หมอเคร้อง
หยางเทียนพุ่งพรวดผ่านร่างของหมอเคไป วิ่งขึ้นบันไดชั้นสามไปยังดาดฟ้า
พั่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“ไอ้โทนี่!!!!!!” หยางเทียนร้องคำราม ชูกำปั้นไปที่เฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินหนีไป โทนี่มองลงมาจากเครื่อง
“ทำไมถึงไม่ให้ช่วยพวกนั้นออกมาด้วย” โทนี่ถามทหารหน่วยวอลรัสที่มารับ
“ตอนนี้เรื่องที่พวกเราเอาอุปกรณ์สอดแนมแฝงเข้ามากับหน่วยแพทย์กำลังจะถูกเปิดโปงและต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ” หน่วยวอลรัสบอก “หน่วยเหนือเลยตัดสินใจปล่อยหน่วยแพทย์ตัวจริงไว้ ถ้าหากพวกผู้ก่อการร้ายฆ่าพวกนั้น คนจะสนใจเรื่องการฆ่ามากกว่าเรื่องอุปกรณ์สอดแนมของเรา”
“อย่างนั้นเองเรอะ” โทนี่พยักหน้า มองไปเบื้องล่างทหารของนายพลแทงโก้กำลังแห่กันเข้ามาที่อาคาร “อ้อ ถามอะไรหน่อย”
“อะไรเรอะ”
“ผมได้วันพักร้อน2สัปดาห์ จะไปไหนดี”
“อ๋อ ได้ๆ เดี๋ยวไปถึงฐานแล้วช่วยหา หลังภารกิจนี้พวกเราก็ได้พักเหมือนกัน”
แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็พาCIBและหน่วยWalrusที่อารมณ์ดีเพราะกำลังจะได้พักร้อนออกจากพื้นที่ไป
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ เปิดออกมา”
“ไอ้พวกสายลับ เปิดประตูซะ”
ทีมแพทย์พยาบาลต่างหน้าซีดหันมองกัน
ซวยแล้ว!
ตูม!
หลงจิ่งถีบประตูหน้าบ้านเข้ามา ลูกน้องในชุดดำ20กว่าคนกรูกันเข้ามา ตามด้วยทหารฝ่ายกบฏของนายพลแทงโก้ ปิดท้ายด้วยนักข่าวฝูงหนึ่ง
“หมอบลงไป หมอบลง”
“หมอบ หมอบ หมอบ หมอบ”
“หมอบไป”
ทหารร้องตะโกน ชี้ปืนไปที่หยางเทียนและคนของเขา แต่ละคนมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะตัดสินใจสู้ดีหรือไม่ ขณะที่หมอและพยาบาลคนอื่นๆถอยไปอยู่ด้านหลัง
“พวกมันล็อคประตูโรงรถ พวกเราเข้าไปทางนี้เลย” หลงจิ่งร้อง “คุณนักข่าวมาเร็วเข้า มาเป็นสักขีพยานกันว่าหน่วยแพทย์นี้แท้ที่จริงคือสายลับ”
นักข่าวเรอะ!
หยางเทียนพุ่งเข้าขวางประตูเข้าโรงรถ ร้องตะโกนออกมา
“คุณรอนสั่งให้ถ่วงเวลาให้ถึงเที่ยงคืน ไม่ต้องกลัว มีนักข่าวอยู่ มันใช้ปืนไม่ได้แน่”
คนของหยางเทียนทั้ง9คนเริ่มการต่อสู้กับทหารของนายพลแทงโก้ ขณะที่หยางเทียนใช้ร่างบังประตูโรงรถเอาไว้ ชายชุดดำลูกน้องหลงจิ่งพุ่งกรูเข้าใส่ หมัดต่อหมัดประเคนเข้าหากันอย่างชุลมุน พวกหมอและพยาบาลต่างถอยกันเข้าชิดผนังยิ่งกว่าเดิม
ยกเว้นแต่คนหนึ่ง
“ด็อกเตอร์เค อย่า!”
“อย่าไปคุณหมอ”
หมอเคพุ่งไปเบื้องหน้า ชายชุดดำสองคนหยุดมองแล้วแสยะเขี้ยว
“แมงเม่าบินเข้ากองไฟ”
“ตายซะ”
หมอหนุ่มชักสเต็ทโทสโคปออกมา จับปลายสายด้านนึงมั่น แล้วก็เหวี่ยงส่วนตุ้มหมุนควงไปมา
ควับ ควับ ควับ ฟับ ฟับ ฟับ ฟับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผัวะๆๆๆๆๆ โป๊กๆๆๆๆๆ
“อ้ากกก”
“อุ้ค”
ส่วนตุ้มของหูฟังแพทย์กระหน่ำฟาดเข้าใส่ศีรษะของสองคนนั้นจนเลือดอาบ ตุ้มสเต็ทหลุดจากสายแล้วก็กระเด็นไปพร้อมกับร่างของสองคนนั้นที่ล้มลง หลงจิ่งส่งซิก ลูกน้องอีกสามคนพุ่งเข้าหา
“ย้ากกกก”
“ตายยย”
“เป็นแค่หมอหาญสู้เรอะ ตายยย”
หมอเคเกร็งร่าง คำสอนของอาจารย์แพทย์ในตอนที่เรียนอยู่ผุดขึ้นมา
วันนั้นที่เขากำลังหลับในคาบแล้วสลำสลือตื่นขึ้นตอนที่อาจารย์พูดขึ้น
“สามคุณสมบัติของแพทย์ที่ดี พวกคุณต้องมี Lion Hand Lady eye Eagle Heart”
แม้จะสลำสลือ แต่เขาก็พอจำได้ที่อาจารย์บอกถึงเหตุผลที่หมอจะต้องมีทั้งสามคุณสมบัตินี้ เขาจำได้ถึงความประทับใจในวันนั้น ซึ่งแม้จะจำเนื้อหาไม่ได้ แต่เขาก็พยายามฝึกฝนตนโดยเดาจากสามคำนั้นตลอดมา
“Eagle Heart … สงบนิ่งไม่หวั่นไหวแม้โดดเดี่ยว”
ตั้งรับศัตรูทั้งสามที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หวั่นไหว
“Lady Eye … เฝ้ามองอย่างช่างสังเกต”
สายตาจับจ้องท่วงท่าของทั้งสาม กล้ามเนื้อไบเซ็บของคนซ้าย ตำแหน่งข้อไหล่ที่ดูหลวมของคนกลาง การลงน้ำหนักเท้าขวาไม่มั่นคงของคนขวา
“Lion Hand … มืออันหนักหน่วง”
“ผมฝึกกล้ามเนื้อมาเป็นสิบปี ยังกล้าพูดเรอะว่าเป็นแค่หมอจะหาญสู้!”
หมอและพยาบาลคนอื่นๆตะลึงงันกับคำพูดนี้!
“ย้ากกกกกกกก” นิ้วโป้งของหมอเคพุ่งเข้าหาไหล่ของเจ้าคนซ้ายสุด
ผึง! “อ้ากกกกกก” เจ้าคนซ้ายร้องแหกปากเมื่อนิ้วของหมอเคกระแทกขยี้เข้าที่หัวของกล้ามเนื้อไบเซ็บจนขาดออกทำให้มันยกแขนไม่ไหว หมอเคเหวี่ยงเท้าหมุนตัว มืออันแข็งแกร่งโถมจับคนกลาง
มือทั้งสองเกาะกุมมือขวาของเจ้าหมอนั่น ก่อนที่เท้าจะเหวี่ยงเตะยันเข้าใต้รักแร้
กรึ๊บ! “อ้ากกกกก”
มันทรุดลงแหกปากอย่างเจ็บปวดจากไหล่ที่หลุดออก
หมอเคยังไม่ทันหันกลับจากเจ้าคนที่สอง หมัดของคนที่สามก็พุ่งเข้ามาประเคนใส่แผ่นหลัง
ตุบ
“หืม”
ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ
“เบา”
“ห๊ะ”
หมอหนุ่มหันหลังกลับมาโดยไม่สนใจหมัดที่ต่อยอย่างไม่ยั้งเข้าที่ลำตัว มือขวาขยับมาอยู่ที่คางและรับเอาหมัดฮุคที่เสยขึ้นของอีกฝ่ายไว้ได้
“ตาผมล่ะ” หมอเคบิดมือจนมันร้องและทรุดลง แขนซ้ายของหมอหนุ่มยกขึ้นสูงก่อนจะเหวี่ยงหมัดลง
ผัวะ! KO
หมออีกคนในทีมแพทย์อ้าปากค้างเมื่อเห็นหมอเคยำอีกฝ่าย
Lion Hand Lady eye Eagle Heart!
มารดาท่านเถอะ!
Lion Heart Eagle Eye Lady Hand เว้ยสัส!
นี่หมอหลับตอนเรียนคาบจริยธรรมเรอะ!
“หมอเค!” หยางเทียนร้องขึ้น พุ่งตัวฉีกไปซ้าย
“ได้!” หมอเคคำรามขานรับ พุ่งตัวจากด้านขวา
แล้วชายทั้งสองก็พุ่งเข้าหาหลงจิ่งที่อยู่ตรงกลางพร้อมๆกัน!
ขณะนั้นนาฬิกาชี้เวลา 21:50 น.