สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 358 ถ้าหากเจ้ายังยืดยาดอยู่ จะเผาขนเจ้าให้เกลี้ยงเลยนะ!
- Home
- สลับชะตา ชายามือสังหาร
- ตอนที่ 358 ถ้าหากเจ้ายังยืดยาดอยู่ จะเผาขนเจ้าให้เกลี้ยงเลยนะ!
ในขณะที่สมาชิกเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะกำลังหารือกันว่าจะเชื่อเธอดีหรือไม่ จะไปจากที่นี่หรือไม่อยู่นั้นเอง พวกซือหม่าโยวเย่ว์ก็เดินทางออกไปพร้อมกับสัตว์อสูรเทพขั้นหกตนนั้น
หลังจากเดินทางไปได้ครึ่งวัน สัตว์อสูรเทพตนนั้นก็หยุดลงแล้วพูดกับพวกเขาว่า “ข้ามาส่งพวกท่านได้เพียงแค่นี้ ต่อจากนี้ไปก็คืออาณาเขตของเสือเขี้ยวดาบแล้ว”
“อาณาเขตของพวกเจ้ากับอาณาเขตของเสือเขี้ยวดาบอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้เชียวหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยอย่างประหลาดใจ
“ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นน้ำแข็ง อีกฝ่ายเป็นไฟ แต่ก็มิได้อยู่ไกลจากกันมากนัก พวกเราก็ไม่รู้เช่นกันว่าเพราะเหตุใดแม้สองดินแดนจะเชื่อมติดกันแต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของอีกฝ่ายเลย” สัตว์อสูรเทพตนนั้นพูด “พวกท่านแค่เดินตรงต่อไปตามทิศทางนี้ก็พอแล้ว”
ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ได้ ขอบใจเจ้ามาก เจ้ากลับไปเถิด”
“เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว” สัตว์อสูรเทพตนนั้นพูดจบแล้วหมุนกายจากไปด้วยความเร็วมากกว่าตอนขามาเสียอีก
พวกซือหม่าโยวเย่ว์ขี่หลังเจ้าวิหคน้อยมุ่งตรงไปข้างหน้า ยังเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไรก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนผ่าวพุ่งปะทะใบหน้า
“สถานที่แห่งนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก เห็นอยู่ว่าเป็นสภาพอากาศอันสุดขั้วทั้งสองที่ แต่ทั้งสองแห่งอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่ส่งผลกระทบถึงอีกฝ่ายเลยเล่า” เจ้าอ้วนชวีพูดอย่างประหลาดใจ
“บางทีอาจมีเหตุผลอะไรที่พวกเราไม่รู้ก็ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
เธอนึกถึงห้วงมิติอันมิอาจล่วงรู้ที่ด้านหลังผนังถ้ำขึ้นมาได้
หลังจากบินมาชั่วโมงกว่า พวกเขาก็เห็นทิวเขากลุ่มหนึ่ง ทิวเขาเหล่านั้นเปล่งแสงสีแดงฉาน เมื่อมองจากไกลๆ แล้วราวกับเปลวเพลิงก็มิปาน
“หยุดอยู่ตรงนั้นเสีย!” เสือเขี้ยวดาบที่อยู่บนพื้นดินได้เห็นพวกซือหม่าโยวเย่ว์แล้ว บนแผ่นหลังก็มีปีกจำแลงสองข้างเผยขึ้นมาก่อนจะบินถลาขึ้นไปกลางอากาศแล้วส่งเสียงออกมา
ซือหม่าโยวเย่ว์เพิ่งเคยเห็นปีกจำแลงเช่นนี้เป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง จึงมองซ้ำอีกครั้ง
“พวกเจ้าเป็นใครกัน ที่นี่คือดินแดนของพวกเรา คนนอกห้ามเข้า” เสือเขี้ยวดาบตนนั้นมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางตวาด
ซือหม่าโยวเย่ว์ถอนสายตาจากปีกจำแลงที่โผล่ออกมาของมัน แล้วเอ่ยว่า “เจ้าคือสัตว์อสูรเทพเฝ้าประตูหรือ ไปเรียกราชาสัตว์อสูรของพวกเจ้าออกมาสิ บอกว่าพวกเรามีเรื่องปรึกษากับเขา”
“เจ้ามนุษย์โอหัง! ราชาของพวกเราเป็นคนที่เจ้าอยากพบก็พบได้อย่างนั้นหรือ” สัตว์อสูรเทพตนนั้นตะโกน “มานี่ จับพวกเขามาให้ข้าให้หมด เอากลับไปให้องค์ราชาจัดการ!”
ทันใดนั้น สัตว์อสูรเทพฝูงหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ล้อมพวกเจ้าวิหคน้อยเอาไว้ตรงกลาง
พวกซือหม่าโยวเย่ว์มิได้ตื่นตระหนกแล้วเอ่ยว่า “วันนี้พวกเรามิได้มาเพื่อต่อสู้ เจ้าไก่ฟ้า บอกเจตนาของพวกเราให้พวกเขาฟังที”
เจ้าไก่ฟ้ากลอกตาใส่เธอ ก่อนจะปล่อยแรงกดดันของตัวเองออกมา สัตว์อสูรเทพที่อยู่กลางอากาศเหล่านั้นจึงถูกกดดันจนร่วงหล่นลงไปบนพื้นดิน
ซือหม่าโยวเย่ว์ตบหลังเจ้าวิหคน้อย เจ้าวิหคน้อยจึงพาพวกเขาลงพื้น
“พวกเจ้าคือมนุษย์ที่ไปยังเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะนี่นา!” สัตว์อสูรเทพตนแรกเอ่ยขึ้น
ซือหม่าโยวเย่ว์เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าหน่วยข่าวของพวกเจ้าจะรวดเร็วฉับไวใช้ได้เลยทีเดียว ว่าอย่างไรเล่า ตอนนี้จะพาพวกเราไปพบราชาของเจ้าได้หรือยัง”
ถึงแม้ว่าเสือเขี้ยวดาบเหล่านั้นจะไม่เต็มใจ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์อสูรเหนือเทพแล้วเขาจะพูดอะไรได้ ได้แต่พาพวกเขาเข้าไปยังดินแดนของตนแต่โดยดี
พวกซือหม่าโยวเย่ว์ยิ่งเดินเข้าไป อุณหภูมิก็ยิ่งสูงขึ้น ยังดีที่ทุกคนเป็นผู้บำเพ็ญธาตุไฟทั้งหมด ดังนั้นจึงมิได้ทานทนได้ยากถึงเพียงนั้น
“ภูเขาเหล่านั้นคือภูเขาไฟหรือ เหตุใดจึงร้อนถึงเพียงนี้เล่า!” เจ้าอ้วนชวีมองดูทิวเขาเหล่านั้น บนใบหน้ามีเหงื่อผุดพราย
สัตว์อสูรเทพตนนั้นหันมามองเขาปราดหนึ่งโดยไม่พูดจา แต่ในใจกลับพึมพำว่าเดิมทีที่นี่ก็คือภูเขาไฟ ย่อมต้องร้อนเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ปราณวิญญาณธาตุไฟที่นี่เข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากพวกเราฝึกยุทธ์กันที่นี่ จะต้องได้ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมเป็นแน่” ซือหม่าโยวเล่อพูดด้วยรอยยิ้ม
สัตว์อสูรเทพที่นำทางอยู่ตนนั้นแทบจะทรุดลงกับพื้น มนุษย์กลุ่มนี้มาช่วงชิงทรัพยากรในการบำเพ็ญของพวกเขาหรือไร!
“ถ้าหากเจ้ายังยืดยาดเช่นนี้อยู่อีก ข้าจะเผาขนเจ้าให้เกลี้ยงเลยนะ!” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดข่มขู่
สัตว์อสูรเทพตนนั้นได้ยินว่าจะเผาขน มีมนุษย์กล้าพูดว่าจะเผาขนเขาเชียวหรือ
จะมีอะไรเหลือทนยิ่งกว่านี้อีกเล่า!
แต่เมื่อมันหันมาเห็นเจ้าไก่ฟ้าที่อยู่ด้านหลังซือหม่าโยวเย่ว์แล้วก็ได้แต่น้ำตาตกใน ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น!
เดินมาเนิ่นนาน ในที่สุดพวกซือหม่าโยวเย่ว์ก็ผ่านทุ่งหญ้ามาถึงยังเบื้องล่างของภูเขาไฟเหล่านั้น
“องค์ราชาอยู่บนภูเขา ข้าไม่มีสิทธิ์ขึ้นไป” สัตว์อสูรเทพตนนั้นพูดจบแล้วรีบวิ่งจากไป
พวกซือหม่าโยวเย่ว์มองภูเขาไฟเหล่านั้น ไม่รู้ว่าภายในขุนเขานี้มีเสือเขี้ยวดาบอยู่มากน้อยเพียงใด
“พวกเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าล่วงล้ำมายังดินแดนของเรา!” เสือเขี้ยวดาบหลายตัวทะยานลงมาจากภูเขาแล้วตีวงล้อมพวกเขาเอาไว้
“จากไปหลายตัวก็มาอีกหลายตัว เหตุใดข้าจึงเห็นพวกมันดูเหมือนกันไปหมดเลยเล่า” เจ้าอ้วนชวีพูด
“ดูคล้ายคลึงกันไปหมดจริงๆ” เป่ยกงถังเห็นด้วย
เสือเขี้ยวดาบเหล่านั้นเห็นพวกเขาไม่ตอบคำถามของตนของตน ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตาของพวกมันอีกด้วย ไฟโทสะจึงลุกโชน อยากจะเรียกใครมาจัดการมนุษย์เหล่านี้ แต่ในขณะที่พวกมันยังไม่ทันเคลื่อนไหวนั้นเอง ก็ถูกเจ้าไก่ฟ้ากดดันจนหมอบลงไป
“ไปเรียกองค์ราชาของพวกเจ้าออกมาเสีย” เจ้าไก่ฟ้าพูดอย่างเรียบเรื่อย ราวกับราชาผู้ทระนงที่ผู้ใดก็มิอาจขัดขืนได้
สัตว์อสูรเหนือเทพ!
เสือเขี้ยวดาบรู้สึกตื่นตระหนกใจหาใดเปรียบ สัตว์อสูรเหนือเทพตนนี้มิได้ไปที่เผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะแล้วหรอกหรือ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่ถิ่นของพวกตนได้เล่า!
“ยังมัวนิ่งอะไรอยู่อีก ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือ!” เจ้าอ้วนชวีพูด
ถึงแม้ว่าเสือเขี้ยวดาบตัวนั้นจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังบินเข้าไปในภูเขาเพื่อรายงานองค์ราชาของตน
เพียงไม่นาน ราชาของเสือเขี้ยวดาบก็บินลงมาจากบนภูเขา เมื่อเห็นสมาชิกเผ่าพันธุ์ตนหมอบอยู่บนพื้น นัยน์ตามีแววไม่พอใจวาบผ่าน แต่ก็ยังระงับเอาไว้แล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้ามาหาพวกเราถึงที่นี่มีเรื่องอันใดหรือไม่”
“พวกเรามาคุยธุระกับพวกเจ้า” ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ดังนั้นอย่าเอาแต่วางท่าเป็นศัตรูตัวฉกาจอยู่เลย”
เมื่อเธอพูดเช่นนี้แล้วมิได้ทำให้ราชาเสือเขี้ยวดาบผ่อนคลายลงแต่อย่างใด แต่กลับทำให้มันมองพวกเขาอย่างระแวดระวังมากยิ่งขึ้น
“พวกเจ้าอยากหารือเรื่องใดหรือ”
“ย่อมต้องเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อพวกเจ้าอยู่แล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “แต่ถ้าพวกเจ้าไม่มีแรงบันดาลใจคิดอยากก้าวหน้า มิอาจเหยียบย่างเข้าสู่ระดับสัตว์อสูรเหนือเทพได้ตลอดกาล เช่นนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันแล้ว”
“เจ้าว่าอะไรนะ!” ราชาเสือเขี้ยวดาบหันขวับมามองเธอในทันใด
“ข้าบอกว่าถ้าหากพวกเจ้ามีแรงบันดาลใจ คิดอยากออกไปจากที่นี่ พวกเราก็มานั่งพูดคุยกันดีๆ ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดด้วยรอยยิ้ม
ราชาเสือเขี้ยวดาบมองเธออยู่ราวครึ่งนาที หลังจากนั้นจึงขบกรามเอ่ยว่า “พวกเราไปคุยกันในภูเขาเถิด เชิญ!”
ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้ม ดูเหมือนว่าพวกราชาเสือเขี้ยวดาบก็ไม่อยากจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกกดดันไปตลอดกาลเช่นเดียวกัน!
เธอขึ้นเขาไปกับราชาเสือเขี้ยวดาบ เห็นมันส่งคนไปเชิญเสือเขี้ยวดาบชรากลุ่มหนึ่งออกจากการปลีกวิเวก คิดว่าพวกเขาก็คงมีผู้อาวุโสของเผ่าเหมือนกันกับเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะ เพียงไม่นานเสือเขี้ยวดาบชราฝูงหนึ่งก็มาถึง เมื่อเห็นราชาเสือเขี้ยวดาบมาพร้อมกันกับมนุษย์หลายคน จึงตกตะลึงกันเป็นอย่างยิ่งแล้วถามว่า “องค์ราชา ท่านเรียกพวกเราออกมา มีเรื่องอันใดหรือไม่”
ราชาเสือเขี้ยวดาบมองเสือเขี้ยวดาบชราเหล่านั้นแล้วเอ่ยว่า “บรรพชน พวกเขาอยากขอยืมใช้สระฝึกยุทธ์ของพวกเรา…”
“ไม่ได้!” ราชาเสือเขี้ยวดาบยังพูดไม่ทันจบก็ถูกชายชราผู้หนึ่งขัดจังหวะเสียก่อน “สระฝึกยุทธ์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา จะให้มนุษย์มาใช้ได้อย่างไรเล่า!”
……………………………….