สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 336 ข้ากลับมาแล้ว เจ้าเตรียมตัวพังพินาศแล้วหรือยัง
“เฮอะ” ซือหม่าโยวเย่ว์ส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีไม่มองเขา
ตอนนี้น่าหลานหลานกลายเป็นคนของตำหนักผู้วิเศษ ก็มิได้หมายความว่าอยู่ร่วมกับอูหลิงอวี่แล้วหรือ
“เรื่องเป็นเช่นนี้…”
ซือหม่าโยวเย่ว์กล้าไม่แยแสอูหลิงอวี่ แต่คนอื่นๆ ไม่กล้า จึงเล่าต้นสายปลายเหตุทั้งหมดให้ฟัง
“เจ้าไปถึงสถานที่แห่งนั้นเลยสินะ” หลังจากอูหลิงอวี่ได้ฟังแล้วโมโหเป็นอย่างยิ่ง เธอถึงกับถูกคนวางแผนทำร้ายตอนที่ตนไม่อยู่! ถ้าหากมิใช่เพราะเธอโชคดีเอาชีวิตรอดมาได้ ตนจะไม่คับแค้นใจไปตลอดชีวิตเลยหรือ!
“ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้นางเป็นนารีทิพย์ของตำหนักย่อยหรอก ต่อให้เป็นประมุขตำหนัก หากเจ้าอยากสังหารนางก็ทำได้เช่นกัน” อูหลิงอวี่พูด
“จริงหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์หันหน้ามามองเขาแล้วเอ่ยว่า “ข้าไม่สนหรอกว่านางมีสถานะเช่นไร ตอนนี้นางขึ้นไปยังเบื้องบน ข้าสังหารนางไม่ได้ แต่ข้าจะต้องขึ้นไปให้จงได้ ท่านก็อย่าตำหนิที่ข้าสังหารคนของตำหนักผู้วิเศษของพวกท่านแล้วกัน!”
“เจ้าอยากทำอะไรก็ย่อมได้ทั้งสิ้น” อูหลิงอวี่พูด “ถ้าหากเจ้าต้องการ ข้าก็จัดการให้เจ้าได้นะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์โบกไม้โบกมือแล้วเอ่ยว่า “ช่างเถิด แค้นของตัวเองย่อมต้องชำระเอง นับรวมครั้งนี้ด้วย นางก็ฆ่าข้ามาสองครั้งแล้ว ถึงอย่างไรข้าก็ต้องลงมือชำระแค้นนี้เองจึงจะใช้ได้”
“เช่นนั้นก็ได้” อูหลิงอวี่ก็มิได้บอกว่าเขาจะช่วยเธอล้างแค้น
ถ้าหากเธอเอ่ยปาก เขาย่อมไม่มีทางปฏิเสธ แต่เขาชอบอุปนิสัยพึ่งพาตนเองของเธอมากยิ่งกว่า!
“น้องห้า เมื่อวานคนของตระกูลหลี่ไปกันหมดแล้ว” ซือหม่าโยวเล่อพูด
“หลี่มู่เล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ยังอยู่ที่เมืองวิเศษ ตอนนี้น่าจะอยู่ในสมาคมนักหลอมยา อย่างพวกเขาน่าจะไม่กลับตระกูลง่ายๆ หรอก” ซือหม่าโยวหยางพูด
“ดี เช่นนั้นไปหาเขาเพื่อคิดบัญชีตอนนี้เลยดีกว่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้าไม่ต้องไปแล้ว ข้าไปเอง พอถึงเวลาก็บอกว่าทำไปเพราะข้าเองเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้สมาคมนักหลอมยาหาเรื่องตระกูลซือหม่า”
“ข้าจะไปพร้อมเจ้าด้วย” ซือหม่าโยวหลินพูด
เขาเองก็นับได้ว่าเป็นผู้รับเคราะห์ในคราวนี้เช่นกัน และเขาก็มีจุดยืนของตัวเอง
“ให้พวกเขาไปด้วยกันเถิด” ซือหม่าโยวหลินพูด “ก่อนท่านประมุขตระกูลจะจากไปได้บอกแล้วว่า ถ้าหากเป็นผู้อื่นรังแกพวกเราจริงๆ ก็ไม่ต้องกังวล จะต้องผดุงความยุติธรรมเอาไว้”
ซือหม่าโยวเย่ว์เลิกคิ้ว จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้รู้อยู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเธอถูกผู้อื่นทำร้าย ทั้งยังรู้ด้วยว่าเธอจะต้องไม่เป็นอะไร ดังนั้นจึงปล่อยให้เธอถือสิทธิ์ไปคิดบัญชีกับหลี่มู่
“เช่นนั้นไปด้วยกันเลยก็ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
จากนั้นพวกเขาทั้งกลุ่มก็ยกขบวนไปยังสมาคมนักหลอมยากันอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนที่สัญจรไปมาระหว่างทางที่ได้เห็นพวกเขา โดยเฉพาะผู้ที่ได้เห็นซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าโยวหลินซึ่งเดินอยู่ด้านหน้าต่างก็รู้ว่าการที่พวกเขาหายสาบสูญไปนั้นจะต้องมิใช่เพราะถูกส่งตัวไปโดยไม่เจตนาดังที่สมาคมนักหลอมยาบอกอย่างแน่นอน
“ดูจากท่าทางที่พวกเขามาอย่างดุดันแล้ว เหมือนจะไปหาเรื่องสมาคมนักหลอมยาเลยนะ!”
“ไป พวกเราตามไปดูกันดีกว่า”
จากนั้นผู้ที่มาต่อท้ายแถวก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหางแถวยาวเหยียดอยู่ด้านหลังพวกเขา
“โยวเย่ว์!” เพิ่งมาถึงประตูทางเข้าสมาคมนักหลอมยา ก็ได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยเสียแล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์มองลู่หมิงที่ออกมาจากด้านในพลางเอ่ยว่า “ลู่หมิง เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”
“ข้ากลับมาที่สมาคมนักหลอมยาอีกครั้ง” ลู่หมิงพูด “โยวเย่ว์ เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ พวกเขาต่างพูดกันว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้า น้องสี่ยังร้องไห้อยู่ตั้งนานแน่ะ!”
“เพิ่งจะกลับมาได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “พวกลู่ยวนยังสบายดีกันอยู่กระมัง”
“อืม สบายดีกันหมดเลย ถ้าหากรู้ว่าเจ้ารอดชีวิตกลับมาแล้ว พวกเขาต้องดีใจแทบตายแน่!” ลู่หมิงยิ้มพลางเอ่ยว่า “วันนี้เจ้าคงมาหาหลี่มู่กระมัง เขาเพิ่งจะกลับมาถึงสมาคมเอง!”
ลู่หมิงเคยสงสัยหลี่มู่ตั้งแต่ตอนที่พวกซือหม่าโยวเย่ว์หายสาบสูญไปแล้ว แต่ตนไม่มีหลักฐาน จึงมิอาจกล่าวโทษเขาได้ ตอนนี้เห็นซือหม่าโยวเย่ว์มาถึงที่นี่ จึงคาดเดาได้ว่าเรื่องราวในตอนนั้นจะต้องเป็นฝีมือของหลี่มู่อย่างแน่นอน
“ถึงแม้ว่าข้าจะมาหาหลี่มู่ แต่พวกเราเป็นอารยชน ย่อมไม่ทำเรื่องไร้มารยาทเช่นนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเราจึงมาหาประธานสมาคมของพวกเจ้า” ซือหม่าโยวเย่ว์อมยิ้มพูด
“มาหาท่านประธานสมาคมอย่างนั้นหรือ” ลู่หมิงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ท่านประธานสมาคมไม่สนใจเรื่องราวอันใดแล้ว นอกจากนี้ยังมิได้เผยตัวในงานประลองคราวนี้เลยด้วย ข้าว่าตอนนี้เขาอาจจะมิได้อยู่ในสมาคมเสียด้วยซ้ำ”
“เช่นนั้นเป็นท่านรองประธานสมาคมก็ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“รองประธานสมาคมมีความสัมพันธ์อันดียิ่งกับท่านอาจารย์ของหลี่มู่ ทั้งยังให้เกียรติหลี่มู่เป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากเจ้าต้องการคิดบัญชีกับเขา การพบรองประธานสมาคมคงมิใช่เรื่องดีนัก จะยิ่งยุ่งยากกันเข้าไปใหญ่” ลู่หมิงพูดอย่างกังวลใจอยู่บ้าง
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะทำให้เรื่องวุ่นวายกลายเป็นเรื่องไม่วุ่นวายเอง” ซือหม่าโยวเย่ว์หัวเราะเย็นชา หลังจากบอกว่าจะกลับไปหาพวกลู่หมิงและลู่ยวนแล้วก็เดินผ่านเขาเข้าไปข้างในต่อ
“หยุดนะ” ยามเฝ้าประตูเห็นพวกซือหม่าโยวเย่ว์เข้ามาจึงตะโกนขึ้น
ซือหม่าโยวเย่ว์หยุดยืนอยู่หน้าประตูใหญ่สมาคมนักหลอมยาแล้วเอ่ยว่า “ซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าโยวหลินแห่งตระกูลซือหม่ามาขอพบท่านประธานสมาคมของพวกเจ้า”
“อยากพบท่านประธานสมาคมของพวกเราอย่างนั้นหรือ” ยามรักษาการณ์ผู้นั้นเป็นคนของหลี่มู่ ย่อมไม่มีทางปล่อยให้พวกซือหม่าโยวเย่ว์เข้าไปอยู่แล้ว เขาโบกไม้โบกมือพลางกล่าวว่า “ท่านประธานสมาคมไม่อยู่ที่สมาคม พวกเจ้ามีเรื่องอันใดก็ค่อยมาวันหลังแล้วกัน”
ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้มแล้วพูดว่า “เช่นนั้นข้าไม่พบท่านประธานสมาคมของพวกเจ้าดีกว่า ขอพบหลี่มู่แทนแล้วกัน”
“ศิษย์พี่หลี่กำลังฝึกฝนการหลอมยาอยู่ ไม่ว่างพบพวกเจ้าหรอก!” ยามรักษาการณ์อ้างต่อไป
ซือหม่าโยวเย่ว์เหลือบตามองพวกเขาแล้วเอ่ยว่า “ถึงแม้ว่าข้าผู้นี้จะรู้จักรักษามารยาท แต่มิได้มีความอดทนมากนักหรอกนะ ในเมื่อพวกเจ้าไม่ยอมไปแจ้งให้ เช่นนั้นก็อย่าอยู่ที่นี่ต่อไปอีกเลย”
พอพูดจบร่างกายเธอก็ขยับไหว ได้ยินเพียงแค่เสียงดังปึงปังสองครั้ง ยามรักษาการณ์สองคนก็ลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นเสียแล้ว
“เจ้าช่างบังอาจนัก!” ยามรักษาการณ์ผู้หนึ่งกุมทรวงอกพลางร้องตะโกน
ซือหม่าโยวเย่ว์คร้านจะสนใจเขา จึงยกเท้าก้าวเข้าไปยังสมาคมนักหลอมยา
“ซือหม่าโยวเย่ว์หรือ” น้ำเสียงสงสัยเสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่พวกซือหม่าโยวเย่ว์ผ่านเข้าไปยังลานเล็ก
ซือหม่าโยวเย่ว์มองไปตามต้นเสียง ก็เห็นหานโม่ผู้นั้นกำลังมองพวกเขาอยู่
หานโม่เดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นซือหม่าโยวเย่ว์จริงๆ จึงเอ่ยว่า “เจ้ามิได้มาเข้าร่วมงานประลองนี่”
“ตัวข้าไม่ได้มาอยู่ที่นี่เสียด้วยซ้ำ แล้วจะเข้าร่วมงานได้อย่างไรกัน” ซือหม่าโยวเย่ว์แย้มยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าหลี่มู่เป็นศิษย์น้องของเจ้า ไปเรียกเขาออกมาทีสิ”
“เจ้ามาหาเขาด้วยเรื่องอันใดหรือ” หานโม่ถาม
“ข้ามาคิดบัญชีน่ะสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “เจ้าจะยอมช่วยข้าเรียกเขาออกมาหรือไม่ ถ้าหากคนสมาคมนักหลอมยาของพวกเจ้าไม่ยินยอมกันหมด ข้าก็คงได้แต่หาเองแล้ว”
หานโม่ฟังการข่มขู่ของซือหม่าโยวเย่ว์ออก จึงโบกมือเรียกยามรักษาการณ์ผู้หนึ่งมาแล้วเอ่ยว่า “ไปเรียกตัวหลี่มู่มาที”
“ใช้ได้ ดีกว่ายามเฝ้าประตูสองคนเมื่อครู่นี้มากนัก” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“เจ้าคิดว่าหลี่มู่ทำร้ายเจ้าอย่างนั้นหรือ” หานโม่มองเธอพลางเอ่ยถาม
“ข้ามิได้คิด แต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
หานโม่ไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่นำทางพวกเขาไปรอในโถงรับแขก
ไม่นานนักหลี่มู่ก็มาถึงโถงรับแขก ทั้งยังมีรองประธานสมาคมเฉียนมาพร้อมกันกับเขาด้วย
“ศิษย์พี่ มีเรื่องอันใดจึงต้องร้อนรนเช่นนั้นด้วย ต้องเรียกข้ามาตอนที่ข้ากำลังหลอมยาอยู่ด้วยหรือ” หลี่มู่พูดพร้อมกับเดินเข้ามายังโถงรับแขก ตอนที่เขาเห็นซือหม่าโยวเย่ว์ก็ตะลึงงันไปในทันใด
ซือหม่าโยวเย่ว์ยิ้มให้เขาแล้วเอ่ยว่า “ข้าเคยบอกแล้วว่าอย่าให้ข้ารอดชีวิตกลับมา ไม่อย่างนั้นเจ้าต้องพังพินาศแน่ ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว เจ้าเตรียมตัวพังพินาศแล้วหรือยัง”
……………………………….