สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1519 สูงศัก
ตอนที่ 1519 สูงศักดิ์
เมืองของต้าเยี่ยนที่มีโรคระบาดรุนแรงที่สุดอยู่ติดกับเมืองของต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในการปกครองของต้าโจวมาก
ตอนนี้โรคระบาดกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น คนของราชวงศ์ควรเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านจริงๆ จักรพรรดินีต้าโจวเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านด้วยตัวเอง ทว่า หากต้าเยี่ยนส่งอาลี่ไป…เซียวหรงเหยี่ยนไม่วางใจจริงๆ
อีกอย่างเขาอยากให้อาลี่แบกรับหน้าที่ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองตอนที่เขาไม่อยู่ ไม่อยากให้อาลี่เอาแต่พึ่งพาเขา ที่เขาให้เยว่สือไปบอกถ้อยคำเหล่านั้นกับอาลี่เป็นเพราะเขาอดสงสารหลานชายของตัวเองไม่ได้
ต่อจากนี้เซียวหรงเหยี่ยนจะไม่มีทางปล่อยให้ไทเฮามีโอกาสส่งข่าวใดๆ ให้อาลี่อีกต่อไป หากอาลี่สูญเสียมารดาไปตอนนี้แล้วเขายังจากอาลี่มาโดยไม่ร่ำลาอีก ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจะปวดใจมากเพียงใด
ตอนที่อาลี่โค้งกายคำนับเขาทั้งน้ำตา เขารู้สึกสงสารอาลี่มาก
เมื่อออกมาจากวังหลวงเซียวหรงเหยี่ยนยืนเอามือไพล่หลังมองดูท้องฟ้าที่กำลังมืดมิดลง แววตาของเขานิ่งขรึมลงเช่นเดียวกัน
เมื่อขึ้นไปบนรถม้าเซียวหรงเหยี่ยนหลับตาหมุนแหวนปานจื่อซึ่งสวมอยู่ที่นิ้วโป้งของตัวเองอย่างใช้ความคิด ไม่นานจึงสั่งให้คนบังคับรถม้าเลี้ยวรถม้าเข้าไปในซอยเปลี่ยว ชายหนุ่มสั่งให้องครักษ์ทุกคนจากไปแล้วกล่าวขึ้น “กวนอิ่ง…”
“กวนอิ่งอยู่นี่ขอรับ!”
กวนอิ่งเคยเป็นองครักษ์ของมู่หรงอวี้พี่ชายของเซียวหรงเหยี่ยนมาก่อนเช่นเดียวกับผิงอี้ ทว่า กวนอิ่งคือองครักษ์ลับ ส่วนผิงอี้คือองครักษ์ที่เปิดเผยตัวตน ก่อนมู่หรงอวี้จากไปเขาสั่งให้องครักษ์ทั้งสองคนนี้ไปคอยรับใช้เซียวหรงเหยี่ยนแทน
เซียวหรงเหยี่ยนแหวกม่านสีควันบุหรี่ของรถม้าออก จากนั้นก้มหน้ามองกวนอิ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ข้างรถม้า “เจ้าจงตามติดไทเฮาไม่ว่าอาลี่จะให้ไทเฮาประทับอยู่ในวังหลวงต่อหรือส่งนางไปยังตำหนักพักผ่อน ดูแลอย่าให้นางเป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่า ห้ามให้นางส่งข่าวใดๆ ไปยังฝ่าบาทอีกเด็ดขาด หากผู้ใดกล้านำคำหรือของประจำตัวไทเฮาไปให้ฝ่าบาทจงสังหารทิ้งทันที”
“กวนอิ่งรับบัญชาขอรับ!”
“ใช้ยาที่ไทเฮาเคยใช้กับฝ่าบาทกับนาง ให้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่รู้เรื่องราวทุกอย่างแต่ร่างกายกลับไม่มีแรงลุกจากเตียง ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้แม้แต่ร่างกายของตัวเองดูบ้าง” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวถ้อยคำนี้ออกมาด้วยเสียงราบเรียบจนจับความรู้สึกไม่ได้
“ขอรับ!”
“ไปได้” เซียวหรงเหยี่ยนลดม่านรถม้าลง จากนั้นหลับตาลงอีกครั้ง
เขาเคยเคารพนับถือ เคยตามใจไทเฮาของต้าเยี่ยนเพราะเห็นแก่พี่ชายของตัวเอง…
อาลี่ใจอ่อนกับไทเฮาเพราะตัดสัมพันธ์แม่ลูกไม่ลง…
ทว่า ความใจอ่อนและการตามใจของพวกเขาเกือบทำให้เกิดเรื่องใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้ ครั้งแรกต้าเยี่ยนผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับใต้หล้าจนอาเป่าคลอดลูกก่อนกำหนด ลูกสาวของเขา…ร่างกายอ่อนแอเพราะเรื่องนี้ หากสวรรค์ไม่ช่วยคุ้มครอง…ป่านนี้เขาคงไม่ได้เห็นหน้าอาเป่ากับลูกๆ แล้ว!
ครั้งนี้ไทเฮาเกือบทำให้ชาวบ้านบริสุทธิ์มากมายจบชีวิตลงเพราะความอยากเอาชนะของนาง นางทำผิดต่อศรัทธาแรกเริ่มในการเดิมพันแคว้นครั้งนี้
เซียวหรงเหยี่ยนเคยผิดหวังในตัวไทเฮา ทว่า เขายังเรียกนางว่าพี่สะใภ้
ตอนนี้ไทเฮาถูกอำนาจครอบงำ นางทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ นางทอดทิ้งแม้แต่ชาวบ้านต้าเยี่ยนที่เคยร่วมทุกข์กับพวกเขาตอนที่พวกเขายากลำบากที่สุด สิ่งนี้ทำให้เซียวหรงเหยี่ยนหมดหวังในตัวไทเฮาแล้ว
ความโลภของคนไม่มีที่สิ้นสุด หากพวกเขายังปล่อยให้ไทเฮาทำตามใจตัวเองต่อไป ครั้งนี้นางวางยาให้อาลี่ลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ ครั้งหน้า…นางอาจวางยาพิษอาลี่จนอาลี่ต้องจบชีวิตลงก็ได้!
เหมือนกับที่บิดาของเขาเคยทำ!
เซียวหรงเหยี่ยนกำมือที่วางอยู่บนหน้าตักแน่นจนนิ้วมือขาวซีด
เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อาลี่มีชะตากรรมเดียวกับพี่ชายของเขาแน่!
กลุ่มของไป๋ชิงเหยียนใกล้เดินทางถึงเมืองตงกวนแล้ว พวกนางรวบรวมยาและสมุนไพรได้พอสมควรแล้ว พรุ่งนี้เช้าไป๋ชิงเหยียนจะพาทหาร หมอและยารักษาโรคเดินทางไปยังเขตแดนของต้าเยี่ยน
ตอนนี้หลูผิงกำลังให้คนช่วยหมอเตรียมผ้าปิดหน้าซึ่งชุบยาป้องกันโรคระบาดเรียบร้อย
ไป๋ชิงเจวี๋ยและหมอหงกำลังอธิบายเรื่องการป้องกันตัวเองจากโรคระบาดและวิธีจัดการกับโรคระบาดเมื่อติดเชื้อหากเดินทางเข้าไปในแคว้นต้าเยี่ยนให้ทหารทุกคนฟังเพื่อให้ทหารทุกคนคลายกังวล
ตอนที่โจมตีแคว้นต้าเหลียงไป๋ชิงเหยียนพากองทัพต้าโจวไปด้วย กองทัพผิงอันคือหนึ่งในนั้นดังนั้นพวกเขาจึงพอมีประสบการณ์เรื่องโรคระบาดอยู่บ้าง นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ไป๋ชิงเหยียนเลือกพากองทัพผิงอันมาด้วยแทนที่จะเลือกกองทัพไป๋
ไป๋ชิงเหยียนนั่งอ่านจดหมายที่ไป๋ชิงอวี๋น้องชายแท้ๆ ของนางส่งมาให้อยู่ใต้แสงไฟ
ไป๋ชิงอวี๋กล่าวว่าเขาจะเดินทางเข้าไปในต้าเยี่ยนเพื่อปลอบขวัญชาวบ้านด้วยตัวเอง ชาวบ้านที่อยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวจะได้มีกำลังใจและหวาดกลัวน้อยลง เนื้อหาในจดหมายเต็มไปด้วยความเป็นห่วงไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงอวี๋รับปากว่าจะจัดการเรื่องโรคระบาดให้ดีที่สุด
ไป๋ชิงเหยียนอ่านจดหมายลายมือของน้องชายด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน จากนั้นหยิบพู่กันขึ้นเขียนจดหมายตอบไป๋ชิงอวี๋ นางสั่งให้เหว่ยซู่ขี่ม้าเร็วนำจดหมายไปมอบให้ไป๋ชิงอวี๋ นางใช้ผ้าขนหนูร้อนที่เว่ยจงยื่นให้เช็ดมือจนสะอาด จากนั้นกล่าวกับเหว่ยซู่ “ส่งจดหมายให้ถึงมือเจิ้นกั๋วอ๋อง บอกว่าให้เขาส่งคนนำยาและสมุนไพรเข้าไปในต้าเยี่ยน จากนั้นให้เขารีบเดินทางกลับเมืองหลวงทันที นี่คือคำสั่ง!”
“ขอรับ” เหว่ยซู่รับจดหมายและเดินออกไปจากกระโจมใหญ่
เมื่อเห็นเว่ยจงกำลังเตรียมอาหารให้ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “เว่ยจงเจ้าลำบากมาทั้งทางแล้ว รีบไปพักผ่อนเถิด”
“รับใช้ฝ่าบาทคือหน้าที่ของบ่าว บ่าวไม่ลำบากพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงไม่รู้สึกว่าตัวเองลำบาก เขากลับคิดว่าไป๋ชิงเหยียนลำบากมากกว่า เว่ยจงคุกเข่าลงด้านข้างพลางยื่นถาดที่มีตะเกียบวางอยู่ให้ไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาทรีบเสวยเถิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวให้คนนำไปอุ่นสองรอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยจงกล่าวจบเซียวรั่วเจียงก็เดินเข้ามาพอดี ชายหนุ่มทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ ซีไหวอ๋องขอเข้าพบขอรับ…”
ไป๋ชิงเหยียนรับตะเกียบมาจากเว่ยจง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ตามมาทั้งทาง ในที่สุดก็ยอมปรากฏตัวเสียที เชิญเข้ามาได้…”
“ขอรับ” เซียวรั่วเจียงออกไปเชิญคนเข้ามาด้านใน
ไม่นานซีไหวอ๋องจึงเดินตามเซียวรั่วเจียงเข้ามาด้านใน
ซีไหวอ๋องเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งรับประทานอาหารอยู่ใต้แสงไฟตั้งแต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปในกระโจม แสงไฟส่องกระทบใบหน้างดงามของหญิงสาว อาจเป็นเพราะหญิงสาวเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่เล็ก แผ่นหลังของนางจึงเหยียดตรง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนทะนง มารยาทบนโต๊ะอาหารของนางไม่มีที่ติ ภาพตรงหน้าที่ซีไหวอ๋องเห็นงดงามราวกับภาพวาด
อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานซีไหวอ๋องจึงรู้สึกว่าใบหน้าที่งดงามของไป๋ชิงเหยียนงดงามมากกว่าเดิมหลายเท่า ช่างเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่งดงามน่าตราตรึงยิ่งนัก
ซีไหวอ๋องมองไป๋ชิงเหยียนอย่างตกอยู่ในภวังค์
เขาเคยตะลึงกับความงามของไป๋ชิงเหยียนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้านาง ในความงดงามอ่อนโยนของหญิงสาวแฝงไปด้วยความองอาจสง่างามราวกับพลังในมหาสมุทร เขาไม่เคยพบเจอคนที่มีบารมีสองแบบอยู่ในร่างเช่นนี้มาก่อน เมื่อพบ…เขารู้สึกว่าความงดงามของไป๋ชิงเหยียนแฝงไปด้วยบารมีสูงศักดิ์ที่ผู้อื่นไม่กล้าล่วงเกิน
“ซีไหวอ๋องยังไม่ได้ทานอาหารใช่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าสบตาดวงตาดำขลับของซีไหวอ๋อง จากนั้นยกยิ้มมุมปากสื่อให้เว่ยจงนำอาหารมาให้ซีไหวอ๋อง
“คารวะจักรพรรดินีต้าโจว…” ซีไหวอ๋องได้สติจึงโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน