สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1447 ปกปิดเรื่องน่าอาย
ตอนที่ 1447 ปกปิดเรื่องน่าอาย
ทว่า หานเฉิงอ๋องสละชีวิตเพื่อชาวบ้านแถบชายทะเลอย่างพวกเขา ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่ควรปล่อยให้หานเฉิงอ๋องมีจุดจบเช่นนี้ ดังนั้นคนขายเนื้อหวังจึงอยากไปชิงศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาจากตงอี๋เพื่อไม่ให้ตงอี๋ฉีกร่างของหานเฉิงอ๋องออกเป็นชิ้นๆ และโยนให้สุนัขกิน!
ผู้ใดจะคิดว่าตอนที่คนของทางการบุกไปจับตัวคนขายเนื้อ คนขายเนื้อจะพลั้งมือแทงคนของทางการ คนของทางการกลัวว่าคนขายเนื้อจะบุกไปชิงศพของหานเฉิงอ๋องจนเกิดสงครามระหว่างสองแคว้นขึ้นมาจริงๆ จึงตีคนขายเนื้อจนตายอยู่ในคุก!
“หานเฉิงอ๋องกล้าสละชีพในสนามรบเพื่อปกป้องทูตของต้าโจวและชาวประมงเอาไว้ ทหารเรือทุกคนที่ออกทะเลล้วนไม่ได้กลับมา ตอนนี้ศพของหานเฉิงอ๋องอยู่ในมือของคนตงอี๋ ทว่า ต้าโจวที่แข็งแกร่งไม่กล้าไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาอย่างนั้นหรือ!” สตรีกลางคนคุกเข่าลงหน้าจวนที่ว่าการ นางชูคำร้องทุกข์ที่เขียนด้วยเลือดขึ้นเหนือศีรษะพลางตะโกนร้องไห้ออกมา “แคว้นตงอี๋ประกาศกร้าวว่าหากจักรพรรดินีต้าโจวไม่เดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องด้วยตัวเอง พวกเขาจะฉีกร่างของหานเฉิงอ๋องแล้วโยนให้หมากิน นี่มันดูถูกเหยียดหยามกันเกินไปแล้ว! จักรพรรดินีต้าโจวไม่กล้าไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา ราชสำนักกลัวเกิดสงครามจึงไม่กล้าไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา ชาวบ้านอย่างพวกเรายินดีเดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาเองคือเรื่องผิดอย่างนั้นหรือ! เหตุใดสามีของข้าจึงต้องตายอยู่ในคุกด้วย!”
ชาวบ้านที่ยืนล้อมรอบเห็นสตรีวัยกลางคนร้องไห้จึงนึกถึงเรื่องที่หานเฉิงอ๋องและทหารเรือทุกคนพลีชีพในสงครามเพื่อปกป้องทูตต้าโจวและชาวประมงให้หนีขึ้นฝั่งกลับมาอย่างปลอดภัยขึ้นมา พวกเขารู้สึกซาบซึ้งและเสียใจมาก
ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนใส่ประตูจวนที่ว่าการเสียงดังลั่น “แคว้นตงอี๋มีอันใดน่ากลัวกัน ตอนที่ต้าเหลียงยังอยู่พวกมันเป็นเพียงสุนัขรับใช้พวกเรา ไม่กล้าทำให้พวกเราไม่พอใจสักนิด! เหตุใดจักรพรรดินีต้าโจวต้องหวาดกลัวตงอี๋ด้วย ว่ากันว่าต้าโจวเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งไม่ใช่หรือ เหตุใดต้องกลัวการทำสงครามด้วย!”
“พวกเราเข้าใจว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นถึงจักรพรรดินี นางคงไม่อยากลดตัวเสด็จมาที่นี่เพื่อรับศพอ๋องต่างแคว้น!” ชาวบ้านที่พอรู้หนังสือผู้หนึ่งซึ่งยืนอยู่ทางด้านขวาของกลุ่มคนที่น้อยกว่ากล่าวขึ้น “ทว่า เหตุใดจักรพรรดินีต้าโจวจึงให้ความสำคัญกับการเดิมพันกับต้าเยี่ยนมากจนไม่ยอมส่งคนไปรับศพของหานเฉิงอ๋องที่พลีชีพเพื่อแคว้นกลับมา ทั้งยังไม่อนุญาตให้ชาวบ้านไปแย่งชิงศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาเองอีก ต้าโจวกลัวการทำสงครามกับแคว้นเล็กอย่างตงอี๋มากเพียงนี้เลยหรือ! หากนายอำเภอไม่อยากให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาประท้วงก็ช่วยออกมาอธิบายให้พวกเราเข้าใจที!”
“ใช่ อธิบายให้พวกเราเข้าใจที!” ชาวบ้านพากันตะโกน
“ให้นายอำเภอออกมา!”
“ต้องไปนำศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา! ต้องคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้กล้าที่เสียชีวิตเพราะอยากไปนำศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา!”
“ใช่! นายอำเภอออกมารับปากกับพวกเราเดี๋ยวนี้! ต้องไปนำศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา! ต้องคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้กล้าที่เสียชีวิตเพราะอยากไปนำศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา!”
สตรีวัยกลางคนเห็นเหตุการณ์จึงตะโกนร้องขึ้นเหมือนที่บัณฑิตที่ถูกขังในคุกสอนนางมา “สามีของข้าถูกตีตายในคุกเพราะอยากไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมา ใต้หล้าแห่งนี้ยังมีที่ยืนสำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราอีกหรือไม่! ชีวิตของทหารที่สละชีพเพื่อชาวบ้านอย่างพวกเราไม่มีความหมายเลยอย่างนั้นหรือ หากแคว้นที่ไม่สนใจความเป็นความตายของทหารที่สละชีพเพื่อปกป้องชาวบ้านอย่างพวกเราเดิมพันแคว้นชนะขึ้นมา…พวกเขาจะสนใจชีวิตของชาวบ้านอย่างพวกเราอย่างนั้นหรือ!”
นายอำเภอที่อยู่ในจวนที่ว่าการได้ยินคำของสตรีวัยกลางคนจึงเบิกตาโพลงทันที เขาขบกรามแน่น จะปล่อยให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว หากปล่อยให้สตรีวัยกลางคนอาละวาดต่อไปพวกเขาคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ตามมาได้แน่นอน นายอำเภอหันไปกล่าวกับลูกน้อง “เร็ว รีบจับตัวสตรีที่ตีกลองร้องทุกข์ไปขังไว้เร็วเข้า!”
“นางไม่มีทางกล่าวคำพวกนี้ออกมาเองแน่นอน ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังนางแน่ๆ !” นายอำเภอกล่าวเสียงสั่นพลางหันไปมองที่ปรึกษาของตัวเอง “คนที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็นคนที่ฆ่าคนขายเนื้อผู้นั้นเพราะต้องการให้เกิดความวุ่นวายเช่นนี้ขึ้นแน่นอน”
สีหน้าของที่ปรึกษาเคร่งเครียดไม่ต่างกัน เขาหันไปกล่าวกับนายอำเภอ “ใต้เท้ารีบส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากกองทัพไป๋เถิดขอรับ เกรงว่าอีกสักพักต้องมีคนอาศัยเรื่องนี้ก่อความวุ่นวายขึ้นแน่ขอรับ”
นายอำเภอพยักหน้า “เร็ว! รีบไปเร็ว!”
สตรีวัยกลางคนจำคำที่บัณฑิตเหล่านั้นสอนนางได้ขึ้นใจทุกคำ บัณฑิตเหล่านั้นกล่าวว่าขอเพียงจดจำถ้อยคำเหล่านี้ได้ขึ้นใจนางจะสามารถทวงความยุติธรรมให้สามีของนางได้ ไม่แน่คนของทางการอาจยอมเดินทางไปรับศพของหานเฉิงอ๋องกลับมาด้วย
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบชายทะเลได้ยินก็ยิ่งโมโห พวกเขาคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวไม่เห็นหานเฉิงอ๋องเป็นคนต้าโจวจึงไม่สนใจว่าหานเฉิงอ๋องจะเป็นหรือตาย จักรพรรดินีต้าโจวไม่เห็นชาวบ้านแถบชายทะเลอย่างพวกเขาเป็นชาวบ้านต้าโจวจึงสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้!
พวกเขาคิดว่าหากต้องสังหารชาวบ้านแคว้นต้าเหลียงเดิมทั้งหมดให้สิ้นซากเพื่อชัยชนะในการแข่งขัน จักรพรรดินีแห่งต้าโจวก็คงทำมันโดยไม่ลังเลสักนิด
น่าสงสารหานเฉิงอ๋องที่ต้องยอมจำนนให้แก่จักรพรรดิที่คิดแต่จะมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้รวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเพื่อชาวบ้านอย่างพวกเขา การเสียสละของหานเฉิงอ๋องเป็นเพียงการปกปิดให้ไป๋ชิงเหยียนได้ครอบครองแคว้นอื่นโดยชอบธรรมเท่านั้น เสียดายที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคิดว่าจักรพรรดินีต้าโจวคือจักรพรรดินีที่ดี
พวกเขาคิดกระทั่งว่าหากตอนนั้นแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อแห่งกองทัพไป๋เสียชีวิตอยู่กลางทะเลและถูกนำศพไปยังแคว้นตงอี๋ด้วย จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะเอาแต่เป็นห่วงบัลลังก์ของตัวเอง ไม่สนใจศพของแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อโดยอ้างว่าเห็นแก่ส่วนร่วมเหมือนกันหรือไม่
“จักรพรรดินีไม่เคยเป็นชาวบ้านแคว้นต้าเหลียงเก่าอย่างพวกเราเป็นชาวบ้านของตัวเอง ไม่เห็นทหารเรือของต้าเหลียงที่สละชีพปกป้องชาวบ้านอย่างพวกเราเป็นทหารของตัวเองแม้แต่น้อย”
“รับศพหานเฉิงอ๋องกลับมา! ทวงความยุติธรรมให้ผู้กล้า!”
ไม่รู้ผู้ใดตะโกนประโยคนี้ขึ้นเป็นคนแรก ชาวบ้านทุกคนจึงพากันตะโกนตาม “รับศพหานเฉิงอ๋องกลับมา! ทวงความยุติธรรมให้ผู้กล้า!”
“รับศพหานเฉิงอ๋องกลับมา! ทวงความยุติธรรมให้ผู้กล้า!”
ชาวประมงที่ได้รับการคุ้มครองจากหานเฉิงอ๋องและทหารเรือที่เสียชีวิตยืนอยู่รวมกับคนอื่นเช่นเดียวกัน ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งตะโกนตามด้วยความโมโห!
ทันใดนั้นประตูจวนที่ว่าการถูกเปิดออก ขณะที่ชาวบ้านทุกคนคิดว่านายอำเภอจะเดินออกมาอธิบายกับชาวบ้าน กลุ่มคนของทางการกลับพุ่งตัวออกมาจากจวนที่ว่าการ จากนั้นลากสตรีวัยกลางคนที่คุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้นไปทันทีโดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น…
“พวกเจ้าจะทำอันใด! ปล่อยแม่ข้านะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!” บุตรสาวของสตรีวัยกลางคนวิ่งเข้าไปขวาง ทว่า ถูกคนของทางการผลักจนกระเด็น
เด็กสาวถูกผลักจนเซไปกระแทกรูปปั้นหินทรงกลมด้านหน้าจวนที่ว่าการ เลือดสดไหลออกมาจากศีรษะของนางทันที นางเจ็บจนร้องไห้ออกมา ทว่า ยังคงฝืนร่างกายเดินเข้าไปหามารดาของตัวเอง
“ลูกแม่! ลูกของแม่ ปล่อยข้านะ! พวกเจ้าอย่ามาโดนตัวข้า!” สตรีวัยกลางคนเห็นเลือดที่ศีรษะของบุตรสาวจึงคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที