สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1367 ปูทาง
10.0MHz@900(B8)ตอนที่ 1367 ปูทาง
“ขอรับ!” เฉิงซ่านหรูรับคำยิ้มๆ เขารู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เฉิงซ่านหรูนั่งลงบนเบาะรองนั่งตามที่ไป๋ชิงเหยียนบอก เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังชื่นชมอาวุธใหม่ของเขาอยู่จึงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “คุณหนูใหญ่ขอรับ ซ่านหรูอยากขอลาหยุดสองเดือน ทว่า หัวหน้าของข้าไม่อนุญาต ข้าจึงแบกหน้ามาขอร้องคุณหนูใหญ่แทนขอรับ”
“เรื่องอันใดทำให้เจ้าถึงกับยอมมาขอร้องให้ข้าเปิดทางลัดให้เช่นนี้” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวหยอกเฉิงซ่านหรูยิ้มๆ
“เกิดปัญหาขึ้นกับที่นาที่ซ่านหรูดูแลก่อนหน้านี้ ข้าอยากกลับไปดูและช่วยแก้ปัญหาก่อนขอรับ” เฉิงซ่านหรูกล่าวยิ้มๆ “คำนวณเวลาไปกลับแล้วคงประมาณสองเดือน หวังว่าคุณหนูใหญ่จะอนุญาตขอรับ”
“จริงสิ…” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเฉิงซ่านหรู “เจ้าถนัดเรื่องทำนานี่นา…”
ไป๋ชิงเหยียนวางดาบคมลงบนโต๊ะด้านข้าง “เฉิงซ่านหรู เจ้าชอบการผลิตอาวุธที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้หรือชอบการทำนามากกว่ากัน”
“เฉิงซ่านหรูคือลูกน้องของคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่อยากให้เฉิงซ่านหรูชอบสิ่งใดข้าก็จะชอบสิ่งนั้นขอรับ”
“ข้ารู้ว่าเจ้าจงรักภักดีต่อข้า รู้ดีว่าเจ้ามีความสามารถมาก ไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนทำได้ดีทุกเรื่อง ทว่า ตอนนี้ตระกูลไป๋ของพวกเราไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนใจตัวเองอีก แม้เจ้าจะชอบทำนาก็ไม่ใช่เรื่องผิดอันใด หากเจ้าสามารถเพิ่มผลผลิตการเพาะปลูกให้แคว้น เผยแพร่การทำนาของเจ้าให้แพร่หลายกว่าเดิม ไม่แน่เจ้าอาจได้รับบรรดาศักดิ์ด้านนี้ก็ได้” ความจริงไป๋ชิงเหยียนพอจะเดาได้ว่าเฉิงซ่านหรูชอบการทำนามากกว่า นางกล่าวกับเฉิงซ่านหรูยิ้มๆ “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าต้องลำบากช่วยปกป้องตระกูลไป๋ ตอนนี้คุณหนูใหญ่ของพวกเจ้าได้นั่งอยู่บนตำแหน่งนี้แล้ว หากข้าไม่มีความสามารถทำให้พวกเจ้าได้ทำสิ่งที่พวกเจ้ารักข้าก็ไม่คู่ควรกับบัลลังก์แห่งนี้ หากเจ้าชอบมันจริงๆ ก็ไปทำเถิด”
เฉิงซ่านหรูได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนจึงรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้น จากนั้นเงยหน้าขึ้นยิ้มๆ พลางกล่าวขึ้น “แล้วท่านแม่ของข้า…”
“ไม่ต้องห่วง ถงหมัวมัวจะคิดว่าข้าต้องการให้เจ้าไปทำ” ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะกับท่าทีของเฉิงซ่านหรู “ไม่เพียงแต่เจ้า ข้าก็กลัวถงหมัวมัวเช่นเดียวกัน”
“ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่มากขอรับ…” เฉิงซ่านหรูรีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม คนที่เขากลัวมากที่สุดในชีวิตนี้ก็คือท่านแม่ของเขา ต่อให้ตอนนี้เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วท่านแม่ของเขาก็มักจะบิดหูของเขาหากเขาทำผิดอยู่ดี เฉิงซ่านหรูรู้สึกหวาดกลัวมาก “ทว่า หากข้าไปแล้วผู้ใดจะรับช่วงต่อเรื่องการผลิตอาวุธแทนขอรับ”
“ตอนนี้แคว้นต้าโจวเต็มไปด้วยคนมีความสามารถ เจ้ายังกลัวว่าจะไม่มีคนมารับช่วงต่ออีกหรือ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ไม่ต้องเป็นห่วง หากไม่มีคนจริงๆ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปหรอก ที่สำคัญหากเจ้าสามารถเพิ่มผลผลิตของเสบียงอาหารได้จะถือเป็นผลดีต่อต้าโจวมาก”
“ขอรับ” เฉิงซ่านหรูรู้สึกซาบซึ้งมาก เขารีบก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง “เฉิงซ่านหรูจะไม่ทำให้คุณหนูใหญ่ผิดหวังแน่นอนขอรับ”
เมื่อเห็นท่าทีของเฉิงซ่านหรูไป๋ชิงเหยียนจึงรู้ทันทีว่าเฉิงซ่านหรูชอบการทำนามากกว่าสิ่งใดทั้งหมดจริงๆ
ไป๋ชิงผิงมอบหมายเรื่องที่ซั่วหยางให้เสิ่นเยี่ยนอันรับผิดชอบต่อเสร็จจึงออกเดินทางมาจากซั่วหยางทันที เขามาถึงเมืองหลวงในวันที่สิบเจ็ด เดือนหก เขาพบกับไป๋ฉีเหอผู้เป็นบิดาและผูหลิ่วซึ่งออกมาต้อนรับเขาที่นอกเมือง ไป๋ชิงผิงมอบจดหมายที่น้องสาวฝากมาให้บิดาให้ไป๋ฉีเหอแล้วรีบเข้าวังไปพบไป๋ชิงเหยียนทันที
ตอนนี้มารดาของไป๋ชิงผิงหย่าขาดกับบิดาของเขาและกลับไปอยู่กับตระกูลของตัวเองแล้ว ทว่า ผูหลิ่วกลับอยู่ที่ตระกูลไป๋ต่อ ตอนนี้นางกลายเป็นอนุของบิดาเขาไปแล้ว นางช่วยไป๋ชิงผิงดูแลความเรียบร้อยในจวน
ฟางซื่อเป็นคนให้ผูหลิ่วอยู่ที่ตระกูลไป๋ต่อเพื่อช่วยเหลือบุตรชายและบุตรสาวของนาง ทว่า ฟางซื่อไม่คิดเลยว่าผูหลิ่วไม่เพียงจะกลายเป็นอนุของไป๋ฉีเหอเท่านั้น ตอนนี้ยังตั้งครรภ์อีกด้วย ฟางซื่อที่อยู่ไกลถึงตระกูลมารดาของตัวเองรู้สึกเคียดแค้นผูหลิ่วมาก
บุตรสาวของฟางซื่อเป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนฟางซื่อ เมื่อรู้ว่าผูหลิ่วตั้งครรภ์จึงตบตีผูหลิ่วเหมือนตอนที่นางยังเป็นเพียงคนใช้จนผูหลิ่วเกือบแท้ง ไป๋ฉีเหอจึงส่งนางกลับไปอยู่ที่ซั่วหยาง นับจากนั้นเป็นต้นมาหากไม่มีคำสั่งจากไป๋ฉีเหอห้ามนางก้าวเท้าออกจากจวนแม้แต่ก้าวเดียว
เมื่อฟางซื่อรู้ว่าบุตรสาวถูกส่งกลับมาอยู่ซั่วหยางจึงรีบไปหาบุตรสาวทันที นางขอร้องไป๋ชิงผิงว่าอยากพบหน้าบุตรสาวของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของบุตรสาวฟางซื่อจึงยิ่งโกรธไป๋ฉีเหอและผูหลิ่ว นางแพศยาผูหลิ่วผู้นั้นกล้าลงมือกับบุตรสาวของนางซึ่งๆ หน้าอย่างไม่เสแสร้งอีกต่อไป ฟางซื่อก่นดาและสาปแช่งไป๋ฉีเหอว่าไป๋ฉีเหอได้เมียใหม่แล้วทอดทิ้งบุตรสาวของตัวเอง
แม้จะก่นด่า ทว่า ฟางซื่อซึ่งถูกหย่าแล้วยังเป็นห่วงลูกๆ ของตัวเองอยู่ นางคิดว่าต่อให้นางหย่ากับไป๋ฉีเหอแล้วแต่นางก็ต้องหาภรรยาคนใหม่ให้ไป๋เหอเพื่อข่มผูหลิ่วไว้ให้ได้ มิเช่นนั้นหากผูหลิ่วคลอดลูกชายออกมาอาจทำให้ลูกชายของนางเดือดร้อนได้!
ฟางซื่อคิดแล้วก็รู้สึกว่าวิธีนี้ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าใดนัก นางต้องทำให้ภรรยาคนใหม่ของไป๋ฉีเหอตั้งครรภ์ไม่ได้ด้วย เช่นนั้นลูกๆ ของนางจะได้ปลอดภัย ไม่เพียงแต่ภรรยาใหม่ของไป๋ฉีเหอเท่านั้น นางจะทำให้ผู้หญิงรอบกายของไป๋ฉีเหอทุกคนตั้งครรภ์ไม่ได้ เช่นนี้ไป๋ฉีเหอจะได้มอบความรักทั้งหมดให้ลูกๆ ของนางเท่านั้น
เมื่อคิดได้ดังนี้ฟางซื่อจึงยุให้บุตรสาวเขียนจดหมายสำนึกผิดถึงไป๋ฉีเหอ กล่าวว่าตัวเองถึงวัยต้องแต่งงานแล้ว ขอให้ไป๋ฉีเหออภัยให้นางสักครั้ง ก่อนหน้านี้ผูหลิ่วเป็นเพียงบ่าวรับใช้ข้างกายของมารดาของตน เมื่อผูหลิ่งกลายเป็นอนุของไป๋ฉีเหอนางจึงรับไม่ได้ เมื่อนางถูกลงโทษ นางจึงทบทวนตัวเองและพร้อมกลับไปขอโทษผูหลิ่ว
ไป๋ฉีเหออ่านจดหมายจบจึงรู้สึกดีที่บุตรสาวยังสำนึกได้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกที่เขาทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็ก ไป๋ฉีเหอจึงสั่งให้คนไปรับตัวบุตรสาวมาจากซั่วหยางในวันนั้น
ทว่า ไป๋ฉีเหอไม่รู้ว่าบุตรสาวของตัวเองถูกฟางซื่อเป่าหูว่าเขาเป็นบิดาที่เห็นเมียใหม่สำคัญกว่าบุตรสาวไปแล้ว นางกลับมาอยู่ข้างกายไป๋ฉีเหอครั้งนี้พร้อมกับหน้าที่สำคัญ หน้าที่ที่จะทำให้บิดาของตัวเองไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป
ไป๋ชิงเหยียนพบไป๋ชิงผิงในวังหลวง แม้ไป๋ชิงผิงจะคล้ำลงกว่าเดิมมาก ทว่า เขาสูงขึ้นกว่าเดิมเช่นเดียวกัน ไป๋ชิงเหยียนโบกมือให้ไป๋ชิงผิงนั่งลง “ไม่ต้องคุกเข่าอยู่เช่นนั้น ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องมากพิธี ข้าปล่อยเจ้าไว้ที่ซั่วหยางตั้งนาน ตอนนี้เรียกเจ้ามาที่เมืองหลวงเพราะต้องการให้เจ้ารับผิดชอบดูแลเรื่องการผลิตอาวุธของกองทัพไปก่อน”
ไป๋ชิงเหยียนใช้คำว่าไปก่อนแสดงว่าไม่ได้ต้องการให้ไป๋ชิงผิงควบคุมเรื่องการผลิตอาวุธของกองทัพไปตลอด ทว่า ไป๋ชิงผิงไม่ก็อยากควบคุมการผลิตอาวุธไปวันๆ เพื่อรอให้ไป๋ชิงเหยียนเลื่อนตำแหน่งให้เขาเช่นเดียวกัน ในเมื่อพี่หญิงปูทางให้เขาแล้ว เขาก็ต้องพยายามพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้ได้มากที่สุดถึงจะถูก
“พี่หญิงไม่ต้องห่วง อาผิงจะทำให้ดีที่สุดขอรับ” ไป๋ชิงผิงกำหมัดรับคำ
ไป๋ชิงผิงไม่ได้โกรธที่ไป๋ชิงเหยียนปล่อยเขาไว้ที่ซั่วหยางตั้งนาน ซั่วหยางคือถิ่นฐานของตระกูลไป๋ คือฐานทัพของกองทัพซั่วหยาง ไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีของแคว้น ไป๋ชิงผิงรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการคนที่ไว้ใจได้ช่วยนางดูแลซั่วหยาง
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า นางสั่งให้ชุนเถานำขนมมาให้ไป๋ชิงผิง จากนั้นเอ่ยถาม “พบท่านพ่อของเจ้าแล้วหรือไม่”