สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 283 องค์หญิงแห่งแคว้นฉี (1) (รีไรท์)
ภายในคุกใต้ดินที่มืดมิดอับชื้น แม้เป็นตอนกลางวันด้านในยังมืดมิด
ดังนั้นบนกำแพงจึงมีตะเกียงน้ำมันที่สว่างตลอดทั้งปี
และมีเครื่องมือทรมานสารพัดแบบ ดูแล้วน่าหวาดกลัวยิ่งนัก
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ซินเอ๋อร์มาเยือนสถานที่เช่นนี้ หลังเดินเข้าไปอดขมวดคิ้วงามเล็กน้อยไม่ได้
เสี่ยวหวนที่อยู่ด้านข้างเห็น อดยื่นมือดึงชายเสื้อของเธอ พร้อมเอ่ยเสนอขึ้นไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ ข้าว่าพวกเรากลับไปกันเถิด หากนายท่านรู้ว่าเรามาสถานที่เช่นนี้ ต้องไม่พอใจแน่!”
เสี่ยวหวนเอ่ยขึ้น และตอนนี้จึงคิดว่าเมื่อผ่านมาสิบวัน ซินเอ๋อร์ไม่รู้ว่าอ้าวเทียนเสวี่ยคือคนที่ขังเธอไว้ในตอนแรก เช่นนั้นนายท่านต้องตั้งใจปิดบังแน่ วันนี้ตนกลับเอ่ยออกมา หากถูกนายท่านรู้ว่าเธอเป็นคนพูด ไม่รู้จะถูกลงโทษเช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวหวนมีสีหน้าร้อนรนขึ้นมา
ซินเอ๋อร์เห็นจึงคาดเดาความคิดในใจของเสี่ยวหวนออก จึงเอ่ยปากขึ้น
“ข้าจะพูดกับเซวียนเอง ข้าเพียงอยากจะไปดูพี่เทียนเสวี่ย ซักถามนางว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้!”
“ซินเอ๋อร์ หญิงสารเลวผู้นั้นล้วนทำร้ายเจ้าเช่นนี้แล้ว เจ้ายังเรียกนางว่าพี่สาวอีกหรือ ซินเอ๋อร์เจ้าช่าง…”
เมื่อได้ยินคำบ่นของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์ทำเป็นไม่สนใจ และหลังทักทายองครักษ์ที่เฝ้าดูแลคุกใต้ดิน ถูกองครักษ์ผู้นั้นนำทางไป
เพราะภายในวังเหลิ่ง บ่าวไพร่ทุกคนต่างทราบดีว่าซินเอ๋อร์มีสถานะเป็นคนรักของเจ้านาย ดังนั้นหลังซินเอ๋อร์มาถึงที่นี่ จึงไม่ได้ขัดขวาง
เสี่ยวหวนด้านข้างเห็นซินเอ๋อร์ไม่ฟังคำพูดของตน ดื้อรั้นจะเข้าไปด้านใน เพียงถอนหายใจอย่างจนใจ ก่อนเดินตามเข้าไป
เห็นเพียงคุกใต้ดินแห่งนี้ คือสถานที่คุมขังบ่าวไพร่ที่กระทำผิดในวังเหลิ่ง
ทว่าบ่าวไพร่ในวังต่างผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ดังนั้นภายในหนึ่งปีจำนวนคนที่กระทำผิดเข้ามาที่นี่จึงมีน้อยมาก
ดังนั้น เวลานี้ภายในคุกใต้ดินจึงคุมขังคนไว้เพียงคนเดียว
องครักษ์หนุ่มหลังนำทางซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวนเข้ามาภายในคุกใต้ดิน เอ่ยกับซินเอ๋อร์ว่า
“แม่นางซินเอ๋อร์ พวกท่านเดินตรงเข้าไป จะเจอกับคนที่พวกท่านอยากพบ”
“ได้ ขอบคุณท่านมาก”
หลังได้ยินคำพูดขององครักษ์ ซินเอ๋อร์พลันยิ้มให้อย่างมีมารยาท
ทันใดนั้นหมุนกายพาเสี่ยวหวน เดินเข้าไปตามทิศที่องครักษ์บอกเมื่อครู่
เมื่อซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวนมาถึงห้องขังด้านในสุด อาจเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก ทำให้คนภายในห้องขังตกใจฟื้นขึ้นมา ทันใดนั้นพลันกระโดดลุกขึ้นจากพื้น ร้องโวยวายขึ้น
“ปล่อยข้าออกไป พวกเจ้าสมควรตาย พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด กล้าขังข้าไว้ในสถานที่เช่นนี้ พวกเจ้ามีสิทธิ์อันใด ปล่อยข้าออกไป รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
หลังคำพูดของหญิงสาวภายในห้องขัง ซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวนต่างตกใจอย่างหนัก
แต่เมื่อพวกเธอเห็นหญิงสาวที่ถูกขังอยู่ภายในห้องขัง อดใจหายวาบไม่ได้
เห็นเพียงหญิงสาวภายในห้องขัง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับย่น สกปรก มีชีวิตราวกับขอทาน
เวลาสั้นๆ เพียงสิบวัน กลับทำให้หญิงสาวที่ทะนงตัว เปลี่ยนไปตื่นตระหนกเช่นนี้!
ทว่านี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสีหน้าอำมหิต ดวงตาแดงก่ำของหญิงสาว คล้ายกับปีศาจที่เดินขึ้นมาจากขุมนรก
โดยเฉพาะเมื่อเห็นซินเอ๋อร์ ดวงตาดุร้าย คมกริบ
ริมฝีปากแห้งผากกัดฟันเอ่ยขึ้นว่า
“เป็นเจ้า นังหญิงชั่วช้า เจ้ามาที่นี่เพื่อสมน้ำหน้าข้าใช่หรือไม่ ฮึ หญิงชั่วช้าเช่นเจ้า อย่าภูมิใจไปนักเลย หากเจ้ารู้ว่าข้าคือผู้ใด และข้าออกไปจากที่นี่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!”
เมื่อได้ยินคำด่าทอร้ายกาจของหญิงสาวผู้นี้ ซินเอ๋อร์พลันตกใจ
เพราะเธอไม่กล้าเชื่อว่า เพียงตนมาที่นี่ กลับได้ยินคำด่าทอที่ร้ายกาจของหญิงสาวผู้นี้ ราวกับต้องการให้เธอตาย!
ตนและเธอไม่มีความโกรธแค้นกันมิใช่หรือ!
เหตุใดเธอต้องเกลียดชังตนเช่นนี้!
ซินเอ๋อร์ไม่เข้าใจ
แต่เสี่ยวหวนที่อยู่ด้านข้างหลังได้ยินคำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย พลันเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
“เจ้าหญิงคนนี้ เหตุใดจึงร้ายกาจเช่นนี้! ตอนแรกเจ้าขังซินเอ๋อร์ไว้ในห้องจนแทบต้องเสียชีวิต ซินเอ๋อร์ล้วนไม่โทษเจ้า ยังมาที่นี่เพื่อดูเจ้า แต่เจ้ากลับยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ เจ้าอย่าลืมว่าตอนแรกผู้ใดที่เห็นเจ้าล้มหมดสติน่าสงสารอยู่ริมทาง แล้วนำตัวเจ้ากลับมา ช่างไม่รู้จักบุญคุณ มิน่านายท่านจึงขังเจ้าไว้ที่นี่ ทางที่ดีควรขังเจ้าไปตลอดชีวิต!”
เสี่ยวหวนใช้มือปกป้องซินเอ๋อร์ พร้อมยืดอกขึ้น ก่อนด่าทอหญิงสาวในห้องขังขึ้นมา
และปากของเสี่ยวหวนไม่ได้ปราณี เมื่อเริ่มด่าทอเปี่ยมด้วยความโมโห จริงจัง
เมื่ออ้าวเทียนเสวี่ยได้ยิน โมโหเดือดดาล
หากเธอไม่ได้ถูกขังอยู่ด้านใน คงพุ่งออกไปตบตีกับเสี่ยวหวนแล้วแน่นอน
เสี่ยวหวนเห็นเช่นนั้น นั่งลงท่าทางยั่วยุอย่างภูมิใจอยู่ด้านนอก จนอ้าวเทียนเสวี่ยโมโหอย่างหนัก
ใบหน้าดุร้ายนั้น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คล้ายต้องการกัดเสี่ยวหวนและซินเอ๋อร์ให้ตาย
ซินเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเสี่ยวหวนยั่วยุอ้าวเทียนเสวี่ยไม่หยุด ดังนั้นอดยื่นมือดึงเสี่ยวหวน พร้อมส่ายหน้าไม่ได้ ก่อนเอ่ยขึ้น
“เสี่ยวหวน อย่าทำเช่นนี้ ข้ายังมีเรื่องที่ต้องถามนาง!”
“เช่นนั้นก็ได้ ทว่าซินเอ๋อร์เจ้าต้องรีบหน่อย สถานที่ประเภทนี้ไม่ควรอยู่นาน มืดอับเปียกชื้น เจ้าเพิ่งหายป่วย หากอยู่นาน ข้ากลัวว่าเจ้าจะต้องป่วยอีก”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน ซินเอ๋อร์รู้ว่าเธอห่วงใยตน จึงซาบซึ้งในใจ พร้อมพยักหน้าให้กับเสี่ยวหวน ทันใดนั้นหันศีรษะกลับไปเอ่ยกับอ้าวเทียนเสวี่ยที่ถูกขังอยู่ด้านใน
“พี่เทียนเสวี่ย ข้าเพียงต้องการถามท่าน เหตุใดท่านจึงต้องขังข้าไว้ในห้องนั้น!”
เมื่อได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ อ้าวเทียนเสวี่ยพลันยิ้มอย่างดูถูก
“เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง เจ้าถามว่าเหตุใดข้าจึงขังเจ้าไว้ด้านในหรือ นั่นเพราะข้าไม่ต้องการให้เจ้าออกมาทำลายเรื่องดี ๆ ระหว่างข้ากับเขา!”
“เขาหรือ!”
เมื่อได้ยินคำพูดอ้าวเทียนเสวี่ย ซินเอ๋อร์ตะลึงงัน ทันใดนั้นเข้าใจทันที
“เขาที่ท่านเอ่ยถึงผู้นั้น คือเซวียน ท่านชอบเซวียนหรือ!”
ประโยคสุดท้าย ซินเอ๋อร์เอ่ยถามอย่างลองหยั่งเชิง
อ้าวเทียนเซวี่ยได้ยิน เชิดคางขึ้น และเอ่ยอย่างไม่ปิดบังว่า
“ใช่ ข้าชอบเหลิ่งอวี้เซวียน ชายผู้นี้ข้าถูกใจ ดังนั้นหญิงต่ำต้อยเช่นเจ้า ไสหัวออกไปซะ ชายที่ข้าถูกใจ ผู้ใดก็ไม่สามารถแย่งชิงได้!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ แววตาของอ้าวเทียนเสวี่ยเต็มไปด้วยความต้องการครอบครอง
แม้ชายผู้นั้นตอนนี้จะขังเธอไว้ที่นี่สิบวันเต็ม โดยไร้การดูแลถามไถ่ และเธอควรเกลียดชังเขา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ยิ่งคิดเกลียดชังเขา กลับยิ่งทำใจไม่ได้
กลับกันยิ่งคิดถึงเขา
เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ทุกคนต่างดูแลปกป้อง เชิดชูเธอ ไม่เคยมีผู้ใดทำเช่นนี้กับเธอ!
แต่เขายิ่งทำเช่นนี้ เธอยิ่งไม่สามารถลืมเลือนเขาได้
ชายผู้นี้คือคนที่เธอถูกใจ ดังนั้นจึงต้องเป็นของเธอ!
ขณะอ้าวเทียนเสวี่ยคิดในใจ เสี่ยวหวนที่อยู่ด้านข้างหลังได้ยินคำพูดเธอ โมโหขึ้นมาอีกครั้ง
“หญิงสารเลว เจ้าว่าผู้ใดต่ำช้ากัน ฮึ เจ้าคิดว่าเจ้าคือผู้ใด หญิงสาวที่ชื่นชอบนายท่านของข้ามีมากมาย แต่ข้าขอเตือนเจ้าอย่าฝันกลางวันเลย คนที่นายท่านของพวกเรารักคือซินเอ๋อร์ คนเช่นเจ้าคู่ควรที่จะชื่นชอบนายท่านของพวกข้าหรือ ฮึ!”
พอเอ่ยจบ สายตาที่เสี่ยวหวนมองอ้าวเทียนเสวี่ย เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน
อ้าวเทียนเสวี่ยได้ยินโมโหเดือดดาล ดวงตาเบิกกว้าง มองเสี่ยวหวนอย่างอำมหิตและโมโห
“หญิงต่ำต้อยเช่นเจ้า ไม่รู้ว่าข้าคือผู้ใด ข้าคือองค์หญิงแห่งแคว้นฉี พวกเจ้ารีบปล่อยข้าออกไป มิฉะนั้น ข้าจะสั่งตัดหัวพวกเจ้าทั้งหมด!”
“อะไรนะ เจ้าคือองค์หญิงแห่งแคว้นฉี!”
เมื่อได้ยินคำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย ซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวนต่างตะลึงงัน
เห็นสีหน้าของซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวน อ้าวเทียนเสวี่ยอดเชิดหน้าขึ้น เผยความหยิ่งทนงออกมาไม่ได้ สายตาที่มองซินเอ๋อร์และเสี่ยวหวนแฝงไปด้วยความดูถูก คล้ายมองเศษขยะ
“ถูกต้อง พวกเจ้ากลัวแล้วสินะ หากรู้แล้วก็รีบปล่อยตัวข้าไป มิฉะนั้น…”
คำพูดร้ายกาจของอ้าวเทียนเสวี่ยยังออกมาไม่หมด เสี่ยวหวนที่อยู่ด้านข้าง อดหัวเราะลั่นขึ้นมาไม่ได้
“ฮ่าๆ องค์หญิงแห่งแคว้นฉี เจ้าคิดล้อพวกเราเล่นหรือ เจ้าเป็นถึงองค์หญิง พูดออกไปผู้ใดจะเชื่อ เจ้าอยากขู่พวกเรา ก็ควรหาเหตุผลที่ดีกว่านี้!”
เสี่ยวหวนหัวเราะอย่างเกินจริง จนต้องกุมหน้าท้อง
อ้าวเทียนเสวี่ยเห็น รู้สึกเพียงศักดิ์ศรีที่ตนภูมิใจถูกคนดูถูก
“เจ้า หญิงชั้นต่ำ ข้าพูดความจริง ข้าคือองค์หญิงแห่งแคว้นฉี พวกเจ้ารีบปล่อยข้าไป มิฉะนั้น ข้าจะไม่ละเว้นพวกเจ้า รอให้ข้าออกไป ข้าจะให้พระบิดาตัดศีรษะพวกเจ้าแน่นอน โดยเฉพาะเจ้า!”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ สายตาอ้าวเทียนเสวี่ยเย็นยะเยือก ก่อนจ้องมองไปที่ซินเอ๋อร์ พร้อมกัดฟันเอ่ยขึ้น
“ข้าจะให้คนใช้มีด ทำลายใบหน้าของเจ้ามีดแล้วมีดเล่า ให้เจ้ากลายเป็นคนที่อัปลักษณ์ที่สุดบนโลก ทำให้คนทั่วใต้หล้ารังเกียจเจ้า ทอดทิ้งเจ้า!”
คำพูดของอ้าวเทียนเสวี่ย ทุกคำต่างปกปิดความร้ายกาจเอาไว้ไม่ได้
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดขมวดคิ้วเข้มมุ่นไม่ได้ ก่อนตกใจถอยหลังไป
ในใจเสียใจอย่างหนัก
เพราะความจริงเธอไม่รู้ว่าตนทำผิดสิ่งใด จึงทำให้หญิงสาวผู้นี้เกลียดชังตนเช่นนี้
และยังใช้คำพูดโหดร้ายเช่นนี้ข่มขู่ตน
ทำให้ในใจของซินเอ๋อร์ เจ็บปวดคล้ายถูกกดทับด้วยหินขนาดใหญ่
เมื่อเห็นท่าทางตกใจของซินเอ๋อร์ อ้าวเทียนเสวี่ยกลับยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับได้ระบายความหงุดหงิด จนอดหัวเราะลั่นขึ้นมาไม่ได้
แต่ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำเย็นชา กลับพลันดังขึ้นภายในคุกใต้ดิน
“ดูท่า เพียงขังเจ้าไว้ที่นี่ คงเป็นโทษที่เบาเกินไป!”
หลังเสียงแหบพร่ามีเสน่ห์นั้นดังขึ้น คุกใต้ดินที่คึกคัก พลันเงียบงันลงทันที
สายตาของทุกคนต่างมองไปยังที่มาของเสียงนั้น
เห็นเพียงไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่งามสง่า ปรากฎตัวขึ้นที่ประตูคุกใต้ดิน
และคนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใด คือเหลิ่งอวี้เซวียน!
…………………………………………………………………………………