สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 260 การสารภาพรักของชายหนุ่ม (รีไรท์)
“ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่ใด!”
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าหนึ่งดังขั้น ทำให้ซินเอ๋อร์ใจเต้นแรง
เพราะน้ำเสียงวิตกกังวลเช่นนี้ของชายหนุ่ม ทำให้เธอที่ได้ฟังใจหวั่นไหว
ชายผู้นี้ กระทั่งเวลานอนยังคิดถึงเธอ!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ซาบซึ้งและชื่นชอบในใจ จนอดเอ่ยปากขึ้นไม่ได้
“เซวียน ข้าอยู่ที่นี่ ข้าอยู่ข้างกายท่าน!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยเสียงเบา สายตามองชายหนุ่มอย่างลึกซึ้ง
แต่เธอกลับไม่รู้ตัวว่าสายตาที่ตนมองชายหนุ่มเวลานี้ เต็มไปด้วยความรักหลายส่วน โดยที่กระทั่งเธอเองก็ไม่รู้ตัว
ดวงตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและน้ำตานั้น หลังมองใบหน้าซีดเซียวของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์ปวดใจและสงสาร ทันใดนั้นจึงโน้มตัวลงไปทันที
ริมฝีปากนุ่มงดงามนั้นค่อยๆ ขยับเข้าไปประกบลงบนริมฝีปากงดงามของชายหนุ่มนั้นทีละนิด
จุมพิตบางเบาดุจขนไก่พัดผ่าน กลับทำให้แก้มของซินเอ๋อร์แดงก่ำมากขึ้น ใจเต้นแรงคล้ายวัวสันหลังหวะ
เพียงจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากของชายหนุ่มพลันผละจากไป คล้ายกลัวหลังชายหนุ่มตื่นขึ้นจะรู้เข้า
เสียงหัวใจเต้นรุนแรง ‘ตึกตักตึกตัก’ นั้น คล้ายมีกวางน้อยตัวหนึ่งกำลังกระโดดโลดเต้นไม่หยุดอยู่นาน โดยไม่อาจกลับมาเป็นปกติ
แต่ขณะซินเอ๋อร์ผละจากริมฝีปากชายหนุ่มที่ทำให้เธอใจเต้นแรงนั้น เดิมทีคิดว่าการกระทำเล็กน้อยของเธอเมื่อครู่ ไม่มีผู้ใดรู้ คิดไม่ถึงเมื่อเธอยืดกายขึ้น กลับเหลือบมองเห็นดวงตาดำขลับแคบยาวเต็มไปด้วยความหยอกล้อเข้า
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้นทันที ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ร่างกายพลันเปลี่ยนไปแข็งทื่อทันที
ดวงตาคู่งามหยาดเยิ้มพลันเบิกกว้าง!
สวรรค์!
ฟ้าดิน!
เขาตื่นขึ้นตั้งแต่เมื่อใด!
เรื่องเมื่อครู่เขาเห็นเช่นนั้นหรือ!
เพียงนึกถึงเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์อับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ไม่ออกมาอีกชั่วชีวิต!
สวรรค์ ครั้งนี้เธออับอายขายหน้าจริงๆ!
เมื่อครู่เหตุใดเธอจึงจุมพิตเขาอย่างไม่ยั้บยั้งชั่งใจ และที่สำคัญคือยังถูกเขาจับได้
ไม่รู้เขาตอนนี้จะคิดเช่นไร
ยิ่งคิด ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงตนเขินอายอย่างยิ่ง ไอร้อนทะลักจากในใจขึ้นสู่เหนือศีรษะอย่างรวดเร็ว
บนใบหน้าร้อนผ่าว แม้ไม่ส่องกระจก ซินเอ๋อร์ก็รู้ว่าใบหน้าของตนต้องแดงราวกับก้นลิงแน่นอน!
ยิ่งคิด ใบหน้าเล็กของซินเอ๋อร์ก้มต่ำลง ดวงตาคู่งามเขินอายนั้นหลุบลง ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มอีก โดยเฉพาะดวงตาดำขลับที่แฝงความเย้าแหย่คู่นั้นของชายหนุ่ม ทำให้เธออับอายขายหน้าที่สุด!
ขณะคิดในใจ ซินเอ๋อร์คิดหมุนกายหนีลงจากเตียง เพราะเธอตอนนี้ขายหน้ายิ่งนัก
แต่ทันใดนั้น หูกลับได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าขึ้นมาอีกครั้ง
“ยังไม่พอ”
“เอ่อ!”
ไม่พอ สิ่งใดไม่พอหรือ!
ขณะคิดในใจ ซินเอ๋อร์อดกระพริบตาอย่างสงสัยครู่หนึ่งไม่ได้ ก่อนมองตรงไปยังชายหนุ่มบนเตียง
ทว่าเธอกลับไม่รู้ตัวว่า ท่าทางมึนงงเวลานี้ของตน น่ารักมากเพียงใด
คล้ายกระต่ายน้อยอ่อนต่อโลก สับสันมึนงงตัวหนึ่ง
และหมาป่าชอบกระต่ายน้อยน่ารักเช่นนี้ที่สุด!
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ ดวงตาที่มองยังซินเอ๋อร์ท่ามกลางเย้าแหย่แฝงไปด้วยความเอ็นดูและอ่อนโยนหลายส่วน ก่อนเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“ตรงนี้ ยังไม่พอ”
เหลิ่งอวี้เซวียนยื่นริมฝีปากของตนเชื้อเชิญให้จุมพิต
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ถือว่าเข้าใจความหมายของเขา
ทันใดนั้น ใบหน้าเล็กที่แดงก่ำนั้น แทบปล่อยควันออกมาอย่างเขินอายร้อนผ่าว
ขณะเขินอายในใจ ซินเอ๋อร์คิดไม่สนใจชายหนุ่ม หนีไปแล้วค่อยว่ากัน
แต่เธอคิดหนี จะทำได้ง่ายดายเช่นนั้นหรือ!
ขณะซินเอ๋อร์คิดหนีไปจากที่นี่ ชายหนุ่มคล้ายพยาธิในท้องของเธอ จึงเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว โดยยื่นแขนยาวเกี่ยวเอวเล็กของเธอเอาไว้แน่น
ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงโลกหมุนตลบ ร่างกายถูกชายหนุ่มกดทับไว้ใต้ร่าง
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มอยู่ชิดใกล้ ร่างกายเล็กบอบบางของเธอก็ถูกร่างกายชายหนุ่มกดไว้แน่น ขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ทำให้ซินเอ๋อร์ทั้งวิตกและเขินอายในใจ
เมื่อรู้สึกว่าตนคล้ายกระต่ายน้อยที่ถูกหมาป่าตะครุบตัวไว้ อยากหนีก็หนีไม่รอด
“ไม่ เซวียน”
ซินเอ๋อร์หวาดกลัวและวิตกกังวล ใบหน้าเล็กเบือนออกไปไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม
เพราะสายตาที่ชายหนุ่มมองเธอเวลานี้ ลึกล้ำ ร้อนแรงเกินไป ทำให้เธอตกใจหวาดกลัวและเขินอาย
ดังนั้น สองมือของซินเอ๋อร์เริ่มผลักหน้าอกแกร่งของชายหนุ่มไม่หยุด เพื่อผลักเขาออก
แต่รูปร่างเล็กและพละกำลังอันน้อยนิดของเธอ ท่าทางนั้นจึงดูคล้ายแมวน้อยช่วยเกาจุดที่คันให้เขาเท่านั้น กลับกันทำให้ชายหนุ่มฟุ้งซ่าน อารมณ์พลุ่งพล่านไปไกล!
“เซวียนเอ๋อร์ ข้าชอบเจ้า ชอบเจ้ามากจริงๆ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์สั่นไปทั่วร่าง เห็นชัดว่าตกใจอย่างหนัก
เพราะความจริงเธอไม่รู้ว่า ชายหนุ่มจะสารภาพรักกับเธอในเวลานี้
แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มเอ่ยประโยคเช่นนี้กับเธอ แต่ยังคงทำให้เธอตกใจและกังวล
และรู้สึกคาดไม่ถึง น้อยเนื้อต่ำใจ
เพราะเขาคล้ายเมฆสีขาวที่ลอยอยู่สูง คือบุตรอันเป็นที่รักของสวรรค์ มีทั้งอำนาจ รูปโฉม เงินทอง ความรู้อยู่ในตัว โดดเด่นเหนือผู้อื่น เป็นมังกรในมวลมนุษย์
เธอล่ะ!
เพียงหญิงกำพร้าที่ไร้ที่พักพิงคนหนึ่งเท่านั้น
เธอนอกจากน้องชายของตน ไม่มีสิ่งใด
และเธอไม่มีสิ่งใดพิเศษเชี่ยวชาญ คล้ายหญิงสาวที่มีพรสวรรค์ด้านบทกวี ร้องเพลงพวกนั้น เธอล้วนทำไม่ได้ เธอที่ธรรมดาเช่นนี้ จะคู่ควรให้เขาชื่นชอบได้เช่นไร!
ดังนั้น ขณะซินเอ๋อร์รู้สึกคาดไม่ถึง ในใจพลันปกคลุมด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“เซวียน ข้าไม่มีสิ่งใดคู่ควรให้ท่านรัก”
ซินเอ๋อร์เอ่ยเสียงเบา ภายในน้ำเสียงมีความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไม่ปิดบัง
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน หัวคิ้วงามนั้นอดขมวดมุ่นไม่ได้ ทันใดนั้นคล้ายล่วงรู้ความในใจของซินเอ๋อร์ พลันขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเข้มขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้าห้ามเอ่ยเช่นนี้ และห้ามคิดเช่นนี้ด้วย ไม่คู่ควรให้ข้ารักอันใด ข้ารักเจ้า!”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างหนักแน่นและสายตาจริงจัง ทำให้ซินเอ๋อร์เกิดความซาบซึ้ง แต่เธอยังไม่มั่นใจมากพอ
“แต่ข้าทำสิ่งใดไม่ได้สักอย่าง ไม่มีสิ่งใด จากวันแรกที่พบกับท่าน ท่านช่วยเหลือข้ามาตลอด ช่วยข้าจากกองเพลิง พาน้องชายข้ากลับมา ส่งไปที่หุบเขาผีเสื้อเพื่อให้หมอประหลาดรักษา และที่นี่ของที่ข้าใช้ต่างดีกว่าลูกคุณหนูธรรมดา เซวียน ท่านดีกับข้าเกินไป ข้า ข้าคู่ควรให้ท่านดีกับข้าขนาดนี้ที่ใด ข้าไม่ใช่บุตรสาวจากตระกูลชั้นสูง บทกวีร้องเพลงล้วนทำไม่ได้ ข้า ข้า…”
เอ่ยถึงช่วงสุดท้าย ซินเอ๋อร์ไม่รู้ควรเอ่ยเช่นไร
ภายในลำคอคล้ายถูกบางสิ่งอุดตันไว้ สำลักอยู่ตลอดเวลา
จมูกแสบร้อน ดวงตาร้อนผ่าว การมองเห็นเริ่มพร่ามัวขึ้นมา
ทันใดนั้น หยดน้ำตานั้นดุจไข่มุกที่ร่วงหล่นจากสร้อยที่ขาด ไหลรินจากดวงตาของเธออาบลงหมอนด้านข้าง
เมื่อเห็นท่าทางร้องไห้ของสาวน้อย เหลิ่งอวี้เซวียนทั้งปวดใจและสงสาร
“เด็กโง่ เจ้าโง่จริงๆ หากข้าสนใจเรื่องฐานะ บุตรสาวชนชั้นสูงเหล่านั้น ข้าคงแต่งงานไปแล้ว แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ หญิงสาวที่ข้าชอบ ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในทุกสิ่ง ไม่ต้องมีอำนาจบารมี เพราะพวกนี้ข้าล้วนมีหมดแล้ว ข้าชอบทั้งหมดที่เป็นเจ้า นั่นก็เพราะ…”
พอเอ่ยถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนชะงักลง สายตาที่มองซินเอ๋อร์อ่อนลง ความอ่อนโยนกระจายไปทั่วแววตา ทันใดนั้นจึงเผยอริมฝีปาก เอ่ยอย่างแหบพร่าว่า
“ข้าชอบความอ่อนโยน จิตใจดี งดงาม และไร้เดียงสาของเจ้า”
เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำแหบพร่า ดุจสุราชั้นเลิศที่หมักมานานหลายปี ขณะที่เปิดออกกลิ่นหอมของสุราอันเข้มข้นนั้น ทำให้คนเมามาย ทั้งที่ยังไม่ได้ดื่ม
เวลานี้ซินเอ๋อร์รู้สึกว่าตนเมามายจริงๆ
เมามายอยู่ในสายตาแห่งความรักของชายหนุ่ม น้ำเสียงแหบพร่าชวนหลงใหล และคำพูดเปี่ยมไปด้วยความรักของเขา
สำหรับความมึนเมาของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนจะไม่เคยเป็นได้เช่นไร!
เมื่อก้มลงมองใบหน้าเล็กที่งามล่มเมืองด้านล่าง
เธองดงามมากจริงๆ งดงามจนทำให้เขาใจเต้นแรง
ทว่าสิ่งที่ดึงดูดเขาไม่ใช่ความงดงามของเธอ!
เพราะหลายปีมานี้ มีสาวงามไม่น้อยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างกายเขา แต่สามารถทำให้เขาใจเต้น มีเพียงคนตรงหน้านี้เพียงผู้เดียว!
เพราะสาวน้อยตรงหน้า คล้ายดอกบัวสีขาวที่โผล่พ้นโคลนตม สะอาดบริสุทธิ์
ไร้เดียงสา งามสง่า น่ารัก จิตใจดีเช่นนี้
แตกต่างกับหญิงสาวหยิ่งยโสพวกนั้น มองเพียงรูปลักษณ์ภายนอก เงินทอง ความมั่งคั่ง ฐานะ!
หญิงสาวพวกนั้น ทำให้เขารู้สึกเพียงสะอิดสะเอียนเท่านั้น
แต่สาวน้อยตรงหน้านี้ เธอมีความไร้เดียงสาที่ติดกายมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้คนรู้สึกจิตใจสงบ อบอุ่น และบริสุทธิ์
ทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับเธอ แม้จะอยู่ในยามที่สับสนวุ่นวายที่สุด ใจของเขาจะเปลี่ยนไปเงียบสงบอย่างยิ่ง
คล้ายกลิ่นอายบริสุทธิ์บนกายเธอ สามารถทำให้สิ่งสกปรกทุกอย่างบนกายผู้คนถูกชำระล้างจนสะอาด
เขาชอบเธอที่ใสบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาเช่นนี้!
เหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ ก่อนมองน้ำตาที่ไหลจากหางตาของซินเอ๋อร์ไม่หยุด จึงอดใจไม่ไหวก้มศีรษะลงไป ค่อยๆ จุมพิตดูดซับน้ำตาที่หางตาของสาวน้อย
เพราะเขาชื่นชอบท่าทางดีใจ งดงามของเธอ และการที่เธอร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ตรงข้ามกับท่าทางของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์กลับอดหดคอลงอย่างเขินอาย
แต่ชายหนุ่มกลับไม่ปล่อยให้เธอหลบหลีก จึงยื่นมือเลิกคางเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มของเธอขึ้น ทันใดนั้น ริมฝีปากประกบลงอย่างแม่นยำ
จุมพิตของชายหนุ่ม อ่อนโยนและแฝงไปด้วยความรักที่ไร้ขีดจำกัด
ดุจสุราชั้นเลิศ ทำให้คนเมามาย
ไม่รู้เพราะคำพูดเมื่อครู่ของชายหนุ่ม ทำให้ซินเอ๋อร์ใจเต้นแรงหรือเพราะเหตุใด จุมพิตครั้งนี้ของชายหนุ่ม เธอจึงไม่หลบหลีก และยังปล่อยให้ชายหนุ่มจุมพิตอย่างรักใคร่ตามใจ
เมื่อรู้สึกถึงลิ้นยาวของชายหนุ่มกวาดดูดกลืนน้ำหวานอยู่ภายในปากของตนไม่หยุด ทำให้ซินเอ๋อร์เขินอาย ขณะเดียวกันไม่กล้าหายใจออกมา
ดวงตาคู่งามค่อยๆ ปิดลง และเริ่มเสพสุขกับจุมพิตของชายหนุ่ม
………………………………………………………………………………….