ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 345 ความจริงแห่งเซินยวน
ชายแก่ก็ไม่ได้ลีลา เขาสะบัดดาบในมือ ก่อนที่ผนึกหนึ่งจะจู่โจมออกไป เย่เจียนเถียนตกใจที่ชายแก่ลงมืออย่างกะทันหัน นางรีบใช้พลังปีศาจในการต้านการจู่โจมของอีกฝ่าย แต่พลังปีศาจที่เรียกออกมาถูกดาบฟันสลายไปในทันที พลังดาบที่ดุดันนี้เกือบจะเฉือนเนื้อแขนของนางลงมาด้วย
เย่เจียนเถียนหลบตัวออกไปกว่าร้อยเมตร นางมองคนทั้งสองที่อยู่ตรงข้ามอย่างตกตะลึง “นี่ไม่ใช่วิชาเวทเผ่าปีศาจ…พวกเจ้าเป็นเซียน!”
“ถุย!” ชายแก่ที่อดกลั้นมาตลอดทาง ก่อนจะพูดออกมา “ใครเป็นเผ่าเซียนที่ชั่วช้าต่ำตม ใจแคบเห็นแก่ตัวกัน!”
อวิ๋นเจี่ยว “…” คำคุณศัพท์ยาวเหยียดนั้นคืออะไรกัน ท่านเคยคิดถึงความรู้สึกของเซียนหรือไม่ อย่าลืมว่าตอนนี้ลูกศิษย์เสวียนเหมินล้วนเป็นเซียนแล้วนะ!
บนใบหน้าของเย่เจียนเถียนมีความโกรธปรากฏขึ้น สายตาที่มองทั้งสองคนไร้ซึ่งความดูถูกอีก นางเริ่มใช้พลังปีศาจจู่โจมเข้ามา ชายแก่ก็พุ่งตัวเข้าไป ทั้งสองคนปะทะเข้าด้วยกัน
อวิ๋นเจี่ยวไม่มีทีท่าจะลงมือ ความสามารถของเย่เจียนเถียนไม่เลว แต่ไม่ถึงระดับของปีศาจเลือด ถึงแม้ที่นี่จะเป็นดินแดนปีศาจ แต่ความสามารถของชายแก่ก็เพียงพอต่อการรับมือ อีกทั้งบริเวณนี้ไม่มีคนอื่น พวกเขาไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตน
เวลาไม่ถึงสองเค่อ เย่เจียนเถียนก็เริ่มรับมือไม่ไหวแล้ว นางถูกวิชาเวทของชายแก่จู่โจมเข้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย พลังปีศาจบนตัวมีแนวโน้มในการสลายไป อีกทั้งชายแก่ยังหยิบยันต์ออกมาจำนวนมากสาดเข้าไปยังอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจหลบได้ สุดท้ายยังหยิบขนมของอาจารย์ปู่ออกมาอีกด้วย
“ชายแก่ ท่านเก็บไว้บ้าง!” อวิ๋นเจี่ยวปากกระตุก ยับยั้งการกระทำสิ้นเปลืองของชายแก่ ขนมบนมือของนางก็มีไม่มากแล้ว ไม่อาจสิ้นเปลืองได้
ชายแก่ที่กำลังสนุกเก็บขนมลงไปด้วยสีหน้าเสียดาย สายตาของเย่เจียนเถียนมืดลง อาศัยช่วงจังหวะที่ชายแก่ใจลอย กลายร่างเป็นแสงสีดำพุ่งตัวตรงไปยังอวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านหลังพร้อมอาวุธที่อยู่ในมือ
“เอ๊ะ เจ้า…” ชายแก่ยังไม่ทันเอ่ยห้าม เย่เจียนเถียนก็มาถึงตรงหน้าของอวิ๋นเจี่ยวแล้ว ในขณะที่จะลักลอบทำร้ายสำเร็จ
ทันใดนั้น…
เสียงฟ้าร้องดังขึ้น สายฟ้าสีแดงขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมากระทบเข้ากับร่างกายของนางจนกลายเป็นสีดำไหม้เกรียม พร้อมกับหลุมลึกกว่าครึ่งเมตรบนพื้น
พลังปีศาจของเย่เจียนเถียนที่ถูกชายแก่โจมตีจนสลายไปเกือบจะหมดนั้นก็หมดไปทันที
ชายแก่วิ่งเข้ามา ถอนหายใจใส่คนที่ส่งกลิ่นไหม้ในหลุม ก่อนจะพูดประโยคที่ยังพูดไม่จบ “เจ้าไม่น่าเลย วิชาเวทของข้าล้วนมาจากเจ้าหนู” ลักลอบทำร้ายก็แล้วไป ยังเลือกเป้าหมายรูปแบบนรกอีก ปีศาจล้วนตาไม่ดีเช่นนี้หรือ
เย่เจียนเถียนนอนอยู่ก้นหลุมราวกับปลาตาย ถูกฟ้าผ่าจนหมดเรี่ยวแรงที่จะคลานออกมา ดวงตาคู่หนึ่งถลึงใส่ชายแก่ที่ยืนอยู่ริมหลุม ภายในสายตาเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้ ราวกับอยากจะโยนคำด่าที่มีอยู่เต็มอกใส่หน้าชายแก่ เจ้าไม่พูดตั้งแต่แรก!
“พูดมา เหตุใดเจ้าจึงคิดว่าบนตัวพวกข้ามีอาวุธวิเศษ” อวิ๋นเจี่ยวก้มหน้าถามคนที่อยู่ก้นหลุม
คิ้วบนใบหน้าที่ไหม้เกรียมของเย่เจียนเถียนขมวดมุ่น แต่ไม่มีทีท่าจะตอบรับ
“เจ้ารู้จักเซินยวนนี้มากแค่ไหน”
นางส่งเสียงเย็นในลำคอ ก่อนจะหันหน้าหนีอย่างไม่ให้ความร่วมมือ
“ไม่พูดก็ช่างเถิด!” อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ต้องการคำตอบก่อนจะหันไปพูดกับไป๋อวี้ “ชายแก่ ลงมือ!”
“ได้!” ชายแก่ยกดาบในมือขึ้น
“เดี๋ยว!” เมื่อเห็นพวกเขาไม่ถามต่อ ภายในดวงตาของเย่เจียนเถียนฉายแววหวาดกลัว รีบพูดปรามขึ้น “ข้าพูด! ข้าจะบอกพวกเจ้าทุกอย่างที่ข้ารู้ แต่ว่า…พวกเจ้าต้องรับปากข้า ให้โอกาสข้าลงมือจัดการกับจี้ซือหย่า พวกเจ้าลงคำสาปอายุขัยกับข้า แค่เพียงเดือนเดียวก็พอ หลังจากหนึ่งเดือน คำสาปอายุขัยสัมฤทธิผล ข้าก็จะตายอยู่ดี”
“…”
ความแค้นที่นางมีต่อชู้ช่างลึกซึ้งเสียจริง หรือว่านี่คือสิ่งที่อยู่ในตำนาน การประลองพ่ายแพ้ได้ แต่ชู้ต้องตาย?
“ได้ ข้ารับปากเจ้า” เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว การกระทำนี้ไม่มีผลเสียอะไรต่อพวกเขา อีกทั้งยังได้รับข่าวคราวของเซินยวนอีก “พูดเถิด!”
“ไม่ได้ พวกเจ้าต้องสาบานว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน” เย่เจียนเถียนมองเขาอย่างไม่เชื่อใจ ครุ่นคิดก่อนจะพูดเสริมขึ้น “สาบานต่อเทพปีศาจ!”
“…” เทพปีศาจคืออะไรกัน
“ไม่ใช่! เทพปีศาจไม่มีผลต่อพวกเจ้า…” พวกเขายังไม่ทันเอ่ยปาก นางก็รีบพูดแย้งขึ้นมาก่อน “พวกเจ้าเป็นเซียน เช่นนั้นก็…สาบานต่อราชาเทพ ใช่ สาบานต่อราชาเทพพวกเจ้าถึงไม่หลอกข้า!”
“พูดให้ถูกพวกข้าเป็นมนุษย์!” อวิ๋นเจี่ยวพูดขึ้น ราชาเทพก็ไม่มีประโยชน์
“ฮะ? มนุษย์!” เย่เจียนเถียนงุนงงอย่างมาก สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ บนใบหน้าปรากฏความฉงน ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ “เช่นนั้น…พวกเจ้ามีราชามนุษย์หรือไม่”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ชายแก่ “…”
ปีศาจตรงหน้านี้สมองมีแต่น้ำหรือ
อวิ๋นเจี่ยวปากกระตุก ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เจ้าไม่มีทางเลือก ไม่พูดก็ตายตอนนี้!”
ใบหน้าที่ไหม้เกรียมของเย่เจียนเถียนยู่ลง ก่อนจะหลับตาไปสักพัก จากนั้นพูดออกมาอย่างจำยอม “สิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับเซินยวนมีไม่มาก...หรือควรจะพูดว่าสิ่งที่ดินแดนปีศาจรู้ล้วนมีจำกัด เมื่อเทียบกับปีศาจอื่น ข้าก็รู้เพียงสิ่งที่เหล่าปีศาจที่รอดกลับมาบอกเท่านั้น ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำลับอันใด แต่เป็นดินแดนอีกแห่งหนึ่ง เป็นดินแดนอิสระที่อยู่นอกเหนือจากดินแดนทั้งหมด”
“อีกดินแดน!” ชายแก่อุทานออกมา ที่นี่คืออีกดินแดนหนึ่ง!
เย่เจียนเถียนพยักหน้า ก่อนจะพูด “ที่นี่ไร้เขตแดน ไม่มีใครรู้ว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน ชั้นบนสุดก็เปล่าเปลี่ยวเหมือนเช่นตรงนี้ แม้แต่แสงก็ไม่มี”
“ชั้นบนสุด?” อวิ๋นเจี่ยวจับคำสำคัญได้
“ใช่!” เย่เจียนเถียนไม่ได้ปิดบัง “โลกนี้มีการแบ่งชั้น บริเวณที่พวกเราเข้ามาเป็นเพียงชั้นที่หนึ่ง บริเวณนี้มีพลังปีศาจที่เข้มข้นกว่าด้านนอกสิบเท่า แต่มีเพียงความว่างเปล่า หากโชคดีอาจสามารถพบกับค่ายกลที่ขนส่งไปยังด้านล่าง ที่นั่นเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างแท้จริง มีสิ่งที่หน้าหวาดกลัวเกินจะคาดการณ์ถึง สิ่งเหล่านั้นแปลกประหลาดอย่างมาก พวกเขามีพลังที่พวกข้าไม่อาจเข้าใจได้ เป็นความสามารถที่แตกต่างจากดินแดนสวรรค์ ยมโลกหรือดินแดนมนุษย์ ปีศาจที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางรับมือได้!”
“ด้านล่างมีลักษณะเป็นอย่างไร มีสิ่งที่น่ากลัวแบบไหน” ชายแก่ถาม
“ข้าก็ไม่แน่ใจ” นางยิ่งพูดคิ้วยิ่งขมวด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดต่อ “ปีศาจที่รอดกลับมาได้ล้วนพูดไม่เหมือนกัน เจ้าเมืองเหล่านั้นคิดว่าอาจเป็นเพราะดินแดนชั้นล่างกว้างกว่าดินแดนชั้นบน ดังนั้นพวกเขาจึงถูกส่งไปยังสถานที่ที่แตกต่างกัน แต่…ข้าไม่คิดเช่นนั้น” ใบหน้าของนางปรากฏความลังเล
อวิ๋นเจี่ยวถามออกมา “อย่างไร”