ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 80.1 หยวนเจ๋อกล่าว “ข้าจะทำให้เรื่องนี้สำเร็จ!” (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 80.1 หยวนเจ๋อกล่าว “ข้าจะทำให้เรื่องนี้สำเร็จ!” (1)
“อา-”
“สุดยอด!”
จิ่วจิ่วที่เพิ่งดื่มสุรา กำลังนอนอยู่บนโต๊ะเตี้ย ใบหน้าของนางแดงก่ำ ขณะถือไหสุราเปล่าเอาไว้ในมือของนางแล้วถอนหายใจด้วยความสบายใจและพึงพอใจสองครั้ง
ที่ข้างๆ นั้น หลิงเอ๋อร์กำลังรู้สึกมึนงงจนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันทีขณะที่เกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอาจารย์อา ท่านติดสุรามากเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“เหอะๆๆ” จิ่วจิ่วถอนหายใจเบาๆ “มันเป็นนิสัยและความสนใจของข้า มันเป็นของดี ข้าทิ้งมันไปไม่ได้! หากทิ้งมันไป ข้าก็ไร้เรี่ยวแรง!”
“หลิงเอ๋อร์น้อย ข้าไม่ได้พบเจ้ามาสองสามปีแล้ว เจ้าดูสวยขึ้นอีกครั้งแล้ว ไหน มาให้ข้าดูหน่อยสิ!”
“ท่านอาจารย์อา ค่ายกลก็พังแล้ว ท่านอย่าก่อปัญหาอีกเลย…”
หลิงเอ๋อร์ฝืนยิ้มแหยและหลบเบาๆ และจิ่วจิ่วที่เมาเล็กน้อยก็ไม่ได้บังคับนาง นางเพียงแค่บีบใบหน้าของหลิงเอ๋อร์แล้วเอนหลังลงไป
นาง มันเหนื่อยเกินกว่าจะนั่ง จึงนอนลงสบายๆ ดีกว่า
“หลิงเอ๋อร์ ศิษย์พี่ของเจ้ากำลังไปทำอะไรที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์”
“เขาน่าจะไปที่หอพระสูตรเต๋า ไม่นานก็กลับเจ้าค่ะ”
“อ้อ หอพระสูตรเต๋า…”
หลิงเอ๋อร์รวบกระโปรงของนางพลางคุกเข่าลงนั่งข้างๆ อย่างสง่างามขณะเตรียมเซียนเมามายไหใหม่ให้กับจิ่วจิ่ว
โชคดีที่ศิษย์พี่ทิ้งโอสถไว้กับข้า…แค่กๆ ข้าหมายถึงสุรา ไม่อย่างนั้น สถานการณ์ในยามนี้ ข้าก็กลัวจริงๆ ว่าท่านอาจารย์อาจะคลั่งไปแล้ว
“ขอบใจนะ หลิงเอ๋อร์น้อย!”
“เหอะๆ คนของยอดเขาหยกน้อย ใจดี พูดจาไพเราะเพราะพริ้ง และให้สุราข้าดื่ม ข้าชอบที่นี่มากจริงๆ”
จิ่วจิ่วพึมพำต่อ “เมื่อต้องฝึกบำเพ็ญ เต๋าของทุกคนล้วนแตกต่างกัน เต๋าของเราคือสุรา ใช่หรือไม่”
หลิงเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “แน่นอนเจ้าค่ะ”
จิ่วจิ่วยกไหสุราแล้วเทเหล้าที่เหลือเข้าปากสองครั้ง แล้วเลียริมฝีปากของนาง
เมื่อกี้นางดื่มเร็วไปหน่อย ในเวลานี้ จึงเริ่มง่วงมากขึ้น
“หลิงเอ๋อร์น้อย ขอยืมเตียงหน่อยนะ…”
และก่อนที่นางจะทันกล่าวออกไป จิ่วจิ่วก็อุ้มน้ำเต้าไปที่เตียงแล้ว และพลิกตัวนอนลงก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว และเริ่มกรนหลังจากนั้น
หลิงเอ๋อร์ยิ้มแหย แล้วทำความสะอาดถ้วยและจานบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง นางตะลึงไปกับ ‘บาป’ ของจิ่วจิ่ว…
สุดท้าย นางก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วนำเบาะไปนั่งทำสมาธิที่หน้ากระท่อมมุงจาก
ขณะนี้ ค่ายกลด้านนอกบ้านถูกอาจารย์อาจิ่วจิ่วทำลายไปแล้ว
และเมื่ออาจารย์อาจิ่วจิ่วเมาและนอนหลับไป นางก็สามารถโยนเสื้อผ้าและชุดชั้นในส่วนตัวของนางทิ้งไปรอบๆ ได้อย่างอัศจรรย์…
หลิงเอ๋อร์จึงต้องจับตาดูที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นนางในสภาพนี้หรือเอาเปรียบนาง
จากนั้นหลิงเอ๋อร์ก็นั่งเข้าฌานหยั่งรู้บางอย่างและพยายามเข้าสู่เฉิงเต๋า
อย่างไรก็ตาม นางกำลังคิดถึงเรื่องของศิษย์พี่ หลี่ฉางโซ่ว
หลิงเอ๋อร์ฟุ้งซ่านอย่างรวดเร็วและเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น สตรีในแบบที่ศิษย์พี่ของนางชมชอบ
แต่คราวนี้หลิงเอ๋อร์คิดผิด…
หลี่ฉางโซ่วไปที่หอพระสูตรเต๋าเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้วก็ยังไม่กลับมา
หลังจากที่จิ่วจิ่วตื่นขึ้นมา นางก็เล่นการจำลองวิถีเซียนกับหลิงเอ๋อร์ไปจนถึงการแต่งกายให้ตุ๊กตาหุ่นเชิดกับหลิงเอ๋อร์ และไปจนถึงการแต่งกายให้คนจริงๆ
แล้วในที่สุด หลังจากที่ดื่มสุราและอาหารทั้งหมดที่หลิงเอ๋อร์น้อยทำแล้ว จิ่วจิ่วก็เบื่ออีกครั้ง…
หลังจากรอมาครึ่งเดือน นางต้องการหาหลี่ฉางโซ่วเพื่ออวดฐานพลังของนางและเอาสุรามาดื่มสักหน่อย และในที่สุดนางก็อดจะยืนขึ้นไม่ได้!
“เจ้าคนผู้นี้ไปหอพระสูตรเต๋านานมาก!”
“ข้าจะไปหาเขาที่หอพระสูตรเต๋า!”
“เอ่อ อาจารย์อา…”
ทว่าก่อนที่หลิงเอ๋อร์จะพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมนาง จิ่วจิ่วก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ ก่อนจะนั่งคร่อมที่ด้านหน้าน้ำเต้าใหญ่ แล้วพุ่งไปที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์ด้วยความโกรธ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อไปถึงห้องโถงด้านนอกของหอพระสูตรเต๋า จิ่วจิ่วก็วนไปรอบๆ สองครั้ง แต่ก็ยังไม่พบหลี่ฉางโซ่ว
จากนั้นนางก็แผ่สัมผัสเซียนรับรู้ออกไปตรวจจับทั่วสถานที่ แต่ก็ไม่อาจสัมผัสลมปราณของหลี่ฉางโซ่วได้เลย
หรือเขาไปที่อื่นแล้ว
จิ่วจิ่วไปที่ประตูของห้องโถงชั้นในพร้อมกับสะพายน้ำเต้าใหญ่ไว้บนหลังของนาง ย่องขึ้นและแอบย่องเข้าไปใกล้ผู้อาวุโสฉีหลิง และทันใดนั้นก็ร้องตะโกนว่า “ท่านผู้อาวุโส!”
ผู้อาวุโสฉีหลิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แต่เมื่อเห็นจิ่วจิ่วแล้ว เขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นและเผยรอยยิ้มออกมา
“เสี่ยวจิ่ว เจ้ากำลังหาอะไรหรือ ข้าจะไปเอามันมาให้เจ้าเอง ”
“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นศิษย์ที่อยู่ขอบเขตคืนกลับอนัตตาหรือไม่ เขามีนามว่า หลี่ฉางโซ่ว เป็นศิษย์ของยอดเขาหยกน้อย เขาอาจจะ…สูงขนาดนี้!”
จิ่วจิ่วยกแขนพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นเพื่อแสดงขนาดความสูงของหลี่ฉางโซ่ว
“เขาดูค่อนข้างสะอาดเรียบร้อย แต่ร้ายกาจมาก เขามักจะใช้สุราชั้นดีเพื่อข่มขู่อาจารย์อาน้อยผู้น่ารักและใจดีของเขา และทำให้อาจารย์อาน้อยอย่างข้าต้องมาตามหา!”
ผู้อาวุโสฉีหลิงครุ่นคิดอย่างรอบคอบ และในไม่ช้าก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เขาอยู่โถงชั้นใน”
จิ่วจิ่วตกใจ “เหตุใดท่านถึงปล่อยให้เขาเข้าไปที่โถงชั้นในล่ะ”
“ดูเหมือนว่าเขาจะเอากระบี่ที่ใช้อนุญาตเข้าออก…”
ฉีหลิงพึมพำและกำลังจะกล่าวต่อ แต่ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักได้ว่า จิ่วจิ่วไม่ได้อยู่ข้างๆ เขาอีกต่อไปแล้ว
ในขณะนั้น จิ่วจิ่วก็ได้ผลักเปิดประตูเข้าไปที่ห้องโถงชั้นในแล้ว นางโน้มร่างแล้วกวาดตามองเข้าไปด้านใน แต่ไม่พบร่างของหลี่ฉางโซ่ว
“หือ? เขาไม่อยู่ที่นี่แล้วหรือ”
จิ่วจิ่วแผ่สัมผัสเซียนรับรู้และค้นหาที่นี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุด ในมุมที่ไม่เด่นนั้น จิ่วจิ่วก็เห็นหลี่ฉางโซ่วที่กำลังพิงกำแพงและอ่านม้วนตำราหยก…
เจ้าคนผู้นี้ที่ซ่อนตัวได้ลึกมาก อ๋า…เขากำลังดูภาพวังวสันต์[1]อยู่หรือไม่
แล้วจู่ๆ จิ่วจิ่วก็พลันหรี่ตาลงและยิ้มกริ่มขณะที่ความคิดน่ากลัวพลันผุดขึ้นมาในใจของนาง
“ท่านผู้อาวุโส ข้าจะเข้าไปนะ”
“ไปเถิด ไปเถิด”
ผู้อาวุโสฉีหลิงโบกมือโดยไม่หันหลังกลับไปมองและทำสมาธิต่อไปพลางหลับตาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ยังคงอยู่ของเขา
จิ่วจิ่วเขย่งเท้าย่องเข้าไปในโถงชั้นใน และแอบใต้ชั้นวางตำราและชั้นวางของจิปาถะต่างๆ ก่อนจะแอบย่องเข้าไปใกล้หลี่ฉางโซ่วที่อยู่ตรงมุมห้อง
นอกจากนี้ยังมีร่างบางร่างอยู่ในโถงชั้นใน พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นเซียนเสิ่นในสำนัก บางคนกำลังอ่านตำราโบราณหรือนั่งสมาธิอยู่ตามมุมต่างๆ ของห้อง
ขนาดของโถงชั้นในนั้นเล็กกว่าขนาดของโถงชั้นนอกมาก
แต่หากเพียงแค่คัดลอกสำเนาของตำราโบราณเล่มใดเล่มหนึ่งในที่นี่ ก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับวัสดุล้ำค่าและสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากในเมืองได้
นอกจากพระสูตรนิรกรรมและคาถาระดับสูงแล้ว ยังสามารถพบสมบัติส่วนตัวของปรมาจารย์ผู้นำยอดเขาและผู้อาวุโสต่างๆ ในสำนักตู้เซียนได้ที่นี่อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น หลี่ฉางโซ่วกำลังอ่านตำราต้องห้ามเทียนฝาน ที่มีกฎห้ามของนักหลอมขั้นสูงมากมายที่บันทึกเอาไว้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการหลอมสมบัติเซียนและอาวุธขั้นสูงได้
แน่นอนว่า นักหลอมต้องมีทักษะยอดเยี่ยมและมีวัสดุคุณภาพสูง
ม้วนตำราหยกนี้ก็เป็นสมบัติเวทเช่นกัน มันเปล่งแสงเข้มข้นหนาแน่นและรับประกันได้ว่าเนื้อหาที่แกะสลักไว้จะไม่สึกกร่อนและเสียหายเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี
จิ่วจิ่วเลียริมฝีปากขณะซ่อนอยู่หลังชั้นตำรา ในใจของนางสามารถจินตนาการถึงภาพของหลี่ฉางโซ่วที่ตระหนกตกใจกลัวนาง
มันสายเกินไป!
และด้วยฝีเท้าพลังตัวเบาชั้นเยี่ยม จิ่วจิ่วก็ย่องอย่างว่องไว ก่อนจะยกแขนขึ้นและทำหน้าตาน่ากลัว แล้วแผ่พุ่งลมปราณของนางออกมาทันทีหลังจากนั้น!
“อ่า!”
ทว่า…
ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ยกมือซ้ายขึ้นและสะบัดนิ้ว แล้วเม็ดโอสถสีฟ้าอ่อนก็พุ่งเข้าไปในปากของจิ่วจิ่วอย่างแม่นยำ
“หือ?”
จิ่วจิ่วพลันหยุดร่างของนางอยู่ตรงหน้าของหลี่ฉางโซ่วกะทันหัน แล้วเอียงศีรษะเล็กน้อยขณะเคี้ยวโอสถเม็ดนั้น
จิ่วจิ่วทำเสียงเคี้ยวจั้บๆ ขณะที่กลิ่นหอมของสุรายังอบอวลอยู่ในใจของนาง และของเหลวหวานๆ หนึ่งคำก็ไหลลงคอของนางไป ขณะที่นางกำลังทำเช่นนั้น พลังวิญญาณก็ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของนาง…
ในเวลานั้น ความรู้สึกที่ทำให้มึนเมาเล็กน้อยและสบายใจทำให้จิ่วจิ่วส่งเสียงเพลงงึมงำเบาๆ ในขณะที่ใบหน้าของนางแดงขึ้นเล็กน้อย
“โอ้…อร่อย! มันคืออะไรนี่!”
“ชู่ว!”
หลี่ฉางโซ่วทำท่าทางให้นางเงียบขณะวางม้วนตำราหยกลง แล้วมองดูอาจารย์อาน้อยที่หายสาบสูญไปนานต่อหน้าเขา เขาอยากจะ…ยกมือขึ้นแล้วลูบศีรษะของนาง
แค่กๆ แย่หน่อย นางเป็นผู้อาวุโสของเขา เขาจึงทำไม่ได้
ในที่สุด อาจารย์อาน้อยก็ออกมาจากการปิดด่านแล้ว
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “นั่นคือโอสถสุราวิญญาณ ซึ่งกลั่นโดยใช้สมุนไพรวิญญาณสิบสองรสชาติและแก่นสุราบริสุทธิ์ ผลที่ได้คือเติมเต็มพลังต้นกำเนิดของคนคนหนึ่ง มันมีรสชาติดีจริงๆ”
มือเล็กๆ ของจิ่วจิ่วเหยียดออกทันทีขณะที่มองไปยังมุมอื่นๆ ของโถงชั้นในราวกับเป็นขโมย และเมื่อพบว่าไม่มีใครมองมาที่นี่ นางก็กระซิบว่า “ขอเพิ่มอีกหน่อยสิ!”
นางยังห่วงใบหน้าด้วย?
นางยังเขินอายเล็กน้อยที่ถูกศิษย์หลานของนางเลี้ยงอาหาร
หลี่ฉางโซ่วหยิบถุงเก็บสมบัติออกมาและพูดว่า “ในนี้มีหกสิบเม็ด ถือว่าเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับท่านอาจารย์อาที่ออกมาจากการปิดด่านแล้วกันขอรับ”
“เจ้ายังรู้ดีว่าควรทำสิ่งใด!”
จิ่วจิ่วตบแขนของ หลี่ฉางโซ่วด้วยความพึงพอใจก่อนจะหยิบคว้าถุงเก็บสมบัติและหยิบขวดกระเบื้องซึ่งถูกลงอาคมเช่นกันออกมา
[1] ภาพวังวสันต์ รูปภาพที่มีลักษณะลามกอนาจาร