ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 516 ฉางเกิงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเทพขั้นสามในงานเลี้ยงผลท้อเซียน และการรับมังกรทั้งสี่คาบสมุท
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 516 ฉางเกิงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเทพขั้นสามในงานเลี้ยงผลท้อเซียน และการรับมังกรทั้งสี่คาบสมุท
ตอนที่ 516 ฉางเกิงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเทพขั้นสามในงานเลี้ยงผลท้อเซียน และการรับมังกรทั้งสี่คาบสมุทร! (3)
จ้าวกงหมิงซึ่งอยู่ที่ข้างๆ อดจะลูบเคราและหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้ เขารู้สึกว่า ช่างน่าสนใจริงๆ ที่พวกเขาสองคน องค์จักรพรรดิและขุนนางของเขากำลังร้องเพลงเดียวกัน[1]
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เดินออกจากโต๊ะเตี้ย แล้วโค้งคำนับให้องค์เง็กเซียนก่อนจะหันไปโค้งคำนับให้ราชามังกรทั้งสี่คาบสมุทร จากนั้นเขาก็ยืนตรงขึ้นพร้อมกับหนวดเคราและเส้นผมของเขาที่พลิ้วไหวเบาๆ
“เทพน้อยได้รับความไว้วางใจจากพระองค์ และได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญ รับหน้าที่เป็นเทพแห่งท้องทะเลทั้งสี่ ทว่าทั้งสี่คาบสมุทรก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเผ่ามังกรแห่งสี่คาบสมุทรอยู่แล้ว มังกร ทะเล สิ่งมีชีวิตในทะเลและแม้แต่สัตว์ประหลาดต่างก็ยอมจำนนต่อราชามังกรทั้งสี่นี้
เผ่ามังกร เผ่าทะเล สิ่งมีชีวิตในทะเล และแม้แต่ปีศาจต่างก็เชื่อฟังราชามังกรทั้งสี่นี้ หลังจากที่เทพน้อยได้เข้ารับตำแหน่งแล้ว ราชามังกรทั้งสี่คาบสมุทรก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเทพน้อยปกครองดูแลทั้งสี่คาบสมุทร จนบัดนี้ ทั่วทั้งสี่คาบสมุทรก็สงบสุขปลอดภัยดี ทว่าเทพน้อยก็รู้สึกละอายใจนัก”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและโค้งคำนับให้องค์เง็กเซียนอย่างสุดซึ้ง
“วันนี้ เทพน้อยจะกล้าพอที่จะขอพระราชานุญาติจากฝ่าบาทเพื่อเปลี่ยนพระบัญชาในตำแหน่งเทพของเทพน้อย ให้เป็นตำแหน่งเทพ เทพแห่งท้องทะเลทั้งสี่ทิศ และได้รับตำแหน่งเทพแห่งทะเลทั้งสี่ทิศจากศาลสวรรค์! และขอศาลสวรรค์โปรดรับรองราชามังกรทั้งสี่คาบสมุทรให้เป็นเทพแห่งสี่คาบสมุทร! เทพน้อยยินดีถอย ฝ่าบาท!”
ทันใดนั้น เหล่าลูกหลานเผ่ามังกรและศาลสวรรค์ ล้วนตะลึงงันในขณะที่องค์เง็กเซียนขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ไฉนเจ้าถึงกล่าวเช่นนั้น ฉางเกิง?
ในศาลสวรรค์ มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ถึงความสำเร็จของฉางเกิง? ผู้ใดจะไม่รู้? แล้วจะมีเหตุผลในการสละตำแหน่งนั้นโดยไร้ความผิดได้อย่างไรกัน!?!”
ยามนั้น แม่ทัพตงมู่ก็ยืนขึ้นและรีบเดินไปที่ด้านข้างของหลี่ฉางโซ่วอย่างรวดเร็ว แล้วทำการคารวะเต๋าด้วยความเคารพก่อนจะกล่าว
“ฝ่าบาท! กระหม่อมวอนฝ่าบาท! เทพแห่งท้องทะเลเป็นผู้ควบคุมทั้งสี่คาบสมุทร เขาสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ผ่านการทำงานหนัก!
เขามีส่วนอย่างยิ่งในการวางแผนการ และกลอุบายเพื่อฝ่าบาทมามากมาย คุณงามความดีมีมากล้น! ทั้งยังได้สำรวจตรวจสอบทางน้ำของดินแดนเทวะทักษิณอีกด้วย ทั้งหมดนี้ ล้วนน่าชื่นชมยกย่องยิ่งนัก!
ฝ่าบาท เช่นนั้นแล้ว เหตุใดพระองค์ไม่ทรงแต่งตั้งเทพแห่งท้องทะเลในตำแหน่งเทพใหม่? แล้วจากนั้นก็สามารถทำตามคำขอของเทพแห่งท้องทะเลโดยแบ่งพลังอำนาจปกครองของเทพแห่งท้องทะเลออกเป็นสี่ส่วนได้! ”
องค์เง็กเซียนอดจะปลาบปลื้มใจไม่ได้และกล่าวว่า “ข้าเข้าใจคำขอของแม่ทัพตงมู่ คำขอของเจ้าถูกใจข้านัก! ร่างราชโองการได้!
บัดนี้ ข้าขอแต่งตั้งขุนนางฉางเกิงให้เป็นเทพวารีแห่งศาลสวรรค์ เขาจะเป็นเทพอยู่ในระดับที่สาม เป็นผู้รับผิดชอบกิจการน้ำแห่งสามอาณาจักร!”
และทันทีที่องค์เง็กเซียนกล่าวจบ ลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากหอสมบัติหลิงเซียวแล้วเข้าไปในร่างของหลี่ฉางโซ่วอย่างรวดเร็ว
หลี่ฉางโซ่วพลิกมือซ้ายของเขา ทันใดนั้นตรีศูลเหล็กสีทองเปล่งประกายแวววาวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาถือมันเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นตรีศูลเหล็กก็กลายเป็นลำแสงคืนกลับสู่อาณาจักรสวรรค์
แม่ทัพตงมู่ยิ้มและกล่าวว่า “ฝ่าบาท จะออกพระราชโองการนี้อย่างเป็นทางการได้ภายในยี่สิบปี เป็นเพียงแต่ กระหม่อมไม่รู้ว่า ตามตำแหน่งเทพแห่งทะเลทั้งสี่ของราชามังกรทั้งสี่นั้น หมายถึงอันใด…”
“ข้ามีคำพูด!” ราชามังกรทะเลบูรพายืนขึ้นและเดินไปที่ด้านข้างของหลี่ฉางโซ่วช้าๆ จากนั้นเขาก็ยังโค้งคำนับองค์เง็กเซียน บัดนี้ ราชามังกรเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ
“ข้ามีเรื่องขอร้อง องค์เง็กเซียน!”
“เผ่ามังกรของข้าได้แบกรับกรรมร้าย รับภาระฝังดวงตาแห่งท้องทะเลทั้งสี่คาบสมุทรมาแต่โบราณ และปกครองดูแลทั้งสี่คาบสมุทรมาช้านานแล้ว
ในสมัยโบราณ ศาลปีศาจทรงพลังอำนาจยิ่งและบีบบังคับให้เผ่ามังกรของเรากลายเป็นขุนนางรับใช้ของศาลปีศาจ เผ่ามังกรทั้งหมดจึงล้วนเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง!
ทว่านับตั้งแต่ที่ได้แต่งตั้งตำแหน่งเทพให้เทพแห่งท้องทะเลขึ้นบนชายฝั่งทะเลทักษิณแล้ว เทพแห่งท้องทะเลก็รับพระราชโองการจากพระองค์ ดูแลเผ่าพันธุ์ของเราอย่างเต็มที่
ศาลสวรรค์ได้สร้างพันธมิตรกับเราเพื่อต่อสู้กับกลุ่มกบฏ
ในขณะที่เผ่าของข้ากำลังดิ้นรนอย่างหนัก ศาลสวรรค์ก็คอยให้ความช่วยเหลือ
เทพแห่งท้องทะเลทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้เผ่าพันธุ์ของเราโดยไม่เคยพูดขอสิ่งใดตอบแทนแม้สักคำ แล้วเผ่าพันธุ์ของเราจะกตัญญู ตอบแทนคุณของเขาเพียงพอได้อย่างไร!?!
วันนี้ ข้า อ๋าวกวง ผู้นำแห่งเผ่ามังกร ยินดีที่จะนำเผ่ามังกรทั้งสี่คาบสมุทรยอมจำนนและเข้าสู่ศาลสวรรค์! ข้าจะใช้กฎของศาลสวรรค์เพื่อจำกัดตัวเอง! และเผยพลังยิ่งใหญ่ของศาลสวรรค์ พวกเราจะปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์เง็กเซียน!”
จากนั้นราชามังกรทั้งสามแห่งทะเลประจิม ทะเลอุดรและทะเลทักษิณก็เดินตามหลังอ๋าวกวงมาแล้ว
จากนั้นพวกเขาก็โค้งคำนับและตะโกนว่า “เผ่ามังกรยินดียอมจำนนต่อศาลสวรรค์ พวกเราจะใช้กฎสวรรค์ของศาลสวรรค์เพื่อจำกัดตัวเอง และเผยพลังยิ่งใหญ่ของศาลสวรรค์ พวกเราจะปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์เง็กเซียน!”
“ดี!”
องค์เง็กเซียนยืนขึ้น และแสงสีทองก็ส่องสว่างออกมาจากร่างของเขา แผ่ความยิ่งใหญ่สูงส่งสง่างามแห่งจักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งออกมาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
“ด้วยการสนับสนุนจากเผ่ามังกรในวันนี้ แล้วศาลสวรรค์ยังต้องกังวลว่าจะไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ตอนนี้ เมื่อข้าได้รับถ้อยคำของราชามังกรแล้ว แล้วยังต้องกังวลเรื่องอำนาจของศาลสวรรค์ด้วยเหตุใดเล่า!?!”
ในขณะนั้น บริเวณที่นั่งของวังมังกร อ๋าวอี่เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง แล้วเหล่ามังกรส่วนใหญ่ก็ลุกยืนขึ้นและเดินตามหลังราชามังกรทั้งสี่คาบสมุทรออกมาเพื่อโค้งคำนับให้องค์เง็กเซียน
ทว่าผู้อาวุโสทั้งหกจากสำนักบำเพ็ญประจิมยังคงสำรวมและนิ่งสงบ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวๆ แล้ว ผู้อาวุโสคนหนึ่งจากวังมังกรทะเลประจิมก็ลุกยืนขึ้นพลางขมวดคิ้วและกล่าว
“ฝ่าบาท พวกเราไม่ต้องหารือเรื่องนี้กับผู้อาวุโสใหญ่ที่พิทักษ์ดวงตาแห่งทะเลหรือ? การตัดสินใจง่ายๆ เช่นนี้จะเหมาะสมหรือ? หรือเพียงศาลสวรรค์นี้ก็ถือว่าถูกต้องเรียบร้อย ไม่ต้องทำอะไรแล้ว”
ทันใดนั้น เหล่ามังกรทั้งหมดก็ขมวดคิ้ว บรรดาเทพเซียนทั้งหลายในศาลสวรรค์ก็ลุกขึ้นและจับจ้องไปที่ผู้อาวุโสผู้นั้นในขณะที่ดวงตาของอ๋าวอี่เบิกกว้างยิ่งขึ้น เขาอยากจะทะยานขึ้นไปฉีกทึ้งมังกรจากทะเลประจิมจริงๆ
บัดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์เง็กเซียนค่อยๆ เลือนหายไปทีละน้อย แล้วแสงในดวงตาของเขาก็กำลังฉายแววคุกคาม
“ฝ่าบาท” หลี่ฉางโซ่วยืนขึ้นอีกครั้งอย่างสงบใจและกล่าวว่า “ให้เทพน้อยจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่ ฝ่าบาท”
องค์เง็กเซียนพยักหน้าและนั่งลงบนบัลลังก์ จากนั้นก็กล่าวว่า “ฉางเกิง เช่นนั้น ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการ”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงวางพระทัยให้กระหม่อม”
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หันกลับมา ส่วนราชามังกรทั้งสี่คาบสมุทรและเหล่าปรมาจารย์เผ่ามังกรที่อยู่ข้างหน้าก็หันไปทางด้านข้าง ปล่อยให้หลี่ฉางโซ่วเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสหัวมังกร
ในยามนั้น บรรดาเซียนทั้งหลายแห่งศาลสวรรค์ก็อดจะมีความคิดเช่นนั้นไม่ได้
เกรงว่าจะมีการแสดงดีๆ ให้ชมอีก
จ้าวกงหมิงยิ้มและหรี่ตาในขณะที่นักพรตเต๋าชราทั้งหกแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมก็เริ่มส่งสายตาปะทะอย่างบ้าคลั่ง
ดวงตาของอ๋าวอี่และหลงจี๋พลันเปล่งประกาย หลงจี๋ยังคงรักษากิริยาท่าทีที่ยอดเยี่ยมของนาง นางหยิบแผ่นหยกออกมาและเตรียมพร้อมที่จะบันทึกถ้อยคำของเทพแห่งท้องทะเล
หลี่ฉางโซ่วก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าวพร้อมกับสะบัดแส้หางม้าและมองไปที่ผู้อาวุโสหัวมังกร
“สหายเต๋ามาจากวังมังกรทะเลประจิมใช่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสหัวมังกรคงท่าทีสำรวมและนิ่งสงบ เขาเอามือไพล่หลังแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “ถูกต้อง ไม่รู้ว่าเทพแห่งท้องทะเลมีคำชี้แนะใดให้ข้าหรือไม่?”
หลี่ฉางโซ่วยิ้ม แต่แล้วรอยยิ้มของเขาก็หายไป สีหน้าของเขาเย็นชา และดวงตาของเขาก็ฉายแสงวิบวับ
จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “แม่ทัพสวรรค์อยู่ที่ใด!?! จัดการมังกรตัวนี้ เอามันไปตัดหัวแล้วทำลายวิญญาณที่หอลงทัณฑ์สวรรค์!”
ทันใดนั้น สถานที่จัดงานเลี้ยงผลท้อเซียนพลันเงียบกริบกะทันหันจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มหล่นได้ และหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ แม่ทัพสวรรค์หลายร้อยคนก็รับบัญชา!
………………………………………………………………..
[1] ต่อบท เข้ากันได้ดี หรือรับส่งกันในทำนองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย