ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - ตอนที่ 373 พลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของหลี่ฉางโซ่ว! (1)
- Home
- ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว
- ตอนที่ 373 พลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของหลี่ฉางโซ่ว! (1)
ตอนที่ 373 พลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของหลี่ฉางโซ่ว! (1)
คราวนี้ ข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ
ในขณะนี้ ปี้เซียว และฉยงเซียว ซึ่งมาที่นี่ในวันนี้ เพียงเพื่อชมความสนุกสนาน ต่างก็รู้สึกเหมือนกัน
คราวนี้ พวกนางได้เปิดหูเปิดตา เรียนรู้สิ่งใหม่จริงๆ !
การต้านทานทัณฑ์สวรรค์เป็นการปฏิบัติการพื้นฐานของผู้ฝึกบำเพ็ญ
ความจริงแล้ว เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะใช้พลังเวทและพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อจัดการทัณฑ์สวรรค์
พลังเวท และวิชาเวททุกประเภทก่อนหน้านี้ของหลี่ฉางโซ่วที่น่าตื่นตานัก ซึ่งอย่างมากที่สุด ก็เพียงเรียกได้ว่า “ยอดเยี่ยม” เท่านั้น…
ทว่าในเวลานี้ สถานการณ์ที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าฉยงเซียวและปี้เซียวนั้น…
พวกนางไม่เคยเห็นมาก่อน!
นี่คือ การข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ หรือศึกสู้กับทัณฑ์สวรรค์กันแน่?
เมฆทัณฑ์สวรรค์รูปเจดีย์บนท้องฟ้ากำลังหมุนวนไปอย่าง ‘ช้าๆ’ ในขณะที่ร่างหลายพันได้พุ่งปะทะกันอยู่ใต้เมฆทัณฑ์สวรรค์ มีเสียงโห่ร้องตะโกนกึกก้องดังสะท้านปฐพี และร่างเหล่านั้นก็ระเบิดออกไม่หยุด ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งหรือไม่ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การได้ชมภาพเหตุการณ์นี้ ต้องถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว
ในสายตาของพวกเขา หลี่ฉางโซ่ว ผู้ต้านทานทัณฑ์สวรรค์เบื้องล่าง อยู่ในสภาพที่น่าอนาถ ทว่าร่างของเขายังคงเป็นอิสระ และในขณะนั้น เหล่าตุ๊กตากระดาษก็ยังคงบินออกมาจากแขนเสื้อที่ขาดรุ่งริ่งของเขาอย่างต่อเนื่อง
ตุ๊กตากระดาษเหล่านี้บินขึ้นฟ้าไปสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วกลายร่างเป็นมนุษย์ก่อนจะโปรยถั่วจำนวนหนึ่งจากฟากฟ้า และคอยเติมเต็มทหารถั่วเซียนที่ใช้พลังหมดไปไม่หยุด…
อาจเป็นตุ๊กตากระดาษขึ้นรูปมนุษย์และโปรยถั่วเป็นทหารจากกฎสามสิบหกแห่งเทียนกังของสำนักบำเพ็ญเต๋าหรือไม่?
พลังเวททั้งสองนี้สามารถใช้เช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
คงไม่ใช่ “กฎสามสิบหกแห่งเทียนกัง” ที่นักพรตเต๋าที่ไม่เป็นที่รู้จักสร้างขึ้นด้วยพลังเวทธรรมดาในยามที่เขาเบื่อหน่ายไร้สิ่งใดทำใช่หรือไม่?
ไม่ใช่ว่าเป็นตุ๊กตากระดาษขึ้นรูปมนุษย์คือการตัดกระดาษให้เป็นรูปร่างมนุษย์แล้วเป่าแรงๆ…
ในเวลานั้น สีหน้าของสองพี่น้อง ฉยงเซียวและปี้เซียวเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ พวกนางรู้สึกชื่นชมเล็กน้อย ประหลาดใจเล็กน้อย แปลกใหม่เล็กน้อย และมีแรงกระตุ้นความรู้สึกเล็กน้อย
พวกนางรู้สึกอยากวิพากษ์วิจารณ์เขา และปี้เซียวก็ชื่นชมว่า “น่าสนใจ พลังเวทนี้น่าสนใจจริงๆ”
ฉยงเซียวถามว่า “ศิษย์พี่เสวียนตู ท่านเปลี่ยนพลังเวทเหล่านี้หรือไม่เจ้าคะ?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ส่ายศีรษะและหัวเราะเบาๆ
จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ฉางโซ่วมักมีความคิดแปลกๆ เสมอ และหาได้ยากยิ่งกว่านั้นก็คือ เขายังคิดหาวิธีที่จะทำให้ความคิดเหล่านี้เป็นจริงได้เสมอ ซึ่งนี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ท่านอาจารย์ให้ค่าเขา”
“โอ้ -“
ฉยงเซียวและปี้เซียวรู้แจ้งขึ้นทันที ดวงตาที่สดใสทั้งสองคู่ของพวกนางพลันสาดประกายเจิดจ้า ขณะมองดูร่างของหลี่ฉางโซ่วในระยะไกล
ทหารวิญญาณทัณฑ์สวรรค์ที่พุ่งออกมาจากเจดีย์นั้น ล้วนเป็นเซียนเทียนขั้นกลาง เดิมที มันยากที่ทหารวิญญาณเหล่านี้จะโจมตีพร้อมกัน แต่พวกเขาได้พาพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ผสานรวมกับทัณฑ์สวรรค์ห้ธาตุ ซึ่งจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับหลี่ฉางโซ่วอย่างแน่นอน
แต่ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วสกัดกั้นทหารวิญญาณเหล่านี้ได้หมดสิ้นโดยใช้ทหารถั่วเซียนที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าโปรยออกไป!
และนั่นทำให้หลี่ฉางโซ่วสามารถรับมือได้มากขึ้น
ทหารถั่วเซียนกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดที่หลี่ฉางโซ่วได้ฝึกฝนมาและสามารถปล่อยพลังที่เทียบเท่ากับเซียนเสิ่นได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ทว่าในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วไม่อาจควบคุมทหารถั่วเซียนนับพันได้โดยลำพังเพียงคนเดียว
ดังนั้นถั่วเซียนที่เขาโปรยออกไปในยามนี้จึงเป็นถั่วเซียนโล่ขนาดใหญ่ที่มีผิวหยาบหนา หรือ “พลธนูถั่ว” ที่ฆ่าได้ด้วยการสาดธนูออกไปเพียงครั้งเดียว และพวกเขาจะสลายไปในทันทีหลังจากสาดธนูออกไปสองครั้ง
หลี่ฉางโซ่วออกคำสั่งง่ายๆ ให้ทหารถั่วเซียนเหล่านี้ นั่นคือ ให้สกัดกั้นทหารวิญญาณด้านบนแล้วเลิกกังวลในเรื่องนี้ จากนั้นก็ให้มุ่งไปจัดการรับมือกับทัณฑ์สวรรค์
เขาไม่รู้ว่าเป็นปรมาจารย์เต๋าสวรรค์จงใจออมมือให้เขาก่อนหรือไม่
ทหารวิญญาณทัณฑ์สวรรค์มัวแต่จดจ่อ ต่อสู้อยู่กับบรรดาถั่วเป็นเวลาสามสิบปี พวกเขาไม่แม้แต่จะมองไปที่หลี่ฉางโซ่วซึ่งกำลังข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์…
นอกจากนี้ยังอาจกล่าวได้ว่า เต๋าสวรรค์ได้รับรู้ถึงกลวิธีของหลี่ฉางโซ่วในการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์
เห็นได้ชัดว่า ต้นไม้ทั้งเก่าและใหม่ของยอดเขาหยกน้อยได้สร้างการสนับสนุนให้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์นั้น พวกมันได้ถูกกลุ่มหนึ่งบีบจนตายไป…
เมื่อเผชิญกับสายฟ้าสายที่เจ็ด หลี่ฉางโซ่วก็ปล่อยมืออย่างรวดเร็ว แล้วสะบัดพู่กันพิพากษาจากระยะไกลเพื่อทำลายทหารวิญญาณทีละคน
และก่อนที่ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปดจะมาถึง หลี่ฉางโซ่วก็เรียก ‘ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าสมบัติเพิ่มพลัง’ ทั้งห้าออกมาเพื่อเติมเต็มพลังเซียนของเขา จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น แล้วใส่โอสถวิญญาณห้าแปรเปลี่ยนเข้าปากแล้วกลืนมันทันที
พร้อมกันนั้น เขายังได้จัดการเสื้อคลุมเซียนที่ขาดรุ่งริ่งของเขาให้เรียบร้อย และนับบรรดาตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และถั่วเซียนที่เหลืออยู่ของเขาอีกด้วย…
แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นว่าเมฆทัณฑ์สวรรค์ได้หดตัวลงมากเพียงใด แต่หลี่ฉางโซ่วก็เข้าใจชัดเจนแล้ว
คราวนี้ น่าจะมีเก้าทัณฑ์สวรรค์
พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์อันมหาศาลนี้ จะระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มที่ในครั้งที่เก้า!
และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเกิดทัณฑ์สวรรค์แล้ว ก็คาดว่าคงจะมีสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์อีกหนึ่งหรือสองสายตามมาอีกด้วย…
ดังนั้นเมื่อเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปด หลี่ฉางโซ่วจึงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บแม้จะต้องใช้วิธีการทั้งหมดก็ตาม เขาต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ที่เก้าด้วยสถานะที่ทรงพลังแข็งแกร่งที่สุด!
บัดนี้ โอสถทองคำเก้าแปรเปลี่ยนเม็ดหนึ่งอยู่ในมือแล้ว
หลี่ฉางโซ่วหันศีรษะไปมองไปยังทิศทางที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และเทพธิดาซานเซียวอยู่ และรู้สึกสบายใจมากขึ้น
ในขณะนั้น มีจุดกำเนิดสายฟ้าเปล่งแสงกะพริบวิบวับเหนือเขา มันเป็นจุดกำเนิดสายฟ้าสีม่วงจำนวนร้อยแปดจุดที่กะพริบอย่างต่อเนื่อง
บัดนั้น ภูเขาที่รกร้างแห้งแล้งที่เท้าของหลี่ฉางโซ่วได้หายไปนานแล้ว และกลายเป็นทะเลสาบหินหนืดขนาดใหญ่ขนาดรัศมีหลายสิบลี้ พื้นแผ่นดินผืนใหญ่ได้ถูกผลกระทบของทัณฑ์สวรรค์ทำลายลง …
นั่นคือทัณฑ์สวรรค์ของเขาเอง…
ทันใดนั้น ก็มีเสียงกลองดังสนั่นขึ้นอยู่ด้านบน หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นกองทหารสองกองทัพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บินออกมาจากวังวนเมฆที่กำลังหมุนไปช้าๆ
กองทหารทัพหนึ่งมีรูปร่างแปลกประหลาด ต่างเผ่าพันธุ์กัน และมีลักษณะของวิหคและสัตว์ร้ายต่างๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว
กองทหารอีกกองทัพหนึ่งมีรูปร่างคล้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทว่าได้แผ่พุ่งพลังโลหิตที่แข็งแกร่งออกมาทั่วทั้งร่าง…
เผ่าปีศาจ เผ่าเวท?
ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปดได้เผยทหารวิญญาณทัณฑ์สวรรค์ให้เห็นเป็นสองเผ่า เผ่าเวท และเผ่าปีศาจ เช่นนั้น ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่เก้า อาจเป็นมังกร หงส์ และกิเลนหรือไม่?
มันน่าจะเป็นเช่นนั้นกว่าแปดส่วน
หลี่ฉางโซ่วอดจะกระตุกปากเล็กน้อยไม่ได้เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของทหารวิญญาณ
ไม่แปลกที่ทหารวิญญาณเหล่านี้จะปรากฏตัวก่อนที่ทัณฑ์สวรรค์ห้าธาตุจะปรากฏขึ้น พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นเซียนเทียนขั้นปลาย ซึ่งแต่ละเผ่า มีจำนวนสามร้อยหกสิบห้า!
เห็นได้ชัดว่าทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปดมีไว้เพื่อให้หลี่ฉางโซ่วต่อสู้กับทัณฑ์สวรรค์ตามแบบแผน สายฟ้า น้ำแข็ง ลม ไฟ และหัวใจ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องต่อสู้กับเจ็ดร้อยสามสิบทหารวิญญาณเซียนเทียนขั้นปลายอีกด้วย!
บัดนี้ ผลเต๋าอายุยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว หากเขาสามารถต้านทานมันได้ ก็จะรวมบุปผาสามดอกได้นั่นคือ จิตวิญญาณ ลมปราณ และร่างกายของเขาก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียว แต่หากทำไม่ได้ บุปผาสามดอกก็จะเหี่ยวเฉา และเขาก็จะตาย!
หลี่ฉางโซ่วสูดลมหายใจเบา ๆ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็โผผินออกมาจากมือของเขาทีละตัว จากนั้นก็กลายรูปเป็นร่างต่าง ๆ หลากหลายแล้วโยนถั่วเซียนออกไป
ยกเว้นหลี่ฉางโซ่วแล้ว บัดนี้ ท้องฟ้าก็ค่อยๆ เต็มไปด้วยทหารถั่วทีละน้อย!
ในขณะนั้น ใต้เจดีย์ มีสายฟ้าสีม่วงดำฟาดลงมา และลมสวรรค์สีเขียวครามก็กวาดพัดเข้ามา…
ห่างออกไปร้อยลี้ อวิ๋นเซียว และปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้เปิดใช้งานเครื่องมือเวทและเตรียมพลังเวทของพวกเขาให้พร้อมแล้วรอเวลาที่ดีที่สุดเพื่อลงมือ
แม้แต่ฉยงเซียวและปี้เซียว ซึ่งไม่ค่อยคุ้นเคยกับหลี่ฉางโซ่วเท่าใดนัก ก็ยังเป็นห่วงหลี่ฉางโซ่ว…
ในชั่วพริบตานั้น ร่างของหลี่ฉางโซ่วก็ท่วมท้นไปด้วยสายฟ้าและไฟ
ปราการพลังเซียนรอบกายของเขาสลายไปอย่างรวดเร็ว ทว่าร่างเต๋าของเขาได้เปล่งแสงสีทองบางเบาออกมาแล้ว ซึ่งทานทนต่อพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างมั่นคง!
หนึ่งอึดใจ และตามมาอีกหลายอึดใจ…
หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูปแล้ว พลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยังคงถูกปล่อยออกมาไม่หยุด และแสงสายฟ้าก็ทำให้ท้องฟ้าในรัศมีนับพันลี้ กลายเป็นสีม่วง
ผู้ฝึกบำเพ็ญหลายคนได้ค้นพบมานานแล้วว่า มีคนกำลังข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์อยู่ที่นั่น
อย่างไรก็ตาม ประการแรก พวกเขากลัวว่าจะบังเอิญได้รับบาดเจ็บ ประการที่สอง ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้แผ่กระจายอักขระเต๋าออกมาเล็กน้อย จึงไม่มีผู้ใดหาญกล้ากล้ำกราย
บรรดาเซียนของดินแดนเทวะบูรพาที่ตรวจจับสถานการณ์เช่นนี้ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะมีฐานพลังสูงหรือต่ำเพียงใด พวกเขาทุกคนก็ล้วนสั่นสะท้านด้วยความตื่นกลัวในใจ…
‘เป็นผู้ใดกัน? ผู้ที่กำลังข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์นี้เป็นผู้ใดกัน? ’
ในที่ใดสักแห่งหนึ่งในป่า เสือดำก็มีอาการหงุดหงิดเล็กน้อย มันกระโดดไปมาบนยอดไม้อยู่ตลอดเวลา
นี่เป็นสายฟ้าสายที่แปดแล้ว ผู้ที่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์จะยังยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรกัน? นี่เขาต้องกินเปลือกไม้จริงๆ หรือ?
หรือว่าอาจเป็นผู้ทรงพลังกลับชาติมาเกิดอีกคน?
‘เอ่อ ไฉนถึงมีคำว่าอีกคน…’
เสือดำนิ่งงันไปชั่วขณะหนึ่ง
มันมองดูสถานที่ที่กำลังเกิดทัณฑ์สวรรค์
เขารอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่แปดได้สำเร็จ!
เมื่อพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ค่อยๆ หายไป สายฟ้า น้ำแข็ง ลม และไฟ ก็เริ่มมาบรรจบกัน และกลุ่มทหารวิญญาณ ‘เผ่าเวท-ปีศาจ’ ที่ต่อสู้อยู่บนท้องฟ้าก็กำลังฝ่าทะลวงการปิดล้อมของทหารถั่วเซียน
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วรีบพุ่งออกมาจากทะเลสายฟ้าและไฟอย่างรวดเร็ว เขาก้มศีรษะลงและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้น เขาก็กลืนโอสถวิญญาณสี่ถึงห้าเม็ดที่สาดแสงวิญญาณเข้าไป…ในเวลานี้ เขากินโอสถวิญญาณเพียงอย่างเดียวไปมากกว่าหนึ่งร้อยเม็ดแล้ว
เขาเช็ดมุมปาก แล้วหยิบพู่กันและกระบี่ขึ้นมาก่อนจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
เขาตัดสินใจรีบยุติการต่อสู้ให้รวดเร็ว!
มีเพียงกำจัดทหารวิญญาณเหล่านี้เท่านั้น จึงจะทำให้เขามีเวลาปรับสภาพและต้อนรับทัณฑ์สวรรค์ที่เก้า ซึ่งเป็นทัณฑ์สวรรค์สุดท้ายได้มากขึ้น…
ตูม! ตูม!
เกิดอันใดขึ้น?
หลี่ฉางโซ่วที่กำลังพุ่งเข้าไปในกองทหารวิญญาณ จู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้น แล้วเห็นแสงสีทองระยิบระยับไปทั่วเจดีย์ และจุดกำเนิดสายฟ้าสีม่วง-ทองก็ส่องแสงออกมาทีละจุดด้วยจำนวนทั้งหมดสามร้อยหกสิบห้า ซึ่งเป็นจำนวนวัฏจักรสวรรค์!
ไม่แม้แต่จะให้เวลาข้าได้พักเลยหรือนี่?
หลี่ฉางโซ่วสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะใช้ชีวิตอย่างตระหนี่ เขาใช้พลังเซียนห่อหุ้มโอสถทองคำเก้าแปรเปลี่ยนแล้วใส่ปากทันที
แม้ตอนนี้ เขาจะยังไม่ได้ใช้งาน แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือได้แล้ว หากทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาก็เพียงแค่กัดมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ เท่านั้น
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงมังกรและหงส์ร้องคำรามเหนือศีรษะ และมีลำแสงหลายสิบสายพุ่งออกมาจากส่วนต่างๆ ของหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ แล้วเมฆทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมดนั้น ก็พังทลายลงทันที!
………………………………………………………………..