ศพ - ตอนที่ 506 การต่อสู้ติดพัน
ตอนที่ 506 การต่อสู้ติดพัน
ผมและอาจารย์
จะบอกว่ามันสายไปมันก็ยังเร็วเกินไป ในขณะที่ท่านเทพแห่งสํานักสื่อเย่นั่นกําลังจะลงมือกับ
ปู่หูลิ่วและยายหูชีที่ซ่อนตัวอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ออกมาโจมตีเจ้าผีศาจตนนั้น
เจ้าหมอนั่นทันที
พวกเขากระโดดลงมา พุ่งเข้าใส่เจ้าหมอนั่นจากบนหลังคาชี
ไม่ทัน
ปู่หูลิ่วและยายหูชีต่างเป็นยอดฝีมือของเผ่าจิ้งจอก ร่างกายดุจสายฟ้า พุ่งตรงมาที่หลังของ
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วพริบตา แม้แต่ผมและอาจารย์ ก็ยังตอบสนองกับเหตุการณ์นี้
โจมตีจากทางด้านหลัง เจ้าหมอนั่นก็ยังสังเกตเห็นได้
สังเกตเห็นเพียงเงาคน พุ่งเข้าใส่ปีศาจตนนั้นเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทําให้ใครๆก็คาดไม่ถึงคือ แม้แต่ความเร็วระดับปู่หูลิ่วและยายหูชี ที่พุ่งเข้ามาลอบ
ฝ่ามือหันไปปะทะ
ในเวลานั้น EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq จากนั้นก็ได้ยินเสียงดัง “ตูม” เกลียวคลื่นสีดําาทมิฬพวกนั้นพุ่งตรงเข้าหาร่างปู่หูลิ่วและยายหูชีทันที
นิยาย ศพ ตอนที่ 506 การต่อสู้ติดพันน้อย
เหมือนด้านหลังของเจ้าหมอนั่นมีตาอยู่ไม่มีผิด มันหันไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็พลิก
ปู่หูลิ่วและยายหูชีเองก็ตกใจหน้าถอดสี คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองเร็วขนาดนี้
ปู่หูลิ่วและยายหูชีที่เผชิญหน้ากับเกลียวคลื่นดําทมิฬพวกนั้น ไม่กล้าประมาทและลีลาแม้แต่
สุดท้าย เจ้าเกลียวคลื่นทมิฬพวกนั้นก็พัดผ่านร่างของทั้งสองคน มันพุ่งตรงไปหากระเบื้องบนหลังคาศาลเจ้าทันที
แต่ละคนต่างโค้งตัวท่าแปลกๆกลางอากาศ เพื่อหลบคลื่นพลังนั้นทันทีดาว
เราได้ยินเพียงเสียงดัง “ปัง” กระเบื้องแตกกระจายไปรอบๆทิศ
ตรงบริเวณหลังคา ถูกคลื่นพลังทมิฬพวกนั้นทําลายไปเป็นบริเวณกว้าง ส่วนปู่หูลิ่วและยายหู
ก็ล่วงลงอยู่สองด้าน
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมและอาจารย์ก็อดใจสั่นเล็กน้อยไม่ได้
เรื่องพลังที่ออกจากร่างคงไม่พูดถึงแล้ว หากพัฒนาไปจนถึงขั้นเต๋าจวิ้น ก็จะสามารถดึงพลังออกมาจากร่างเพื่อทําร้ายคนอื่นได้ เพียงแค่เจ้าระยะห่างที่ว่าเป็นอะไรที่มีจํากัดสุดๆ
เช่นสถานการณ์ตรงหน้า การควบคุมพลังโดยตรง ทําให้มันพุ่งขึ้นไปได้ไม่กี่เมตร นี่ก็คือคนมีฝีมือที่หาตัวจับยากกว่าเขาขนาดไหน
แน่นอน หากเทียบผู้แข็งแกร่งคนนี้กลับพวกเราแล้ว
หากมีมู่หลงเหยียนอยู่ เขาก็เป็นได้แค่มือใหม่หัดเดินเท่านั้น เพราะมู่หลงเหยียนทรงพลังยิ่งรอ
และสิ่งที่สําคัญกว่านั้นคือ เมื่อคืนเจ้าปีศาจตนนี้โดนมู่หลงเหยียนเล่นงานจนบาดเจ็บหนักด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส การปลดปล่อยพลังที่รุนแรงเช่นนี้ ทําให้เห็นได้ว่าเขาแข็งแกร่ง
แต่วันนี้ มู่หลงเหยียนไม่ได้อยู่ที่นี่ สถานการณ์ในตอนนี้จึงแตกต่างออกไป
เหมือนที่พวกเราคิดเอาไว้
หลังหลบการโจมตีครั้งนี้เสร็จ ปู่หูลิ่วและยายหูชีก็พุ่งเข้าไปโจมตีเจ้าหมอนั่นอีกครั้ง
เจ้าปีศาจทําหน้าเคร่งขรึม พร้อมพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงเย็นชา “ข้าก็ว่าอยู่ แค่พวกแกสองคนจะกล้ามาหาเรื่องข้าได้ยังไง ที่แท้พวกแกก็ยังมีจิ้งจอกเน่าอีกสองสามตัวคอยช่วย !”
หลังจากพูดจบ ร่างกายของเจ้าหมอนั่นก็เริ่มเปลี่ยนไป ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยว
ผ่านไปไม่นาน เจ้าปีศาจตนนั้นก็กลายร่างเป็นเหมือนที่ปะทะกับมู่หลงเหยียนเมื่อคืน หัวเสือ
เนื่องจากปู่หูลิ่วและยายหูชีไม่ได้แข็งแกร่งเท่ามู่หลงเหยียน ดังนั้นดูเหมือนวันนี้อาจไม่ได้ง่าย
ปู่หูลิ่วพูดอย่างเย็นชา พร้อมกันนั้นเขาก็ยกกรงเล็บตวัดใส่คู่ต่อสู้
ยายหูชีก็ไม่รอช้า รีบเข้าไปโจมตีปีศาจเสือดาวจากอีกทางด้านหนึ่ง
ส่วนหูเหมย เธอตวัดกรงเล็บเข้ามาช่วยทางพวกเรา
เขี้ยวคมกริบ กรงเล็บดุจใบมีดโค้งงอ
“ตัวประหลาดที่ไม่ใช่คนและปีศาจอย่างแก อยู่บนโลกนี้ต่อไปก็พลอยจะเป็นหายนะเปล่าๆ !”
ผ่านไปเพียงแค่ชั่วพริบตา การต่อสู้ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในศาลเจ้า
ปีศาจเสือดาวตนนี้แข็งแกร่งมาก ลงมืออย่างรุนแรง
จนมองไม่ออกเลยสักนิด ว่าเจ้าหมอนี่กําลังบาดเจ็บอยู่
แม้แต่ปู่หูลิ่วและยายหูชีร่วมมือกัน ก็ยังทําได้แค่ต่อสู้อย่างคู่คี่สูสีกับอีกฝ่ายเท่านั้น
แต่เห็นได้ว่า ถ้าเจ้าหมอนี่ได้สู้กับปู่หูลิ่วและยายหูชีด้วยสภาพร่างกายเต็มร้อย ปู่หูลิ่วและยาย ชีคงไม่มีโอกาสชนะแน่
ได้อย่างรวดเร็ว
แม้เจ้าปีศาจเสือกดาวตัวนี้จะร้ายกาจ แต่ลูกสมุนที่เหลืออีกไม่กี่คน กลับไม่อาจเอ่ยชมได้
ในขณะที่ผมกับอาจารย์ต่อสู้กับพวกมัน พวกเรากลับสามารถสังหารอีกฝ่ายตายไปถึงสองคน
ตอนนี้มีหูเหมยเข้ามาร่วมด้วย กําลังรบของพวกเราเลยมีมากกว่าเดิม สาวกปีศาจสํานักสื่อเย่อี
ไม่อาจต้านการโจมตีร่วมกันของพวกเราสามคนได้เลยสักนิดทันที
หลังจากสู้ไปได้ประมาณสิบกระบวนท่า เราก็ล้มไปได้อีกสามคน
ตอนนี้เป็นการสู้สามต่อสาม พวกเราจึงรู้สึกเป็นฝ่ายได้เปรียบกันสุดๆ
สาวกสํานักสื่อเย่ที่เหลืออีกสาม เห็นพวกเราสามคนเข้ามาโจมตีอีกครั้ง สีหน้าของเจ้าพวกนั้น
เลยเปลี่ยนไปทันที แต่ละคนต่างเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา และถอยหลังตามสัญชาตญาณแหลมเรียว
พอหูเหมยเห็นแบบนั้น เธอก็คํารามออกมา มือเท้าติดดิน จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่หนึ่งในนั้น เจ้าสาวกคนนั้นตกใจจนเสียสติ พอเห็นหูเหมยพุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย มันก็ค่อนข้างเลิ่กลั่ก กรีดร้อง “อ้า” ออกมา จากนั้นก็หมุนตัวคิดจะวิ่งหนี
ผลลัพธ์กลับออกมาดีเหลือเกิน เขาวิ่งออกไปไม่ถึงสองก้าว ก็โดนหูเหมยกระโจนทับหลังพร้อมร่างที่ล้มลงกับพื้น
ไม่รอให้เขาได้ทําอะไร จู่ๆหัวหูเหมยก็กลายสภาพเป็นหัวจิ้งจอก พร้อมเผยให้เห็นปากที่
เขี้ยวอันแหลมคม ตรงเข้าไปกัดที่คอของอีกฝ่ายทันที
จากนั้นเธอก็กระฉากอย่างแรง จนเนื้อสดๆชิ้นนึงโดนหูเหมยดึงออกมา
เลือดสดๆไหลนอง แผลเหวอะหวะ สภาพดูโหดร้ายสุดๆ
นี่ก็คือธรรมชาติของเซียนป่า พวกเขามีชีวิตอิสระในหุบเขา ผู้แข็งแกร่งย่อมอยู่รอด กรงเล็บ และคมเขี้ยวก็คืออาวุธของพวกเขา
วิธีสังหารของพวกเขา ก็เหมือนการใช้ดาบหรือยันต์สังหารศัตรูเหมือนพวกเรา
สาวกที่โดนฉีกกระฉาก กรีดร้องออกมาสองสามครั้ง หลังจากดิ้นทุรนทุรายไปมาไม่กี่ครั้ง ในที่สุดเขาก็หมดลมหายใจ
พอที่เหลืออีกสองคนเห็นแบบนั้น ก็ตกใจจนหน้าถอดสีนานแล้ว
ผู้นําาของตัวเองก็โดนโจมตีอยู่ ไม่มีทางมาช่วยพวกเขาได้แน่นอน
ถ้าพวกเขายังสู้กับพวกเราต่อไป ก็มีแต่จะตายอยู่ที่นี่เท่านั้น
พอคิดได้แบบนี้ สาวกคนนึงก็ตะโกนออกมาในทันที “หนีเร็ว !”
หลังจากพูดจบ เขาก็ขยับเท้าคิดจะวิ่งหนี ส่วนสาวกอีกคนหนึ่งก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตัวเองก็รีบวิ่งตามไปทันที
พอเห็นแบบนั้น ผมและอาจารย์ก็เค้นเสียงดัง ฮึ เราจะปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ง่ายๆแบบนี้
ฝ่ายเอาไว้
อีกอย่าง EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq !
ผมและอาจารย์ไม่ลังเลเลยสักนิด รีบพุ่งออกไปทันที หูเหมยวิ่งสี่ขา ไปขวางด้านหน้าของอีก
พอสาวกทั้งสองเห็นไม่มีทางหนีแล้ว ก็ดูหวาดกลัวกันสุดๆ หน้าซีดขาวอย่างกับอะไรดี
ไม่รอให้ทั้งสองคนคิดออกว่าจะทําอะไรต่อ ผมและอาจารย์ก็เข้าไปอยู่ในรัศมีสังหารแล้ว ทันใดนั้นพวกเราก็แยกย้ายลงมือกันทันที
สาวกทั้งสองคนเห็นพวกเราถือดาบเข้าไป จึงยกกรงเล็บขึ้นกันตามสัญชาตญาณ
แต่ระดับพลังอย่างพวกเขา จะต้านผมกับอาจารย์ได้งั้นเหรอ
“ปังๆ” EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ยังไม่รอให้ทั้งสองคนได้ลุกขึ้น
หูเหมยก็เข้าไปทับตัวของสาวกคนนึงเอาไว้
ส่วนสาวกอีกคนคิดจะวิ่งหนี แต่เขาเพิ่งลุกขึ้นมาได้ ก็โดนผมถีบเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย !” สาวกคนนั้นกรีดร้อง ขณะเดียวกันก็ล้มกันกระแทกทันที ต่อจากนั้นผมก็เอาดาบชี้ไปที่คอของอีกฝ่าย