ศพ - ตอนที่ 466 ตายคู่
ตอนที่ 466 ตายคู่
จู่ๆก็มีหนอนโผล่ออกมาจากศพฉากนี้เป็นอะไรที่แปลกมาก
คุณโจวเองก็ตกใจตอนแรกเธอยังไล่ตีหนอนพวกนั้นอยู่
ผลลัพธ์พวกมันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆผ่านไปไม่นานบนร่างของคุณหวง ก็เต็มไปด้วยหนอน
ฉากนี้ทําให้คุณโจวตกใจจนทําอะไรไม่ถูก ส่วนพวกเราก็ดึงตัวคุณโจวออกมาทางด้านหนึ่งป้องกันไม่ให้เธอเข้าไปแตะหนอนกินเนื้อศพพิเศษพวกนี้
ในเวลาเดียวกัน คุณโจวก็ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ส่วนพวกเรา ก็เลือกเล่าเรื่องบางอย่างตอนคุณหวงยังมีชีวิตให้คุณโจวฟัง
สําหรับเรื่องที่สามีเธอมีเนื้องอก แต่ก็ทําเพื่อพวกเธอ และได้เข้าร่วมกับสํานักเฉินที่ทําให้คนกลายเป็นปีศาจด้วยความเต็มใจช่วยคนเลวทําชั่ว พวกเราไม่ได้พูดออกมา
เพียงเล่าสั้นๆเท่านั้น เราบอกคุณหวงโดนวิญญาณปีศาจสิงร่าง ดังนั้นถึงได้เปลี่ยนเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจแบบนี้
ตอนนี้ปีศาจโดนพวกเรากําจัดไปแล้วแต่โชคไม่ดีระหว่างนั้น ดันเกิดอุบัติเหตุขึ้น
เป็นเพราะร่างกายของคุณหวงเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจจนไม่อาจเปลี่ยนได้แล้ว และรวมกับสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนอื่นๆ ทําให้หลังตายแล้วเลยมีหนอนออกมาเร็วกว่าปกติ หลังจากนั้นเลือดและเนื้อของเขาก็จะโดน
ดูดกลืมจนหมด
ถึงจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตํารวจ มันก็ไม่ได้มีประโยชน์ขึ้นมา
อีกอย่างหากตํารวจมาถึงแล้ว ที่นี่ก็เหลือแต่เพียงเศษซากกระดูกเท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ มันก็จะพลอยแต่เป็นการหาเรื่องให้ตัวเองเท่านั้น
พอคุณโจวฟังถึงตรงนี้ เธอก็หันไปมองสามีตัวเองที่กลายเป็นไม่ใช่ทั้งคนและปีศาจอีกครั้งบนตัวเขายังมีหนอนคืบคลานอยู่เต็มไปหมด เธอเลยได้แต่กอดลูกทั้งสองแล้วร้องไห้เงียบๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา
ผมกับอาจารย์ก็ไม่ได้จากไปไหนเรายังอยู่ช่วยคุณโจวจัดการเรื่องงานศพต่อ
ในเวลาเดียวกันก็ให้มู่หลงเหยียนดู ว่าทํายังไงถึงจะแก้ปัญหาเรื่องหางที่งอกออกมาของยายแก่คนนั้นได้
ส่วนยายคนนั้นตอนนี้กําลังอยู่ในขั้นตอนกลายร่าง ง่วงนอนง่ายมาก แม้ข้างนอกจะมีเสียงดังขนาดนั้น
แต่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา
นอกจากหางแล้ว ตอนนี้บนใบหน้าของเธอยังมีขนงอกออกมา
มู่หลงเหยียนมองมันสองสามครั้ง ใช้มือสัมผัสพักหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าเบาๆ “ฉันสัมผัสได้แค่ว่าในร่างกายของเธอมีก้อนพลังปีศาจอยู่ แต่ถ้าคิดจะย้ายหรือกําจัดมันคงทําได้ยากมาก”
มู่หลงเหยียนพูดด้วยน้ําเสียงที่ค่อนข้างสิ้นหวัง ส่วนผมและอาจารย์ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ และ ไม่เข้าใจว่าควรทํายังไงต่อดี
ผลลัพธ์ทันใดนั้นเอง ยายคนนั้นกลับลืมตาขึ้น และกรีดร้อง “อร้าย” ออกมา พร้อมกันนั้นยังลุกขึ้นมานั่งทันที
จู่ๆเธอก็เคลื่อนไหว พวกเราเลยตกใจกันทันที
พอคุณโจวที่อยู่ข้างๆเห็นแบบนั้น ก็พูดขึ้นมาทันที “แม่ แม่ลุกนั่งเองได้แล้วเหรอ ?”
ผลลัพธ์คณโจวยังไม่ทันได้ดีใจ ร่างกายของยายคนนั้นก็เริ่มสั่นอย่างบ้าคลั่งปากร้อง “อร้าย…..”
ด้วยความทรมานออกมาไม่หยุด จากนั้นก็ทรุดลงนอนไปอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็ดิ้น ทุรนทุรายไปมา
“เสียว เสี่ยวโจวแม่ แม่ทรมานมากเลย……
“เสี่ยวโจว เสี่ยวโจวช่วยแม่ด้วย…”
ขณะพูด ผิวหน้าของยายแก่คนนั้น ก็มีขนสีเทางอกออกมา
ขนพวกนั้นออกมาเร็วมาก ไม่ใช่แค่นั้น หน้าของยายแก่ ก็บิดเบี้ยวด้วยเช่นกัน มันเปลี่ยนไปเหมือนหน้าหนูมือและเท้ามีกรงเล็บงอกออกมาอย่างรวดเร็ว
พอคุณโจวเห็นภาพนี้เธอก็ตกใจจนไม่รู้ว่าควรทํายังไงดี ตอนนี้ตัวเธอไม่กล้าเข้าไปใกล้ด้วย
ส่วนพวกเราก็ทําอะไรไม่ถูกเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น ? ทําไมเธอถึงกลายร่างเป็นปีศาจเร็วขนาดนี้ ?” ผมสงสัย
“พลังปีศาจในร่างของเธอกําลังบ้าคลั่ง มันไม่เสถียร” มู่หลงเหยียนพูดต่อ และจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาหวาดระแวง
ยังไม่รอให้พวกเราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และเคลื่อนตัวทําอะไรบางอย่าง
ยายแก่ที่กําลังรักอยู่นั้น ก็กรีดร้อง “อร้าย” ออกมาอีกครั้ง
ต่อจากนั้นเสียง “อัก” ก็ดังขึ้น เธอกระอักเลือดออกมา สุดท้ายก็หลับตา นอนแน่นิ่งไปในทันที
“แม่ แม่….” คุณโจวลองตะโกนเรียกสองสามครั้ง
แต่ทั้งตัวของยายแก่คนนั้นกลับมีขนงอกออกมา ใบหน้าบิดเบี้ยว สภาพไม่ใช่ทั้งคนและปีศาจเธอจึงไม่กล้าเข้าใกล้
มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆกลับพูดว่า “จุดตันเถียนและเส้นเลือดของเธอฉีกขาดหมดแล้ว เธอตายแล้ว !”
“ตายแล้ว ?” ผมค่อนข้างตกใจ แบบนี้ก็ตายแล้วเหรอ
อาจารย์ทําหน้าเข้ม “ นี่คงเป็นเพราะการกลายร่างเป็นปีศาจล้มเหลว ผลที่ตามมาค่อนข้างร้ายแรงหน่อย
เดิมที่ร่างกายของคุณยายคนนี้ก็เป็นอัมพาตอยู่แล้ว ร่างกายไม่ดี การกลายร่างเป็นปีศาจเลยทําให้เธอรับไม่ไหว แล้วพลอยทําให้การกลายร่างของเธอล้มเหลวจุดตันเถียนเลยแหลกสลาย
อาจารย์อธิบายสาเหตุที่สมเหตุสมผลหนึ่งอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมาอยู่ดี
พอคุณโจวได้ยินว่าแม่สามีตัวเองตายแล้ว เธอก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกรอบ
เพิ่งเสียสามีไปตอนนี้ยังมาเสียแม่สามีไปอีก มันทําร้ายจิตใจเธอไม่น้อยเลยจริงๆ
แต่เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว พวกเราก็ไม่อาจทําอะไรได้
ในเวลาเดียวกันเวลาปรากฏตัวของมู่หลงเหยียนก็เกือบจะหมดแล้ว ร่างกายเธอเริ่มลางเลือน
หลังมองคุณโจวที่ร้องไห้โฮออกมาแล้ว เธอก็บอกลาผมกับอาจารย์ ผมกับอาจารย์เองก็พยักหน้าให้เธอ
ม่หลงเหยียนบอกให้พวกเราระวังตัว หากมีอันตรายเกิดขึ้น ก็เรียกเธอได้ตลอดเวลา
หลังจากพูดจบร่างของมู่หลงเหยียนก็กลายเป็นควัน แล้วหายไปจากสายตาของพวกเรา
แน่นอน ว่าคุณโจวไม่เห็นภาพนี้
เพราะเรื่องของแม่สามีและคุณหวงค่อนข้างพิเศษ ล้วนเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจทั้งคู่
ดังนั้น หลังคุณยายคนนั้นล้มเหลวในการกลายร่างเป็นปีศาจแล้ว ผ่านไปไม่นาน ก็มีหนอ นคลื่นคลานออกมาจากศพเธอ
ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งสองศพก็โดนพวกหนอนกินจนหมด เหลือทิ้งไว้เพียงพวกกระดูกเท่านั้น
สุดท้ายเจ้าหนอนพวกนั้นก็ตายกลายเป็นเลือดสีดํา เพราะเหลือแต่กระดูแล้ว งานศพเลยไม่ต้องทําพิธีไว้ทุกข์แล้ว
ดังนั้นผมและอาจารย์เลยต้องทํางานกันทั้งคืน นํากระดูกพวกนี้ไปเผาที่สุสานใกล้ๆแถวนี้
หลังเผากระดูกพวกนี้เสร็จก็ถึงช่วงเช้าตรู่แล้ว
ต่อจากนั้นเราก็ยังทํางานต่อไปหาสุสานธรรมแถวนี้หนึ่งแห่ง แล้วรีบฝังเถ้ากระดูกของคุณหวงและยายคนนั้น
หลังทําเรื่องนี้เสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว
คุณโจวพาลูกๆสองคน และยังมีพ่อสามีที่สมองเสื่อมจนทําตัวเหมือนเด็ก มาคุกเข่าตรงหน้าหลุมศพด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย แล้วเผากระดาษอย่างต่อเนื่อง
พอมองสภาพของคุณโจวในตอนนี้ ผมก็เริ่มรู้สึกเหมือนตอนแรกอีกแล้ว
การปรากฏตัวของพวกเราเป็นสิ่งที่ถูกหรือเปล่า พวกเราช่วยคุณโจวเอาไว้จริงๆเหรอ
เพียงชั่วข้ามคืน คุณโจวก็เสียไปทั้งสามี และแม่สามี ครอบครัวหกคนตายไปถึงสองคน
สาหรับคุณโจวเรื่องนี้เป็นการช่วยเธอ หรือทําร้ายเธอกันแน่นะ
ผมถามตัวเองไม่หยุด ในใจมีความรู้สึกแปลกๆปรากฏขึ้น
ดังนั้นผมเลยพูดกับคุณโจวที่กําลังเผากระดาษอยู่ว่า “คุณโจว เสียใจด้วย ที่นี่หนาวมากลูกๆ กับคุณตาก็อยู่ที่นี่ ผมว่าคุณกลับไปเถอะ !”
แต่เสียงของผมเพิ่งเงียบลง จู่ๆคุณโจวก็หันมามอง
แล้วใช้ดวงตาที่แดงหน่อย จ้องผมพร้อมน้ําตาที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง “ ไสหัวไป ! ไม่ใช่เรื่องของแก
คุยกันบอกว่าให้มาช่วยสามีฉัน แล้วพวกแกละ ? ไม่ใช่แค่ไม่ช่วยสามีฉัน หลังพวกแกมาถึงสามีฉันก็ตาย แม่สามีก็ตายไสหัวไปซะ พวกแกไสหัวไปซะ……”
คณโจวพูดอย่างเกรี้ยวกราด ใช้มือที่ถือเงินกระดาษไว้ชี้ไปที่นอกสุสาน พร้อมบอกให้ผมและอาจารย์ไสหัวไปเร็วๆ
ระหว่างนั้น ในช่วงเวลานั้น ผมรู้สึกเหมือนเจ็บแบบที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
เห็นอยู่ชัดๆว่าผมและอาจารย์พยายามทําให้ดีที่สุดแล้ว เราทําตามหน้าที่ของคนปราบสิ่งชั่วร้ายแล้ว
พยายามช่วยอีกฝ่ายแล้ว และพยายามไม่ให้ครอบครัวรู้ความจริงที่น่าเศร้าพวกนั้นแล้ว
แต่ผลที่ได้ละ ! กลับเป็นคําว่า “ไสหัว”
ระหว่างนั้น ผมค่อนข้างเหม่อ ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
ผลลัพธ์คุณโจวกลับพูดซ้ําอีกรอบ “ยังจะให้ฉันพูดอีกใช่ไหมฮะ ? นักพรตบ้าบออะไร ไร้ประโยชน์สิ้นดี รีบไสหัวไปได้แล้ว ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกแก”
เสียงของคุณโจวเพิ่งเงียบลง ลูกน้อยสองคนของเธอ ก็เข้ามาพลักตัวผมพักหนึ่ง “แม่บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าคุณ ! คุณรีบออกไปได้แล้ว พวกคุณเป็นคนเลว……”
มันเหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ผมไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่มีใครเข้าใจ ผมสับสนกับตัวเอง ยุ่งเหยิงจนไม่รู้ว่านี่มันผิดหรือถูกกันแน่
ผมอยากทําให้มันกระจ่าง แต่ทันใดนั้นผมกลับพบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง
ส่วนอาจารย์กลับเข้ามาคว้าแขนผม “เฮ้อ ! เสี่ยวฝาน พวกเราควรไปได้แล้ว…”