ศพ - ตอนที่ 454 แอบเข้าไปข้างใน
ตอนที่ 454 แอบเข้าไปข้างใน
เพิ่งโดนลากเข้ามาในพุ่มดอกไม้เสียงฝีเท้านั่นก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว
หลังมองผ่านช่องว่างของพุ่มไม้ผมเห็นผู้ชายสองคน
คนหนึ่งค่อนข้างหนุ่มส่วนอีกคนเข้าวัยกลางคนแล้ว
พวกเขาเพิ่งมาถึง เราก็ได้ยินเด็กหนุ่มคนนั้นพูดว่า “พี่จาง ที่นี่เถอะ !”
ตาลุงคนนั้นกวาดสายตามองรอบๆก่อนพูดว่า “อ๋อ ! ที่นี่แหละ !”
หลังจากพูดจบ เราก็เห็นเด็กหมุ่นคนนั้นหยิบกล่องบุหรี่ออกมาจากนั้นก็ยื่นให้ลงข้างๆหนงมวล
ทั้งสองคนจุดอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ดูดีใจมากรีบสูบเข้าไปทันที
ในเวลาเดียวกันก็ได้ยืนตาลุงคนนั้นพูดว่า “แม่งเอ้ย ตอนนี้แมแตสูบบุหร
คนนั้นพูดว่า “แม่งเอ้ย ตอนนี้แม้แต่สูบบุหรี่ก็ยังต้องทําแบบ หลบๆซ่อนๆ”
“ ใช่ไหมละพี่จาง ตั้งแต่พวกเราออกมาจากสํานักใหญ่ เราก็ทําตัวเหมือนนักโทษไม่มีผิดนอกจากในแต่ละวันต้องโดนกักตัวทํางานอยู่ในนี้แล้ว ก็ไม่อนุญาตให้เราออกไปสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าก็ไม่อนุญาตทั้งนั้น
ผมทนจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ” เด็กหนุ่มบ่น
“เฮ้อ ! ทําไงได้ ใครใช้ให้เราเกิดมาลําบากละ!รับสูบเถอะ สูบเสร็จจะได้ไปทํางานต่อ ! รอให้ขนของให้ตระกูลเหยียนเสร็จแล้ว พวกเราก็จะได้ออกไปจากที่บ้าๆนี่ซะที” ตาลุงถอนหายใจ
ผมและอาจารย์กลับทําหน้าสงสัย หันมามองหน้ากัน
จากค่าพูดของสองคนนี้ พวกเราได้พวกข้อมูลแปลกๆ
หนึ่งในนั้นมีสองคําที่ค่อนข้างดึงดูดความสนใจของพวกเรา “สํานักใหญ่”
หรือว่าที่นี่จะเป็นเหมือนที่อาจารย์เดาไว้ มันอาจเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นขององค์กรตาผี
นอกจากนี้ ยังมี “ตระกูลเหยียน” อะไรสักอย่าง พวกเราไม่รู้จักเลยสักนิด เลยได้แต่ปล่อยไป
ก่อน
แต่สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่านั้นคือ ตอนนี้พวกเราสงสัยยิ่งกว่าเดิม นายหวงคนนั้น อาจเป็นพวกขององค์กรตาผีจริงๆ
แต่ ถึงเขาจะเป็นพวกเดียวกับองค์กรตาผี
เขาจะทําไปเพราะอะไร ทําไมเขาต้องทําให้แม่ที่เป็นอัมพาตของเขาต้องกลายเป็นปีศาจ และ ยังต้องเก็บเป็นความลับขนาดนี้
หรือเขาคิดจะฆ่าแม่ตัวเอง แต่จากที่คุณโจวเล่าให้ฟัง นายหวงคนนี้ดูเป็นคนเคารพผู้ใหญ่และรักเด็กเอามากๆ
ถึงจะคิดในใจแบบนั้น แต่ผมก็รู้สึกคิดไม่ตกอยู่ดี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ
และทําไมองค์กรตาผีถึงรับคุณหวงที่เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆคนหนึ่งเข้าองค์กรด้วยละ
ถ้าบอกว่าจางจีเทาเข้าร่วมได้ นั่นเป็นเพราะเขามีพ่อบุญธรรมเป็นคนใหญ่คนโต คอยหนุนหลังเขาอยู่ข้างหลัง
ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ มันยุ่งเหยิงมาก
พอคิดได้แบบนั้นผมก็เลิกคิดทันที ข้อมูลที่หาได้ในตอนนี้มีน้อยเกินไป ได้แต่รอให้เจ้าสองคนนี้ออกไปก่อน เราถึงจะไปหาข้อมูลต่อได้
ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองคนก็สูบบุหรี่เสร็จ หลังดับบุหรี่แล้ว พวกเขาก็เดินออกไปทันที
ผมและอาจารย์เห็นพวกเขาสองคนออกไปแล้ว เลยรีบออกมาจากพุ่มดอกไม่ทันที
“อาจารย์ ที่นี่คงไม่ใช่บริษัทขนส่งธรรมดาๆแล้ว” ผมมองไปรอบๆ พร้อมพูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่น
อาจารย์เองก็ดึงหน้าลง “ใช่ และจากคําพูดของเจ้าสองคนนั้น ที่นี่น่าจะเอาไว้แอบทําอะไรลับๆบางอย่าง”
พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็สังเกตเห็นทางที่ค่อนข้างมืดเส้นหนึ่ง เลยพูดกับอาจารย์ว่า “อาจารย์พวกเราไปทางนี้เถอะ คิดหาวิธีเข้าไปข้างในให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
อาจารย์พยักหน้า กวาดตามองรอบๆ หลังพบว่าไม่มีใครแล้วเขากับผมก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังวิ่งมาตามทางที่ค่อนข้างมืดเส้นนั้น ผ่านไปไม่นานพวกเราก็มาถึงหน้าโกดังหลังหนึ่ง
พวกเราซ่อนตัวอยู่ในความมืด สามารถเห็นรถบรรทุกคันใหญ่กําลังขนของเข้าไปด้านในได้พอดี
ในนั้นเปิดไฟดวงใหญ่ เหมือนพวกคนงานกําลังขนกล่องใบแล้วใบเล่าเข้าไปในโกดัง
ในเวลาเดียวกัน ผมก็พบว่า ผู้ชายที่ถือสมุดจดตรงข้างๆรถบรรทุก ดูเหมือนคุณหวงมาก
ผมลดเสียงลงต่ํา จากนั้นก็พูดกับอาจารย์ว่า “อาจารย์ ดูคนที่ถือสมุดจดอยู่ซิ ใช่คุณหวงหรือเปล่า ?
อาจารย์ขมวดคิ้ว เขามองอยู่พักหนึ่ง “ใช่ น่าจะใช่เขา ! แต่พวกเขากําลังขนอะไรกัน ?”
ใครจะไปรู้เสียงของอาจารย์เพิ่งเงียบลง พวกคนงานคนหนึ่งก็ทําพลาด จู่ๆเขาก็ทํากล่องตกลงพื้น
“ปัง” ฝากล่องเปิดออก ของด้านในล่วงออกมาทันที..
ตอนนี้เราเปิดตาแล้ว และตรงนั้นยังมีไฟดวงใหญ่เปิดอยู่ ดังนั้นตอนที่ของออกมา พวกเราเห็นกันเต็มสองตา
พวกเราตกใจทันที ของที่ล่วงลงมาจากกล่องใบนั้น เป็นคน
“ทําอะไรฮะ ? ระวังหน่อย !” คุณหวงที่ถือสมุดจดอยู่หันมาดทันที
และหลังจากคนงานสองคนที่ยกกล่องใบนั้นได้ยินแล้ว ก็รีบนําใครคนนั้นเข้าไปในกล่องใหม่จากนั้นก็ยกกล่องขึ้น
หลังเห็นถึงตรงนี้ ผมกับอาจารย์ก็อดสูดหายใจเข้าไม่ได้
พระเจ้า กล่องใบนั้นใส่คนเอาไว้
กล่องมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าจะพูดยังไม่ก็ต้องมีอย่างน้อยประมาณ 20-30 กล่อง ถ้างั้นในนั้นก็มีคนอยู่ยี่สิบสามสิบคนงั้นเหรอ ?
คนเยอะแยะขนาดนั้น คนพวกนี้จะเอาพวกเขาไปทําอะไรกันแน่
ในขณะที่สงสัย แต่สิ่งที่มีเยอะกว่านั้นคือความตกใจ
พวกเราสังเกตสถานการณ์ในนี้ต่ออีกพักหนึ่ง จากนั้นอาจารย์ก็ชี้ไปยังโกดังหลังใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป “เสียวฝาน แกดูตรงนั้นมีหน้าต่างอยู่ พวกเราปืนเข้าไปจากตรงนั้นกัน และที่นี่ก็ไม่ธรรมดา ดูท่า คุณหวงก็เป็นลูกกระจ๊อกในที่นี่เท่านั้น พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าที่นี่มันคืออะไรกันแน่ พวกเขากําลังทําอะไรอยู่”
ผมทําหน้าจริงจัง พร้อมพยักหน้าให้อาจารย์
ต่อจากนั้น ผมกับอาจารย์ก็แอบเข้าไปแบบระวังสุดๆ หลบเลี่ยงหูตาทั้งหมดจนมาถึงหน้าต่างของโกดังหลังนั้น
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเจอตัวพวกเรา พวกเราก็รีบกระโดดเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
และตําแหน่งที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ เป็นกองกล่องเปล่ามากมายพวกมันสามารถซ่อนพวก เราได้อย่างมิดชิด
ในเวลานี้ผมกับอาจารย์ประหม่ามากหลังมั่นใจแล้วว่ารอบๆไม่มีคนอยู่ ผมกับอาจารย์ก็เริ่มแอบเข้าไปในโกดัง
ท้ายที่สุด พวกเราก็เข้ามาถึงที่ซ่อนตัวที่มืดมิดแห่งหนึ่ง และในเวลานี้ เราก็โผล่หัวออกไปครึ่งหนึ่ง แอบดูข้างนอกอย่างเงียบๆ
ตําแหน่งที่พวกเราอยู่ค่อนข้างสูงสามารถมองเห็นโกดังในมุมกว้าง
เราเห็นเพียงในโกดัง มีเตาเผาขนาดใหญ่อยู่หนึ่งเตา
เตาอันนั้นใหญ่มาก มีความสูงห้าเมตรเต็มๆ กว้างสามเมตรได้ รูปร่างคล้ายเป็นเตาหลอมยาที่เห็นกันในทีวี เพียงแต่เจ้าอันนี้ค่อนข้างใหญ่หน่อย
ในเตาเผาอันนั้น น่าจะกําลังเผาบางอย่างอยู่ ถึงเราจะอยู่ไกลมาก แต่ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่อยู่ในเตา
และควันสีเหลืองอ่อนพวกนั้น ก็ลอยออกมาจากในเตาอันนั้น
และกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศก็แรงมาก
ไม่เพียงแค่นั้น รอบๆเตาหลอม ยังมีคนอยู่จํานวนหนึ่ง
คนพวกนี้สวมชุดคลุมสีดําทั้งหมด ไม่อาจมองเห็นหน้าพวกเขาได้ง่ายๆ
แต่ในระหว่างนั้น ผมกลับสังเกตเห็นบนร่างของคนพวกนี้ปล่อยกลิ่นไอบางอย่างออกมา ซึ่งเป็นกลิ่นไอที่ค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว
แต่ไม่รอให้ผมคิดออก อาจารย์ที่อยู่ข้างๆกลับพูดออกมาเบาๆ “ไอปีศาจ คนชุดด่าพวกนี้ ปล่อยไอปีศาจออกมาทั้งหมด !”
เสียงอาจารย์ไม่ดังมาก แต่ผมกลับได้ยินเต็มสองหู
ตอนผมได้ยินคําพูดนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ในใจมีเสียงดัง “อีก”
ไอปีศาจ งั้นก็หมายความว่าพวกนั้นเป็นปีศาจที่ปีกกล้าขาแข็งแล้ว
ผมลองนับดูคร่าวๆ คนชุดด่าในที่นี้มี 7-8 คนเป็นอย่างต่ํา
ถ้าอย่างงั้น ที่นี่ก็มีปีศาจถึง 7-8 ตัวนะซิ
หรือว่า ที่นี่คือรังปีศาจแห่งหนึ่ง
ผมคิดในใจแบบนั้น แต่ในเวลานี้เอง คุณหวงกลับถือสมุดบันทึกวิ่งเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน
จากนั้นก็รีบไปหาคนชุดดําคนหนึ่งหน้าเตาหลอม “ท่านหลิง วัตถุดิบใหม่ทั้งหมดมาถึงแล้ว มี ทั้งหมด 23 คน ทุกคนเกิดปีหยินเดือนหยินครับ”
หลังคนที่โดนเรียกว่าท่านหลิงได้ยินคําพูดนี้ เขาก็ฉีกยิ้มมีความสุขขึ้นมาทันที
ต่อจากนั้น เราก็เห็นชายชุดด่าคนนั้นมองไปทางเตาเผาอันใหญ่อันนั้น แล้วพูดด้วยน้ําเสียงที่มีความสุขมาก “รอมาตั้งนานขนาดนี้ ในที่สุดวัตถุดิบชุดนี้ก็มาถึงซะที พอมีเลือดสดๆและซากศพของทั้ง 23 คนนี้แล้ว โอสถโลหิตศพก็จะเสร็จสักที พอมีโอสถโลหิตศพแล้ว บ้านเหมียวหนานเหยียนก็จะออกมาผงาดบนโลกได้ง่ายขึ้น และสํานักสื่อเย่เฉินของฉัน ก็จะกลับมาเป็นใหญ่ทั่วหล้าได้อีกครั้ง….”