ศพ - ตอนที่ 436 โลงเหล็กเก็บพลัง
ตอนที่ 436 โลงเหล็กเก็บพลัง
พอได้ยินยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง
ผมจําได้ตอนโลงเหล็กโลงนี้มาถึง อาจารย์เคยบอกว่าไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เจ้านี่สร้างความสุขและอายุยืน
นอกจากนี้เขายังจับเจ้าโลงใบนี้ไม่ยอมปล่อย แถมบอกว่าเขาอยากเก็บเอาไว้ใช้เองด้วยซ้ํา
ตอนนั้นผมงงมาก เลยเปิดปากถามอาจารย์ไป
แต่อาจารย์กลับไม่พูด ต่อมาเรื่องนี้เลยจบลงทั้งแบบนั้น
ตอนนี้ได้มาเห็นโลงใบนั้นอีกครั้ง และยายโม่ยังบอกว่าโลงใบนี้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของมู่หลงเหยียนได้ ผมเลยรู้สึกสงสัยขึ้นมา
ดังนั้น ผมเลยเปิดปากถามเธอว่า “ยายโม่ มันดียังไงเหรอ ? ยายบอกผมได้ไหม ว่าเจ้าโลงใบนี้มันมีความพิเศษตรงไหน”
ยายโม่เห็นผมทําหน้าจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เลยพูดออกมาว่า “ ถือได้เจ้าค่ะ ! ข้าน้อยจะเล่าให้คุณผู้ชายฟังนิดหน่อย ถึงโลงใบนี้จะเป็นโลงเหล็ก แต่มันกลับเป็นหนึ่งในโลงเหล็กที่ล้ําค่า
โลงฟีนิกซ์มองจันทร์
“โลงใบนี้ออกแบบให้มีโครงสร้างพิเศษ ไม่เพียงไม่ขังวิญญาณ แต่ยังซ่อนกลไกดูดซับกระแสพลัง โดยเฉพาะเรื่องการดูดซับพลังจากจันทรา มันทําได้เยี่ยมสุดๆเลยละเจ้าค่ะ”
“มันอาจไม่มีประโยชน์กับคนเป็น แต่สําหรับคนตายแล้วโดยเฉพาะพวกวิญญาณ มันมีส่วนช่วยเป็นพิเศษเลยละเจ้าค่ะ”
“ขอแค่ใช้โลงใบนี้ ก็จะสามารถดูดซับพลังจากฟ้าดินได้เพิ่มอีกหลายเท่า หลังได้โลงใบนี้มาคุณหนูก็เคยเก็บตัวไปแล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนั้นเธอเลื่อนระดับไปได้อย่างราบรื่นเลยละเจ้าค่ะ ตอนนี้ กลับมาใช้โลงใบนี้อีกครั้ง บางที่ความเร็วในการฟื้นตัวของคุณหนูคงเพิ่มได้อีกหลายเท่า….”
ต่อจากนั้น ยายโม่ก็เล่าเรื่องความร้ายกาจของโลงใบนี้ให้ผมฟังพักหนึ่ง
หลังฟังจบ ผมก็อดไม่ได้ที่ตกใจ
ถึงมันจะเป็นโลงเหล็ก มีความสามารถในการกักขังวิญญาณ
แต่ยอดฝีมือบางคนในสายนี้ กลับใช้ความสามารถแบบนี้ซ่อนกลไกดูดซับพลัง สร้างความสามารถเก็บรวบรวมพลังฟ้าดินเอาไว้
เมื่อเป็นแบบนี้ โลงประเภทนี้ก็จะกลายเป็นของที่สุดยอดไปในทันที
ถึงว่าทําไมตอนนั้นอาจารย์ถึงได้พูดว่า ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ก็จะมีความสุขและอายุยืน
เมื่อผลประโยชน์ตกเป็นของคนตาย ลูกหลานย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา
หากคนตายเป็นผีที่บําเพ็ญเพียร งั้นความเร็วในการบําเพ็ญก็ต้องเพิ่มขึ้นหลายเท่าแน่ๆ
นี่มันก็เหมือนใช้สูตรโกง เช่น ผมต้องใช้เวลาสองชั่วโมงถึงจะเดินลมปราณให้เต็มจุดตันเถียน
แต่พอมีเจ้านี้แล้ว ก็ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ หากอยากฝึกให้ช้าขึ้นหน่อยก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
ขณะตกใจ ผมก็หันไปมองมู่หลงเหยียนที่กําลังเก็บตัวอยู่ในห้อง
แต่ในขณะเดียวกันผมก็พูดขึ้นมาว่า “ยายโม่ ถ้าแบบนี้ งั้นเจ้าโลงนี้ ก็โดนน้องศพจ้องเอาไว้นานแล้วนะซิ เพียงแค่สั่งซื้อผ่านทางผม หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งไปรษณีย์มาที่นี่”
ยายโม่พยักหน้าเล็กน้อย “จะพูดแบบนั้นก็ได้เจ้าค่ะ แน่นอน คุณหนูเป็นผี ไม่มีเงินโลกมนุษย์เยอะแบบนั้น ดังนั้นเลยต้องให้คุณผู้ชายเป็นคนจ่ายเงินพวกนั้นเจ้าค่ะ”
พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็เข้าใจเรื่องของโลงใบนี้สักที
ที่แท้มู่หลงเหยียนก็ซื้อเจ้านี่มาเพื่อฝึกฝนพัฒนาตัวเอง แต่จะว่าไปแล้ว
ใครเป็นคนขายเจ้านี่ให้มู่หลงเหยียนกันแน่ แล้วคนแบบไหนถึงได้มีความสามารถแบบนี้ ถึงกับสร้างโลงเหล็กแบบนี้ออกมาได้
“ยายโม่ ใครเป็นคนสร้างโลงใบนี้ออกมาเหรอ ?” ผมถามด้วยความสงสัย
แต่ยายโม่กลับส่ายหัว “เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ แต่คุณผู้ชาย ก็ได้เจอคุณหนูแล้ว ยังไงเราก็ออกไปกันเถอะเจ้าค่ะ ! อย่าไปรบกวนเวลาเก็บตัวของคุณหนูเลยเจ้าค่ะ”
หลังฟังยายโม่พูดจบ ผมก็พยักหน้าเล็กน้อย “ได้ !”
ขณะพูด ผมก็หันไปมองมู่หลงเหยียนตามที่จิตใต้สํานึกบอก
มู่หลงเหยียนนั่งท่าขัดสมาธิ หลับตา ดูดซับไอสีขาวอ่อนๆที่แพร่ออกมาจากโลงเหล็กใบนั้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงจะไม่อยากไป แต่สุดท้ายผมก็เดินออกมา
ก่อนหน้านี้ตอนกลับมาจากโรงพยาบาล ผมบอกว่าจะมาหาเธอในคืนนั้น
แต่สุดท้ายกลับโดนปฏิเสธ น้ําเสียงของเธอยังฟังดูกระวนกระวายหน่อยๆ
พอลองคิดดูแล้ว คงเป็นเพราะว่ามู่หลงเหยียนกลัวผมมาหาแล้วจะเห็นว่าเธอบาดเจ็บ เลยจงใจปฏิเสธผม
เธอคงกลัวว่าผมจะเป็นห่วง
ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็เริ่มมีที่ยืนอยู่ในใจเธอบ้างแล้วนะซิ
ขณะคิดในใจเงียบๆ ผมก็ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ค่อยๆเดินออกมาจากเรือนหลังนั้น
พอออกมาจากเรือนหลังนั้นแล้ว ผมก็หยิบก้อนหินสีฟ้าขนาดเท่านิ้วมือออกมา
หลังจากนั้นก็พูดกับยายโม่ว่า “ยายโม่ รับนี่ไว้ !”
ตอนยายโม่เห็นผมหยิบหินลี่ลั่วออกมา ก็เห็นได้ชัดว่าเธอค่อนข้างอึ้ง เผยสีหน้าตกใจออกมาทันที
“คุณผู้ชาย นี่ นี่คือ ?”
ยายโม่น่าจะรู้ว่ามันคืออะไร แต่คงไม่กล้าเชื่อความคิดของตัวเอง
ผมกลับฉีกยิ้ม “ยายโม่ นี่คือหินลี่ลั่ว ตอนนั้นรีบหนีออกมา เลยลืมเอาเจ้านี่ให้พวกยาย”
“คุณผู้ชาย คุณ คุณเอามาได้ยังไงเจ้าคะ ?” ยายโม่รีบรับไว้ เห็นได้ชัดว่าเธอประหม่ามาก หรือแม้แต่ตื่นเต้น
ผมเกาหัว “นี่เป็นเพราะมีเฟิงเฉิวหานอยู่ข้างๆผม ตอนไปเก็บน้ําลี่ลั่ว เขาเห็นตรงมุมหนึ่งของหินลี่ลั่วมีรอยแตกอยู่ เขาก็เลยออกแรงทุบจนมันแตกออกมา เอ่อมันดูจะน้อยไปหน่อย ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์กับพวกยายไหม ?”
“ มีมีมี คุณผู้ชายมันมีประโยชน์มากเลยละเจ้าค่ะ นี่มันเป็นของล้ําค่ามากเลยนะเจ้าคะ ถึงจะเล็กไปหน่อย
แต่ก็เป็นหินลี่ลั่วไม่ผิดแน่ พอมีหินลี่ลั่วก้อนเล็กแบบนี้แล้ว พวกเราก็สามารถเก็บน้ําลี่ลั่วด้วยตัวเองได้
ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็ดียิ่งกว่าอะไรเลยละเจ้าค่ะ ! ครั้งหน้าถ้าได้เจอกับเพื่อนคุณผู้ชาย ข้าน้อยจะขอบคุณอย่างดีแน่นอนเจ้าค่ะ” ยายโม่ดูดใจผิดปกติ เธอถือหินลี่ลั่วไว้อย่างกับของรัก
ของหวง
พอเห็นยายโม่เป็นแบบนั้น ผมก็มีความสุขตามไปด้วย
ต่อจากนั้นผมก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง “ยายโม่ การทดลองหญ้าหยินจ่าวเป็นยังไงบ้าง สําเร็จแล้วหรือยัง”
พอยายโม่ได้ยินผมถามแบบนั้น ก็เผยสีหน้าหนักใจออกมาอีกครั้ง “ถึงจะได้น้ําลี่ลั่วมาแล้ว และการทดลองก็มีการพัฒนาอย่างดีเยี่ยม แต่เวลาที่ได้กลับยังมีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่”
“ข้อบกพร่อง หรือจะล้มเหลวแล้วงั้นเหรอ ?” ผมขมวดคิ้ว
ทุกคนเสี่ยงอันตรายมากมาย กว่าจะเอาน้ําลี่ลั่วออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าล้มเหลวจริงๆ งั้นมันก็ได้ไม่คุ้มเสียแล้ว
แต่ยายโม่กลับส่ายหัว “ พูด พูดว่าล้มเหลวไม่ได้เจ้าค่ะ เพียงแค่มีข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้นเจ้าค่ะ
ตอนนี้มีน้ําลีล้วเพียงพอแล้ว การปลูกหญ้าหยินจ่าว ต้องสําเร็จในไม่ช้าแน่เจ้าค่ะ”
หลังฟังยายโม่พูดจบ ผมถึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นมา จากนั้นก็ขานรับ “อ๋อๆ” สองครั้ง
ตอนนี้ม่หลงเหยียนเก็บตัวอยู่ หินลีลัวก็ให้แล้ว ผมเลยหยิบของอีกอย่างหนึ่งออกมา
มันก็คือเกล็ดปลาสีม่วงทองที่อาจารย์ให้ผมมานั่นเอง ตอนหยิบเจ้านี้ออกมา ยายโม่เผยท่าทางสงสัยออกมาอีกครั้ง “คุณผู้ชาย นี่คืออะไรเจ้าคะ ? ไอพลังบนนี้แปลกมากเจ้าค่ะ”
“ไอพลัง ยายสัมผัสพลังของมันได้เหรอ ?” ผมพูดด้วยความตกใจ
คนเป็นอย่างพวกเรา ไม่มีประสาทสัมผัสเหมือนพวกผีอยู่แล้ว พอได้ยายโม่พูดแบบนั้น ผมก็รู้สึกตกใจและสงสัยมาก
“เจ้าค่ะ ! ไม่เหมือนพลังหยางของคน และไม่เหมือนพลังหยินของวิญญาณ แถมไม่เหมือนพลังปีศาจของเผ่าปีศาจหรือพลังจากพวกซากศพ นอกจากพลังแปลกๆแล้ว ในสายตาของข้าน้อย มันยังมีแสงสีแดงจางๆอยู่ด้วยเจ้าค่ะ” จู่ๆยายโม่ก็หลี่ตาลง มองเกล็ดปลาสีม่วงทองบนมือผมอย่างละเอียด
ผมกลับทําตาโต ทําท่าทางตกใจ “แสงสีแดง ข้างบนนี้มีแสงสีแดงอยู่ด้วยเหรอ ?”
ยายโม่เข้ามาใกล้อีกหน่อย หลังจากนั้นก็เอาเจ้านี่ไปถือไว้
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดออกมาอีกครั้ง “คุณผู้ชาย ข้างบนนี้ไม่ได้มีแค่แสงนะเจ้าค่ะ เหมือนจะมีตัวอักษรด้วย……”
“อะไรนะ ? มีตัวอักษร ?” ผมตกใจทันที เลือดเดือนพล่านไปทั้งตัว
“เจ้าค่ะ มีตัวอักษร แต่ข้าน้อยมองเห็นไม่ชัด คุณผู้ชายรอหน่อยนะเจ้าคะ ดูเหมือนเจ้านี่จะเข้ากันได้ดีกับพลังหยิน ลองให้ข้าน้อยใส่พลังวิญญาณลงไปหน่อยนะเจ้าคะ”
หลังจากพูดจบ ยายโม่ก็ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง ดันมือข้างหนึ่งช้าๆ ทันใดนั้นไอสีขาวจางๆก็ปรากฎขึ้น
ไอสีขาวเพิ่งปรากฏขึ้น มันก็ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในเกล็ดปลาสีม่วงทองทันที…..