ศพ - ตอนที่ 264 ใช้น้ํามันทอด
ตอนที่ 264 ใช้น้ํามันทอด
น้ําเสียงของเจ้าผีบ้ากามตนมีร่องรอยของความหวาดกลัวเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันรู้สึกได้ถึงอันตราย
แต่ในขณะนี้ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ผมพูดอย่างเย็นชาว่า “ ทําอะไรเหรอ? ก็จะอาบน้ําให้แกไง !”
“ ฉันจะบอกนายนะว่าทําแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร วิธีที่ดีที่สุดสําหรับพวกเราคือการเจรจาต่อรองกัน ตราบใดที่พวกนายเห็นด้วยกับเงื่อนไขของฉัน ฉันสาบานว่าฉันจะไม่ ยุ่งกับ เสี่ยวเฉ่วอีกเลย ! ”
“ เหอะ เหอะ ! ตอนนี้นายยังอยากจะมีข้อตกลงกับพวกเราอีก ? ฉันจะบอกอะไรให้แกนะ มันสายไปแล้ว ! ”
พูดจบ ผมก็ไม่สนใจตุ๊กตาสีทองและเจ้าผีบ้ากามตนนั้น เพียงหันไปบอกให้ทุกคนนั่งลง หลังจากนั้นก็ดึงบุหรี่ออกมาให้เหล่าเฟิง
ต่อจากนั้นก็จ้องไปที่ตุ๊กตาสีทองในหม้อท่ามกลางน้ํามันที่กําลังเดือดจนร้อนผ่าวอย่างไม่ขาดสาย
เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วินาที น้ํามันในหม้อก็ร้อนขึ้นและร้อนขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียง “ ซือซือซื้อ” ดังออกมา
เสี่ยงนี้คือน้ํามันที่กระเด็นออกมา เพราะความร้อนที่แผดเผาปะทะอย่างต่อเนื่อง
สําหรับตุ๊กตาสีทองที่ยืนอยู่ในหม้อ ในเวลานี้ตัวมันก็สั่นขึ้นมา
เส้นรัศมีวงกลมที่เล็กมากๆ แต่กลับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตุ๊กตาสีทองกําลังสั่น
ไม่เพียงแค่นั้น ภายในตัวตุ๊กตาสีทองก็ส่งเสียง ที่เจ็บปวดออกมาเป็นครั้งคราว “ ระ ร้อน ร้อนมาก..”
เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วทั้งสามคนก็ค่อยสบายใจขึ้นมา ยกเว้นอู่ฮียฮุยและฉิงหมิงเฉิวที่ยังคงตึงเครียดอยู่
แต่พวกเราสามคนกลับนิ่งสงบจนดูผิดปกติ เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจและพ่นมันออกมาเป็นลมหายใจ
เจ้าผีบ้ากามตนนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ําตา เมื่อสักครู่นี้ ยังพูดจาเย่อหยิ่ง คิดว่าพวกเราทําลายร่างทองของมันไม่ได้ และไม่ยอมรับผิด ตอนนี้ผมทําให้เจ้าผีบ้ากามนั้นได้รู้รสชาติของการโดนทอดในน้ํามันสักหน่อยว่ามันเป็นยังไง
หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที ตัวตุ๊กตาสีทองก็สั่นมากขึ้นอย่างรุนแรงจนส่งเสียงออกมาจากในหม้อ
ผมคืบบุหรี่ออกมา แล้วพูดกับตุ๊กตาสีทองในหม้อว่า “เป็นไง ? รู้สึกสบายดีไหม ? ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงเจ้าผีบ้ากามตนนั้นส่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด “ นัก นักพรตฉันผิดไปแล้ว ร้อน ร้อนมาก ! มันร้อนจนฉันจะทนไม่ไหวแล้ว ยกโทษให้ฉันเถอะ ! ”
“ ยกโทษให้แกเหรอ ? เมื่อกี้ไม่ใช่ว่าแกเพิ่งจะหยิ่งยโสไม่ใช่เหรอ ? ตอนนี้ไม่ลองหยิ่งยโสอีกล่ะ”
หยางเฉ่วพูดแทรกขึ้นมา เธอหยิบทัพพี่ข้างๆขึ้นมากน้ำมันเทราดลงไปบนตัวตุ๊กตาสีทองนั้นยกเว้นส่วนที่แปะยันต์เอาไว้
“ อ๊าก ! ”
ในทันทีทันใดเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูก็ดังขึ้นมา “ ฮูฮู ร้อน ร้อน ร้อนจนฉันจะตายอยู่แล้ว……….”
หยางเฉ่วไม่สนใจและราดน้ํามันต่อไป !
น้ํามันที่เดือดพล่านราดลงไปเสียงดังซู่ซ่าๆ เจ้าผีบ้ากามตนนั้นก็ส่งเสียงร้องที่แสบแก้วหูออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ สาว สาวสวย อย่าตักน้ํามันราดฉันอีกเลย ช่วยฉันหน่อย ปล่อยฉันไปเถอะ !” เจ้าผีบ้ากามสะอื้นร้องไห้ออกมา ดูเหมือนว่ามันโดนทอดในน้ํามันร้อนๆจนจะทนไม่ไหวแล้ว
“ ตอนนี้ยังจะพูดถึงเงื่อนไขอีกไหม ? ” ผมถามอย่างหลีกเลี่ยงที่จะช่วยมันขึ้นมาในตอนนี้
“ไม่ ไม่พูดแล้ว ! นัก นักพรตพูดอะไรฉันก็จะทําตามที่พูดเลย หลังจาก หลังจากนี้ฉันจะไม่มากวนเสี่ยวเฉ่วอีก…”
พวกเราก็ไม่ได้ต้องการที่จะรั้งเจ้าผีตนนี้เอาไว้ เมื่อเห็นเจ้าผีบ้ากามตนนี้หวาดกลัวก็เลยปิดไฟ แต่ก็ยังไม่ได้เอาตุ๊กตาสีทองขึ้นมาจากน้ํามัน
เพราะผมคิดว่าไม่นานเจ้าผีบ้ากามตนนี้ก็จะมาปรากฏตัวออกมาสําแดงเดชต่อหน้าฉิงหมิงเฉิว
ดังนั้นผมจึงต้องการเบาะแสที่เป็นประโยชน์จากปากของเจ้าผีบ้ากามตนนี้
ดังนั้นผมจึงต้องการเบาะแสที่เป็นประโยชน์จากปากของเจ้าผีบ้ากามตนนี้
“ นักพรต ร้อน ร้อนมาก ดึงฉันออกมาเถอะ ! ร้อนจนจะทนไม่ไหวแล้ว ! ” เจ้าผีบ้ากามยังคงแหกปากตะโกนไม่หยุด
แต่ผมกลับหัวเราะเยาะเย้ยและส่ายหัว “ไม่รีบ ฉันมีไม่ กี่คําถามที่อยากจะถามแก !”
“ ถ้า ถ้างั้นนักพรตได้โปรดถามฉันมาเลย !”
ผมยิ้มมุมปากและลากเสียงยาวถาม “ เมื่อก่อนแกทําอะไร ? ตายมานานหรือยัง ? ใครให้แกมาอยู่ในร่างตุ๊กตาสีทองกับแก ? ”
หลังจากที่นี่บ้ากามได้ยิน มันก็รีบตอบอย่างกระวนกระวาย “ฉัน ฉันชื่อเฉิงต้าจือ ตาย ตายมาห้าปีแล้ว
นัก นักพรตจางเป็นคนให้ร่างตุ๊กตาสีทองกับฉัน ! ต่อมาต่อมาฉันก็ถูกฉิงหมิงเฉิวอัญเชิญมาเซ่นไหว้ที่นี่ ”
“ นักพรตจาง ? เขามีความเป็นมายังไง ? ทําไมถึงทําร่างทองให้แก ? อีกอย่าง แกไม่มีสุสานหรือยังไง ?
แล้วเขาเรียกวิญญาณแกไปได้ยังไง ?”
ผมถามคําถามอีกไม่กี่คําถาม และเจ้าผีบ้ากามที่ชื่อเจิงต้าจือก็ไม่ลังเลรีบตอบอย่างรวดเร็ว “ฉัน ฉันเป็นเด็กกําพร้าไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ในทุกๆวันฉันก็ทํางานอาชีพต่ําต้อยไร้ค่า วันหนึ่งฉันถูกท่อเหล็กตีเข้าที่หัว เพราะว่าฉันไม่มีบ้านดังนั้นจึงไม่มีใครทําสุสานให้ฉันอยู่ ฉันก็เลยกลายไปเป็นผีเร่ร่อน ”
“ ต่อมาฉันก็ได้พบกับนักพรตจาง เขาบอกว่าตราบใดที่ฉันฟังเขา ฉันต้องการอะไรก็จะได้! ฉันใช้ชีวิตมานานแล้วและฉันไม่มีภรรยา ฉันบอกว่าอยากได้ภรรยา นักพรตจางก็ตกลง หลังจากนั้นเขาก็ให้ร่างตุ๊กตาสีทองแก่ฉัน ผลสุดท้ายคือไม่กี่วันหลังจากนั้น ฉิงหมิงเฉ่วก็อัญเชิญฉันมาที่นี่นักพรตจางยังบอกอีกว่า
ฉิงหมิงเฉิวคือภรรยาที่เขาหาให้ฉัน ตราบใดที่ฉันทํางานสําเร็จตามเวลา ก็จะมีความสุขเหมือนเทพเจ้า
ส่วนที่มาของนักพรตจางฉันเองก็ไม่รู้หรอก แต่ว่าเขายังดูวัยรุ่นและช่วงอายุประมาณพวกนายนี่แหละ…”
หลังจากฟังคําพูดของผีบ้ากามแล้ว ผมก็เข้าใจที่มาของมัน
มันก็เป็นแค่ผีธรรมดาและไม่มีอะไรที่พิเศษ ทําไมนักพรตจางถึงเรียกวิญญาณของเขามาทําแบบนี้ ?
นี่เป็นภารกิจอะไร ?
นี่ทําให้ผมรู้สึกอยากรู้อยากเห็น นักพรตจางคนนี้ ทําไมเขาต้องทําแบบนี้ด้วย ?
เขาต้องการเอาผีบ้ากามตนนี้มาทําอะไร ? เพื่อสําเร็จภารกิจอะไรกันแน่
หรือเพียงแค่ต้องการที่จะซื้อและขายวิญญาณ ควบคุมวิญญาณหรือต้องการแสวงหาเงิน ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฟิงเฉิวหานที่เงียบไม่พูดไม่จาอยู่นานก็พูดแทรกขึ้นมา “ ถ้างั้นนักพรตจาง เรียกนายมาทําอะไร ? เขาให้แกมาทําภารกิจอะไร ? ”
“ เอ่อ มันคือ….”
เมื่อเห็นผีบ้ากามเจ๋งต้าจ๋อตะกุกตะกัก หยางเฉ่วก็ดุเสียง ดังออกมา “อย่ามานั่นๆคือๆ รีบพูดมาไม่อย่างนั้นฉันจะจุดไฟอีก ! ”
“ อย่าอย่าอย่า ฉันจะพูดแล้ว ฉันจะพูดแล้ว ! ฉันจะพูดให้พวกนายฟัง นักพรตจางให้สิ่งของบางอย่างกับฉัน ฉันจะให้พวกนายดู…..”
เราสามคนเหลือบมองกันและกัน “ ของมันคือของอะไร? ?”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมก็มองไปที่หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานอีกครั้ง ทั้งสองคนก็พยักหน้า
ทั้งสองคนก็ต้องการที่จะเห็นสิ่งของที่ผีบ้ากามตนนี้หยิบออกมาว่าเป็นอะไร
แน่นอนว่าทุกคนก็คิดว่าเจ้าผีบ้ากามตนนี้คงไม่เอาเล่ห์เหลี่ยมอะไรออกมาใช้หรอก
นอกจากนี้ยังเป็นเวลากลางวัน ในเวลานี้ประตูและหน้าต่างก็ถูกปิดผนึกด้วยคาถาและยันต์ เขาจะทําอะไรได้ ?
ดังนั้นผมจึงเดินไปที่หม้อน้ํามันและดึงยันต์บนหัวของตุ๊กตาออกมา
แต่ในตอนที่ผมดึงยันต์ออกมา ผมก็เห็นรอยยิ้มตุ๊กตาสีทองราวกับว่ามันเป็นคนจริงๆ และรอยยิ้มที่กลับกลอกก็ปรากฏออกมา
ก่อนที่ผมจะดึงสติกลับมา หมอกสีดําแห่งความชั่วร้ายก็พุ่งทะยานขึ้นมาตรงไปที่ด้านหน้าประตู
“ เหล่าพึงระวัง ! ”
“ ติงผ่านระวัง ! ”
เฟิงเฉ่วหานและหยางเนิ่วต่างก็ตกใจและดึงผมลงไปที่ด้านหลัง !
และหมอกสีดํานั้นก็เฉียดใบหน้าของผมแล้วลอยผ่านไป
ถึงแม้ว่าผมจะหลีกเลี่ยงมันอย่างรวดเร็ว แต่ฉิงหมิงเฉ่วและอู่ฮียฮุยที่อยู่ข้างๆกลับมึนงงและทําตัวไม่ถูก
หมอกสีดํานั้นกระทบเข้ากับใบหน้าของฉิงหมิงเฉ่วและหลังจากนั้นก็สลายหายไป
ต่อมาก็ได้ยินเสียง “ อ่า ” ของฉิงหมิงเฉ่ว เดิมที่ใบหน้าที่รู้สึกประหม่าและหวาดกลัว ต่อมาในขณะนั้นเธอกลายเป็นคนดุร้ายและเยือกเย็น
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมา เธอก็สะบัดอู่ฮุ่ยฮุ่ยข้างๆลอยมาทางพวกเราสามคน
ในขณะเดียวกันมืออีกข้างของเธอก็คว้าไปที่ตุ๊กตาสีทองในหม้อน้ํามัน แล้วหลังจากนั้นก็วิ่งไปที่ประตู
เมื่อเห็นอย่างนี้ พวกเราทุกคนก็ตกใจและไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าผีบ้ากามตนนี้ยังมีกลอุบายอยู่อีก
แต่พวกเขาต้องการจับฉิงหมิงเฉิวก็เลยไม่ได้สนใจอู่ฮุยฮุยจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วโจมตีเจ้าผีบ้ากามนั้นทันที
แต่ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป เห็นได้ชัดว่าเจ้าผีบ้ากามตนนี้มันได้คิดไตร่ตรองเอาไว้หมดแล้วและใช้อู่ซุ่ยฮุย มาขวางกั้นพวกเราเพิ่ม
ก่อนที่พวกเราจะเข้าใกล้ที่ด้านหน้าของมัน เจ้าผีบ้ากามที่ควบคุมฉิงหมิงเฉ่วอยู่ก็พุ่งออกไปที่ประตูแล้ว
ในขณะเดียวกันมันก็คว้ายันต์ที่ประตูออกแล้วฉีกเพื่อที่จะได้หนีออกไป…..