ศพ - ตอนที่ 173 จุดจบของสงคราม
ตอนที่ 173 จุดจบของสงคราม
สีหน้าของหมอผีเปลี่ยนไป เขาแอบพูดในใจว่าแย่แล้ว เหมือนเขาจะหลบไม่ทัน
แต่ในเวลานี้ร่างกายของเขาได้สูญเสียสมดุล ตะขอก็ใช้ไม่ทันการ ถ้าอยากหลบก็เป็นไปได้ค่อนข้างยาก
แต่เขายังพยายามเบี่ยงร่างกายของตัวเอง ในเวลาเดียวกันก็ใช้มืออีกข้างจับดาบเล่มหนึ่งเอาไว้ เพื่อลดความเสียหายให้กับตัวเอง
ระหว่างการโจมตีอย่างสายฟ้าแลบ ดาบไม้ทั้งสองเล่มถูกฟันออกไปแล้ว
“ ฉึกฉึก ” มันแทงลงบนตัวของหมอผีตรงๆ
แต่ในวินาทีนั้นเอง หมอผีก็ขยับมืออย่างรวดเร็ว เขาจับคมดาบของท่านนักพรตตู๋เอาไว้ได้
เพราะเขากำลังเบี่ยงตัวหลบ ดาบของเหล่าเฟิง จึงแทงเข้าไปที่เอวของเขา
ทันใดนั้นบาดแผลขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้น เลือดสดๆไหลนองออกมาทันที แต่มันไม่ได้เป็นแผลที่ทำให้ถึงตาย
หน้าของหมอผีบิดเบี้ยว หนอนที่อยู่บนหน้าและบนตัวล่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง
“ สมควรตาย ! ไปตายให้หมด ! ” เขาตะโกนออกมา จากนั้นเขาก็ออกแรงที่มือ
กำดาบของนักพรตตู๋เอาไว้แน่น จากนั้นก็โยนมันออกไปทันที
หมอผีคนนี้มีพลังเยอะมาก ท่านนักพรตตู๋เองก็สู้เขาไม่ค่อยไหว
ภายใต้พลังที่มหาศาลแบบนี้ ท่านนักพรตตู๋จึงถูกโยนออกไปไกลหลายเมตร จนตัวของเขาต้องล้มลงไปกับพื้น
ส่วนทางด้านเฟิงเฉ่วหาน ยังคิดจะใช้ดาบโจมตีอีกครั้ง
แต่เฟิงเฉ่วหานเพิ่งยกมือขึ้น เท้าของหมอผีก็ถีบเข้ามาแล้ว
“ ปัก ! ”
เฟิงเฉ่วหานถูกถีบที่หน้าอก เขาก็ล้มลงทันที
“ ท่านลุงตู๋ เหล่าเฟิง ! ” ผมเพิ่งลุกขึ้นมาได้ก็เห็นฉากนี้แล้ว ผมจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ในเวลาเดียวกันผมก็เข้าไปโจมตีหมอผี ผลลัพธ์หมอผีคนนั้นกลับสะบัดแขน หนอนพิษจึงลอยเข้ามาทันที
ผมจะกล้าประมาทได้ยังไง วินาทีนั้นผมรีบถอยไปข้างหลัง หลบหนอนพิษพวกนั้นทันที
แต่หมอผีคนนั้นกลับไม่ได้ตามมา และก็ไม่ได้โจมตีพวกเราคนใดคนหนึ่งต่อ
ในเวลานี้เขากลับมองที่เอวของตัวเอง ในเวลาเดียวกันก็ใช้มือลูบ ผลที่ออกมามือของเขากลับเต็มไปด้วยเลือด
“ กล้าทำร้ายร่างกายของฉัน ทำให้เลือดอันล้ำค่าของฉันไหล คืนนี้ฉันจะทรมานพวกแกให้ตาย…… ” หมอผีพูดด้วยเสียงหายใจที่หนักหน่วง
แต่ในเวลานี้บาดแผลที่เอวของเขา กลับถูกหนอนพิษปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา
และหนอนพิษพวกนั้น ก็ยังพ่นน้ำสีเขียวๆออกมา
เหมือนเจ้าสิ่งนั้นจะสามารถห้ามเลือดได้ แผลที่เคยมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ตอนนี้เลือดกลับหยุดไหลอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อเห็นฉากที่แปลกประหลาดนั้นแล้ว พวกเราก็เผยท่าทางหนักใจ
เจ้าหมอผีนี้ร้ายกาจจริงๆ ถึงกับสามารถควบคุมแมลงให้รักษาแผลบนร่างกาย ทำให้เลือดหยุดไหลได้
แต่การต่อสู้นี้ไม่ได้หยุดพักนานนัก ทันใดนั้นท่านนักพรตตู๋ก็หยิบดาบขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็พูดว่า “ เข้าไปพร้อมกัน ! ”
หลังจากพูดจบ พวกเราสามคนก็เข้าไปล้อมโจมตีหมอผีอีกครั้ง
การโจมตีของหมอผีดุร้ายมาก เหมือนกับโจมตีใส่พวกเราอย่างไม่คิดชีวิต
แต่ท่านนักพรตตู๋พาพวกเรา ให้ถอยและรุก
เขาโจมตีอย่างรุนแรง พวกเราก็ถอย พอเขาถอย พวกเราก็โจมตี
การต่อสู้สามรุมหนึ่ง เพราะพวกเราคิดจะจัดการอีกฝ่ายให้อยู่หมัด
แม้ตอนนี้จะอยากเอาชนะ แต่มันมีแค่วิธีนี้วิธีเดียว
ก่อนหน้านี้ท่านนักพรตตู๋เคยพูดแล้ว ว่าเจ้าหมอผีนี้จะดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
เพราะเขากินหนอนเข้าไป จึงผสานพลังเข้ากับแมลง
การใช้วิธีนี้เพิ่มพลังในการต่อสู้ จะมีผลอยู่ได้ไม่นาน ขอเพียงพวกเรายังรับมือกับเขาได้ ยังไงอีกฝ่ายก็ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเรา
หลังจากนั้นพวกเราก็พยายามต่อสู้อย่างยากลำบาก ทุกนาทีทุกวินาที ต่างอันตรายมาก
แค่ไม่ระวังนิดเดียวก็อาจทำให้เราตายได้ หรือติดพิษได้ ดังนั้นพวกเราจึงตั้งใจต่อสู้มาก ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย
และในการต่อสู้นี้ท่านนักพรตตู๋เป็นผู้นำ ผมและเฟิงเฉ่วหานเป็นคนคอยป้องกันอยู่ทางซ้ายขวา พวกเรายังสามารถต้านทานเขาเอาไว้ได้
หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที พวกเราเริ่มหายใจหอบเหนื่อย เสื้อผ้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกเราเริ่มจะรับมืออีกฝ่ายไม่ไหวแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายแย่กว่าพวกเรา เพราะพวกเราพบว่า ตอนนี้ความดุร้ายของหมอผีได้ลดลงไปมาก
เมื่อกี้การต่อสู้ที่เต็มไปด้วย พลังอันมหาศาล การสู้เพียงหนึ่งกระบวนท่า ท่านนักพรตตู๋ก็แทบต้านทานเอาไว้ไม่ได้
แต่ตอนนี้ พลังในการต่อสู้ของเขากลับลดลง การโจมตีที่ทำให้พวกเราต้องเป็นฝ่ายถอย กลับเปลี่ยนให้พวกเราเริ่มเป็นฝ่ายรุกและได้เปรียบแทน
ทันใดนั้น ท่านนักพรตตู๋ก็ตะโกนออกมาหนึ่งครั้ง เขากระหน่ำแทงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้หมอผีต้องถอยร่น และอีกฝ่ายยังหอบหายใจไม่หยุด เหมือนเขากำลังหายใจไม่ทัน
ม่านตาของท่านนักพรตตู๋ขยายอย่างรวดเร็ว เขาแสดงสีหน้าดีใจออกมา “ พลังของแมลงจะหายไปแล้ว พวกเราจัดการเขาเลย ! ”
หลังจากพูดจบ ท่านนักพรตตู๋ก็เริ่มโจมตีอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ผมและเหล่าเฟิงตกใจ แต่ก็รีบตามเข้าไปโจมตีทันที
พวกเราแบ่งออกมาเป็นสามด้าน และเข้าไปโจมตีหมอผีพร้อมๆกัน
ก่อนหน้านี้พวกเราไม่สามารถเอาชนะหมอผีได้ แต่ตอนนี้พลังของเขากำลังจะหายไป ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สามารถเอาชนะพวกเราได้
แต่พวกเราก็ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ ยังคงตั้งสติ ไม่กล้าประมาทเหมือนเดิม
หลังจากพวกเราสามคนล้อมเอาไว้ หมอผีก็ลำบากมาก
เขาทั้งปล่อยแมลง ทั้งพ่นพิษ และยังใช้ตะขอในมือกวัดแกว่งอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็มันใช้ไม่ได้ผลกับพวกเรา บวกกับความเร็วของพวกหนอนเริ่มลดลง เขาเริ่มหายใจหอบเหนื่อย และหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ กล้ามเนื้อของเขาเริ่มหมดแรง ผลข้างเคียงบางอย่างเริ่มปรากฎ เขามึนหัวและตาลาย
การต่อสู้ยังลากผ่านไปอีก 5 นาที ตอนนี้หมอผีจะยังมีแรงสู้ต่อได้ยังไง
ในเวลานี้ เขาแทบจะยืนไม่ไหว
แต่ดวงตาทั้งสองข้างกลับเต็มไปด้วยไฟแค้น สีหน้ายังน่าเกลียดน่ากลัว ปากด่าพวกเราไม่หยุด “ ไปตายซะ ไปตายซะ ! ฉันจะฆ่าพวกแก ฆ่าพวกแก…… ”
ผมรู้ดี ในเวลานี้นอกจากร่างกายที่หมดสภาพของเจ้านี้แล้ว สติของเขาก็กำลังจะหมดลง
ผมเพ่งมองที่เท้าของอีกฝ่าย ในเวลาเดียวกันก็เดินไปข้างหลังอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ
ในเวลานี้หมอผียังกวัดแกว่งตะขอไปทางท่านนักพรตตู๋ ในปากยังตะโกนด่า “ ไอ้แก่ ฉันจะเอาศพแกไปทำรังหนอน…… ”
ขณะที่เขากำลังด่า เขาก็ไม่ได้สนใจผม
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็พุ่งเข้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว และไม่ให้ซุ่มให้เสียง
วินาทีนั้นผมกระโดด เข้าไปถีบหมอผี อย่างแรง
ในปากยังตะโกนว่า “ รังหนอนกะแม่แกซิ…… ”
เสียงเพิ่งเงียบลง เท้าของผมก็สัมผัสเข้ากับหลังของเขา วินาทีนั้นผมเหยียบหนอนตายไป 10 กว่าตัว
ในเวลาเดียวกันตัวของหมอผีก็เซไปเซมา เขาล้มหน้าหงายลงกับพื้น
เมื่อเฟิงเฉ่วหานและท่านนักพรตตู๋เห็นสิ่งนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขารีบวิ่งเข้าไปที่ร่างของหมอผี
เฟิงเฉ่วหานไม่พูดไม่จา หยิบตาข่ายดำออกมา
แม้สิ่งนี้จะใช้ได้ผลกับผีร้ายมากกว่า แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีเชือก การนำมาใช้ควบคุมตัวหมอผี ถือว่าได้ผลอยู่บ้าง
หลังจากหยิบตาข่ายออกมา เขาก็โยนใส่เจ้าหมอนั้นอย่างรวดเร็ว ขังเขาเอาไว้บนพื้น
ท่านนักพรตตู๋ไม่ลังเล ยกดาบไม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเคลื่อนพลังลงไป จากนั้นก็แทงลงไปที่หลังมือของหมอผีทันที
เมื่อดาบไม้ผสานกับพลัง มันไม่เพียงใช้ปราบศพที่ชั่วร้ายได้ มันยัง “ คมผิดปกติ ”
ยังไม่รอให้หมอผีได้ตอบโต้อะไร “ ฉึก ” ทันใดนั้นดาบไม้ก็เสียบลงไปที่มือของหมอผี และปักลงดินทันที
“ อ๊าก ! ”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น หนอนที่อยู่บนตัวของหมอ ดิ้นพล่านไปมา คลานไปคลานมาไม่หยุด
ท่านนักพรตตู๋กดดาบลงไปอย่างไม่ปรานี เพื่อไม่ให้หมอผีหลุดไปได้ และไม่ให้เขาเสกคาถาได้
ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนบอกผมและเฟิงเฉ่วหานว่า “ รีบเอาผงชาด(เป็นสารประกอบปรอท)ออกมา พวกเราต้องกำจัดหนอนพิษพวกนี้ก่อน…… ”