ศพ - ตอนที่ 171 เปลี่ยนเป็นเต้าจวิน
ตอนที่ 171 เปลี่ยนเป็นเต้าจวิน
จู่ๆท่านนักพรตตู๋ก็ระเบิดออกมา อย่าว่าแต่หมอผีเลย แม้แต่ผมและเฟิงเฉ่วหาน ก็ยังต้องมองตาค้าง
พวกเราคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านนักพรตตู๋จะเล่นใหญ่ขนาดนี้
พวกเราเห็นเขาถูกรัดเอาไว้ชัดๆ แต่ตาข่ายกลับขาดออก เขาใช้พลังภายใน พัดพวกแมลงที่กำลังลอยเข้ามาให้ออกไปทันที
การกระทำนี้ พลังแบบนี้ มันแตกต่างจากพลังของพวกเราหลายเท่าตัว
ตอนนี้พลังของผมและเหล่าเฟิงอยู่ในขั้นของนักพรต ลำดับพลังที่อยู่ถัดจากพวกเรา ก็คืออาจารย์ลัทธิเต๋า เต้าจวิน หรือที่สูงกว่านั้นเต้าหวาง เต้าจงและลำดับอื่นๆ……
สำหรับพลังของเขาอยู่ในขั้นไหนนั้น ตอนนี้พวกเราเกรงว่าเขาจะอยู่ในอันดับต้นๆของอาชีพ เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นของพวกปรมาจารย์ลัทธิ หรือท่านผู้อาวุโสของสำนัก
แต่ผมยึดตามพลังที่ท่านนักพรตตู๋เพิ่งระเบิดออกมาเมื่อกี้ ทักษะที่ท่านนักพรตตู๋ใช้ต่อสู้ ผมก็คิดว่าอย่างน้อยเขาน่าจะอยู่ในขั้นเต้าจวิน
เมื่อก่อนอาจารย์อธิบายให้ผมฟังอย่างชัดเจน ว่าตอนที่ลัทธิเต๋ายังไม่ตกต่ำเหมือนตอนนี้
อย่าว่าแต่ฝึกพลังจนถึงขั้นเต้าจวินเลย แม้แต่คนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างอาจารย์ก็มีไม่มาก ขั้นเต้าจวินนี้จึงยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
แต่คนปราบสิ่งชั่วร้ายที่ฝึกฝนวิชาแบบนี้ ส่วนใหญ่มักอยู่ในภูเขาที่เก่าแก่ของลัทธิ เช่นภูเขาเหมาชาน เมืองชิงเฉิง และก็สถานที่ต่างๆที่มีชื่อเสียง
สำหรับเรื่องพวกนี้ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่จู่ๆที่ท่านนักพรตตู๋ก็ระเบิดพลังระดับเต้าจวินออกมานั้น มันทำให้ผมทั้งตกใจและดีใจมาก
เพราะก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าพลังของท่านนักพรตตู๋อยู่ในระดับไหน
และก่อนหน้านี้ตอนที่สู้กับผีน้ำ ท่านนักพรตตู๋ก็ไม่ได้แสดงพลังออกมาขนาดนี้
ตอนนี้จู่ๆเขาก็ระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมา แล้วมันจะไม่ทำให้คนอื่นตื่นตกใจได้ยังไง
หมอผีที่ควบคุมแมลงพิษอยู่ ก็ตกตะลึง เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที
ทันใดนั้นเขาและนางพญาก็ถอยไปข้างหลังหลายก้าว เว้นระยะห่างจากท่านนักพรตตู๋ “ แก แก แกมีพลัง พลังที่…… ”
เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายเองก็มองออกถึงความแข็งแกร่งของท่านนักพรตตู๋ ในเวลานี้จึงตื่นกลัวไปตามๆกัน
“ ฮึ ถ้าข้าไม่แสดงพลังที่แท้จริงออกมา แกก็คงเห็นข้าเป็นพวกอ่อนแอซินะ ! ”
หลังจากพูดจบ สีหน้าของท่านนักพรตตู๋ก็เคร่งขรึมลง เขายกดาบไม้ขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้าแทง อย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง
หมอผีคนนั้นเห็นท่านนักพรตตู่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง เขาก็กระวนกระวายทันที
วินาทีนั้นเขารีบหันไปพูดกับนางพญาว่า “ เร็ว รีบใช้พิษฆ่ามัน ฆ่ามันซะ ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็โยนหนอนพิษใส่ท่านนักพรตตู๋อย่างต่อเนื่อง คิดจะหยุดไม่ให้ท่านนักพรตตู๋เข้ามาใกล้
เสี้ยววินาทีต่อมานางพญาหนอนสีแดง ก็คำราม “ คาคาคา ” ออกมา จากนั้นแก้มของมันก็อวบอูม มันพ่นน้ำกรดใส่ท่านนักพรตตู๋อย่างต่อเนื่อง
แต่ในเวลานี้ท่านนักพรตตู่กลับร้ายกาจขึ้น ร่างกายของเขาว่องไวยิ่งกว่าเดิม
และหลังจากอยู่ในขั้นพลัง “ เต้าจวิน ” พละกำลังของเขาก็สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ผมเคยได้ยินอาจารย์พูดว่า ถ้าคนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างพวกเราสามารถฝึกถึงขั้นนี้ได้ เราก็จะควบคุมพลังในร่างได้อย่างสมบูรณ์
ขอแค่ขับเคลื่อนพลัง ก็จะสามารถผสานกับมันได้ตามใจชอบ แม้แต่ระเบิดออกมาก็ยังได้
ตอนนั้นผมลองคิดตาม แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อ
แต่เมื่อได้มาเห็นตอนนี้ ผลกลับเป็นแบบนั้นจริงๆ
ท่านนักพรตตู๋สามารถระเบิดพลังออกมาจากร่างกาย แถมยังเป็นคลื่นพลังที่ไร้รูปแบบและสามารถปัดเป่าอันตรายที่เข้ามาได้
ถึงแม้ในเวลานี้ท่านนักพรตตู๋จะไม่มีร่มอยู่ในมือ แต่น้ำกรดพวกนั้นก็ไม่สามารถแตะต้องตัวของท่านนักพรตตู๋ได้เลย
การเคลื่อนไหวของท่านนักพรตตู๋เร็วมาก ผ่านไปไม่ถึงพริบตาเดียว เขาก็เข้าใกล้ตัวศัตรูแล้ว
ผมและเฟิงเฉ่วหานต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า มองจากท่าทางของเฟิงเฉ่วหาน ดูเหมือนเขาเองก็ไม่เคยเห็นท่านนักพรตตู๋ร้ายกาจแบบนี้
ในที่สุด ท่านนักพรตตู๋ก็ฟันดาบสังหารใส่ศัตรูอีกครั้ง
ทันใดนั้นผมเห็นท่านนักพรตตู๋กระโดดขึ้น “ ไอ้หนอนชั่ว ไปตายซะ ! ”
เมื่อเห็นท่านนักพรตตู๋กระโดดขึ้นอีกครั้ง หมอผีที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยหนอนและนางพญาตัวนั้นต่างตกใจ
ดวงตาของนางพญาสั่นไหว ปากของมันบวมขึ้น มันคิดจะพ่นตาข่ายลายน้ำ ใส่ท่านนักพรตตู๋อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ท่านนักพรตตู๋ไม่ได้ตกหลุมพราง เขาพูด ฮึ อย่างเย็นชา จากนั้นก็แกว่งดาบในมืออย่างรวดเร็ว “ ฉึก ” ทันใดนั้นตาข่ายน้ำลายก็ขาดออกเป็นสองส่วน
ยังไม่จบเท่านี้ หลังจากฟันเสร็จ ท่านนักพรตตู๋ก็ได้เข้าไปใกล้นางพญาและหมอผีแมลงพิษแล้ว
หมอผีคนนั้นเห็นท่านนักพรตตู๋ตามมาฆ่า เขาก็รู้ทันทีว่าอันตรายมาถึงแล้ว ทันใดนั้นเข้าก็ยกกระถางธูปตรงหน้าขึ้น จากนั้นก็โยนออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่หนอนยักษ์ตัวนั้นเคลื่อนไหวเชื่องช้า มันถอยจนไม่รู้จะถอยไปไหนแล้ว
ทำได้เพียงทำแก้มบวม เตรียมพ่นน้ำกรดใส่เขา เพื่อชะลอการโจมตีเท่านั้น
แต่มันสายไปแล้ว ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
เพราะดาบไม้ในมือของท่านนักพรตตู๋ ได้ฟันลงบนหัวของนางพญาเรียบร้อยแล้ว
ตาบนหนวด ได้เบิกว้างอย่างรวดเร็ว มันเต็มไปด้วยความกลัว
ร่างกายของหนอนยักษ์ตัวนั้น กระตุกไปมาสองสามครั้ง มันดูทรมานมาก แต่สุดท้ายก็คำราม “ คาคาคา ” ออกมา จากนั้นเสียงของมันก็ค่อยๆแผ่วเบาลง
เห็นได้ชัดว่า นางพญาตัวนี้ไม่รอดแล้ว
ท่านนักพรตตู๋มองหนอนยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็กระชากดาบออกอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเลือดสีดำเข้มก็ไหลทะลักออกมา ร่างของนางพญาสั่นไหว ในปากยังคงกรีดร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง
หนอนน้อยที่อยู่ข้างๆเริ่มคลุ้มคลั่ง พวกมันต่างรีบปีนขึ้นไปบนร่างนางพญา ดูเหมือนกับพวกมันคิดจะใช้ร่างกายของตัวเอง หยุดเลือดของนางพญาเอาไว้
แต่รอยดาบของท่านนักพรตตู๋ลึกมาก ไม่ว่าหนอนตัวนี้จะหวงแหนชีวิตขนาดไหน แต่มันก็ไม่รอดแล้ว
ท่านนักพรตตู๋เหลือบมองร่างของนางพญาแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา “ ตายซะไอ้หนอนยักษ์ ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็ฟันดาบลงไปอีกครั้ง
“ ไม่ ! ” หมอผีแมลงที่อยู่ห่างออกไปตะโกนด้วยความหวาดกลัว เขารีบเอื้อมมือออกมาด้วยความตกใจ
แต่ท่านนักพรตตู๋กลับไม่สนใจ เขาฟันมันเข้าไปทันที
นางพญาสูญเสียกำลังในการต่อสู้ไปแล้ว หลังจากดาบฟันลงไป “ ฉึก ” หัวของนางพญาตัวนั้นก็เปิดออกทันที
เสียงกรีดร้องของนางพญาหยุดลงอย่างฉับพรัน เลือดสีดำกระเด็นเซ็นซ่านออกมาราวกับน้ำพุ พร้อมกับส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว
ร่างกายของมันกระตุกสองสามครั้ง จากนั้นก็ตายในทันที
ตอนนี้เจ้าพวกหนอนตัวน้อยๆ เริ่มตื่นตัวผิดปกติ ปีนขึ้นไปบนตัวของนางพญาอย่างต่อเนื่อง
นางพญาถูกฆ่าตาย ผมและเฟิงเฉ่วหานก็ดีใจมาก แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ด้วยความร้ายกาจของท่านนักพรตตู๋ ผมก็รู้สึกภูมิใจในตัวเขามาก
“ ท่านลุงตู๋ร้ายกาจมากเลย ! ”
“ อาจารย์เก่งมากๆ ! ”
ผมและเฟิงเฉ่วหานต่างพูดชม เห็นได้ชัดว่าพวกเรากำลังดีใจมาก ในเวลาเดียวกันพวกเราก็วิ่งเข้าไปใกล้ท่านนักพรตตู่อย่างรวดเร็ว
แต่หมอผีแมลงพิษคนนั้น กลับกำลังเดือดพล่าน
ตัวเขากำลังสั่น ใช้มือข้างเดียวเสกคาถา หายใจหอบเหนื่อย และพูดด้วยความโกรธ “ แก แกฆ่านางพญาของฉัน แกฆ่านางพญาของฉัน ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก…… ”
เมื่อเขาพูดถึงประโยคสุดท้าย เขาก็แทบจะตะคอกออกมา
ท่านนักพรตตู๋ไม่รู้สึกอะไร เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “ ต่อไปก็เป็นตาแกแล้ว ! ”
“ อย่ามาดูถูกคนควบคุมแมลงพิษอย่างพวกเรา ! ”
หลังจากพูดจบ มือที่ประสานอยู่ก็เปลี่ยนแปลง ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมาอีกครั้ง “ เพี๊ยง ! ”
เสียงนี้เพิ่งเงียบลง มืออีกข้างของเขาก็ยกกระถางธูปขึ้น จากนั้นก็มีเสียงดัง “ ฟู่ ” ระเบิดออกมาจากกระถางธูป
ขณะที่กระถางธูประเบิดออก ทันใดนั้นหนอนสีดำตัวหนึ่ง ก็คลานออกมาจากกระถางธูป
เมื่อหมอผีเห็นหนอนสีดำปรากฎตัว เขาก็ไม่ลังเลหยิบมันขึ้น ในเวลาเดียวกันก็จ้องพวกเราอย่างเคียดแค้น “ พวกแกบังคับฉันเองนะ ! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็นำหนอนสีดำตัวอวบอ้วนเท่านิ้วหัวแม่มือ เข้าไปในปาก และกลืนมันทั้งเป็น……