ศพ - ตอนที่ 116 สู้ตัวคนเดียว
ตอนที่ 116 สู้ตัวคนเดียว
คำว่าทำลายพึ่งหลุดออกจากปาก ยันต์ดาวไถที่อยู่บนหัวของจางจึเทา เปล่งแสงสว่างวาบออกมา
พร้อมกับเสียงดัง “ ปัง ” ยันต์แผ่นนั้นระเบิดในทันที
คลื่นพลังอันแรงกล้าถูกกวาดออกไปในชั่วพริบตา ส่วนจางจึเทา ก็ร้อง “ อ้า… ” ถอยไปข้างหลังและล้มลงไปทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าที่ตึงเครียดของผมก็ผ่อนคลายลงมาไม่น้อย
สำเร็จไหม ผมแอบพูดในใจ
แต่ความคิดนี้พึ่งโผล่ออกมาไม่นาน จางจึเทาที่ล้มอยู่บนพื้น ก็พยายามลุกขึ้น
เห็นได้ชัดว่าเขาลำบากมาก แต่ก็ยังสามารถพยุงตัวเอง ให้ลุกขึ้นได้ทีละนิด
เมื่อเห็นจางจึเทายังมีแรงลุกได้ ท่าทีที่ผ่อนคลายของผม ก็กลับมากังวลอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่าโดนยันต์ปราบพลังชั่วของผมไปแล้ว จะยังสามารถลุกขึ้นมาได้อีก มันทำให้ผมตกใจจริงๆ
ตอนนี้หัวของจางจึเทาถูกผมระเบิดจนเป็นแผล เลือดไหลออกมาไม่หยุด และตอนนี้มันก็กำลังไหลลงมาที่หน้าของเขา
แต่จางจึเทา กลับใช้มือลูบหัวของตัวเอง
จากนั้นก็ยกออกมาดู วินาทีที่เขาเห็นเลือดเต็มมือตัวเอง ม่านตาก็ขยายใหญ่ทันที
วินาทีนั้นเขาก็เผยสีหน้าตื่นตกใจ ริมฝีปากสั่นระริกพูดออกมาด้วยความหวาดกลัว “ เลือด เลือด เลือดของฉัน ! อ้า อ้า…… ”
ทันใดนั้นจางจึเทาก็คำรามออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าเขาช็อกมาก
และยังดูเหมือนกำลังโกรธมากๆ เมื่อสองความรู้สึกประสานเข้าด้วยกัน ท่าทางน่าขนลุกก็ถูกเผยออกมาสู่สายตาผม
ส่วนผมในเวลานี้ไม่ได้ขยับไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้า เพียงหยินยันต์ที่พกออกมาอีกหนึ่งแผ่น ยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ
เพราะถ้าอีกฝ่ายประมาท แล้วเกิดช่องว่าง ผมก็จะไม่ลังเลเข้าไปโจมตีซ้ำอีกครั้งทันที
แต่หลังจากจางจึเทาคำราม เขากลับจ้องมาที่ผม
แสดงสีหน้าดุร้าย พร้อมกับพูดด้วยความโกรธอย่างสุดขีด “ แก แกกล้าทำร้ายฉัน ทำให้ฉันเลือดไหลเยอะขนาดนี้ ฉันจะ ฉันจะกินแกซะ ! ”
เสียงพึ่งจางหาย ทันใดนั้นตัวของจางจึเทาก็มีพลังหยินไหลทะลักออกมา ในเวลานี้เขาดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
ผมทำหน้าหนักใจยิ่งกว่าเก่า ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสามารถจัดการจางจึเทาได้ไหม แต่ผมยังไม่ยอมแพ้
จากนั้นผมก็พูดกับจางจึเทาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ ดีชั่วนั้นต่างกัน เข้ามาเลย ! ”
จางจึเทาอ้าปากอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงตะโกน “ โฮก… ” ออกมา
ราวกับสัตว์ร้าย เขาวางแขนและขาลงกับพื้น จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที
“ ไปตายซะ ! ” จางจึเทาตะโกนออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กระโดดขึ้นสูงมาก
เหยียดมือไปด้านหน้า อ้าปากที่โชกเลือดจนกว้าง ผมไม่กล้าประมาท จึงรีบถอยหลบทันที
เมื่อเห็นข้างตัวมีท่อนไม้แห้งขนาดกลางอยู่ ผมก็รีบใช้มือหยิบขึ้นมา ทำเป็นอาวุธทันที
ตอนนี้จางจึเทาได้กลายเป็นคนบ้าไปโดยสมบูรณ์ เขาบุกเข้ามาหาผมอย่างไม่กลัวตาย
ดูเหมือนพลังของเจ้านี่จะไม่มีวันหมด ไม่รู้จักเหนื่อย และบ้าคลั่งอย่างมาก
แต่ดูเหมือนความเร็วของเจ้านี้จะไม่เร็วมาก และเมื่อกี้ก็โดนยันต์ทำลายความชั่วของผมไปหนึ่งแผ่น ยังไงมันก็ต้องส่งผลต่อเขาบ้างไม่มากก็น้อย
ดังนั้นตอนนี้ ผมจึงสามารถรับมือกับการโจมตีที่บ้าคลั่งนั้นได้
ถ้าก่อนหน้านี้เขาโจมตีแบบนี้ มันก็คงไม่เหลือโอกาสให้ผมได้ลงมือ และยันต์แผ่นนั้นก็คงทำร้ายเขาไม่ได้
เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ ผมหยิบท่อนไม้มาหนึ่งท่อน และยันต์อีกหนึ่งแผ่นมาต่อสู้กับจางจึเทาในป่า
การต่อสู้นี้ดำเนินไปกว่า 20 นาที ตัวผมจึงเริ่มเหนื่อยหอบ แต่จางจึเทากลับยิ่งสู้ยิ่งดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ
เท้าทั้งสี่ข้างของเขา แนบอยู่กับพื้น เงยหน้าขึ้น อ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคม “ ก่อนหน้านี้ ฉันยังไม่เคยกินหัวใจคนปราบวิญญาณชั่วสักคน รอให้ฉันฆ่าแกเสร็จ จะได้ลองกินดูว่ามันอร่อยไหม ! ”
แม้ว่าแรงจะเหลือไม่มาก แต่พลังที่เหลือนี้จะแพ้ไม่ได้
“ ฮึ ! หัวใจของฉันไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะกินก็กินได้ อีกเดี๋ยวก็ต้องตาย นั้นเป็นสิ่งที่แกควรได้รับ ! ” หลังจากพูดจบ ผมก็ยกท่อนไม้ขึ้นอีกครั้ง และพุ่งเข้าไปหาจางจึเทา
และผมไม่คิดจะตายตามจางจึเทาไป ดังนั้นผมจะต้องรีบจบการต่อสู้กับเขาให้เร็วที่สุด
ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวผมก็ไม่มีแรงแล้ว สุดท้ายคนที่แพ้ จะต้องเป็นผมอย่างแน่นอน
จางจึเทาเห็นผมพุ่งเข้ามา แน่นอนว่าคนที่กำลังบ้าคลั่งอย่างเขาจะต้องไม่ถอยหลบ ทันใดนั้นเขาก็พุ่งเข้ามาต่อสู้ทันที
ช่วงเวลานั้น ผมสองคนเริ่มปะทะกันอีกครั้ง
จู่ๆจางจึเทาก็กระโดด กางกรงเล็บมาทางผม อยากใช้ความเร็วของตัวเอง ทำให้ผมตายในครั้งเดียว
แต่ผมไม่คิดจะถอยหลัง ยังจ้องอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ
ท่อนไม้ที่อยู่ในมือ ทำให้การต่อสู้ของผมสามารถขยายวงกว้างได้
ขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย หลบการโจมตีของอีกฝ่ายอยู่พักหนึ่ง
ในเวลาเดียวกันก็ผมพูดเสียง ฮึ อย่างเย็นชา ยกมือขึ้นทำเป็นไม้กระบอง กวาดไม้ออกไปเป็นเส้นโค้ง ในระดับเท่าๆกัน และฟาดลงที่ขากรรไกรล่างของจางจึเทา
ทันใดนั้นจางจึเทาก็กรีดร้อง “ โอ๊ย ” และล้มลงไปกับพื้นทันที
ตอนนี้ผมอยู่ใกล้เขามาก ผมไม่ลังเลเลยสักนิด กำไม้ในมือแน่นและวิ่งเข้าไปฟาดซ้ำอีกทันที
ไม่รอให้จางจึเทาลุกขึ้นมาได้ ไม้ในมือของผมก็ฟาดลงที่หัวของจางจึเทา
“ ปัก ” ครั้งนี้ผมฟาดโดนหัวของอีกฝ่ายจังๆ แถมตรงกับแผลที่เกิดจากยันต์ดาวไถอีกด้วย
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ หัวของเขากลับแข็งเหมือนหิน
หลังจากทำแบบนี้ต่อไปสักพัก ท่อนไม้ที่อยู่ในมือของผมก็หักเป็นสองท่อน
จางจึเทากรีดร้องออกมาอีกครั้ง เขาจับหัวของตัวเองเอาไว้แล้วกลิ้งไปกับพื้น
ในปากยังร้องเสียง “ โอ๊ย ! โอ๊ย ! ” ออกมาไม่หยุด
เมื่อผมเห็นไม้หักแล้ว ก็หยิบยันต์ออกมา และเอื้อมมือเข้าไปแปะที่เจ้านี้
แม้ว่าจะเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้น แต่คืนนี้ผมจะต้องกำจัดเจ้าสารเลวนี้ให้ได้
ดังนั้นขณะที่จางจึเทายังไม่รู้ตัว ผมก็ขยับมือ แปะยันต์ลงไปที่จางจึเทาทันที
ครั้งนี้มันแน่นกว่าเดิม ผมแปะมันลงที่หน้าอกของอีกฝ่าย
“ จางจึเทา ฉันขอโทษนะ ! ” หลังจากพูดจบ ผมก็เสกคาถาทันที
แต่ตอนนี้จางจึเทากลับมึนงง เมื่อเห็นหน้าของตัวเองถูกแปะยันต์ ก็รีบใช้มือดึงออกทันที
แต่ยันต์ที่อยู่บนตัวเจ้าหมอนี้ มีพลังหยางศักดิ์สิทธิ์ ไหนเลยวิญญาณชั่วเหล่านี้จะสามารถแตะโดนมันได้ตรงๆ
มือของจางจึเทาพึ่งสัมผัสกับยันต์ เขาก็เหมือนกับโดนไฟฟ้าช็อต และโดนพลังเวทย์ของยันต์ดีดออกทันที
หน้าของผมยังคงสงบ เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมกลับไม่ลังเลเลยสักนิด รีบทำกระบวนท่าทำมือ และท่องคาถาออกมา
เมื่อจางจึเทาเห็นว่าไม่สามารถดึงยันต์ออกได้ แถมผมยังกำลังเสกคาถา เขาก็เกิดกลัวขึ้นมาทันที
เขาหันไปมองรอบๆ ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปทางด้านหนึ่ง
เมื่อผมเห็นเขาวิ่ง ผมก็ไม่ได้สนใจ พูดออกมาทันที “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง…… ”
แต่ผมพึ่งพูดได้แค่ครึ่ง จู่ๆจางจึเทาก็ย่อยตัวลงตรงพุ้มไม้ที่อยู่ข้างหน้า ในเวลาเดียวกันก็พูดว่า “ อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอทันที ! ”
จากนั้น ผมก็เห็นจางจึเทาลากใครคนหนึ่งออกมาจากพุ้มไม้ หลังจากนั้นก็จับคนๆนั้นยกขึ้นกระแทกกับต้นไม้
หลังจากคนๆนั้นถูกจับกดไว้บนต้นไม้ กรงเล็บนั่นก็เข้าไปจอที่คอทันที แถมเล็บที่คมกริบยังเจาะเข้าไปในลำคอของคนๆนั้นอีกเล็กน้อย
หรือว่าก่อนหน้านี้ที่เห็นจางจึเทา ย่อยตัวลงและแสยะยิ้มที่พุ่มไม้ ก็เพราะตรงนั้นมีเหยื่อของเขาอยู่
แต่ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมแปลกใจที่สุด สิ่งที่ทำให้ผมคิดไม่ถึงที่สุดคือหลังจากที่ผมเห็นคนๆนั้นชัดๆ ผมก็ตกตะลึงทันที
เพราะคนๆนั้น เป็นคนที่พวกเราเจอเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน อู่ฮุ่ยฮุ่ยดาราสาวที่เจอกันในสวนสาธารณะเล็กๆของเมืองโดยบังเอิญ
ตอนนี้ตัวของเธอดูเหมือนกำลังสลบ ดวงตาปิดอยู่ ไม่ขยับเขยื่อนเลยสักนิด
ผมคิดไม่ถึงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด ตอนนั้นเธอรีบร้อนออกไป แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ในป่าด้านหลังโรงแรมไดนาสตี้ แถมยังได้เจอกันในสถานการณ์แบบนี้อีก
จางจึเทาเห็นผมตกตะลึง จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเย็นชา “ ติงฝาน เขาว่ากันว่าคนปราบวิญญาณชั่วเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม หรือว่าแกจะทนเห็นฉันฆ่ายัยนี้ได้งั้นเหรอ ”