ศพ - ตอนที่ 107 ยายแก่พิลึก
ตอนที่ 107 ยายแก่พิลึก
เสียงของผมพึ่งเงียบ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ผมจึงตกใจเล็กน้อย และหันไปมองทันที
เมื่อหันไปมอง ก็พบว่าบนถนนที่อยู่ด้านหลัง กลับมียายแก่คนหนึ่งยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ใบหน้าของยายแก่มีผ้าคลุมสีดำ ปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด ดูท่าทางไม่กลัวร้อนเลยสักนิด
ในมือยังถือไม้เท้าสีดำ หลังค่อม ยืนเงียบๆอยู่ใต้แสงไฟสลัวๆและห่างพวกเราไม่ถึง 10 เมตร
เมื่อผมสามคนเห็นสิ่งนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน
เห็นได้ชัดว่าเป็นคนแปลกหน้า และเมื่อมองจากท่าทางของอีกฝ่าย จะเห็นได้ชัดเลยว่าคนๆนี้มาด้วยเจตนาไม่ดี
ผมขมวดคิ้ว จากนั้นก็ถามว่า “ ยายเป็นใคร ”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ! ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือฉันมาฆ่าคน ” ยายแก่พูดด้วยเสียงแหบแห้ง
“ ฆ่าคน ยายจะมาฆ่าใคร ” หยางเฉ่วถามต่อ
แต่ยายแก่คนนั้นกลับกดเสียงลงต่ำ “ คนไร้ค่า ! ”
หลังจากพูดจบ ยายแก่คนนั้นก็นำไม้เท้าที่ถือเอาไว้กระแทกลงกับพื้นหนึ่งครั้ง “ ปัง ”
ทันใดนั้น เจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเรา ก็ร้อง “ อร๊าย ” ออกมาทันที โดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้าเลยสักนิด
จากนั้น “ ปัก ” เธอก็ล้มลงไปกับพื้น
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราก็ตกใจทันที
ผมรีบถาม “ เชี่ยนเชี่ยน เธอเป็นอะไรไป ”
“ เจ็บ ฉันเจ็บมาก มันเกิดขึ้นอีกแล้ว ความรู้สึกนั้น ความรู้สึกนั้นกลับมาอีกครั้ง ! ” เจ้าเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยความทรมาน ในเวลาเดียวกันก็เอื้อมมือไปจับที่คอของตัวเอง
และในขณะที่เธอกำลังขยับ พวกเราก็พบว่าสัญลักษณ์ผีสามตาที่เคยถูกสะกดเอาไว้ ตอนนี้มันกลับเปล่งแสงอีกครั้ง
ไม่เพียงเท่านั้น ลวดลายคล้ายใยแมงมุมสีดำ ก็ได้แพร่ออกมาจากสัญลักษณ์อีกครั้ง มันเริ่มขยายไปทั่วร่างกายของเจ้าเชี่ยนเชี่ยน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราสามคนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ส่วนยายแก่ที่อยู่ใกล้ๆนั้น ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ คนที่ไร้ค่าต่อองค์กร มีจุดจบแค่อย่างเดียว คือตาย ! ”
ตอนที่พูดถึงคำว่า “ ตาย ” ยายแก่คนนั้นก็กดเสียงลงต่ำมาก
และหลังจากที่ยายแก่พูดจบ ก็หัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” ออกมาอย่างน่าขนลุก
แต่เมื่อพวกเราได้ยิน ในสมองกลับมีเสียงระเบิดดัง “ ปัง ” ราวกับฟ้าผ่าในตอนกลางวัน
ถ้าพูดแบบนี้ งั้นยายแก่คนนี้ก็ต้องเป็นคนในองค์กรนะซิ
แล้วทำไมยายแก่คนนี้ ถึงพึ่งกระตุ้นตราผีนั้นละ
เธอออกมาปรากฎตัวตอนนี้ ก็เพื่อมาฆ่าเจ้าเชี่ยนเชี่ยนงั้นเหรอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผมก็หันไปมองยายแก่อย่างรวดเร็ว “ แกมาฆ่าเชี่ยนเชี่ยนงั้นเหรอ แกรีบแก้คาถาให้เธอเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแกได้เห็นดีกันแน่ ! ”
ผมพูดอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่ากำลังโกรธ
เฟิงเฉ่วหานและหยางเฉ่ว ก็จ้องยายแก่นั้นเช่นกัน
แต่ยายแก่กลับเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นคางที่มีรอยย่นและริมฝีปากสีม่วง “ เจ้าเด็กน้อย บางเรื่องเธอก็ไม่สามารถรับมือกับมันไหว ! มาจากไหน ก็กลับไปที่นั้น ไม่อย่างนั้นตายแล้ว มันจะไม่คุ้มนะ ! ”
หลังจากพูดจบ ยายแก่คนนั้นก็ไม่มองพวกเราเลยสักนิด เธอหมุนตัวเดินออกไปทันที
ยายแก่พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นมาก สงบมาก และไม่สนเสียงกรีดร้องของเจ้าเชี่ยนที่อยู่ด้านหลังเลยสักนิด
เธอเดินอย่างสบายใจ และค่อยๆย่างกรายเข้าสู่ความมืดอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ในใจของผมก็มีไฟแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นมาทันที
ทำเรื่องเลวๆไว้ แล้วยังทำท่าทางสบายใจได้แบบนั้น ยกโทษให้ไม่ได้
แถมยายแก่คนนี้ ยังเป็นคนในองค์กรชัดๆ
และดูเหมือน เธอยังสามารถควบคุมความเป็นความตายของเจ้าเชี่ยนเชี่ยนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ผมยังมีเหตุผลให้เชื่อว่า ที่สัญลักษณ์ของโจวเจี่ยนเริ่มทำงานได้ ก็เพราะเกิดจากยายแก่คนนี้ถึง 90%
“ ชีวิตเป็นของฉัน จะตายรึเปล่า มันก็ขึ้นอยู่กับฉัน ! ” หลังจากพูดจบ ผมก็วิ่งเข้าไปทันที
หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานเองก็ทำเช่นเดียวกัน ถ้าไม่หยุดยายแก่นี้เอาไว้ คืนนี้เจ้าเชี่ยนเชี่ยนจะต้องตายแน่
“ หยุดเดี๋ยวนี้ ” ผมวิ่งไป ตะโกนไป
แต่ยายแก่คนนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน เธอหัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” จากนั้นก็เดินเข้าไปในความมืดเรื่อยๆ
เมื่อพวกเราสามคนไล่ตามเข้ามาถึงในความมืด ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของยายแก่คนนั้นเลยสักนิด
“ หายไปแล้ว ” หานเฉ่วเฟิงพูดด้วยความตกใจ
“ เธอเร็วจริงๆ ! ” หยางเฉ่วเองก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
ที่นี่มีถนนเพียงเส้นเดียว และไม่มีซอยหรือตรอกเล็กๆด้วย
ตลอดทั้งเส้นใช้เวลาเดินไม่กี่วินาที ยายแก่นี้จะหายไปได้จริงๆเหรอ
“ ยายแก่ ออกมาเดี๋ยวนี้ ! ” ผมตะโกน พร้อมกับหันไปมองรอบๆ อย่างกระวนกระวาย
ผลลัพธ์เสียงพึ่งเงียบลง จู่ๆด้านหลังของผม ก็มีเสียงของยายแก่ดังขึ้น “ เลิกตะโกนได้แล้ว ฉันอยู่นี้ ! ”
เมื่อได้ยินว่าเสียงดังมาจากข้างหลัง ในใจของพวกเราก็อดไม่ได้ที่จะตกใจอีกครั้ง
หันไปอย่างรวดเร็ว มองดูด้านหลังอีกครั้ง
ผลลัพธ์หลังจากหันไป “ พรึบ ” สีหน้าของพวกเราก็เปลี่ยนไปทันที
ผมกลืนน้ำลายทันที เพราะไม่รู้ว่ายายแก่นี้ใช้วิธีอะไร ราวกับภูติผี มาปรากฎตัวที่ด้านหลังของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ข้างๆเจ้าเชี่ยนเชี่ยน เธอยังคงเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นรอยย่นที่คางและริมฝีปากสีม่วง
ดูเหมือนในช่วงเวลานี้ มุมปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย คล้ายกับกำลังยิ้ม
“ แกเป็นคนหรือผี ” เฟิงเฉ่วหานอดไม่ได้ที่จะถาม
แต่ยายแก่กลับยกไม้เท้าในมือขึ้น และพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “ จะคนหรือผีก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือจงรักภักดี ! ”
เสียงพึ่งจางหาย ทันใดนั้นยายแก่ก็ก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว ใช้ไม้เท้าในมือ กระแทกที่ท้องของยัยผีอย่างไม่ลังเล
ทันใดนั้นเสียง “ อร๊าย ” ก็ดังขึ้น เจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่ทรมานจนแทบไม่ไหวอยู่แล้ว กลับต้องทรมานจนถึงขีดสุด
เธอดิ้นทุรนทุราย ใช้สองมือจับไปที่ไม้เท้า เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
“ เชี่ยนเชี่ยน ! ” ผมและหยางเฉ่วตะโกน พร้อมกับความโมโหที่อยู่ในใจได้ระเบิดออก
“ ยายแก่สมควรตาย ฉันจะฆ่าแก ! ” ผมตะคอก จากนั้นก็วิ่งเข้าไปอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนยายแก่นั้นจะไม่สนใจเลยสักนิด เธอส่ายหัวให้กับผม “ มืออีกข้างของเธอใช้ได้แค่เอามาโบกมือให้ฉันเท่านั้น ! ”
ทันใดนั้น ผมก็เห็นไอดำอยู่ตรงหน้า
ความเร็วนั้นยากที่จะรับรู้ได้ เมื่อผมเห็นมัน ก็สายไปแล้ว
ไอดำพวกนั้นพุ่งชนตัวผมทันที วินาทีนั้น ผมก็รู้สึกถึงพลังที่แปลกมากๆ ราวกับถูกรถบรรทุกพุ่งชน
“ ปัง ” วินาทีนั้นตัวผมกระเด็นออกไปทันที และสุดท้ายก็นอนราบลงไปกับพื้นอย่างแรง
“ ติงฝาน ! ” หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานตกใจ รีบวิ่งมาหาผมทันที
ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บที่หน้าอกจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ความร้อนไหลขึ้นมาจากท้องตรงๆ ทันใดนั้น “ อัก ” ผมก็กระอักเลือดออกมาทันที
ในเวลานี้ ผมรู้สึกว่าตัวกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ มันทรมานมากๆ
แต่ผมไม่ร้องออกมา แค่เงยหน้าขึ้น มองเจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังทรมานมากๆ และยายแก่ที่เผยรอยย่นที่คางและริมฝีปากสีม่วงให้เห็นเท่านั้น
ผมรู้สึกโทษตัวเองมาก โทษตัวเองที่ทำไมถึงได้อ่อนแอขนาดนี้
ในเวลานี้กลับทำได้แค่มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม้แต่เข้าไปใกล้ก็ยังทำไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงจะช่วยยัยผีที่น่าสงสารนั้นได้เลย
ไม่รอให้ผมได้พูดอีกครั้ง เจ้าเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังทรมาน กลับแสดงสีหน้าเจ็บปวด หันมามองพวกเราด้วยท่าทางที่กำลังทรมานมากๆ
จากนั้น ร่างของเธอก็เริ่มกระตุก เส้นสีดำเหล่านั้นได้กระจายเต็มหน้าเธอแล้ว
ดูแล้วน่าสยดสยอง และน่าสะพรึงกลัวมาก
แต่ในดวงตาของเธอทั้งสองข้าง กลับแสดงถึงความอบอุ่นและขอบคุณ
จากนั้น เธอก็กดความเจ็บที่อยู่ในร่างกายเอาไว้ พยายามพูดกับพวกเราด้วยเสียงที่อ่อนแรง “ ขอบ ขอบคุณ พวกคุณมาก ! ฉัน ฉันก็ควรรับโทษที่ฉันทำแล้ว ทำผิด ต้อง ต้องชดใช้…… ”