ว่าไงคะท่านนายพล - ตอนที่ 36 : แขกที่ไม่ได้รับเชิญ (1)
ในเวลานี้กู้เหนียนจื่อยืนอยู่บนระเบียงนอกห้องของเธอโดยที่เธอไม่แน่ใจว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี
เหม่ยเสี่ยวเหวินได้เก็บช่อกุหลาบยักษ์ไว้ในรถ เธอเดาว่าการทำอย่างนี้ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจที่ถูกสารภาพรักแบบนี้ ตอนนี้เธอยังคงยืนอยู่บนระเบียงและจู่ ๆ ก็อยากจะแทะเล็บของตัวเองด้วยอาการประหม่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ทางด้านคุณหนูเฉาที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เธอจึงผลักสาวน้อยกลับเข้าไปในห้องทันทีและโบกมือให้กลุ่มที่ทะเลาะกันด้านล่างก่อนจะตะโกนว่า “หัวหน้าห้อง นายอยากจะเอาชนะใจเหนียนจื่อของเราด้วยดอกกุหลาบแค่ช่อเดียวเนี่ยนะ?! แค่นั้นยังไม่พอหรอก!”
เมื่อเห็นคนที่ตนรักถูกผลักเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็ยืนขึ้นและยกช่อดอกไม้ขึ้นเหมือนนักกีฬาโอลิมปิกเหรียญทอง “นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! ฉันจะพยายามให้มากขึ้น!”
ในที่สุดซ่งหรูยวี่ก็เข้าใจความรู้สึกที่ถูกปฏิเสธ เหม่ยเสี่ยวเหวินสารภาพรักกับกู้เหนียนจื่อต่อหน้าคนมากมายและแม้ว่ากู้เหนียนจื่อจะไม่ตอบรับเขาในทันที แต่เขาถูกมองว่าเป็น ‘คนมีเจ้าของ’ โดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัย C แล้ว
ในเวลานี้นางมารน้อยแทบจะหุบยิ้มไม่ได้ เธอเอามือข้างหนึ่งแนบหูของเธอและแสร้งทำเป็นถือไมโครโฟนอีกข้างหนึ่งแล้วหันไปทางซ่งหรูยวี่ “แม่คนเจ้าเล่ห์ นี่เป็นครั้งแรกที่อกหักหรือไง รู้สึกยังไงที่เสนอหน้ามาให้เขาปฏิเสธ? ไหนเล่าให้ฟังหน่อยสิ!”
“ไปให้พ้น! ยัยนางมารร้าย!” หญิงสาวผลักอีกฝ่ายออกแล้ววิ่งกลับไปที่หอพักพร้อมสะอื้นไห้
เหม่ยเสี่ยวเหวินมอบดอกกุหลาบให้ยัยหนูชาเขียวฟ่าง “ฝากมอบดอกไม้ให้กับเหนียนจื่อแทนฉันหน่อยนะ”
“แน่นอน ยังไงก็ตาม หัวหน้าห้อง อย่าลืมอาหารค่ำคืนนี้ล่ะ!” ฟ่างเหวินซินรับช่อดอกกุหลาบมาแล้วเสยผม
ชายหนุ่มคิดถึงการสัมภาษณ์ของกู้เหนียนจื่อในเช้าวันรุ่งขึ้น เขากังวลว่างานปาร์ตี้คืนนี้อาจจะดึกเกินไป มันจะส่งผลต่อการสัมภาษณ์ของเธอ เขาเปิดประตูรถพลางหันไปขอโทษหญิงสาวทั้งสองคน “เอ่อ ฉันขอโทษนะ แต่คืนนี้ฉันไปไม่ได้จริง ๆ ฉันมีธุระกับที่บ้าน พวกเขาโทรหาฉันเมื่อกี้นี้เอง ฉันได้บอกเหนียนจื่อแล้ว แต่พรุ่งนี้…พรุ่งนี้ฉันว่างแน่นอน” เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา “เดี๋ยวฉันจองโต๊ะพรุ่งนี้ให้เลย”
ยัยหนูชาเขียวฟ่างและนางมารน้อยส่งสายตาให้กันและหันไปพูดกับหัวหน้าห้องด้วยน้ำเสียงที่แสดงว่าไม่พอใจชัดเจน “หัวหน้า เราสัญญาว่าจะช่วยนายจีบเหนียนจื่อเพราะนายเป็นคนจริงใจ อย่ามาเล่น ๆ กับเธอนะ” เมื่อเช้านี้เขาเพิ่งสัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงมื้อค่ำ แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ ความจริงใจของเขาอยู่ที่ไหน ความประทับใจที่เขาสร้างไว้ให้กู้เหนียนจื่อนั้นกำลังจะมลายหายไปก่อนที่จะได้สานสัมพันธ์อันแสนโรแมนติก
เหม่ยเสี่ยวเหวินรีบอธิบาย “ฉันมีบางอย่างต้องไปจัดการจริง ๆ เหนียนจื่อรู้เรื่องนี้แล้วด้วย ถามเธอดูสิถ้าพวกเธอไม่เชื่อฉัน” เขาต้องการส่งข้อความให้กู้เหนียนจื่อทันทีเพื่อสื่อสารแผนนี้กับเธอ
“จริงเหรอ?” ฟ่างเหวินซินมองไปที่หวังจุนหยาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์และถามเธอว่า “เธอเชื่อเขาไหม”
คนที่ถูกถามยักไหล่ “เรากลับไปถามเหนียนจื่อก็ได้”
หัวหน้าหนุ่มกำลังจ้องโทรศัพท์ของเขา ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดใหม่ผุดขึ้นมา “เหนียนจื่อชอบอาหารท้องถิ่นหรืออาหารอื่น ๆ ไหม”
ยัยหนูชาเขียวฟ่างส่งกุหลาบเข้าไปในอ้อมแขนของนางมารน้อยและให้อีกคนกลับไปก่อน จากนั้นเธอก็ตอบว่า “เหนียนจื่อชอบไปร้านอาหารท้องถิ่นบ่อย ๆ” คำพูดของเธอบ่งบอกว่าฐานะของเหนียนจื่อทำให้เธอไม่เลือกไปทานร้านอาหารหรูหรา
เมื่อได้ยินอยางนั้น มือของเหม่ยเสี่ยวเหวินชะงักไปและความอ่อนโยนก็พองออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ เขาต้องการที่จะทะนุถนอมผู้หญิงคนนั้นให้ดีเพราะเธอมีค่าคู่ควรกับเขา
“งั้นไปร้านอาหารเรดแมเนอร์ในเมืองกันเถอะ” ชายหนุ่มรีบค้นหาหมายเลขโทรศัพท์และโทรไปร้านอาหารเรดแมเนอร์ที่เป็นร้านอาหารต่างประเทศที่มีมาช้านานในเมือง C ซึ่งที่นี่เน้นเรื่องรสชาติ ประกอบกับมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานและอาหารได้รับการกล่าวขานว่าเหมือนต้นตำหรับมาก แน่นอนว่าราคาก็แพงมากเช่นกัน
หญิงสาวยอมเงียบลงเมื่อเธอเห็นว่าอีกฝ่ายจองร้านอาหารไว้เวลา 18:00 น. การทานอาหารในร้านอาหารเรดแมเนอร์เขาน่าจะต้องจ่ายอย่างน้อย 10,000 หยวน “หัวหน้าห้อง มาพูดตรง ๆ กันเถอะ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราช่วยนายได้ หลังจากนี้นายต้องทำทุกย่างคนเดียว แม้ว่าตอนนี้เหนียนจื่อยังเด็กอยู่ แต่อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเราไม่เตือน”
“เหนียนจื่อโชคดีที่มีรูมเมทอย่างเธอสามคน แน่นอนว่าฉันอยากจะแต่งงานกับเธอ” เหม่ยเสี่ยวเหวินกล่าวอย่างจริงจัง
อาจเป็นเพราะพวกเธอทั้งสามคนรู้จักผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาและรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา พวกเธอจึงตกลงที่จะช่วยเขาในครั้งนี้
ยัยหนูชาเขียวฟ่างหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน และเหม่ยเซียเหวินก็ส่งข้อความหากู้เหนียนจื่ออย่างรวดเร็ว ‘คืนนี้พักผ่อนเยอะ ๆ นะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับเธอ ฉันบอกรูมเมทของเธอว่าฉันมีธุระกับที่บ้านและเปลี่ยนไปเลี้ยงมื้อค่ำพรุ่งนี้ อย่าให้ใครรู้นะและอย่าบอกใครเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของเธอในวันพรุ่งนี้ เธอควรรอจนกว่าจะได้จดหมายตอบรับ’
‘อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ก่อนที่เธอจะไปถึงขั้นนั้น’ ประโยคนี้ชายหนุ่มคิดในใจ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนกู้เหนียนจื่อคงคิดว่าเหม่ยเสี่ยวเหวินกำลังคิดมากเกินไป แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเฟิงอี้ซี เธอจึงรู้สึกว่าควรระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าเธอจะคิดว่ารูมเมทสาวสามคนของเธอไม่เหมือนกับเฟิงอี้ซี แต่โอกาสสุดท้ายของเธอคือวันพรุ่งนี้ และเธอก็ไม่อยากมีปัญหาอีก เธอจะเลี้ยงอาหารค่ำพวกเขาหลังจากสัมภาษณ์เสร็จเพื่อเป็นการขอโทษ ดังนั้นเมื่อนางมารน้อยกลับมาที่หอพักและถามเธอเกี่ยวกับแผนสำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอก็ตอบเบา ๆ ว่า “หัวหน้าห้องบอกฉันแล้วว่าเขามีธุระกับที่บ้าน”
“มีอะไรหรือเปล่า” หวังจุนหยาผู้มีฉายานางมารน้อยเม้มริมฝีปากของเธอและดึงสาวน้อยลงมานั่งข้าง ๆ ขณะที่เธอถามอีกฝ่ายอย่างจริงจัง “เหนียนจื่อ ดูเหมือนว่าเธอค่อนข้างชอบเหม่ยเสี่ยวเหวินนะ ฉันต้องเตือนเธอในฐานะพี่สาว อย่าหลงระเริงกับพวกผู้ชายขยะมากเกินไป อย่ายกหัวใจของเธอให้กับคนที่ทำดีกับเธอนิด ๆ หน่อย ๆ”
กู้เหนียนจื่อรู้สึกวิตกกังวลกับคำพูดเหล่านี้ เธอใช้นิ้วแตะหน้าผากของ นางมารน้อย “พี่สาวที่รักของฉัน เธอเคยเจอเรื่องเจ็บปวดมาก่อนหรือเปล่า ทำไมเธอถึงพูดว่า ‘พวกผู้ชายขยะ’ ?”
“หึ! บอกได้เลยว่าเธอจะต้องทุกข์ใจถ้าเธอไม่ทำตามคำแนะนำของผู้ใหญ่! ฉันมีประสบการณ์มากมายกับผู้ชายและก้าวข้ามไปสู่ระดับ ‘ดาวยั่ว’ ฉันสามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้ชายต้องการได้เพียงแค่ปรายตามองเท่านั้น!” หวังจุนหยาจิ้มที่หน้าผากของสาวตรงหน้า
พวกเธอสองคนหัวเราะคิกคักกับเรื่องเมื่อสักครู่ แล้วผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียด จากนั้นพวกเธอก็เปลี่ยนเรื่องคุยและแย่งขนมกินกันกับรูมเมทสาวคนอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน กู้เหนียนจื่อก็ล้มตัวนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน พรุ่งนี้เธอต้องตื่นแต่เช้าและรีบไปมหาวิทยาลัย เนื่องจากเมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับ ทำให้เธออยากพักผ่อนให้เต็มที่
หลังจากที่เพื่อนของเธอเห็นว่าเธอผล็อยหลับไปแล้ว ทุกคนจึงไม่รบกวนเธอ พวกเธอทำความสะอาดห้องแล้วก็เข้ามุมส่วนตัวของตัวเอง สาวน้อยของกลุ่มนอนอยู่ในหอพักจนถึงกลางดึกก่อนที่เสียงน่ารำคาญของหัวหน้าหอพักดังขึ้นจากอินเตอร์คอมของหอพักเพื่อปลุกเธอ
“กู้เหนียนจื่อ ห้อง 518 มีคนมาหาคุณ!”
เจ้าของชื่อเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและรวบผมของเธอให้เป็นหางม้ายุ่ง ๆ ก่อนจะลงไปข้างล่าง ในเวลานี้มีรถเต่าขนาดเล็กจอดอยู่หน้าอาคาร พร้อมกับมีผู้หญิงที่สวยสง่าในชุดเดรสสีเทายืนอยู่ข้างรถ ผิวของเธอเนียนละเอียด ใบหน้าของเธออ่อนโยนสว่างไสวเหมือนดวงจันทร์ เธอมีคิ้วและริมฝีปากที่เข้ากับรูปหน้าและมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ เธอยิ้มให้กู้เหนียนจื่อแล้วพูดขึ้นมาว่า “เธอคือกู้เหนียนจื่อใช่ไหม? ฉันเหวินเฉียวอี้ ผู้ช่วยของศาสตราจารย์เฮอจือชู”