ว่าไงคะท่านนายพล - ตอนที่ 25-26 : นายคิดมากเกินไป, ไม่มีความ เป็นส่วนตัว
บทที่ 25-26 : นายคิดมากเกินไป, ไม่มีความ เป็นส่วนตัว
บทที่ 25 : นายคิดมากเกินไป
ฮัวเฉาเหิงเหล่มองพวกเขาขณะที่เขาใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในก ระเป๋ากางเกง “ทดสอบ? พวกนายจะทํายังไง”
“หึ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นการไปเจอดา ราหนังโป๊ชื่อดังของญี่ปุ่น!” เขี้ยวเลี่ยงจื่อและหยินชื่อฉงจับมือกันและยักคิ้วอย่างมีเลศนัย “ถ้าเราไม่ ? ทดสอบตัวเองกับดาราหนัง โป๊ญี่ปุ่น เราจะรู้ได้ยังไงว่าการฝึกต่อต้านการยั่วยวนของเราได้ผลจริง ๆ แต่เราจะแค่ “ทดสอบ” เราจะไม่ทํา ‘มัน” จริง ๆ”
นายพลหนุ่มค่อนข้างมั่นใจว่าชายหนุ่มทั้งสองแค่อยากเห็นดา ราหนังโป๊ญี่ปุ่นแสดงสดให้พวกเขาดู
หลังจากนั้นฮัวเฉาเหิงก็ละความสนใจไปจากพวกเขา เขาเดินไป ที่หน้าต่าง พร้อมถือถ้วยชาในมือและจ้องมองวิวกลางคืนข้างนอก
ทิวทัศน์ยามค่ําคืนของโตเกียวนั้นสวยงามมาก แสงไฟจากอา คารสูงระยิบระยับราวกับเพชรแล้วแสงพวกนั้นก็ปะปนกับดวงดาวในท้องฟ้ายามมืดสีน้ําเงินเข้ม ตอนนี้บรรยากาศดูเงียบสงบมาก
เมื่อเลี้ยวเลี่ยงจื่อและหยินชื่อฉงเห็นว่าผู้เป็นเจ้านายไม่ตอบ อะไรเลย พวกเขาก็มีสีหน้าผิดหวัง
เลขาหนุ่มทั้งสองถอนหายใจและนั่งลงบนโซฟาอย่างต่อเที่ยวโด ยที่แต่ละคนยกกาแฟขึ้นมาดื่มแก้เก้อขณะที่พูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบ
“ต้าฉง [1] นายเคยทํากับผู้หญิงหรือเปล่า”
“ฉันไม่เคยมีแฟนเลย แม้แต่นอนกับผู้หญิงก็ไม่เคย” หยินชื่อฉง พ่นลมหายใจ “แล้วนายล่ะ? นายพยายามจีบเจ้าหน้าที่หญิงจากเขต 3 อยู่ใช่ไหม เธอชื่ออะไรนะ
“เอ่อ อย่าพูดถึงเลย ฉันสร้างความประทับใจให้เธอไม่ได้และฉัน เกือบจะพ่ายแพ้แบบหมดรูป” คนถูกถามส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง “เธอมีคนมากมายเข้าแถวรออยู่แล้ว ฉันพนันได้เลยว่าคิวจะยาวจากเขต 3 ไปจนถึงเขต 4 แล้วฉันจะไปมีโอกาสอะไร”
“จริงเหรอ? ฉันไม่เห็นว่าเธอจะน่าดึงดูดสําหรับฉันตรงไหนเลย” ฝ่ายที่ได้ฟังลูบหลังศีรษะของเขาและพูดด้วยน้ําเสียงที่ไม่สบายใจ “ฉันอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงถ้าทํากับผู้หญิง? จะเป็นยังไงถ้าเรา ต่อต้านแรงกระตุ้นของเรา และในที่สุดเราก็ไม่เหลือความต้องการทางเพศอีก แม้แต่จะมีอารมณ์ก็ยังไม่ได้ แล้วเราจะมีลูกได้ยังไง? ครอบครัวของฉันมีประวัติยาวนานกวาห้าชั่วอายุคนและพวกเขามีฉันเป็นลูกชายคนเดียว!”
ในเวลานั้นฮัวเฉาเพิ่งหันกลับมา เขาเดินห่างจากหน้าต่างมาวาง ถ้วยชาลง แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “นายจะยังไม่ตายด้านหรอกนายคิดมากเกินไป”
“คิดมากไปเหรอครับ! เจ้านาย คุณรู้ดีว่าการฝึกต่อต้านการยั่ว ยวนของเราเป็นยังไง เพราะคุณเคยเจอมาแล้ว คุณไม่รู้สึกกังวลเลยจริง ๆ เหรอครับว่าคุณจะตายด้าน! หรือกลัวว่าจะหลั่งเร็ว?”
นายพลหนุ่มก้มศีรษะลงจุดบุหรี่แล้วพูดว่า “อย่าคิดมากนักเลย การหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันมันน่าเบื่อ นี่ก็ดึกแล้ว ไปนอนซะ พรุ่งนี้เรามีนัดกัน”
“เจ้านาย คุณไม่รู้ว่าคุณกําลังพูดถึงอะไร” เลี้ยวเลี่ยงจื่อพูดอ ย่างโจ่งแจ้ง เขาได้รวบรวมความกล้าและกําลังโต้เถียงอย่างกระตือรือร้นเพื่อสิทธิในการสืบพันธุ์ระหว่างชายและหญิง “คุณไม่เคยลอง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่เป็นปัญหา? แล้วใครที่หมกมุ่นอยู่กับผู้หญิง? เราอยู่ในญี่ปุ่นผมแค่บอกว่าเราอาจจะสืบพันธุ์ไม่ได้!”
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยลอง” คนเป็นเจ้านายเอียงศีรษะถาม แล้วสะบัดขี้เถ้าจากบุหรี่ของเขาก่อนจะหันหลังเตรียมจะกลับห้อง ของเขาใบหน้าของเขาซึ่งปกติแล้วจะดูเฉยชาเหมือนจะมีสีแดงระเรื่อจาง ๆ ที่แก้มของเขา
ดวงตาของผู้เป็นเลขาทั้งสองเกือบจะหลุดออกจากเบ้า พวกเขา ตะโกนไล่หลังคนที่กําลังจะหนีทันที “คุณเสียพรหมจรรย์ไปเมื่อไหร่ครับ! ทําไมเราไม่รู้เรื่องนี้!”
พวกเขาเป็นเลขาส่วนตัวของท่านนายพลฮัวและพวกเขาติดตาม อีกฝ่ายเหมือนเงา ทําไมพวกเขาถึงไม่สังเกตเห็นเหตุการณ์สําคัญใน ชีวิตส่วนตัวของเขา? พวกเขาล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่! ล้มเหลว มากจริง ๆ !
ในตอนนั้นฮัวเฉาเหิงไม่สนใจเสียงตะโกนที่บ้าคลั่งจากเลขาส่วน ตัวของเขาในขณะที่เขาเดินกลับไปที่ห้องอย่างสงบเขาหยิบโท รศัพท์ออกมา และก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่ากําลังทําอะไรอยู่ เขาก็กดห มายเลขนั้นไปแล้ว
ตื้ด ตื้ด
“ฮัลโหล นี้ใครคะ?” เสียงหวานและน่ารักของกู้เหนียนจื่อดังขี้ นจากปลายสาย
ชายหนุ่มไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตื่นแล้วจริง ๆ เขารวบรวมสติแล้ว พูดว่า “เธอทําอะไรอยู่”
ในขณะนี้หญิงสาวกําลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในโรงยิม เธอฟังเพลงในหูฟง เมื่อมีสายเข้าเธอก็กดรับทันทีโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมาหลังจากที่ เธอได้ยินเสียงทุ่มของผู้ปกครองหนุ่มหัวใจของเธอก็แทบระเบิดด้วยความปิติยินดี เธอพูดด้วยน้ําเสียงปนหอบว่า “ฉันกําลังออกกําลังกาย!” แล้วพูดบ่นต่อว่า “ฉันอ้วนขึ้นอีกแล้ว ฉันต้องลดน้ํา หนัก!”
ฮัวเฉาเหิงลดมือที่ถือบุหรี่ลงขณะที่เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เธอ ไม่อ้วน มันจะดีกว่านี้ถ้าเธอมีน้ํามีนวลขึ้นกอดแล้วเต็มมือกว่า”
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ความเงียบแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นกับทั้งสองคน
ทหารหนุ่มเป็นคนที่ดึงสติกลับมาได้ก่อน เขาดูดบุหรี่ก่อนจะพ่น ควันสีขาวออกมา เขาถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “ที่รัก เธอยังอยู่ หรือเปล่า”
กู้เหนียนจื่อพยายามสงบใจตัวเองเพราะอาการขนลุกแปลก ๆ ในเรื่องนี้ เธอพูดช้า ๆ และเน้นทีละคํา “ฮัวเฉา นี่คือเหนียนจื่อ กู้ เหนียนจื่อ นี่คุณคิดถึงคนอื่นอยู่หรือเปล่าเนี่ย”
เธอรู้จักฮัวเฉาเพิ่งมา 6 ปีแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินเขาเรียกใครอย่าง สนิทสนมว่า “ที่รัก” มาก่อน
คนเป็นผู้ปกครองพ่นลมหายใจและเอาบุหรี่ไปเสียบตรงที่เขี่ ยบุหรี่ เสียงของเขายังฟังดูไม่แยแสและทุ่มต่ํา “ฉันโทรผิด อย่าน อนดึกล่ะ” จากนั้นเขาก็วางสายไป
ในขณะเดียวกันหญิงสาวยังคงวิ่งเหยาะ ๆ บนลู่วิ่ง ในใจของเธอ เต็มไปด้วยคําถาม ฮัวเฉามีแฟนแล้วเหรอเธอควรลองถามเฉินห ลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีไหม?
อีกด้านหนึ่ง ฮัวเฉาเพิ่งรู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากวางสาย เขาจึงเปลี่ยนชุดกีฬาแล้วไปที่โรงยิมของโรงแรม
ยิมของโรงแรมชิบะไม่ค่อยพลุกพล่านในตอนกลางคืน
ชายชาวญี่ปุ่นหลายคนในชุดเสื้อรัดรูปกําลังพูดคุยกันขณะที่ออกกําลังกายไปด้วย
พวกเขาพูดอย่างรวดเร็วและการแสดงออกของพวกเขาก็เกินจ
เมื่อพวกเขาเห็นฮัวเฉาเหิงเดินเข้ามา พวกเขาก็เข้าใจโด ยอัตโนมัติว่าเขาไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น จากนั้นพวกเขาก็ละความ สนใจจากชายหนุ่มแล้วไม่สนใจที่จะลดเสียงลงในขณะที่ยังคงพูดคุยกันต่อในสิ่งที่ควรจะเป็นการพูดคุยกันแบบส่วนตัว
“เสื้อชั้นในผู้ชายที่ออกมาใหม่ใส่สบายมาก!”
“นี่รู้ไหม ฉันใส่มันทุกวันตอนที่ฉันออกไปข้างนอก ฉันจะรู้สึก แปลก ๆ ถ้าไม่ได้ใส่มัน!”
ความเข้าใจภาษาญี่ปุ่นของนายพลหนุ่มอยู่แค่ในระดับพื้นฐาน แต่ชุดหูฟังบลูธูทของเขามาพร้อมกับคุณสมบัติการแปลภาษาอัตโนมัติ ดังนั้นเขาจึงได้ยินและเข้าใจทุกคําในการสนทนาเกี่ยวกับเสื้อชั้นในของผู้ชายอย่างชัดเจน
หัวข้อสนทนาของคนพวกนั้นทําให้เขาอึ้งไปชั่วครู่ เขาก้าวขึ้น ไปบนลู่วิ่งโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรไปรบกวนความสนุกของฝ่ายนั้น ต่อมาเขาเลือกตั้งค่าความเร็วสูงสุดและเริ่มวิ่ง
นายพลฮัวขายาวและอกกว้างกําลังวิ่งราวกับเสือชีตาห์ที่ดูโฉบ เฉียวและทรงพลังอยู่บนลู่วิ่งนี่เป็นการแสดงความแข็งแกร่งและความเป็นชายที่น่าเกรงขาม พลังงานดิบของเขาแผ่ออกมาไปทั่วทั้ งห้อง
ผู้หญิงญี่ปุ่นสองสามคนที่เพิ่งเข้ายิมไม่สามารถละสายตาไปจาก เขาได้เลย
“โอ้พระเจ้า เขาดูดีสุด ๆ ไปเลย!”
ผู้ชายญี่ปุ่นที่ดูอ้อนแอ้นที่พูดถึงเสื้อชั้นในของผู้ชายได้ยินสาว ๆ พวกนั้นแล้วรู้อิจฉาริษยาและขุ่นเคืองในทันทีพวกเขาเยาะเย้ยและ ดูหมิ่นชายหนุ่มร่างสูงเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยใบหน้าที่บูดบึง
“ถ้าวิ่งเร็วขนาดนี้ ทําไมไม่ไปแข่งโอลิมปิกเลยล่ะ”
“ขี้อวดว่ะ!”
หลังจากที่ฮัวเฉาเหิงวิ่งเสร็จ เขาก้าวลงจากลู่วิ่งแล้วคว้าตัวชาย ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ มาและผลักอีกฝ่ายขึ้นบนลู่วิ่งจากนั้น เขารัดแขนของชายคนนั้นไว้กับแฮนด์ของลู่วิ่งแล้วเลือกความเร็วสูง สุด เขาตบไหล่อีกคนและพูดภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “โชค
หลังจากนั้นลู่วิ่งก็เริ่มเคลื่อนที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามการตั้งค่า
ชายชาวญี่ปุ่นที่ถูกบังคับให้วิ่งกรีดร้องและตะโกนออกมา เสียงดังขณะที่เขาพยายามดิ้นรนเพื่อสับขาให้ทันแต่ลู่วิ่งเคลื่อนที่ เร็วเกินไป ในไม่ช้าเขาก็หายใจไม่ออก แต่แขนของเขาถูกมัดติดกับลู่วิ่งอย่างแน่นหนา เขาหนีไปไหนไม่ได้ ทําให้เขาได้แค่ร้อ งเสียงแหลมเหมือนหมูโดนเชือด “ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!!”
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของโรงยิมที่ยืนอยู่ที่ประตูรีบเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วย เหลือของเขา หลังจากมองอย่างสับสนเล็กน้อยพวกเขาก็ “ช่วย ชายชาวญี่ปุ่นจากลู่วิ่ง แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นลมหมดสติไปแล้ว
ถึงเวลานี้ทหารหนุ่มก็ออกจากยิมไปนานแล้วและกลับมาอยู่ใน ห้องของเขาแล้ว
ทันทีที่เขาอาบน้ําเสร็จ เขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบ มันขึ้นมาและเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเฉินหลาย
[1] “ต้าฉง” เป็นชื่อเล่นของหยินชื่อฉง
บทที่ 26 : ไม่มีความเป็นส่วนตัว
“เจ้านาย เหนียนอตื่นแล้ว อยากคุยกับเธอไหม?”
เฉินหลายเพิ่งจัดระเบียบข้อมูลของกู้เหนียนจื่อเสร็จและกําลัง บันทึกลงในคอมพิวเตอร์ของเขาข้อมูลพวกนั้นมันถูกรวบรวมเป็ นชุดและอัปโหลดไปยังฐานข้อมูลสํารองในไดรฟ์คลาวด์ของเขา
“งั้นเหรอ แต่ตอนนี้ดึกแล้ว” เสียงของฮัวเฉาเหิงฟังดูไม่แยแส เขาคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะไม่พูดถึงว่าเขาได้พูดคุยกับกู้เหนียนจื่อ แล้ว
หมอหนุ่มคิดว่าปลายสายคงไม่อยากคุยกับหญิงสาว ดังนั้นเขา จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเริ่มรายงานอาการของเธอหลังจากตื่น
“พูดก็พูดเถอะ มันบังเอิญมาก ผมเคยคาดการณ์ไว้ว่าวันนี้เธอ คงจะตื่น แต่ไม่รู้ว่ากี่โมงหลังจากนั้นประธานจากชั้นเรียนของเห นียนจื่อก็มาเยี่ยมเธอ ผมปล่อยให้เขาเข้ามาก่อนและไม่นานหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงของเหนียนจื่อ น้ําเสียงเธอฟังดูตื่นเต้นมาก” เขาหัวเราะกับตัวเองก่อนจะพูดต่อว่า “พวกเขามีเคมีที่ดูเข้ากันมาก”
คนเป็นผู้ปกครองใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่เช็ดน้ําออกจากผมของเขา แล้วพูดด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น “ฉันไม่มีเวลาฟังเรื่องไร้สาระของนา ยหรอกนะ”
“เรื่องไร้สาระที่ไหนกัน” เฉินหลายพับแขนเสื้อขึ้น แล้วนั่งบน เก้าอี้ล้อเลื่อนในห้องทํางานของเจ้านายและเริ่มหมุนเก้าอี้ “อีกอ ย่าง ผมมีเรื่องสําคัญจะบอกคุณ!”
”ว่ามา
“ประธานชั้นเรียนของเหนียนจื่อสารภาพรักกับเธอ! เขาเป็นชา ยหนุ่มที่สูงสง่า ดูดี และอ่อนโยนกับเหนียนจื่อมาก เด็กสาวอย่างเห นียนจอควรได้รับการเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนและถูกทะนุถนอมเหมือนเป็นสมบัติล้ําค่า” ผู้เป็นหมอพูดพลางถอนหายใจ
มือของฮัวเฉาเหงหยุดเช็ดผมทันทีแล้วพยักหน้ารับรู้
“นี่จริงจังนะ! เชื่อผมเถอะ ประธานนักเรียนของเธอมีบุคลิกดี มาก เขายอมให้เหนียนจื่อดูโทรศัพท์ของตัวเองด้วยแล้วยังตั้งรูป ภาพของเหนียนจื่อเป็นภาพล็อกหน้าจอ แล้ววันนี้เขายังบันทึกลาย นิ้วมือของเธอเป็นรหัสผ่านเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ของเขาด้วย หลังจากนั้นเขาบอกว่าเหนียนจื่อสามารถปลดล็อกโทรศัพท์ของเขาได้ต ลอดเวลาเพราะเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเธอ” เขาหัวเราะแล้วพูด ว่า “เจ้านาย ผมคิดว่าคนนี้เหมาะกับเหนียนจือในฐานะคู่ครองที่เหมาะสมกัน”
นายพลหนุ่มมองไปที่โทรศัพท์ของเขาและพบว่าเขาได้ตั้งค่ารูป ภาพของเหนียนจื่อเป็นหน้าจอล็อกเมื่อนานมาแล้วจากนั้นเขาปัดหน้าจอเพื่อเปิดอัลบั้มรูปและลบรูปภาพโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ในทันที เขาได้ลบสิ่งที่เกี่ยวกับหญิงสาวทั้งหมดออกจากโทรศัพท์ ของเขาในขณะที่เฉินหลายยังคงพูดพล่ามเกี่ยวกับบางสิ่ง เขาก็พู ดอย่างเฉยเมยว่า “เหนียนจื่อยังไม่ 18 มันยังเร็วไปหน่อยที่จะเริ่มออกเดท แต่ถ้าเธอชอบผู้ชายคนนั้นจริง ๆ ฉันก็จะไม่เข้าไปยุ่ง”
ชายหนุ่มลุกขึ้นขณะที่ถูกรบกวนจิตใจอีกครั้ง “ฉันมีเรื่องอื่นต้อง จัดการ” พูดจบแล้วเขาก็วางสายทันที
ต่อมาทหารหนุ่มโทรหาเจี้ยวเลี่ยงจื่ออย่างใจเย็นและเสียงของ เขาเข้มขึ้นทันที “เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ประธานรุ่นของเหนียนจื่อทันทีและลบลายนิ้วมือทั้งหมดออกจากโทรศัพท์เครื่องนั้น จําไว้ว่า ให้ลบออกให้หมดและตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่สามารถกู้คืนได้ด้วยซอฟต์แวร์อะไร”
ในขณะนั้นแฮ็กเกอร์หนุ่มกําลังนอนอยู่บนเตียง เขาและหยิน ชื่อฉงกําลังพยายามหาคําตอบว่าฮีโร่หญิงคนไหนที่ “ขโมยความบริ สุทธิ์” ของท่านนายพลไป แล้วเขาก็ตกใจมากกับเสียงเรียกของเจ้านายจนทําให้เกือบตกเตียง
” อะไรนะ?!ลายนิ้วมือของเหนียนจื่อถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ ของใครบางคนเหรอครับ?! ทําไมเธอไม่ระวังตัวเลย! ลายนิ้วมือมีค วามสําคัญมากจะให้คนอื่นได้ยังไง? คน ๆ นั้นสามารถใช้ลายนิ้วมือของเธอได้และเหนียนจื่อจะไม่มีความเป็นส่วนตัวอีกต่อไปพวกเขา สามารถใช้ลายนิ้วมือของเหนียนจื่อทําอะไรก็ได้ แล้วใช้เพื่อมาทํา ร้ายเธอ! ผมเห็นด้วยเราต้องลบลายนิ้วมือด่วน!” เสียงของ เจี้ยวเลี่ยงจื่อฟังดูไม่พอใจและคําพูดของเขาทําให้ฮัวเฉาเหิงเหยียดยิ้มออกมาและแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เลขาหนุ่มถอนหายใจและหันไปมองหยินชื่อฉง “รับทราบครับ” เขาวางสายทันที
” เกิดอะไรขึ้น ภารกิจเหรอ?” ผู้เป็นเลขาอีกคนเริ่มมีสีหน้าจ ริงจัง
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ลายนิ้วมือของเหนียนจื่อถูกบัน ทึกไว้โดยใครบางคน” เจี้ยวเลี่ยงจื่อแตะคําสั่งบนโทรศัพท์ของเขาและแปลงเป็นเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กที่มีความสามารถมหาศาล “ต้าฉง ประธานรุ่นของเหนียนจื่อชื่ออะไรเหรอ? นายมีเบอร์โทรของเขาไหม”
หยินชื่อฉงดูแลเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับโรงเรียนของกู้เหนียนจื่อ เขาตอบกลับทันทีว่า “เหม่ยเสี่ยวเหวินเหรอเบอร์โทรของเขาคือ …” เขาส่งต่อหมายเลขโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “นายทําได้ไหม? ฉันคิดว่าโทรศัพท์ของเด็กนั่นเป็นของแอปเปิ้ลที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นเลิศ
“เหอะ! อย่าประเมินฉันต่ําไปสิ! คติประจําใจของฉันคือ: ส่งเบอ ร์โทรมาให้พี่ แล้วพี่จะขุดประวัติเจ้าของเบอร์โทรให้หมดไส้หมดพุง!” แฮ็กเกอร์หนุ่มเปามือของเขาและป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของเหม่ยเสี่ยวเหวินลงบนซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน เขากดปุ่มค้นหาและเริ่มหาโทรศัพท์ของเหม่ยเสี่ยวเหวินในเครือข่ายที่กว้ งใหญ่
ภายในห้องของฮัวเฉาเหิง เขานําโทรศัพท์ติดตัวไปด้วยในขณะที่ เขากลับมาที่เตียง เขาคิดว่าหลังจากที่วิ่งเสร็จแล้วจะกลับมานอนที่เตียง แต่ก็มาจบลงด้วยการสูบบุหรี่และตาสว่างอีกครั้งเขาเลื่อนดู รายชื่อที่อยู่ในโทรศัพท์และหยุดที่ชื่อของกู้เหนียนจื่อสักครู่ก่อนที่จะกดหมายเลขของเธอ
ในตอนนี้หญิงสาวออกกําลังกายเสร็จแล้วและอาบน้ําอย่าง สดชื่น เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งของตัวเองเพื่อเตรียมบํารุงผิวหน้า ด้วยมาส์กตัวดัง เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอก็หันไปมองดูห น้าจอโทรศัพท์และพบว่าเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก เธอรู้สึกลังเลแต่ก็ ยังหยิบขึ้นมารับสาย
“เหนียนจือ” เสียงของฮัวเฉาเหิงดังมาจากปลายสาย ใบหน้า ของเจ้าของชื่อนั้นสว่างขึ้นราวกับแสงแดดยามเช้า “ฮัวเฉา! ครั้งนี้ ไม่ได้โทรผิดอีกใช่ไหม” เธอถามออกมาตรง ๆ
“เรียกฉันว่าอา” ชายหนุ่มยืนกรานที่จะแย้งคําพูดของอีกฝ่ายที่ ใช้เรียกเขา
กู้เหนียนจื่อรู้สึกตกใจ เธอมองโทรศัพท์ของตัวเองแล้วรู้สึกได้ถึง คําสั่งที่เข้มงวด แต่เธอคุ้นเคยกับการเชื่อฟังเขาแล้วดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปลี่ยนคําพูดของเธอ “อา… ฮัว”
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจกับชื่อนี้ แต่ก็ยังดีกว่า “ฮัวเฉา” ที่ดูสนิ ทมากเกินไป
ผู้ปกครองหนุ่มโยนก้นบุหรี่ทิ้งไป น้ําเสียงของเขายังคงเคร่งขรึม แต่ท่วงทํานองที่ราบรื่นของเสียงของเขาทําให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่น “เหนียนจื่อ ฉันได้ยินจากเฉินหลายว่าเธอปวยและพลาดการสัม ภาษณ์”
“ ห้ะ? เอ่อ…ใช่” กู้เหนียนจื่อรู้สึกอับอายเล็กน้อย “พี่เฉินบอกคุณเหรอ”
“อืม เขาบอกฉันด้วยว่าเธอบันทึกลายนิ้วมือของเธอไว้ในโท รศัพท์ของคนอื่น” เสียงของฮัวเฉาเหิงมักจะน่ากลัวเนื่องจากเสียงที่ทุ่มและก้องกังวาน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พอใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาพูดแต่ถ้าเขาโกรธจริง ๆ คําพูดของเขาจะเฉียบขาดราวกับใบมีด
ฝ่ายที่ได้ยินคิดว่าตอนนี้ปลายสายอาจจะโกรธ เธอนั่งตัวตรง และพยายามรักษาเสียงให้นิ่ง “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฮัวเฉา
ฉันหมายถึงอาฮัว…. อย่าเพิ่งอารมณ์เสียเลยนะ ฉันจะขอให้ประ ธานรุ่นลบลายนิ้วมือให้ตอนที่ฉันไปเรียนในวันพรุ่งนี้”
คนเป็นผู้ปกครองถอนหายใจ เขาตัดสินใจไปแล้ว โดยสั่งให้เจี้ยวเลี่ยงจื่อลบลายนิ้วมือเธอออก
กู้เหนียนจื่อรู้สึกกระวนกระวายเมื่อปลายสายเงียบไปนานมาก