หลินซูกับเด็กชายฮั่วฉีหรานมองไปที่มู่เฉี่ยนพร้อมกันเป็นตาเดียว
มู่เฉี่ยนเป่าปลายนิ้วพลางยกมือขึ้นจับติ่งหู เนื่องจากข้าวร้อน ๆ ในถ้วยนั้นหกใส่มือเธอ พลางมองไปที่หลินซูก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ “ขอโทษทีค่ะป้าหลิน ข้าวร้อนเกินไป หนูตกใจน่ะค่ะ”
หลินซูมองไปที่เธอด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ จากนั้นก็เก็บชามข้าวที่พลิกคว่ำนั้นเข้าไปไว้ในครัว
มู่เฉี่ยนจับติ่งหูของตัวเองแล้วถูกเบา ๆ คลายความร้อน ก่อนจะมองไปที่เด็กชายตัวน้อยอีกครั้ง
ฮั่วฉีหรานที่หยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าวอยู่นั้น นั่งเคี้ยวข้าวเงียบ ๆ อย่างสง่างาม เพียงแต่ว่าคิ้วของเขานั้น ดูนิ่งสงบไม่ไหวติง
ทีแรกมู่เฉี่ยนยังไม่ทันได้สังเกตอย่างละเอียด แต่พอได้นั่งตรงข้ามเขา ก็ทำให้เธอเห็นสีหน้าค่าตาของเด็กชายคนนี้ชัดเจนขึ้น จนรู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งดูเหมือนฮั่วจิ้นซีมากจริง ๆ
หลินซูถือชามข้าวใบใหม่ออกมาให้มู่เฉี่ยนก่อนจะวางลงบนโต๊ะดัง ปัง!
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” มู่เฉี่ยนยิ้มให้กับหลินซู โดยที่ดวงตาของเธอก็ยังคงจ้องมองเด็กชายตรงหน้าอยู่เป็นระยะ
จนดูเหมือนว่าหลินซูจะเริ่มทนไม่ได้และพูดขึ้นมาว่า “ดูจนพอใจแล้วรึยัง?”
“หนูก็แค่แปลกใจเองหนิคะ” แล้วเธอก็พูดต่อ “ใครจะไปคิดว่าฮั่วจิ้นซีจะมีลูกชายตัวโตขนาดนี้แล้ว เรื่องนี้น่าสนใจจริง ๆ”
“น่าสนใจ?” หลินซูมองหน้าเธอ “เธอกำลังคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจ หรือรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้กันแน่?
มู่เฉี่ยนหันไปมองหลินซูด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ป้าคิดแบบนี้กับหนูได้ยังไง?”
หลินซูหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะพูดว่า “สมองเธอคิดถึงแต่เรื่องอะไรล่ะ ตัวเธอเองย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ”
มู่เฉี่ยนได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจออกมา “ป้าหลินคะ ป้าพูดแบบนี้หนูก็กินข้าวของป้าไม่ลงแล้วล่ะค่ะ”
พอเธอพูดจบ ก็วางตะเกียบลงทันที แล้วจ้องมองเด็กชายอย่างใจจดใจจ่อ “แม่ของเธอคือใคร?”
ฮั่วฉีหรานเงยหน้าขึ้นและมองหน้ามู่เฉี่ยนด้วยสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามของเธออีกเช่นเคย
หลินซูวางชามข้าวกับตะเกียบลงด้วยความไม่พอใจ แล้วหันไปดึงแขนมู่เฉี่ยนให้ลุกขึ้น เพื่อจะไล่เธอออกไปนอกบ้าน “ไปไปไป! ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างเธอ! 7 ปีที่แล้วเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น!”
เธอทนไม่ได้อีกต่อไปกับพฤติกรรมของมู่เฉี่ยน จึงลากเธอไปทางประตูบ้าน พร้อมกับเปิดออกแล้วผลักเธออกไปทันที
ด้วยแรงผลักของหลินซูนั้น ทำให้มู่เฉี่ยนเซไปอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคนที่ยืนอยู่นอกประตู
มู่เฉี่ยนจำกลิ่นยาสูบที่มีกลิ่นมิ้นท์อ่อน ๆ แทรกอยู่นั้นได้
เธอเคยได้กลิ่นนี้ที่ไหนมาก่อน
พอเงยหน้าขึ้น มู่เฉี่ยนก็พบว่านั่นคือ ฮั่วจิ้นซี
ด้วยความที่วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฮั่วจิ้นซีจึงสวมเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์สีเบจที่แลดูอบอุ่นเหมาะกับวันพักผ่อนสบาย ๆ แต่พอเสื้อสเวตเตอร์ตัวนี้ถูกสวมโดยคนที่มีรูปร่างภูมิฐานอย่างฮั่วจิ้นซีแล้วนั้น ก็ยังสามารถคงความดุดันของเขาไว้ได้เหมือนเดิม
และในขณะที่มู่เฉี่ยนตกลงไปอยู่ในอ้อมแขนของฮั่วจิ้นซี เขาก็มองมู่เฉี่ยนด้วยสายตาที่ดูแฝงอะไรบางอย่างไว้ แต่มันดูลึกล้ำมากเกินไปจนไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
แล้วมู่เฉี่ยนก็หัวเราะขึ้นมา ถึงแม้เธอจะไม่ได้ปะแป้งทาปากแต่อย่างใด แต่ใบหน้าและดวงตาของเธอก็ยังคงสดใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ฮั่วจิ้นซีรีบประคองเอวของเธอให้ยืนขึ้น
จนมู่เฉี่ยนรู้สึกตัวอีกที เธอก็ยืนตัวตรงอยู่อย่างนั้นแล้ว
ผู้ชายคนนี้นี่ หน้าตาเย็นชาไร้อารมณ์อีกตามเคย
มู่เฉี่ยนคิดในใจ แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงยิ้มแย้มสดใสอยู่
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ฮั่วจิ้นซีเริ่มขยับปากพูด แต่กลับหันไปถามหลินซู
หลินซูจ้องมองไปที่มู่เฉี่ยนก่อนจะตอบกลับมาว่า “ถามเธอดูเองสิ!”
สีหน้าของมู่เฉี่ยนแสดงออกถึงความโศกเศร้าเล็กน้อย แต่ด้วยดวงตาที่สดใสของเธอ มันก็ทำให้ความโศกเศร้าที่เธอพยายามจะแสดงออกมานั้นดูปลอมไปนิดนึง
“ฉันก็แค่ถามเอง ว่าแม่ของลูกชายคุณฮั่วคือใคร ป้าหลินก็โมโหจนไล่ผลักฉันออกมาข้างนอกนี่แหละค่ะ” มู่เฉี่ยนตอบอย่างซื่อตรง
ฮั่วจิ้นซีได้ฟังดังนั้นแล้วก็หันมามองมู่เฉี่ยนด้วยสายตาที่ลึกล้ำ
แต่มู่เฉี่ยนก็ยังคงพูดต่อ “ถ้าฉันรู้ว่าคำถามนี้ถามกันไม่ได้ ฉันก็คงไม่ถามออกมาแล้วล่ะค่ะ คุณฮั่วคิดว่ายังไงล่ะคะ?”
ฮั่วจิ้นซีไม่ได้ตอบคำถาม และไม่แม้แต่จะหันมามองมู่เฉี่ยน เขาเพียงแต่เดินเฉียดไหล่ของเธอเข้าไปในบ้านเท่านั้น
หลินซูทำท่าจะปิดประตู แล้วมู่เฉี่ยนก็รีบก้าวเข้ามารั้งประตูไว้ทันที “ป้าหลิน ของของหนูยังอยู่ในบ้านนะคะ ป้าให้หนูเข้าไปเอาของก่อนได้รึเปล่า แล้วหนูจะไปจากที่นี่ให้เอง!”
หลินซูได้ยินดังนั้นก็ชักสีหน้าใส่มู่เฉี่ยนไปทีนึง จากนั้นจึงยอมปล่อยให้มู่เฉี่ยนเดินกลับเข้ามาในบ้านทั้งที่ยังโมโหอยู่
มู่เฉี่ยนกลับมายังห้องนอนที่เธอตื่นขึ้นมาตอนแรก ส่วนหลินซูกับฮั่วฉีหรานก็นั่งกินข้าวกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร มีเพียงฮั่วจิ้นซีที่นั่งตรวจการบ้านของฮั่วฉีหรานอยู่บนโซฟาคนเดียว
“คุณฮั่วคะ” มู่เฉี่ยนนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ เขา “ฉันได้ยินมาว่า เมื่อคืนนี้คุณเป็นคนพาฉันกลับมา พอจะบอกได้มั้ยคะว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น?”
“เธอขึ้นรถผิดคัน” ฮั่วจิ้นซีตอบสั้น ๆ โดยไม่ได้มองหน้ามู่เฉี่ยนด้วยซ้ำ
มู่เฉี่ยนย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน เธอมั่นใจว่าเมื่อคืนเธอเห็นรถลินคอล์นสีดำและนึกว่าเป็นรถของหลินซู่ เธอก็เลยเปิดประตูรถขึ้นไปทันที โดยที่ไม่ได้ตรวจดูทะเบียนรถให้ชัวร์ก่อน
ไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นอย่างนี้ไปได้
เธอลูบคางตัวเองแล้วหัวเราะแก้เขิน ก่อนจะพูดว่า “อย่างนี้นี่เอง…เมื่อวานที่ห้องอาหาร คุณฮั่วดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักฉัน มันเป็นไปได้ยากเลยนะคะ ที่ฉันจะขึ้นรถของคุณฮั่วมาได้ แต่ถึงยังไงคุณฮั่วก็ยังไม่โยนฉันลงจากรถ แถมพาฉันมาพักค้างคืนที่นี่อีกด้วย นับถือใจคุณฮั่วจริง ๆ ค่ะ!”
ฮั่วจิ้นซีค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตาเธอด้วยสายตาที่ไร้ความอบอุ่น
แต่นอกจากมู่เฉี่ยนจะไม่รู้สึกเกรงกลัวแล้วนั้น เธอกลับลุยต่อไปอีก “บ้านของคุณฮั่ว คงจะไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงทั่วไปได้เข้ามาแน่ ๆ เลยใช่มั้ยคะ? ฉันจะตอบแทนคุณฮั่วยังไงดีคะ ถึงจะเหมาะสม?”
ในขณะที่เธอกำลังพูดไปนั้น เธอก็ใช้หัวรองเท้าปลายแหลมนั้น เขี่ยที่ปลายขากางเกงของฮั่วจิ้นซีเบา ๆ
ฮั่วจิ้นซีกวาดสายตาของเขาตั้งแต่ปลายเท้าของมู่เฉี่ยนขึ้นมาถึงเรียวขา และมองขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงขาอ่อน จากนั้นก็มองต่อไปยังพื้นที่ต้องห้ามของมู่เฉี่ยน
MANGA DISCUSSION