วิวาห์ 365วัน - ตอนที่ 29 พระพุทธรูปที่สูงส่งและสง่างามองค์หนึ่ง
ดวงตาสีขาวดำของฮั่วฉีหรานมองเธออย่างเงียบสงบ ดูใสสะอาดอย่างเห็นได้ชัดเจน
มู่เฉี่ยนเองก็รู้ดีว่าคงไม่สามารถได้คำตอบใดๆจากเขา ดังนั้นจึงทำได้แค่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
"โอเค นี้ก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียน" มู่เฉี่ยนแตะศีรษะของฮั่วฉีหราน "ไปอาบน้ำเองแล้วก็เตรียมตัวเข้านอนนะ"
ทันทีที่พูดจบท้องของฮั่วฉีหรานก็มีเสียง“โครก คราก”ดังขึ้น
มู่เฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
“เหตุผลที่เธออยากตามฉันมาก็เพราะอยากกินของอร่อยๆใช่มั้ย?”
ฮั่วฉีหรานมองไปที่เธอเงียบๆอย่างน่าเอ็นดูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคาดหวัง
ที่แท้ก็ได้เจ้าเด็กกินเก่งมานี้เอง
มู่เฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นก็สั่งอาหารให้มาส่งที่บ้าน
เมื่อฮั่วฉีหรานกินจนอิ่ม เขาก็อาบน้ำและขึ้นไปนอนบนเตียง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
“ฉันแบ่งเตียงของฉันให้เธอครึ่งหนึ่ง เธอนอนได้แค่ครึ่งนั้นนะ ถ้าเธอข้ามเขตมารบกวนฉัน ฉันก็จะเตะเธอให้ตกจากเตียงไปเลย ได้ยินไหม?” มู่เฉี่ยนขู่ฮั่วฉีหรานอย่างทรงพลัง จากนั้นเธอก็แตะศีรษะของเขา "หลับตาแล้วนอนซะ"
ฮั่วฉีหรานหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง
มู่เฉี่ยนลุกขึ้นและกลับไปที่โซฟา จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์และยังคงเผชิญกับคลิปเสียงบันทึกที่ทำให้เธอปวดหัวก่อนหน้านี้
เมื่อใส่หูฟัง เสียงทุ้มที่เซ็กซี่ของฮั่วจิ้นซีก็ดังมาจากด้านใน: "กลัวจนหัวหด?"
มู่เฉี่ยนกัดริมฝีปากและเอนหลังพิงไปที่โซฟา
ฮั่วจิ้นซี… เขาอยากทำอะไรกันแน่?
วันรุ่งขึ้น เยี่ยซีมาที่บ้านของมู่เฉี่ยน เมื่อเธอเห็นฮั่วฉีหรานก็ทำเธองุนงง
ฮั่วฉีหรานหมอบอยู่บนโต๊ะและทำการบ้านอย่างเงียบๆ จากนั้นเยี่ยซีก็ดึงมู่เฉียนออกไปข้างๆอย่างที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว
"นี้ … นี้มันเรื่องอะไรกัน?" เยี่ยซีกล่าว "เธอตัดสินใจว่าจะไม่เสียเวลากับฮั่วจิ้นซีอีกต่อไปแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้เธอถึงช่วยเขาเลี้ยงลูกล่ะ?"
มู่เฉี่ยนรู้สึกว่าถ้าบอกเธอไปว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำ เยี่ยซีคงกลายเป็นบ้าทันทีแน่นอน ดังนั้นเธอจึงทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
"พูดอย่างเคร่งครัด เหตุผลที่เด็กคนนี้มาอยู่ที่นี่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับพ่อของเขาเท่าไหร่" มู่เฉี่ยนกล่าว "ต้องโทษฉันที่ไม่ยับยั้งชั่งใจ แส่หาเรื่องจนได้”
เยี่ยซีกัดริมฝีปากของเธอ "แต่เขาเป็นลูกของฮั่วจิ้นซี!"
"ไม่ เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง" มู่เฉี่ยนเหลือบมองฮั่วฉีหรานที่เงียบสงบ "เด็ก … ที่น่าสงสารคนหนึ่ง"
"เธอเห็นอกเห็นใจให้มันน้อยๆลงหน่อย! เธอลืมไปแล้วหรือไง … " เมื่อจู่ๆเธอก็พูดโพล่งออกมาทันใดนั้นเยี่ยซีก็หยุดทันที จากนั้นก็ค่อยๆพูดว่า "ฮั่วจิ้นซีทำกับเธอยังไง… "
มู่เฉี่ยนปัดผมหนายาวของเธอและพูดด้วยอารมณ์ที่พลิ้วไหว: "จำได้ ดังนั้นฉันเลยรู้อย่างโจ่งแจ้งว่าควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร"
เยี่ยซีไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจากไปด้วยความโกรธและกังวล
รถของเยี่ยซีเพิ่งขับออกจากหมู่บ้าน จากนั้นก็มีรถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งขับสวนรถของเยี่ยซีและเข้าไปในหมู่บ้าน
ตอนเสียงกริ่งของประตูดังขึ้นมู่เฉี่ยนกำลังอาบน้ำอยู่ เธอจึงตะโกนเรียกฮั่วฉีหราน "อาหารมาส่งแล้ว ไปเปิดประตูหน่อย!ระวังตัวด้วย อย่าให้คนแปลกหน้าลักพาตัวไปล่ะ!"
ฮั่วฉีหรานที่หมอบทำการบ้านอยู่บนโต๊ะกลอกตาแล้วลุกจากโต๊ะและเดินไปเปิดประตู
หลังจากมู่เฉี่ยนอาบน้ำเสร็จก็สวมชุดนอนที่สั้นจนเห็นขาอ่อน จากนั้นก็เดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับเช็ดผมที่เปียกอยู่ โดยรับรู้ถึงบรรยากาศภายในห้องที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว
ฮั่วฉีหรานยังคงหมอบทำการบ้านอยู่บนโต๊ะ
แต่บนโซฟาของเธอมีพระพุทธรูปที่สูงส่งและสง่างามเพิ่มมาหนึ่งองค์