วิวาห์ 365วัน - ตอนที่ 28 พ่อของเธอส่งเธอมาใช่ไหม?
หลังจากออกจากฮวาจุ้ย มู่เฉี่ยนก็ตรงกลับบ้านทันที
บ้านสไตล์ค็อทเทจแบบเปิดโล่งหลังหนึ่ง ห้องนอนนั้นสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่มันไม่ใช่สไตล์ตามปกติของเธอ เห็นได้ชัดว่าเยี่ยซีมาช่วยเธอทำความสะอาดห้องอีกแล้ว
คุณหนูทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองคนนี้ไม่ใช่ภรรยาที่ดีของสามีและแม่ที่ดีของลูกแบบคนธรรมดาๆทั่วไปแน่นอน
มู่เฉี่ยนถอนหายใจไปสองครั้งแล้วปลดเสื้อชั้นในออกจากนั้นก็โยนลงบนโต๊ะกาแฟแล้วนั่งลงบนโซฟา
สิ่งแรกที่เธอทำหลังจากนั่งลงบนโซฟาคือเปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็หยิบปากกาบันทึกเสียงและเริ่มจัดการการบันทึกสำหรับค่ำคืนนี้
คืนนี้เธอได้พบกับเหยาฉีแต่เป็นเพียงเรื่องที่จัดฉากขึ้นเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดคือให้เหยาฉีและหลินซู่ได้พบปะกัน ดังนั้นการบันทึกเสียงในช่วงที่อยู่ห้องน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
แต่เมื่อเริ่มจัดการถึงช่วงที่อยู่ในห้องน้ำมู่เฉี่ยนก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา
หลังจากที่เหยาฉีและหลินซู่พบกันรวมๆแล้วพวกเขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรสักประโยค ในทางกลับกันเธอยังต้องแยกแยะและตามหาเสียงบันทึกนั้นผ่านความคลุมเครือต่างๆระหว่างเธอกับฮั่วจิ้นซีอย่างละเอียดรอบคอบ
มู่เฉี่ยนตั้งใจฟังอยู่หลายนาทีและอดไม่ได้ที่จะถอดหูฟังแล้วโยนมันทิ้ง
หูของเธอเต็มไปด้วยเสียงถูๆไถของเธอกับฮั่วจิ้นซีเกือบทั้งหมด จากนั้นเธอก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก
มู่เฉี่ยนลุกขึ้นและเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำออกมาแล้วดื่มไปสักสองสามอึก
แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพตอนที่อยู่ในห้องน้ำ ฮั่วจิ้นซีเกิดปฏิกิริยาอย่างไรกับเธอกันแน่? เป็นเพราะปกติเขาซ่อนตัวเก่งเกินไปหรือเหตุการณ์นี้เป็นแค่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกะทันหัน?
มู่เฉี่ยนกำลังคิดอย่างเคลิบเคลิ้มและทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
เธอก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตูทันทีโดยไม่ดึงความคิดนั้นออกจากหัว
หลินซูยืนอยู่หน้าประตูและมองเธอด้วยสายตาเย็นชา
มู่เฉี่ยนดึงสติกลับมาและมองในมือของหลินซูที่จูงฮั่วฉีหรานไว้
ฮั่วฉีหรานแบกกระเป๋านักเรียนใบใหญ่ไว้บนหลังของเธอแล้วมองไปที่มู่เฉี่ยนแว็บเดียว จากนั้นก็แสร้งทำเป็นย่อตัวลงด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
"อืม … " มู่เฉี่ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "คุณป้าหลิน นี้มันเกิดอะไรขึ้น?"
"ลูกสาวของฉันป่วยและเข้าโรงพยาบาล ฉันจะไปดูแลเธอสักพัก" หลินซูพูดด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า จากนั้นผลักฮั่วฉีหรานไปด้านหน้ามู่เฉี่ยน "จะฝากเด็กคนนี้ให้เธอดูแลชั่วคราว”
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่เฉี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “คุณป้าหลิน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?”
“คุณบอกคนอื่นว่าคุณเป็นพี่เลี้ยงเด็กไม่ใช่หรอ?” หลินซูมองเธออย่างเย็นชา
จู่ๆมู่เฉี่ยนก็นึกถึงสิ่งที่เธอพูดกับฮั่วจิ้นซีตอนนัดบอดในวันนั้นและทำให้เธอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“อีกอย่าง ตอนคุณยังเป็นเด็กครอบครัว บ้านตระกูลฮั่วเลี้ยงดูคุณมาตั้งหลายปีและตอนนี้ให้คุณดูแลเด็กคนนี้สักสองสามวัน ทำให้คุณรู้สึกลำบากใจมากเลยใช่ไหม?” หลินซูกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้สร้างปัญหามาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา คุณคิดว่ามีใครจะไว้ใจให้คุณดูแล? "
เมื่อฟังหลินซูพูดอย่างต่อเนื่อง มู่เฉี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้งและรีบเอื้อมมือไปคว้าฮั่วฉีหรานไว้ “โอเคๆ ไม่มีปัญหา ฉันจะดูแลเขาเอง จะนานแค่ไหนก็แล้วแต่คุณ โอเคยัง? "
หลินซูจ้องไปที่มู่เฉี่ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาจากด้านหลัง “ในนี้เป็นของของเขาทั้งหมด คุณดูแลเขาอย่างระมัดระวังหน่อยล่ะ อย่าให้เกิดเรื่องผิดพลาด!”
เมื่อส่งหลินซูออกไป มู่เฉี่ยนที่ปิดประตูและยังคงสับสนเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่เขาพูดว่าขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด สำหรับหลินซูเช่นนี้เธอหมดหนทางจริงๆ ไม่เช่นนั้นหลังจากแค่คำพูดไม่กี่คำจู่ๆก็มีเด็กเพิ่มมาในบ้านของเธออีกคนได้ยังไง!
มู่เฉี่ยนมองลงไปที่เด็กที่อยู่ข้างๆเธอ แต่สายตาของเด็กนั้นกลับมองไปที่โต๊ะกาแฟ
เมื่อเห็นชุดชั้นในที่เธอโยนไปไว้บนโต๊ะกาแฟอย่างลวกๆ มู่เฉี่ยนก็รีบก้าวไปข้างหน้าและรีบเก็บมันไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าทันที จากนั้นก็หันหน้าไปมองที่ฮั่วฉีหรานอย่างทำอะไรไม่ถูก
ฮั่วฉีหรานถอดกระเป๋านักเรียนของเขาออกโดยอัตโนมัติและนั่งลงบนโซฟา เมื่อเห็นหูฟังของ มูเฉี่ยนถูกโยนทิ้งไว้ข้างๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาและสอดไว้ที่หูของเขา
"เดี๋ยวก่อน!" มู่เฉี่ยนตัวแข็งทื่อแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อคว้าหูฟังไว้และปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็นั่งยองๆตรงหน้าฮั่วฉีหรานและมองเขาอย่างสงสัย "พ่อของเธอส่งเธอมาทรมานฉันใช่ไหม? "