วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 861 ใครกล้าเข้ามาแย่ง
เฉียวฉีมองดูอย่างชื่นชม
“คุณจิงจิงช่างเฉลียวฉลาด ”
หลินซง“……………..”
ทำไมมีความรู้สึกเหมือนถูกรังเกียจ?
แต่ว่านินทาส่วนนินทา ในใจรู้ว่ากู้ซือเฉียนไม่ได้จะยอมแพ้จริงๆ แต่ว่าจะรอถึงสุดท้ายแล้วค่อยมาวัดกันอีกครั้ง จึงทำให้วางใจลง
ไม่ช้า คนต่างชาติที่ตาฟ้าผมทองก็พ่ายแพ้ไป
อีกฝ่ายถอนหายใจอย่างจนปัญญา ส่ายหัวอย่างผิดหวัง เขาหันกลับไปกำหมัดทำท่าทางเหมือนคนตะวันออกให้ประธานชีว่าชื่นชม แล้วก็ยอมแพ้ไป
บนใบหน้าประธานชีเต็มไปด้วยความพอใจ
บางทีครั้งนี้ประธานชีอาจจะพยายามอย่างหนักและเกือบจะเดิมพันเงินทั้งหมดของเขาที่มี ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุด แต่เขาก็เสนอราคาสูงสุด
สุดท้ายแล้วหยกราคาแปดสิบล้าน ได้ถูกเขากับคนต่างชาติคนนั้นแข่งขันกันจนราคาสูงถึงพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐ
ผู้ดำเนินรายการมองดูในงานเงียบกริบ จึงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้คุณชีให้ราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐ มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ?”
ในงานไม่มีใครตอบ
ดังนั้น เธอเริ่มนับ“คุณชีหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐครั้งที่หนึ่ง !”
“คุณชีหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญสหรัฐครั้งที่สอง!”
“คุณชี……….”
“สองพันล้าน !”
ทันใดนั้น น้ำเสียงหนักแน่นมีเสน่ห์ก็ตัดบทของเธอ
ผู้ดำเนินรายการสาวสวยตาลุกวาว มองไปทางต้นเสียงทันที พบว่าเป็นชายหนุ่มคนที่นั่งอยู่แถวที่หนึ่ง หลังจากเคยออกราคาตั้งแต่เริ่มต้นครั้งเดียว ก็ไม่ออกเสียงอีกเลย
ในความเป็นจริงเธอสังเกตเห็นกู้ซือเฉียนมานานแล้ว เพราะว่าเธอไม่ใช่คนในวงการนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้จักกู้ซือเฉียน
แต่เพราะว่าอีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลาและท่าทางที่ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในงาน ก็ทำให้เธออดที่จะสังเกตเขาไม่ได้
ตอนแรกที่แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ออก เขาเสนอราคามาหนึ่งครั้ง ตอนแรกคิดว่าว่าเขาจะเสนออีกครั้งที่สอง ไม่คิดว่าจนถึงสุดท้ายเขาก็ไม่เปิดปาก
ในใจผู้ดำเนินรายการรู้สึกเสียดาย คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ฐานะทั่วไป ดังนั้นจึงวางมือแต่วัน ไม่แข่งกับคนเหล่านี้
แต่ไม่คิดว่า จะเก็บไว้จนถึงวินาทีสุดท้าย!
ผู้ดำเนินรายการสาวสวยยิ้มแล้วกล่าวทันที“คุณหมายเลขสามตอนนี้ได้เพิ่มราคาเป็นสองพันล้านเหรียญสหรัฐ!ไม่ทราบว่ามีใครจะให้มากกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐไหมคะ ?”
เกือบจะทันทีที่กู้ซือเฉียนพูดออกมา เหงื่อเย็นก็ไหลท่วมตัวของประธานชี
นั่นมันกู้ซือเฉียน
หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มมังกร ทายาทตระกูลกู้ซื่อ
เขารู้ว่าฐานะการเงินของตัวเอง ไม่อาจจะแข่งกับกู้ซือเฉียนได้ แต่ว่าตอนนี้เขาได้ประมูลมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ซือเฉียนถึงออกมา เขายังจะทำอะไรได้?
จะยอมแพ้จริงๆหรือ?
ในตาประธานชีมีประกายความดิ้นรน
วันนี้ เขาได้ตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จะเอาหยกแผ่นนี้ให้ได้
ดังนั้น หลังจากที่มาแล้ว ได้ทำการสำรวจคนในงาน พบว่าแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเป็นภัยคุกคามต่อเขา แต่ว่า หากเขาอยากจะได้หยกแผ่นนี้จริงๆ ก็สามารถลองสักตั้งได้เหมือนกัน
แต่มีเพียงหลังจากเห็นกู้ซือเฉียนแล้ว ความแน่วแน่นี้ถูกทำลายลง
เพราะเขารู้ว่า ไม่ว่าของสิ่งนี้จะมีประโยชน์กับกู้ซือเฉียนหรือไม่ เพียงแค่เขาถูกใจแล้ว นั่นจะต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นอย่างแน่นอน
ดังนั้น ก่อนที่งานครึ่งหลังจะเริ่ม เขายังเข้ามาหาลาดเลากับเขาเป็นพิเศษ
ตอนนั้น กู้ซือเฉียนไม่ได้เผยให้เห็นอาการใดๆ เขาจึงรู้สึกโล่งอก
ไม่คิดว่า เขาจะมาเพราะสิ่งนี้เหมือนกัน!
จะทำอย่างไรดี ?
ประธานชีแทบจะเช็ดเหงื่อบนใบหน้าอย่างไม่หยุด สีหน้าดูไม่ได้เลย
หลินซงยิ้มและหันกลับมาและพูดว่า "คุณลุง คุณไหวไหม? ถ้าไม่ได้ก็ยอมจำนนเถอะ ”
สีหน้าประธานชีเปลี่ยนไปอีกครั้ง
แต่ว่าในที่สุด สองพันล้านเหรียญสหรัฐ เขาก็ไม่กล้าเพิ่มอีกแล้ว
และยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะเพิ่มราคาไปอีก ใครจะรู้ว่ากู้ซือเฉียนจะแย่งกับเขาอีกหรือไม่?
กู้ซือเฉียนรวยขนาดไหน ไม่มีใครไม่รู้ แต่ตามข้อมูลสถิติที่มีคนเคยรวบรวมไว้ก่อนหน้านั้น บอกว่านักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนนี้รวมกับหัวเรือใหญ่ในถิ่นนี้อย่างตระกูลหลิน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นเพียงพ่อค้าคนหนึ่งที่พึ่งพาตระกูลหลิน?
สุดท้าย ประธานชีหน้าจ๋อย ยิ้มแห้งๆกล่าวว่า“ในเมื่อคุณชายกู้ชอบ ผมก็ไม่อาจจะแย่งของรักของคนอื่นได้ เชิญคุณชายกู้ตามสบาย ”
หลินซงเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าเขาจะรู้ตัวยอมถอยอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ในใจรู้สึกไม่สนุก พึมพำเสียงเบา แล้วหันหัวกลับมา
เมื่อผู้ดำเนินรายการบนเวทีเห็นเช่นนี้ จึงเริ่มประกาศว่า
“คุณหมายเลขสามเสนอราคาสองพันล้านเหรียญสหรัฐ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหมคะ?”
ไม่มีใครพูดอะไร
ล้อเล่นน่า สิ่งของที่กู้ซือเฉียนต้องการ ใครกล้าแย่ง ?
เมื่อผู้ดำเนินรายการเห็นเช่นนั้น ก็เริ่มนับ“สองพันล้านเหรียญสหรัฐครั้งที่หนึ่ง! ”
“สองพันล้านเหรียญสหรัฐครั้งที่สอง! ”
“สองพันล้านเหรียญสหรัฐครั้งที่สาม !ปิดการขาย! ”
ฆ้องทุบ“ปัง”หนึ่งเสียง ถือว่าการซื้อขายครั้งนี้สำเร็จ
เพราะว่านี่เป็นสินค้าประมูลชิ้นสุดท้าย ดังนั้นการซื้อขายครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว และก็หมายถึง การประมูลในวันนี้จบลงอย่างสวยงาม
หลังจากผู้ดำเนินรายการกล่าวคำขอบคุณแล้ว แสงไฟในห้องโถงสว่างขึ้น ทุกคนลุกขึ้น เดินออกไปทางข้างนอก
เมื่อถึงข้างนอก มีคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา แสดงความยินดีกับกู้ซือเฉียนทันที
แม้ว่ามีหลายคน ที่ล้วนปากไม่ตรงกับใจ แต่ในงานแบบนี้ ย่อมไม่มีใครใส่ใจอยู่แล้ว
กู้ซือเฉียนรับหน้าพวกเขาแต่ละคน บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ มองดูอย่างละเอียดแล้ว เขาไม่ได้ดีใจเหมือนได้ของล้ำค่าอย่างที่พวกเขาคิด
แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้สาเหตุ แต่ก็ไม่กล้าคาดเดาอะไรมาก หลังจากแสดงความยินดีกับเขาแล้ว ก็จากไป
คนที่ออกมาเป็นคนสุดท้าย คือประธานชีที่สีหน้าซีดเซียว
ประธานชีเป็นลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของทางแม่ของหลินซง ที่จริงทั้งสองครอบครัวไม่ค่อยจะถูกกัน แต่เพราะว่าสาเหตุบางอย่าง อีกฝ่ายก็ต้องพึ่งพาตระกูลหลินซื่อในการหาเงิน
ครั้งนี้ตอนที่เลือกผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลหลินซื่อ ทั้งๆที่ประธานชีเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่หลินซง แต่ไปสนับสนุน ลูกพี่ลูกน้องอีกฝั่งหนึ่ง ดังนั้น หลินซงจึงไม่ชอบเขา
เวลานี้ เห็นเขาเดินออกมาด้วยสีหน้าดูไม่ได้ จึงรีบเดินเข้าไปแหย่ว่า“คุณลุง ทำไมไม่ดีใจหรือ ? อย่าทำอย่างนี้เลย แม้จะไม่ได้ของล้ำค่า แต่ประหยัดไปสองพันล้านเหรียญสหรัฐเลยนะ ! สองพันล้าน เพียงพอให้คุณขูดน้ำมันจากตระกูลหลินของเราได้กี่ปีแล้ว?”
ประธานชีเงยหน้า จ้องมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา
กล่าวเสียงเย็นชา“เวลานี้คุณชายหลินไม่ไปประจำการอยู่ในบริษัท แต่พาผู้หญิงออกมากินลมชมวิว เรื่องนี้ประธานหลินรู้ไหม?”
หลินซงชะงักไปครู่หนึ่ง
รอยยิ้มสดใสค้างอยู่บนใบหน้า
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงยิ้มเย็นชาแล้วกล่าวว่า“ใช่ ผมออกมาเที่ยวในเวลาทำงาน คุณลุงดีกว่าผมตรงไหน?จุ๊ๆ ยังเพ้อฝันเรื่องอยู่ยงคงกระพันอีกหรือ?อย่างพวกคุณที่เป็นนกที่อาศัยการดูดเลือดของคนอื่นถึงจะมีชีวิตอยู่รอด อยู่ยงคงกระพันมีความหมายด้วยหรือ? ”
“คุณ!”
ประธานชีโกรธแล้ว
ยังดีที่จิงจิงรู้จักดูสีหน้า ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองก็เป็นญาติกัน อีกฝ่ายเป็นผู้อาวุโสของหลินซงด้วย หากมีเรื่องกันในห้องโถงใหญ่ต่อหน้าสาธารณชนนี้จริงๆ หลังจากกลับบ้านไปแล้วหลินซงก็หลีกเลี่ยงการถูกลงโทษไม่ได้อยู่ดี