วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 511 เล่นได้ไม่นาน
บทที่511 เล่นได้ไม่นาน
หลิวหมิงร้องออกมาเสียงดังอย่างไร้ความอดทน จากนั้นก็จ้องไปที่ถังลั่วเหยาอย่างเย็นชา
“อยู่ในกองถ่ายแกล้งทำเป็นคนดี วิธีคิดของเธอก็ไม่เลวหรอกนะ เสียดายที่วิธีการไม่ค่อยดี”
ถังลั่วเหยาเลิกคิ้ว
ครั้งนี้ ในที่สุดก็ได้รู้ว่าหลิวหมิงมีทัศนคติอย่างไรกับเธอ
ไม่ต้องหันกลับไปเธอก็สามารถได้ยินคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ตนเอง พวกเขามีเหตุผลที่จะเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากคิดเลยว่าทำไมถังลั่วเหยาถึงต้องตั้งเป้าไปที่หลิ่วยู่เอ๋อ
ที่สำคัญที่สุดแม้แต่ผู้กำกับอย่างหลิวหมิงเองก็ตัดสินไปแล้วว่าตนเองมีเล่ห์เหลี่ยมมาก เพื่อการจัดฉากทำเป็นช่วยพูดให้หลิ่วยู่เอ๋อในตอนแรก จากนั้นก็แอบเปิดโปงเธอลับหลัง
เธอหัวเราะเยาะมองลงไปที่ดาบบนพื้นและหยิบมันขึ้นมาอย่างใจเย็นและถือไว้ในมือของเธอ
“เมื่อกี้มันเป็นความผิดของฉันจริงๆ ฉากนี้ไม่ใช่ว่ายังถ่ายไม่เสร็จไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้มาถ่ายต่อเถอะค่ะ”
หลิวหมิงตกตะลึงและมองไปที่นักแสดงสาวท่าทางงดงามตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
“ถ่ายต่อ?”
“ใช่ค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะเสียเวลาไม่ใช่เหรอคะ? อย่างนั้นก็มาถ่ายต่อเถอะค่ะ ฉันดูแล้วบาดแผลของพี่หลิ่วก็เป็นบาดแผลเล็กน้อยที่ผิวหนังเท่านั้น น่าจะไม่มีผลกระทบกับฉากนี้นะคะ”
หลิ่วยู่เอ๋อเองก็คิดไม่ถึง ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาสงบนิ่งแบบนี้
สงบนิ่งราวกับว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ไม่เพียงแค่เธอ แต่ทุกคนที่เห็นฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าในน้ำเต้าของเธอนั้นขายยาอะไรกันแน่
สุดท้าย หลิวหมิงก็ยังขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ: “นี่ก็เที่ยงแล้ว ทุกคนไปกินข้าวก่อนเถอะ ฉากนี้ค่อยถ่ายตอนบ่าย”
เสียงของผู้กำกับดังขึ้นราวกับเสียงที่ไพเราะจากธรรมชาติ ทุกคนก็หายใจอย่างโล่งอก
หลิ่วยู่เอ๋อนั่งอย่างสงบบนเก้าอี้นอนดวงตาของเธอกวาดมองไปที่ถังลั่วเหยาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจและไม่มีใครมองเห็นการเยาะเย้ยในดวงตาของเธอยกเว้นผู้ช่วยที่อยู่ใกล้ๆ
เพื่อไม่ให้การถ่ายทำฉากในช่วงบ่ายนั้นกระอักกระอ่วนเกินไป ถังลั่วเหยาไตร่ตรองและเดินเข้าไปข้างๆ หลิ่วยู่เอ๋อ
เจ้าหน้าที่ฉากและตากล้องบริเวณนั้นต่างพากันหูผึ่ง ราวกับว่าจะพลาดรายการใหญ่หากละความสนใจไป
“เธอยังจะมาทำอะไรอีก คำพูดของผู้กำกับเป็นคำพูดไร้สาระไปแล้ว”
เมื่อเห็นใบหน้าที่นิ่งสงบของถังลั่วเหยาหลิ่วยู่เอ๋อก็หมดความกล้าไปเล็กน้อย เธอลืมไปแล้วว่าเธอภูมิใจแค่ไหนเมื่อได้ใส่ร้ายป้ายสีถังลั่วเหยาแต่เธอไม่กล้าที่จะมองตรงๆ
“ฉันมาเพื่อขอโทษคุณ เมื่อครู่ฉันผิดเอง เนื่องจากเราถ่ายละครร่วมกันก็ควรจะร่วมมือกัน ฉันขอโทษค่ะ”
น้ำเสียงของถังลั่วเหยาไม่ได้ฝืนใจแม้เพียงเล็กน้อย แต่มันกลับทำให้หลิ่วยู่เอ๋อรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนกองไฟ
“เอาล่ะฉันเข้าใจแล้ว”
แก้มขวาของเธอกระตุกอย่างผิดธรรมชาติและรอยยิ้มที่แท้จริงนั้นยังดูแย่ว่าร้องไห้
ถังลั่วเหยามองลึกลงไปในตาเธอ จากนั้นก็ยิ้มและไม่พูดอะไรอีกแล้วจากไป
แต่กับหลิ่วยู่เอ๋อนั้นที่ถูกเธอปฏิบัติด้วยท่าทีเช่นนี้ ในใจก็เริ่มรู้สึกว่าไม่มั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว
เมื่อกองถ่ายเริ่มพักกินข้าว ผู้ช่วยก็รีบนำอาหารมาให้ถังลั่วเหยาอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในตอนเดินเข้ามา
ถังลั่วเหยาก็พอจะรู้ได้ว่าเพราะอะไร เสี่ยวฉิงเป็นผู้ช่วยที่มีนิสัยตรงๆ ปกติแล้วไม่ค่อยจะสนใจฟังข่าวซุบซิบพวกนั้น
ครั้งนี้ได้ยินคำซุบซิบนินทาของคนในกองถ่าย จะไม่โกรธจนแทบระเบิดได้อย่างไร?
แน่นอนว่าเธอได้สังเกตสีหน้าของถังลั่วเหยาอย่างระมัดระวังจากนั้นจึงพูดด้วยความน้อยใจ “พี่ลั่วเหยา หลิ่วยู่เอ๋อคนนั้นตั้งใจจะตัดไม้ข่มนามพี่ชัดๆ ทำไมพี่ยังทนอยู่อีกคะ! คนแบบนี้สมควรได้บทสมทบไปตลอดชีวิต”
ถังลั่วเหยามองเธออย่างเฉยเมยและพูดขึ้นนิ่งๆ: “อย่าพูดแบบนี้สิ เป็นฉันเองที่ไม่ระวัง”
คนในกองถ่ายมีจำนวนมากและเป็นที่สะดุดตา ถังลั่วเหยาทำได้เพียงซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ อันที่จริงในใจของเธอนั้นกระจ่างชัด เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถปากไวพูดออกมาดั่งใจเหมือนกับผู้ช่วยของเธอ เธอต้องจำไว้ว่าให้ห่างจากหลิ่วยู่เอ๋อก็พอแล้ว
เสี่ยวฉิงเห็นเช่นนั้นจึงยากที่จะพูดอะไรอีก ทำได้เพียงเบ้ปากแล้วเดินไปกินข้าวที่อีกมุม
หลังจากจัดการกับอารมณ์เรียบร้อยแล้วก็เป็นการถ่ายทำที่น่าตื่นเต้นอีก ในระหว่างการถ่ายทำถังลั่วเหยาถูกขัดจังหวะ
การแสดงหลายครั้ง เพราะบทพูดของฝ่ายไม่ผ่านทำให้ถังลั่วเหยา NG ไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง
สีหน้าของหลิวหมิงยิ่งแย่ลงทุกที เมื่อถึงหนึ่งถึงสองทุ่มแม้แต่ตัวหลิ่วยู่เอ๋อเองก็รู้สึกเกรงใจ
เธอเป็นฝ่ายเสนอให้พักครู่หนึ่งเพื่อปรับอารมณ์ แต่เหตุผลก็คือแขนของเธอรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย
ถังลั่วเหยานั่งรอเงียบๆ อยู่บนภูเขาปลอม และมีช่างแต่งหน้าสองคนพูดจาซุบซิบเบาๆ อยู่ด้านหลังเธอ
“ที่บอกว่านักแสดงหญิงหลักกับนักแสดงหญิงตัวรองเป็นศัตรูกันท่าจะจริง ถังลั่วเหยานั่นเล่นใหญ่ ถ่ายทำก็เลทถือว่าความสามารถไม่ได้เรื่อง”
“ฉันว่าแล้วว่าเธอจะต้องมีแบคแน่ ๆ เธอคิดดูสิเธอสวยขนาดนั้น…”
คำพูดต่อมาถังลั่วเหยาทนฟังไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปออกไปจากสตูดิโอ
ทันทีที่เดินออกมา ก็เห็นเสี่ยวฉิงที่อยู่ไม่ไกลและทำหน้าละห้อย เมื่อเดินเข้ามาใกล้ก็เริ่มบ่น: “พี่ลั่วเหยา เมื่อกี้ฉันเดินไปเอาของที่พวกเราต้องใช้ แต่พวกเขาก็อ้างโน่นอ้างนี่และไม่ให้ฉันค่ะ”
“ผู้ช่วยของหลิ่วยู่เอ๋อสามารถรับได้ แต่ไม่ยอมจะให้ฉัน พี่ลั่วเหยา ฉันอยากจะเข้าไป…”
เมื่อเห็นผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้างตนเองเป็นถึงขนาดนี้ เธอยังไม่พูดอะไรอีก เธอได้เพียงแต่จัดปอยผมที่หลุดออกมาให้กับผู้ช่วย จากนั้นก็พูดข้างๆ หูเธอ: “ช่วงนี้คงจะเป็นแบบนี้แหละ อดทนเอาไว้ก่อนนะ”
“แต่ว่า…”
ผู้ช่วยเองก็ไม่เคยคิดจะทะเลาะกับคนงาน แต่เมื่อคิดว่าคนดีๆ อย่างถังลั่วเหยาจะต้องได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ในใจของเธอก็ขมขื่นเหมือนกลืนกินหวงเหลียนเข้าไป
ถังลั่วเหยาใช้สายตาแสดงออกเพื่อบอกให้ผู้ช่วยให้อดทน เธอเชื่อมั่นว่าเมื่อเวลาผ่านไปก็จะได้เห็นธาตุแท้ของคน สำหรับความเจ้าเล่ห์เล็กๆ ของหลิ่วยู่เอ๋อก็คงเล่นได้ไม่นานหรอก
ในตอนค่ำหลิวหมิงประกาศให้วันนี้เลิกงานเร็ว ลำบากมาทั้งวันทำให้คนทั้งกองถ่ายได้ยิ้มออกมาได้บ้าง
หลิ่วยู่เอ๋อจงใจออกห่างจากทุกคนแล้วแสร้งทำตัวจริงใจเดินเข้าไปใกล้ๆ ถังลั่วเหยา
ผู้ช่วยก้าวเท้ายาวเข้าไปกั้นระหว่างเธอกับถังลั่วเหยาและพูดกับเธออย่างดุร้าย: “คุณยังจะทำอะไรอีก ยังจะมาหาเรื่องกันอีก?”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกันนะ ฉันก็แค่จะมาบอกว่า พรุ่งนี้จะต้องถ่ายให้ดีๆ นะ”
หลิ่วยู่เอ๋อตบแขนเสื้อที่ผู้ช่วยสัมผัสด้วยความรังเกียจและเดินออกไปอย่างภาคภูมิใจด้วยรองเท้าส้นสูง
ที่ด้านหลังเธอผู้ช่วยยืนหน้าแดง เธอไม่เคยพบเจอคนที่หน้าไม่อายเช่นนี้มาก่อนเลย
“เอาล่ะ พวกเราทำส่วนของตัวเองให้ดีก็พอ”
ถังลั่วเหยาเหมือนกับพี่สาวคนโต เธอดึงผู้ช่วยให้มายืนข้างๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็เห็นฉากเมื่อครู่นี้ หันหน้าไปทางถังลั่วเหยาและไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ถึงแม้จะไม่อยากจะยอมรับ แต่ถังลั่วเหยาก็ถูกเล่นงานเข้าแล้วจริงๆ เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มมืออาชีพอีกครั้ง บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร แล้วลมพายุจะผ่านไป
เช้าวันต่อมาศรัทธาของถังลั่วเหยาต้องสั่นคลอนจากเหตุไม่คาดฝันเล็กน้อย ประจำเดือนเธอมาแล้ว
มีอาการจุกเสียดในช่องท้องของเธอหลังจากนั้นไม่นานหน้าผากของถังลั่วเหยาก็เต็มไปด้วยเหงื่อและผู้ช่วยก็ตกใจเมื่อเธอมาเห็น