วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 318 อาศัยตอนที่ไม่ตั้งตัว
บทที่ 318 อาศัยตอนที่ไม่ตั้งตัว
และแล้ว ยังไม่ทันพูดจบ ใบหน้าของหญิงสาวอยู่ๆ ก็ได้ใกล้เข้ามา ริมฝีปากแตะไปริมฝีปากเขา
จี้หยุนซูเบิกตาโตด้วยความตกใจ
การกระทำของหญิงสาวดูไม่ค่อยคล่อง ติดๆ ขัดๆ เล็กน้อย แต่ก็ได้มีความทะเยอทะยาน
เปลือกตาที่เต็มไปด้วยขนตาได้สั่น รีบร้อนที่จะสำรวจเข้าไปข้างใน ไม่มีลำดับ ก็เหมือนกันคนเร่ร่อนที่อยู่ในทะเลทรายอยู่นาน รีบร้อนที่จะดูดเอาสารอาหาร
จี้หยุนซูรู้สึกว่าร่างกายของตนได้ตึงเครียดไปหมด ในหัวได้ขาวโพลนไปชั่วขณะ
เพราะว่าการกระทำของหญิงสาวไม่ค่อยคล่อง พยายามอยู่นาน ก็ไม่สามารถที่จะเปิดปากเขาได้ ปากก็ได้ส่งเสียงร้องเบาๆ ออกมา พูดอย่างทรมานว่า “ทรมานจัง ให้ฉัน……”
จี้หยุนซูก็ได้สะดุด สติได้กลับมาเล็กน้อย ก็ได้รีบเธอออก รีบพูดว่า “หวั่นหวั่น ทำแบบนี้ไม่ได้ เธอทนหน่อย ผมส่งเธอโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ในโรงพยาบาลมียา ไม่นานก็หาย”
กวนเยว่หวั่นกลับส่ายหน้า เหมือนว่าจะร้องไห้ออกมา “ไม่เอาไม่เอา ไม่ไปโรงพยาบาล……”
พูดจบ นัยน์ตาก็ได้ฉ่ำวาว รู้สึกว่าร่างกายนั้นได้มีมดอยู่หลายสิบตัว ได้ไต่อยู่เต็มไปหมด คันจังทรมานจัง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อ เธอต่อบ้าขึ้นมาจริงๆ แน่ๆ ……
กวนเยว่หวั่นก็ได้รีบเข้าไปจูบริมฝีปากชายหนุ่มอีกครั้ง แล้วพูดอ้ำอึ้งว่า “ช่วยฉันนะ ขอร้องล่ะ”
จากนั้น ร่างกายก็ได้ทาบทับเข้ามา ร่างกายได้ทับไปที่ร่างของชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง ต้องการที่จะบรรเทาอะไรบางอย่าง
ลำคอของจี้หยุนซูก็ตึง รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนั้นตึงเครียดมากๆ นี่มันยากลำบากกว่าการทำการผ่าตัดขนาดใหญ่ซะอีก
ก็ได้ผลักเธอออกไปเล็กน้อยอย่างยากเย็น หอบหายใจถาม “หวั่นหวั่น เธอรู้ว่าผมเป็นใครไหม?”
กวนเยว่หวั่นก็ลืมตาที่อ่อนหวานคู่นั้น ไม่ได้พูดอะไร เหมือนว่าไม่มีสติ เห็นได้ชัดเลยว่าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หรือให้พูดอีกอย่างว่าเวลานี้ไม่สนอะไรแล้วยานั้นก็เหมือนกับที่กู้จื่อจุนพูดไว้ ว่าแรงมากๆ
จี้หยุนซูก็ได้ตั้งสติขึ้นมาบ้าง ถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ตอนที่หญิงสาวกำลังจะเอาริมฝีปากไปทาบทับอีกรอบนั้น เขาก็ได้ทำมือเหมือนใบมีด แล้วก็ทุบลงไปท้ายทอยของหญิงสาว
หญิงสาวในอ้อมกอดได้ร้องออกมาเสียงหนึ่ง วิต่อมา ร่างกายก็ได้ล้มพับลงไป
ก็เวลาช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ บนหน้าผากของจี้หยุนซูก็ได้มีเหงื่อไหลออกมา เมื่อกี้อีกแค่นิดเดียว เขาก็จะทนไม่อยู่แล้ว โชคดีที่สติที่เหลือเพื่อเล็กน้อยของเขาได้บอกเขาว่า จะทำผิดอีกไม่ได้
ถ้าเกิดว่าตอนนี้เธออยู่ในช่วงที่สติครบถ้วนนั้น แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธแน่
แต่เธอโดนวางยา……
แม้ว่าเธอตกลงแล้ว มันก็เพราะว่าฤทธิ์ของยา ถ้าเกิดว่าเขาก็ได้ตอบรับไปนี่มันเป็นเอาเอาเปรียบตอนที่เขาไม่ได้ตั้งตัวไม่ใช่เหรอ?
จี้หยุนซูได้ถอนหายใจออกมายาวๆ สายตาได้มองไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดเขา เห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวก็ได้มีเหงื่อไหล สีหน้าแดงเล็กน้อย ลมหายใจได้เร็ว
คอเสื้อบนร่างกายได้เปิดออก ก็ได้โผล่ก้อนสีขาวราวหิมะออกมา กระดูกไหปลาร้าที่ดูดีก็ทำให้ผิวอมชมพูของเธอ ได้น่าหลงใหลเข้าไปอีก
ลมหายใจของเขาได้ติดขัด ก็ได้รีบย้ายสายตาออกไป ไม่กล้ามองต่อ
จากนั้น ลับตาแล้วเอาเสื้อกันหนาวของเขาคลุมไปที่ร่างของเธอย่างดี จากนั้นก็ได้ประคองร่างเธอไปนั่งตรงๆ คาดเข็มขัดให้เธอ ถึงได้ขับรถไปข้างหน้าต่อ
วันต่อมา กวนเยว่หวั่นได้ตื่นขึ้นมาเพราะแสงในยามเช้า
ข้างหูได้มีเสียงกระดิ่งลม ในสายตาที่เบลออยู่นั้น มีร่างที่สูงได้เดินไปมาอยู่ข้างหน้า
ความทรงจำที่เลือนรางของเมื่อคืนก็ได้ผุดในหัวเธอ สีหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเลยทันที ก็ได้มีสติขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ลุกนั่งอยู่บนเตียง
จี้หยุนซูพึ่งเทน้ำ แล้วก็เอายาไม่กี่เม็ดที่เธอต้องทานในตอนเช้าเตรียมไว้ที่โต๊ะ หันไป ก็เห็นว่าเธอนั้นได้ตื่นแล้ว กำลังนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีด มองเขาด้วยสายตาที่สับสน
เขาอึ้งเล็กน้อย คิดว่าเธอนั้นฝันร้าย ก็ได้เข้าไปแตะที่หน้าผากของเธอ รู้สึกว่าอุณหภูมิปกติ ก็ได้ถาม “เป็นอะไรไป?”
กวนเยว่หวั่นก็ได้ตั้งสติ รีบหันไปมองรอบๆ แล้วก็มองบนร่างกายของตน
เห็นว่าเสื้อบนร่างกายของตัวเองได้ถูกฉีกขาด แต่ว่าข้างนอกนั้นก็ยังมีเสื้อเชิ้ตของผู้ชายทับอยู่ เพราะงั้นไม่โป๊ ไม่ต้องคิด ก็รู้ว่าเสื้อเชิ้ตนี้เป็นของใคร
ใบหน้าก็ได้แดงขึ้นเล็กน้อย จี้หยุนซูเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ ก็ได้ไอออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก พูดว่า “อืม คือว่า เมื่อวานเธอนอนดิ้นไปหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงอะไรที่ไม่ควร ผมก็เลยสวมเสื้อให้เธอ หวังว่าเธอจะไม่กล่าวโทษ”
กวนเยว่หวั่นหน้าแดง ส่ายหน้า
นิ่งไป แล้วก็พูดว่า “ขอบคุณค่ะ เมื่อคืน……”
พูดถึงเมื่อคืน นัยน์ตาของจี้หยุนซูก็ได้เยือกเย็นลงเล็กน้อย พูดเสียงจริงจัง “ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อวานไอ่สวะนั่นได้ถูกผมส่งเข้าโรงพักแล้ว ผมรับประกันได้เลย ไม่มีทางปล่อยมันไปง่ายๆ แน่”
กวนเยว่หวั่นก็ได้อึ้งไปเล็กน้อย ความทรงจำของเมื่อคืน เหมือนว่าจะหยุดอยู่ตอนที่เธอนั้นยังอยู่ในบาร์ ความทรงจำหลังจากนั้นก็ได้เลือนรางไป แต่รางๆ ก็รู้ว่าเมื่อวานนั้นเกิดอะไรขึ้น
สีหน้าก็ได้ซีดลง แล้วถาม “งั้นฉัน?”
ความหมายของเธอไม่ต้องพูดก็รู้ จี้หยุนซูก็ได้ไอออกมาอย่างทำตัวไม่ถูกอีกครั้ง “เมื่อวานผมมาทันเวลา เพราะงั้นเธอปลอดภัย”
ได้ยินแบบนั้น กวนเยว่หวั่นถึงได้โล่งอก
จี้หยุนซูเอายาแล้วก็น้ำ ส่งให้เธอ “ทานยากก่อนเถอะ! ทานยาเสร็จก็ไปทานมื้อเช้า จากนั้นผมส่งเธอกลับไป”
กวนเยว่หวั่นพยักหน้า เอายามาทานอย่างว่าง่าย
ตอนที่ทานยา จี้หยุนซูได้จ้องเธออยู่ตลอด กวนเยว่หวั่นทานยาเสร็จ ถึงได้รู้สึกว่าคอของตัวเองนั้นปวด
ก็ได้ขยับคอไปมา ขมวดคิ้ว “เมื่อคืนฉันนอนตกหมอกเหรอคะ? ทำไมปวดคอขนาดนี้?”
คำพูดของเธอ ทำให้สีหน้าของจี้หยุนซูได้เปลี่ยน
ใบหูนั้นก็ได้แดงขึ้น ก็ได้หันไปทางอื่นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ พูดว่า “อาจจะนะ!”
พูดจบ ก็ได้ชี้ไปที่เสื้อที่อยู่ที่หัวเตียง “เสื้อผ้าอยู่ตรงนั้น เปลี่ยนเสร็จแล้วลงมา! ผมรอเธอที่ห้องอาหาร”
กวนเยว่หวั่นพยักหน้า จี้หยุนซูถึงได้หันตัวแล้วเดินออกไป
ปิดประตูลงเบาๆ กวนเยว่หวั่นหันไป มองเสื้อที่พับอย่างเรียบร้อยที่หัวเตียง เป็นเสื้อไหมพรมสีชมพูแล้วก็กางเกงทรงดินสอ แล้วยังมีเสื้อกันหนาวตัวใหญ่สีน้ำตาลอ่อน
เธอได้เอาขึ้นมา มองดู จากนั้น ก็ได้เห็นของที่ตกลงมาจากเสื้อตัวใหญ่
หน้าก็ได้แดงเลยทันที
ยื่นมือเก็บกางเกงสีชมพูตัวน้อยขึ้นมา มือไม่ได้อยู่ไม่เป็นที่ ไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี
รุ่นพี่……ทำไมถึงนึกขึ้นได้ว่าซื้ออันนี้ให้เธอ……
เธอหน้าแดง รู้สึกว่าในใจนั้นได้มีกวางน้อยวิ่งไปมา ตึ้งๆๆๆๆ ……
ในที่สุด อารมณ์ก็ได้สงบลง อดไม่ได้ที่จะไม่กระตุกยิ้มที่มุมปาก
หลังลุกขึ้น ก็เข้าไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็ได้กลับมาที่ห้องนอน รีบสวมเสื้ออย่างรวดเร็ว พอดีกับตัวจริงๆ ด้วย
เธอยืนอยู่ข้างหน้ากระจก จะไม่นับถือสายตาของจี้หยุนซูว่าดีไม่ได้เลย เสื้อผ้านั้นดูเรียบง่าย เหมาะกับเธอมาก ทำให้เธอดูดีมากๆ
ในใจ ก็ได้มีความหวานที่เหมือนกับน้ำผึ้ง เธอได้สำรวจร่างกายของเธอ มั่นใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น ถึงได้เดินออกไป