วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 311 ขอโทษถึงบ้าน
บทที่ 311 ขอโทษถึงบ้าน
เมื่อย้อนคิดถึงตอนที่เจอกับจี้หยุนซูที่มีใบหน้าที่ประหลาดใจเมื่อกี้นั้น ก็รู้สึกว่าวุ้นใจขึ้นมา
เขามาได้ยังไง? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่? เขามาหาใคร? มาหาเธอเหรอ?
กวนเยว่หวั่นได้กลืนน้ำลาย ผ่านไปสักพัก ก็ได้รวบรวมความกล้าลุกขึ้นไปที่หน้าต่างแล้วมองลงไป
การมองคราวนี้ ก็ได้ทำให้เธอได้เบิกตาโต
เห็นจี้หยุนซูได้เอาของถุงใหญ่ๆลงมาจากรถ แล้วก็เดินมาที่ประตูบ้านของตัวเอง
คุณพระ! เขามาหาตนจริงๆ เหรอ ทำไงดี?
กวนเยว่หวั่นก็ได้ร้อนรนไปหมด มองซ้ายมองขวาในห้อง มือไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ที่ไหนดี
ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงอ๊อดที่ดังจากด้านนอก
เวลานี้เห้อหลันซินกำลังทำอาหารที่ห้องครัว ได้ยินเสียง ก็ได้ไปเปิดประตู
เธอไม่รู้จักจี้หยุนซู พอเห็นว่าหนุ่มหล่อได้ยืนอยู่ที่ประตู ก็ได้ประหลาดใจเล็กน้อย ถามว่า “คุณมาหาใครคะ?”
จี้หยุนซูได้ยิ้มให้เธอไปอย่างมีสุภาพ “สวัสดีครับ คุณเป็นคุณน้ากวนใช่ไหมครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมงานของกวนเยว่หวั่น ผมมาหาเธอครับ”
เห้อหลันซินอึ้งไปสักพัก ผ่านไปนานถึงได้ตั้งสติได้ ก็ได้พยักหน้าแบบอึ้งๆ “อ้อ มาหาเธอเหรอ เธออยู่ชั้นบน”
พูดจบ ก็ได้หันหน้ากลับไปตะโกนขึ้นชั้นบน “หวั่นหวั่น มีคนมาหาลูก”
หลังเรียกเสร็จก็ได้ยิ้ม แล้วก็เปิดทางให้ “เข้ามาในบ้านก่อนเถอะค่ะ”
จี้หยุนซูพยักหน้า แล้วก็ได้ยิ้มให้เธอตามมารยาท จากนั้นก็ได้ถือของเดินเข้าไป เอาของวางไว้ที่โต๊ะ
รอไปประมาณห้าทาที ก็เห็นกวนเยว่หวั่นเดินลงมาจากชั้นบนอย่างช้าๆ
ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีขาว ผมที่นุ่มตรงได้ปล่อยยาวตรงไหล่เธอ ปิดบังรอยจุดๆ บนคอ เงยหน้าไปมองเขา ก็ได้รีบก้มหน้าลงไปอย่างรวดเร็ว สายตาหวาดหวั่น แล้วก็ได้มีอารมณ์ที่ยากจะอธิบายปนอยู่
ก็ไม่รู้ทำไม ก่อนหน้าได้เห็นเด็กน้อยคนนี้ จี้หยุนซูก็ไม่ได้มีความรู้สึกแปลกๆ อะไร
แต่พอผ่านเรื่องเมื่อคืนก่อน มาเจอเธออีกที ยิ่งได้เห็นสายตาที่เหมือนกับกวางน้อยที่ตกใจแบบนั้น เขาก็ได้ขมวดคิ้วแน่น ร่างกายได้ร้อน
จี้หยุนซูก็ได้ด่าตัวเองในใจ ด่าว่า “ขี้ขลาด! ไอ่ปีศาจ!”
ใบหน้าก็ยังมีสีหน้าที่นิดเรียบเหมือนเดิม ลุกขึ้น แล้วยิ้มให้เธอ “เยว่หวั่น”
เห้อหลันซินได้ชงชาเสร็จแล้วก็ยกออกมาเสิร์ฟ เขาไม่รู้เรื่องระหว่างกวนเยว่หวั่นกับจี้หยุนซู เห็นว่าเธอมีสีหน้าที่แปลก ก็ได้ถาม “ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายตรงไหนเหรอ?”
พูดจบก็ได้เอามือไปแตะที่หน้าผากของเธอ แล้วกวนเยว่หวั่นก็ได้ถอยไปหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็ว หลบไป ท่าทางเหมือนว่ากลัวเธอแตะตัว
เห้อหลันซินมือได้แข็งกลางอากาศ นัยน์ได้มีความเสียใจสะท้อนออกมา แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ได้พูดออกไปเบาๆ ว่า “พวกเธอคุยกันไปก่อน ฉันไปทำอาหาร”
พูดจบ ก็ได้หันหลังรีบเดินจากไป
จี้หยุนซูมองภาพเหตุการณ์นั้นด้วยความไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า เขารู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างสองแม่ลูกตระกูลกวนมันแปลกๆ
แต่ยังไงซะเขาก็เป็นแค่คนนอก เพราะงั้นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
ทั้งสองนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก อึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเปิดปากพูดอะไรออกไปดีชั่วขณะ
จี้หยุนซูก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
ผ่านไปนาน กวนเยว่หวั่นถึงได้พูดออกมาเสียงเบาว่า “เอางี้……ไปคุยกันที่ห้องของฉันดีกว่าค่ะ!”
พูดจบ ก็ได้หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน
จี้หยุนซูมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของเธอ คิดๆ ก็รู้สึกว่ายืนพูดอยู่ตรงนี้ ถ้าเกิดว่าคุณแม่ของเธอมาได้ยินเข้าก็ไม่ค่อยดี เพราะงั้นก็ได้เดินขึ้นไปตาม
เข้าไปให้ห้องของกวนเยว่หวั่น ก็เห็นว่าการตกแต่งภายในนั้นเป็นสีชมพูอ่อนทั้งหมด เป็นการตกแต่งแบบผู้หญิงที่เขาไม่คุ้นเคย
ห้องไม่กว้างมาก บนตู้กับหัวเตียงนั้นได้มีฟิกเกอร์และรูปถ่ายวางอยู่เต็มไป โทนสีอบอุ่น สะอาดสบาย
จี้หยุนซูพยักหน้า พอใจมากๆ
จนกระทั่งสายตาก็ได้ไปบรรจบที่ของบางอย่างตรงหน้าต่าง ก็ได้นิ่งไป แล้วหน้าก็ได้เริ่มแดงขึ้น
กวนเยว่หวั่นก็มองเห็นของสิ่งนั้น ตกใจมาก แทบที่จะหารูมุดเข้าไป
เธอก็ได้รีบไปเอากางเกงตัวน้อยที่อยู่ตรงไม้แขวงลงมา แล้วก็ยัดเข้าไปให้ตู้อันหนึ่ง พูดติดๆ ขัดๆ “ฉัน……”
จี้หยุนซูทำสีหน้าไม่ถูก ก็ได้ไอออกมาเบาๆ พูดว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมมากะทันหันเกินไป ล่วงเกินแล้วครับ”
กวนเยว่หวั่นส่ายหน้า เธอจะไปเกลียดที่เขามาอย่างกะทันหันได้ไงล่ะ?
พอหลังจากคืนนั้น เธอได้อยู่ในบ้านตลอด คิดอยู่ว่าเขานั้นจะมาไหม? เขาจะอธิบายเรื่องของคืนนั้นยังไง?
ในใจของเธอนั้นได้รอคอยให้เขามา แล้วก็กลัวที่เขาจะมา เธอไม่รู้ว่าเขาจะให้คำตอบแบบไหนกับเธอ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะชอบเธอไหม
ถ้าเกิดเขาไม่ชอบเธอ งั้นเธอควรทำไงดี?
ในใจของกวนเยว่หวั่นได้วุ่นวายมากๆ และอีกด้าน ในใจของ จี้หยุนซูทำไมถึงจะไม่ใช่
เขามองเธอ ก็เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น ก้มหน้า นิ้วได้เล่นที่ผมของตัวเอง มีท่าทางที่หวาดระแวงมากๆ
ในใจของเขาอดคิดไม่ได้ว่า เธอน่ารักจริงๆ ไร้เดียงสาจริงๆ
ทำไมผู้หญิงที่น่ารักไร้เดียงสาแบบนี้ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้มาเกิดเรื่องแบบนั้นกับตน ในใจของเธอต้องโกรธมากแน่ๆ ใช่ไหม
ต่อให้เขาจะรับผิดชอบ เธอก็น่าจะไม่ยอมอยู่ดี เธอจะเกลียดเขาไหม? มีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาไหม?
ถ้าเกิดเป็นแบบนั้น ต่อให้ในใจของเขาจะทำใจไม่ได้ แต่ก็จะไม่บังคับเธอ
คืนก่อนเขาได้ทำผิดต่อเธอแล้ว หลังจากนั้นต่อให้เสียใจขนาดไหน ต่อให้ทำใจไม่ได้ขนาดไหน ก็จะไม่ให้เธอนั้นต้องมาลำบากใจเด็ดขาด
ในใจของทั้งสองนั้นได้มีความคิดของตน ได้ยืนอยู่ตรงนั้น อยู่นานก็ไม่ได้พูดอะไร
จนมาหลังๆ จี้หยุนซูก็ได้ทนต่อไปไม่ไหว ก็ได้ไอออกมา ทำลายความเงียบนี้
“คือว่า…..เรื่องคืนก่อนหน้า”
จากนั้นยังพูดไม่จบ ข้างนอกก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เสียงของเห้อหลันซินก็ได้ส่งผ่านประตูเข้ามา “หวั่นหวั่น พวกเธอปิดประตูอยู่ข้างในทำอะไร? รีบออกมากินข้าวได้แล้ว”
กวนเยว่หวั่นอึ้งไป เงยหน้ามองเขาอย่างรวดเร็ว
นัยน์ตาของจี้หยุนซูได้มีความทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
กวนเยว่หวั่นเห็นท่าทางที่ทำตัวไม่ถูกและก็ลังเลของเขา ความไม่สงบในใจแล้วก็ลำบากของเธอก็ได้ผ่อนคลายไปมาก เม้มปากยิ้ม “ไปทานข้าวกันก่อนเถอะค่ะ มีอะไรทานข้าวเสร็จค่อยพูด”
จี้หยุนซูเห็นแบบนั้น ก็ไม่ได้พูดต่อ ทำได้แค่พยักหน้า
กวนเยว่หวั่นถึงได้เปิดประตู เห้อหลันซินเห็นพวกเขาทั้งสองออกมาจากข้างใน ก็ได้มองพวกเขาด้วยความสงสัย รู้สึกว่ามันแปลกๆ
แต่พอคิดถึงท่าทางที่ผ่านมาสองวันของลูกสาว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ทั้งสามได้ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน พ่อกวนออกไปทำงาน เพราะงั้นกลางวันไม่อยู่บ้าน โต๊ะอาหารมีพวกเขาแค่สามคน
บรรยากาศได้เงียบ เห้อหลันซินเห็นแบบนั้น ก็ได้พูด “หวั่นหวั่น นี่เป็นเพื่อนของหนูไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่แนะนำให้แม่รู้จักหน่อย?”