วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 254 ถูกขังในเรือ
บทที่254 ถูกขังในเรือ
กวนเสว่เฟยยืนอยู่ที่หน้าประตู ข้างมือยังมีกระเป๋าเดินทางใบเล็กวางอยู่ เห็นเธอหันมา ก็ได้ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณจิ่ง ฉันไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหมคะ”
จิ่งหนิงได้ตั้งสติ แล้วก็เดินไป
“ไม่ค่ะ”
สายตาของเธอได้ไปตกอยู่ที่กระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างๆ ของกวนเสว่เฟย ถามอย่างประหลาดใจ “จะไปแล้วเหรอคะ?”
“ค่ะ ฉันก็แค่มาถ่ายโฆษณาแถวนี้ รู้ว่าคุณย่าลู่อยู่ที่นี่ ก็ได้มาอย่างกะทันหัน ทางนั้นจะลาบ่อยๆ ไม่ได้ วันนี้ต้องกลับไปค่ะ”
จิ่งหนิงพยักหน้า
“งั้นฉันไปส่งคุณ”
กวนเสว่เฟยส่ายหน้าอย่างมีมารยาท “ไม่ต้องแล้วค่ะ ที่ฉันมาก็แค่อยากจะมาบอกลาคุณเท่านั้น ผู้ช่วยของฉันมาแล้ว ตอนนี้เขารอฉันที่ชั้นล่าง ฉันลงไปเองก็พอ”
จิ่งหนิงไม่รู้ว่าเขาเกรงใจ หรือว่าไม่อยากให้ผู้ช่วยเจอเธอด้วยความหวังดี
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ตื้อต่อ พยักหน้า
“งั้นเดินทางปลอดภัยนะคะ”
“ค่ะ คุณก็เช่นกัน”
ตอนที่ใช้สายตามองส่งกวนเสว่เฟยจากไป จิ่งหนิงถึงได้นึกถึงปัญหาเมื่อกี้
ที่จิ่งเสี่ยวหย่าหนีออกมาได้ แล้วยังส่งข้อความให้หยูซิ่วเหลียน หล่อนนั้นน่าจะได้ข่าวคราวอะไรมาถึงจะถูก
ใครเป็นคนส่งข่าวให้เธอล่ะ?
กวนเสว่เฟย?
ดูแล้วไม่น่าใช่
ยังไงซะ เรื่องที่เธออยู่ในเกาะซีหนิง วันนี้นอกจากคนตระกูลลู่แล้ว ก็มีแค่กวนเสว่เฟยที่รู้
ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้ได้หลุดออกไป กวนเสว่เฟยเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด แม้ว่าจะเพื่อชื่อเสียงของนายหญิงกับลู่จิ่งเซิน เธอก็ไม่น่าที่จะทำแบบนั้น
งั้นเป็นใครกันแน่?
อีกอย่าง ไหนๆ จิ่งเสี่ยวหย่าก็รู้ว่าตนนั้นอยู่ที่เกาะซีหนิง และจากเมืองจิ้นมาที่นี่ ก็ใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง
งั้นทำไมเธอยังมาไม่ถึง? ถึงขั้นได้หายตัวไปเลย?
ในนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จิ่งหนิงรู้สึกว่าข้างหน้าเหมือนว่าได้มีกรงหมอกที่เธอมองไปเห็นลอยเข้ามา ใจนั้นวุ่นวาย ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
ดีแค่ตอนนี้จิ่งเสี่ยวหย่าก็แค่หายตัว ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
แผนการในตอนนี้ ก็ทำได้แค่ยังไม่ทำอะไร รอดูสถานการณ์
คิดได้แบบนั้น จิ่งหนิงก็ไม่ได้คิดต่อ ออกจากประตูไปหาอานอาน
และอีกด้าน
ในเรือที่เย็นชื้น จิ่งเสี่ยวหย่าได้ตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง
เธอได้เวียนหัวเล็กน้อย หนังตาได้หนักจนเปิดไม่ได้ ได้ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยอย่างยากลำบาก แล้วก็รู้ว่ารอบข้างได้มืดไปหมด
ในที่ไม่ไกลก็ได้มีแสงส่องเข้ามา เห็นได้เห็นร่างคนขยับไปมารางๆ
นี่มันที่ไหน?
เธอได้คิดด้วยสติที่ยังไม่พร้อม คิดแบบมึนๆ รู้สึกเหมือนว่าถูกคนยกไปยกมา สุดท้ายก็ได้ถูกเอามาขังไว้ที่ห้องมืดๆ
แย่แล้ว!
จิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้ตื่นเลยทันที เหมือนว่าเป็นตามสัญชาตญาณ ก็ได้กระโดดขึ้น
รอบๆ ได้มืดไปหมด ด้านหน้าได้มีประตูที่ไม่ได้ปิด มีแสงส่องเข้ามาเล็กน้อย
มือทั้งสองของเธอถูกมัดไว้ด้านหลัง เท้าก็ถูกมัด ใต้ตัวเป็นพื้นแบบไม้ ได้มีอากาศที่เย็นชื้นลอยออกมา ข้างหูได้ยินเสียงลม เหมือนว่าอยู่บนเรือ
บนเรือ?
ความคิดแบบนี้ทำให้จิ่งเสี่ยวหย่าตกใจ ข้อมือเพราะว่าเชือกที่มัดแน่นเกินไปก็ได้เจ็บ
เธอได้ขมวดคิ้ว ออกแรงดิ้นรนที่จะหลุด แต่ก็ไม่หลุด กลับกันก็ได้ทำให้ข้อมือยิ่งอยู่ยิ่งเจ็บ
ในใจเธอก็ได้คิดไปสักพัก เม้นปาก แล้วก็ได้ขยับตัวไปทางประตูอย่างยากลำบาก อาศัยแสงที่รอดออกมา ส่องมองผ่านช่องของประตูดูร่างคนที่เดินไปมาด้านนอก
สีหน้าของจิ่งเสี่ยวหย่าได้เริ่มซีด สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายได้เดินมาที่ห้องที่ตนอยู่ ก็ได้รีบขยับไปนั่งในที่ที่ตนตื่น ประตูเรือได้มีเสียงอี๊ดแล้วเปิดออก
คนที่มายืนอยู่หน้าประตู เห็นว่าเธอตื่น ก็ได้ประหลาดใจเล็กน้อย
“ยาที่แรงขนาดนั้น คิดว่าเธอจะตื่นในวันพรุ่งนี้ซะอีก เห็นทีร่างกายก็แข็งแรงพอตัว”
เสียงที่ชัด แล้วก็ได้มีความเยือกเย็นปนอยู่เล็กน้อย ฟังแล้วอายุมากไม่น้อย
จิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้เก็บกดความกลัวในใจ ถามเสียงสั่น “เธอเป็นใคร?”
“เธอคิดว่าฉันจะบอกเธอ?”
จิ่งเสี่ยวหย่าอึ้งไป
อีกฝ่ายเธอวนตัวเธอไปสองรอบ พูดว่า “เธอวางใจเถอะ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แต่ว่าจะให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อนสักพัก เรื่องการดื่มกินแน่นอนว่าจะมีคนมาส่งให้เธอทุกวัน ไม่ให้เธอลำบาก
รอถึงเวลา ฉันก็จะปล่อยเธอไปแน่นอน เพราะงั้นช่วงนี้ หวังว่าเธอจะเชื่อฟัง ไม่คิดที่จะหนี ไม่อย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็ไม่กล้าที่จะรับประกัน เธอเข้าใจไหม?”
จิ่งเสี่ยวหย่าโมโหมากๆ
ตัวเองนั้นออกมาตามหาคนแท้ๆ ดีเลยตอนนี้ ทำไมตัวเองถึงได้โดนจับตัวล่ะ?
เธออยู่ๆ ก็คิดอะไรได้ ก็ได้จ้องไปยังคนคนนั้น
“โทรศัพท์ก่อนหน้านี้ แล้วก็ข้อความนั้น เธอเป็นคนส่งให้ฉัน?”
เดิมคิดว่าคนคนนั้นจะปฏิเสธ คิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายกลับพยักหน้า
“ใช่ฉันเป็นคนส่ง”
จิ่งเสี่ยวหย่าก็ได้เบิกตาโตทันที
“เธอหลอกฉัน?”
“ฉันไม่ได้หลอกเธอ จิ่งหนิงได้อยู่ที่เกาะซีหนิงจริง แต่ว่าตอนนี้ฉันจะให้เธอไปหาเขาไม่ได้ เพราะว่าฉันมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นให้เธอไปจัดการ”
จิ่งเสี่ยวหย่าแทบจะถูกเธอพูดเอางง
“เธอจะให้ฉันทำอะไร?”
“เมื่อกี้ฉันบอกแล้วนี่ ว่าให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อนสักพัก เธอวางใจก็พอ ฉันไม่ทำร้ายเธอ”
“เธอได้มัดฉัน นี่เรียกว่าไม่ได้ทำร้าย?”
“ตอนนั้นก็แค่กลัวว่าเธอจะหนีไปถึงได้ทำแบบนี้เท่านั้น”
อีกฝ่ายพูดจบ จู่ๆ ก็ได้ถอนหายใจ
“ที่จริงฉันก็ไม่อยากที่จะทำแบบนี้ แต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่น เธอได้มีครอบครัวที่รักเธอมากๆแล้ว ทำไมถึงได้โลภอยากที่จะได้มากกว่านี้อีกล่ะ?
แต่ว่าฉันก็พอเข้าใจ ไอ่ที่ว่าคนนั้นต้องปีนไปที่สูง น้ำไหลลงที่ต่ำ! ต่อให้ไม่เป็นของของตน แต่ว่าถ้ามีโอกาส ก็อยากที่จะลองแย่งมาจริงไหม?
เพราะงั้นฉันไม่โทษเธอ การที่มัดเธอมาคราวนี้ ก็เพราะว่าไม่อยากให้เธอทำเรื่องที่ฉันไม่ชอบออกมา!
ฉันก็แค่ขังเธอสามวันก็พอ ผ่านไปสามวันเธออยากจะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากที่จะมายุ่งเรื่องเธอ
อีกอย่าง เธอวางใจ เพื่อที่จะชดใช้ความเสียหายที่เธอได้ รอให้เรื่องผ่านไป ฉันจะหาตัวคนที่เธออยากจะได้ พอเป็นแบบนั้นพวกเราก็ถือว่าร่วมมือกัน ไม่ติดค้างกันแล้ว”
จิ่งเสี่ยวหย่าโมโหจนแทบกระอักเลือด
ทำไมถึงเรียกว่าช่วยเหลือกัน ไม่ติดค้างกัน?
ที่เธอไม่ติดต่อหาใครนั้น ได้นั่งเรือไปที่เกาะซีหนิงในคืนนั้น ก็เพราะว่าจะอาศัยโอกาสที่อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งตัว แล้วไปจับจิ่งหนิงไว้
ตอนนี้กลับจะต้องถูกขังสามวัน?