วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 181 ทั้งกำกับและแสดงเอง
บทที่ 181 ทั้งกำกับและแสดงเอง
แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง ไม่รู้ใครแอบอยู่ในที่มืด มีแสงสีเงินเปล่งประกายออกมา
เสียงกล้องถ่ายรูปดังรัวขึ้นหลายครั้ง “แชะ แชะ” ไม่นาน ก็มีคนกดโทรศัพท์โทรออกไป
“ถ่ายได้แล้ว ฉันจะส่งให้เธอเดี๋ยวนี้แหละ จำคำสัญญาของเธอเอาไว้นะ”
……
เพราะพรุ่งนี้ต้องถ่ายละคร ดังนั้นงานเลี้ยงจึงไม่ได้เลิกดึกมากนัก
ไม่ถึงสามทุ่มงานเลี้ยงก็สิ้นสุดลงแล้ว
หลังจากเสร็จสิ้น ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าจิ่งหนิงเพิ่งกลับมาถึงห้องพัก ก็ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยวเหอ
ช่วงนี้เธอไม่อยู่ที่บริษัท ดังนั้นเรื่องทั้งหมดของซิงฮุยจึงมอบหมายให้เสี่ยวเหอจัดการ
ยังไงตอนนี้ซิงฮุยก็มีศิลปินอยู่ไม่มาก ถ้าหากถังลั่วเหยามีเรื่องอะไรก็จะโทรหาเธอเอง ส่วนคนอื่น ๆ เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นกันทั้งนั้น เสี่ยวเหอติดตามเธออยู่ข้างกายได้ฝึกฝนมาหลายปี ตอนนี้พร้อมรับมือได้แล้ว
จิ่งหนิงรับสาย ยังรู้สึกแปลกใจ คิดว่าบริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้น คิดไม่ถึงว่าเมื่อรับสาย ก็ได้ยินเสียงร้อนรนของเสี่ยวเหอ
“พี่หนิง พี่รีบเปิดดูเวยโป๋เร็วเข้า พี่ติดอันดับค้นหายอดนิยมแล้ว”
จิ่งหนิงตกตะลึง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อกี้ฉันก็เพิ่งเห็น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่สตูดิโอ พี่ไปดูก่อนเถอะ”
จิ่งหนิงตอบรับ แล้วเปิดดูเวยโป๋
เมื่อเห็นค้นหายอดนิยม ก็เห็นแฮชแท็กที่น่าตกใจ #จิ่งเสี่ยวหย่าจิ่งหนิงปรองดองกัน#
เธอกดเข้าไปดู เห็นคลิปวิดีโอหนึ่ง
ก็คือวันนี้ที่งานเปิดกล้อง เป็นคลิปที่จิ่งเสี่ยวหย่าให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
แต่ตอนนั้น เธอยืนอยู่อีกข้าง และไม่ได้พูดแย้งอะไรออกมา บวกกับทั้งสองคนยืนอยู่ที่กำแพงสีแดงที่ไว้เซ็นชื่อด้วยกันพอดี มุมของคลิปวิดีโอนี้มองไปแล้วเหมือนทั้งสองคนยืนอยู่ใกล้กันมาก
ถ้าหากไม่ได้อยู่ใกล้ชิดในเหตุการณ์ เพียงแต่ดูคลิปวิดีโอนี้ ก็เข้าใจผิดได้ง่ายว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นดีขึ้นแล้ว ถึงขนาดปรองดองกันเลยทีเดียว
จิ่งหนิงยิ้มออกมาอย่างเย็นยะเยือก
ที่แท้จิ่งเสี่ยวหย่า ก็ใช้วิธีนี้หรอกเหรอ?
หลอกใช้เธอ เพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง?
เสี่ยวเหอไม่ได้ยินเสียงเธออยู่ครู่ใหญ่ เลยไม่รู้ว่าเธอเห็นแล้วหรือยัง
เลยพูดอย่างร้อนรนในโทรศัพท์ว่า : “พี่หนิง เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ก่อนพี่เข้ากองถ่ายได้กำชับฉันเอาไว้ ว่าถ้าหากมีข่าวอะไรเกี่ยวกับจิ่งเสี่ยวหย่าต้องรีบบอกให้พี่รู้เป็นอันดับแรก ตอนนี้ข่าวแรกก็คือเรื่องที่พวกพี่สองคนอยู่ด้วยกัน นี่มัน……หรือพวกพี่คืนดีกันแล้ว?”
จิ่งหนิงพูดออกมาอย่างเย็นชา : “เปล่า”
“แล้วคลิปนั่นคือ……”
“หล่อนอยู่ต่อหน้านักข่าว ทั้งกำกับและแสดงละครฉากหนึ่งเองก็เท่านั้น”
จิ่งหนิงพูดพลางออกจากเวยโป๋ จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมออกจากตัว
“ก็ปล่อยแฮชแท็กค้นหายอดนิยมนี้ไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ต้องไปสนใจ”
“ห๊ะ?” เสี่ยวเหอรู้สึกแปลกใจ “แต่หล่อนแสดงให้เห็นว่ากำลังใช้พี่เป็นเครื่องมือนะ คิดจะเหยียบพี่เพื่อล้างมลทินให้ตัวขาวสะอาด นี่มัน……จะยอมให้หล่อนเหยียบพี่อย่างนี้จริง ๆ เหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอน”
จิ่งหนิงยิ้มออกมา “ฉันมีวิธีรับมือของฉัน ตอนนี้หล่อนจะล้างสะอาดแค่ไหน ต่อไปตอนที่น้ำสกปรกสาดกลับไปก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น วางใจเถอะ! เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจหรอก”
เสี่ยวเหอได้ยินเธอพูดอย่างนี้ ก็ค่อยวางใจลงหน่อย
“งั้นก็ได้ ดึกแล้ว พี่รีบพักผ่อนนะ”
“อืม”
วางสายแล้ว จิ่งหนิงก็โทรคุยกับลู่จิ่งเซินสักพัก จากนั้นก็พักผ่อน
อีกฟาก จิ่งเสี่ยวหย่าเห็นเรื่องค้นหายอดนิยมบนเวยโป๋ ก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
เธอพูดกับถงซูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บนโซฟาว่า : “ฉันบอกแล้วว่ายัยชั้นต่ำจิ่งหนิงนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน เธอดูสิ โดนฉันใช้เป็นเครื่องมือเอาเสียง่าย ๆ”
ถงซูก็เห็นหัวข้อค้นหายอดนิยมนั้นแล้วเหมือนกัน เลยพยักหน้าคล้อยตาม
“อืม หมากเกมนี้เธอเดินได้ไม่เลวนี่ ตอนนี้ละครเรื่องใหม่เพิ่งเริ่มถ่ายทำ มีประเด็นร้อนแบบนี้ออกไป ทุกคนต่างพากันคิดว่าพวกเธอคืนดีกันแล้วจริง ๆ
ส่วนจิ่งหนิงก็เห็นแก่หน้าของหลินซูฝาน เพื่อความสามัคคีปรองดองกับคนในกองถ่าย เลยไม่น่าจะพูดปฏิเสธอะไรออกมา ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของกองถ่ายก็คงได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น ถึงแม้ในใจเธอจะโกรธแค้นแค่ไหน ก็ทำได้แค่อดกลั้นเอาไว้อย่างนั้น”
จิ่งเสี่ยวหย่าแสยะยิ้มออกมา “นี่เพิ่งจะเป็นก้าวแรกเองนะ! พี่ถง เธอคอยดูเถอะ ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะทำให้มันได้รู้ว่า สุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้!”
ถงซูไม่ได้พูดอะไรอีก ดวงตาเป็นประกาย ทันใดนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น : “จริงสิ ทำไมพักนี้ไม่เห็นคุณชายมู่มาหาเธอเลย? พวกเธอมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าจิ่งเสี่ยวหย่าก็เปลี่ยนไปทันที
เธอตบโต๊ะอย่างแรง “อย่าไปพูดเลย ช่วงนี้เขาไม่รู้เป็นอะไร ไปคลั่งไคล้การฟันดาบอะไรก็ไม่รู้ วันวันนอกจากทำงานก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องฟันดาบ แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เจอกันตั้งหลายครั้งแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะมาหาฉันเลย”
ถงซูได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว
“ทำไมเป็นอย่างนั้นไปล่ะ? ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจอะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ?”
จิ่งเสี่ยวหย่ากลอกตาไปมา
“ใครจะไปรู้ล่ะ?”
ถงซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างลังเลเล็กน้อย : “หรือข้างนอกเขาจะแอบ……”
จิ่งเสี่ยวหย่าเห็นสายตาของเธอ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอหมายความว่ายังไง
สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหน้า
“น่าจะไม่มี ถึงแม้ฉันจะไม่อยู่ข้างกายเขา แต่ฉันก็มีคนของฉันอยู่ที่นั่น ไม่ได้ยินว่าเขาไปใกล้ชิดกับใครที่ไหนนะ และต่อให้ช่วงนี้พวกเราไม่ได้ใกล้ชิดกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อฉัน ฉันมั่นใจว่ายังเหมือนเดิม”
ได้ยินเธอมั่นใจอย่างนี้ ถงซูก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“งั้นก็ดี ช่วงเวลาที่สำคัญอย่างนี้ พวกเธอสองคนห้ามมีปัญหาระหว่างกันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคงได้ตกเป็นกระแสขึ้นมาจริง ๆ ขอเพียงให้เธอยังคงเป็นว่าที่คุณนายของตระกูลมู่ ไม่ว่าสถานการณ์ด้านนี้จะเป็นยังไง ยังไงสุดท้ายก็ยังมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง”
จิ่งเสี่ยวหย่าพยักหน้า ลูกตากลอกไปมา แล้วก็แสยะยิ้ม
“ผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังเหรอ? อาจจะ……ไม่นานคงไม่ใช่แค่ตระกูลมู่เท่านั้นหรอก”
ถงซูตะลึงงัน ไม่ค่อยเข้าใจที่เธอพูดเท่าไหร่นัก
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าจิ่งเสี่ยวหย่าไม่ได้คิดจะอธิบายให้เธอเข้าใจ เมื่อเห็นว่าดึกแล้วก็เริ่มไล่คนอื่น
“พอได้แล้ว ดึกมากแล้ว ฉันต้องการพักผ่อนแล้ว เธอก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
ถงซูเห็นดังนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วกลับออกไป
วันถัดมา เริ่มงานอย่างเป็นทางการ
เพราะช่วงเช้าเป็นฉากของจิ่งหนิงและสวี่เจียมู่ ดังนั้น จิ่งหนิงจึงมาถึงที่กองถ่ายเช้ามาก
แต่งหน้า ทำผม เปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้เวลาทั้งหมดสองชั่วโมงกว่าถึงได้เสร็จเรียบร้อย
เก้าโมงครึ่ง ก็เริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการ
จิ่งหนิงถึงแม้ว่าตัวเองจะเข้าฉากต่อสู้จริง ๆ เป็นครั้งแรก แต่โชคดีที่ดูแลศิลปินมาหลายปี อีกทั้งไปกองถ่ายมานับครั้งไม่ถ้วน ถึงจะไม่เคยแสดงเองแต่ก็เห็นมาเยอะแล้ว
ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่สำหรับสวี่เจียมู่ เป็นเพราะครั้งแรกที่ถ่ายละครย้อนยุค เลยท่องบทค่อนข้างแข็งทื่อ ระหว่างถ่ายทำเลย NG หลายครั้ง
หลินซูฝานไม่ได้เป็นคนใจเย็นนัก เมื่อ NG หลายครั้งเข้า ก็อดไม่ไหวที่จะด่าออกมา
สวี่เจียมู่ที่ถูกด่าก็หน้าหงอยไร้ชีวิตชีวา จิ่งหนิงยิ้มออกมาแล้วพูดให้กำลังใจเขาเบา ๆ “สู้ ๆ นะ! ลองท่องบทในใจให้คล่องก่อนสักหนึ่งรอบ คล่องแล้วพวกเราค่อยเริ่มใหม่”
สวี่เจียมู่มองเธอด้วยความตื้นตันใจ หลังจากนั้นถ่ายทำอยู่หลายตอน ก็ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
ตอนที่จิ่งเสี่ยวหย่ามาถึงกองถ่าย ก็เห็นทั้งสองคนกำลังเข้าฉากด้วยกันพอดี นั่นเป็นตอนที่พระเอกกับนางเอกเจอกันครั้งแรกได้ไม่นาน เป็นคู่รักคู่แค้นกัน จิ่งหนิงต้องตบสวี่เจียมู่หนึ่งที จากนั้นสวี่เจียมู่ก็จับมือเอาไว้แล้วทั้งคู่ก็ล้มกลิ้งลงไปบนพื้น