วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 87 บังอาจไม่กลับมา
ตอนที่ 87 บังอาจไม่กลับมา
หลังจากพูดคุยกับรองหัวหน้าที่แวววัยรู้จักเสร็จ ในที่สุดวัจสากับเธอก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน
ที่จริงสภาพแวดล้อมของหอพักมหาวิทยาลัยก็ไม่ถือว่าแย่ ในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย เช่นเครื่องปรับอากาศ กาน้ำร้อน ไวไฟ และไม่ต้องปืนขึ้นลงเตียงด้วย อีกอย่างเพื่อนร่วมหออีกสองคนก็ไม่ค่อยกลับหอด้วย
หลังจากที่แวววัยสอบถามเสร็จ ก็รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปพักหอนอกกับแฟนและแทบจะไม่กลับมาเลย แต่ที่ที่นี้เป็นสถานที่นัดพบกับพ่อแม่ ; ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคนไม่ว่าเพราะอะไร เธอมักจะมาพักเฉพาะสุดสัปดาห์เท่านั้น
เป็นแบบนี้ก็ทำให้พวกเราอิสระมากขึ้น อีกอย่างพื้นที่ก็กว้างมากขึ้นไม่น้อย
ดังนั้นวันแรก ในห้องมีเพียงวัจสากับแวววัย
แวววัยที่เพิ่งจัดการกับผ้าปูเตียงก็หันหน้า และยื่นมือจับมือวัจสา "วัจสา เธอต้องใจแข็งเข้าไว้นะ! อย่าให้คนที่ชื่อธัชชัยโทรให้กลับ แล้วเธอก็ทิ้งฉันไว้คนเดียว เพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงอยู่ที่นี่อย่างเงยเหงาแน่!"
วัจสาที่กำลังเก็บผ้าห่มก็ถูกเธอจับมือ เลยต้องหยุดชะงัก เมื่อนั่งลงก็หยิกแก้มเธอ "วางใจเถอะ ฉันไม่ทอดทิ้งคุณขี้บ่นอย่างเธอหรอก"
"คุณนาย? ใครคือคุณนาย? คุณต่างหากที่เป็นคุณนาย โอเคไหม? เรื่องของเธอกับธัชชัยมันผ่านไปแล้ว" แวววัยยิ้มและพูดขึ้น
ไม่นานเด็กผู้หญิงสองคนก็เริ่มโยกย้ายส่ายสะโพกจนทำให้บรรยากาศคึกคัก เสียงของเด็กผู้หญิงสองคนดังก้องในห้อง
ไม่นาน ก็รู้สึกมีความสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
วัจสาคิดแบบนี้
อยากหัวเราะก็หัวเราะ อยากร้องไห้ก็ร้องไห้ โดยไม่มีความกังวลใจ แต่คงเป็นแค่เด็กนักศึกษาถึงจะทำได้อย่างนี้ เพราะตอนทำงานคงต้องเผชิญกับเรื่องที่ไม่ดี คนที่ไม่ชอบ
ชีวิตคนเรา ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดคือช่วงเด็กถึงช่วงวัยรุ่น แต่ในตอนนั้นตัวเองกลับอยากเติบใหญ่
อย่างที่ทักษิณบอกไว้ว่า คนในอยากออก คนออกอยากเข้า จนกว่าจะเข้าคุกถึงจะรู้ว่าสิ่งแรกนั้นคือสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุด
วัจสาค่อยๆสู้พละกำลังของแวววัยไม่ได้ เพราะแวววัยอยู่สถานสงเคราะห์เด็กทุกวัน อีกอย่างเด็กส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กพิการ หลายๆครั้งเธอต้องแบกเด็กขึ้นลงบันไดสิบกว่าครั้งสุดท้ายแวววัยขึ้นมานั่งบนตัวของวัจสา ส่วนใบหน้าที่สวยงดงามของวัจสาอยู่ข้างล่างของแวววัย จู่ๆเธอก็ยิ้มแห้งๆและถามว่า : "วัจสา ครั้งแรกของเธอ…รู้สึกยังไงบ้าง? เจ็บมากไหม? ได้ยินมาว่าครั้งแรกเจ็บมากเลย…อีกอย่างธัชชัยของเธอก็มีรูปร่างสูงกำยำ เธอต้องเจ็บแทบตายแน่?"วัจสาคิดไม่ถึงว่าแวววัยจะเปิดประเด็นถามเรื่องส่วนตัว แก้มของเธอตอนนี้แดงระเรื่อแล้ว "แวววัย เธอตั้งใจล้อฉันเล่นใช่ไหม? แต่ถ้าเธออยากรู้จริงๆ ไม่ลองกับลุงพีรพัทเธอดูล่ะ แล้วจะได้รู้ว่าเป็นยังไง?"เมื่อแวววัยได้ยินชื่อคนนั้นจากปากของวัจสา ก็มีท่าทางโศกเศร้าเสียใจ และลงจากบนตัวของวัจสามานั่งบนเตียง ส่วนมือสองข้างจับหัวเขาตัวเองนี้เป็นท่าทางบ่งบอกว่าเธอไม่มีความรู้สึกปลอดภัย หรือเป็นท่าทางทำอะไรไม่ถูก วัจสารู้ดี ดังนั้นเธอเลยยืนขึ้นนั่งอย่างลุกลี้ลุกลน และจับบ่าของเธอเบาๆ "หรือว่าฉันพูดอะไรผิด? ขอโทษนะแวววัย ฉันไม่ได้ตั้งใจ…"แวววัยพยักหน้า "ไม่เป็นไร นี่คือปัญหาของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ อย่าโทษตัวเอง"แวววัยมองพื้นอย่างเหม่อลอย ที่จริงเป็นเพราะเธอน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองอยู่ "วัจสา เธอว่าคนที่ไม่สวยอย่างฉันจะสามารถแต่งงานได้กับผู้ชายที่หน้าตาไม่แตกต่างกัน ใช่ไหม?วัจสามองเธออย่างเคร่งขรึมและพูดอย่างจริงจังว่า : "จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? หน้าตาไม่ดีแล้วไง รอให้เธอทำศัลยกรรมก่อนเดี่ยวก็สวย อย่าสนใจรอยแผลจางๆ เพราะคนนอกไม่ได้ตั้งใจดูไงเลยมองไม่มองว่า จริงๆแล้วแวววัยของพวกเราน่ารักขนาดไหน" ขณะที่เธอพูดก็กอดแวววัยด้วยส่วนแวววัยเอาแต่ก้มหน้า "คนอย่างนี้ จริงหรือเปล่าที่ไม่มีทางรักษาแล้ว เห็นได้ชัดว่าป้าอุษามณีมีหัวใจดั่งเจ้าหญิง เมื่อวานพีรพัทมาหาฉัน เมื่อเขาทราบข่าวว่าฉันมีเงินค่าเล่าเรียนไม่ครบก็ให้เงินฉันก้อนหนึ่ง แต่ฉันไม่ต้องการ"ทุกคนนึกว่าเราเป็นแฟนกัน แม้แต่คณดนิตายังเชียร์ให้พวกฉันเลย แต่ฉันแทบไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลย… ถึงแม้เขาจะแต่งงานมาแล้วสองครั้ง อายุมากกว่าฉันมาก แต่คณดนิตาก็ยังบอกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เอาอกเอาใจคนอื่น…แต่ฉันไม่อยากอยู่ด้วยกันกับเขา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้…เธอว่ายังไง? วัจสา?"วัจสาลูบผมอันยาวสลวยของแวววัยด้วยความเอ็นดู "ไม่มีความรู้สึกก็ไม่สมควรอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว อีกอย่างแบบเธอก็ใช่ว่าไม่มีใครไม่เอา ฉันว่าเธอควรหาเวลาอธิบายกับเขา ไม่ต้องบีบบังคับตัวเองให้รัก เข้าใจไหม?""ฉันเคยบอกกับเธอแล้ว บอกหลายครั้งแล้วด้วยว่า…เธอรู้ไหมว่าเขายังไง?" เมื่อแวววัยพูดถึงตรงนี้ เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงดูผิดปกติ"ภาพลักษณ์ภายนอกเขาบอกว่าไม่เป็นไร จะรอฉันเสมอ และจะรอจนกว่าฉันจะรักเขา แต่ลับหลังฉันกลับเขากลับไปพูดกับคนขับรถว่า : "ก็แค่หน้าเหมือนกีบหมู กล้าทำตัวสูงส่งเหมือนนางฟ้า ! คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเอาฉันไปพูดแบบนี้…แบบเจ็บแสนสาหัส!"แวววัยพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น เรื่องนี้เธอไม่เคยพูดกับใครมาก่อน เพราะมันน่าอับอายมาก ถ้าหากตัวเองเป็นแบบนี้ต่อไป จะสามารถหาผู้ชายที่ชอบอยู่ด้วยกันได้ไหม?ทำไมสายตาของคนอื่นถึงสำคัญขนาดนั้นล่ะ? ไม่สามารถมีชีวิตอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขหรอ?ในดวงตาของวัจสาเผยเปลวไฟ และดุด่าว่า : "คิดไม่ถึงว่าไอ้ลุงพีรพัทมันจะเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างนี้! และเป็นคนต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง มันคิดว่าตัวเองดีเลิศมากเลยหรอ? ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งก็เท่านั้น! แวววัย พวกเราอย่าไปเสียดายเขา ผู้ชายแบบนี้ควรตัดให้ขาด และต้องพูดให้ชัดเจน…"วัจสายังไม่ทันพูดจบ โทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็ดังขึ้น จนทำให้สาวน้อยที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์เสียใจสะดุ้งตกใจวัจสามองแวบหนึ่ง เป็นเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของบ้านตระกูลศรีทอง จู่ๆเธอก็นึกออก เธอมาพักในหอพักเป็นการตัดสินใจชั่วคราว และยังไม่ได้บอกคณภษิตด้วย…ตอนนี้ทำได้เพียงหน้าด้านโต้เถียง…."คณภษิต? ขอโทษด้วยค่ะ ลืมบอกคุณเลยค่ะว่า ฉันพักหอพักนักศึกษา…" วัจสาพูดอย่างอ่อนน้อมคณภษิตนิ่งอึ้งสักพัก เมื่อฟังจากน้ำเสียง คุณผู้หญิงคงตัดสินใจพักที่หอพักนักศึกษาจริงๆ ตอนภูผากลับมาตอนบ่าย เขาบอกกับคณภษิตแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่านี้จะเป็นความหมายของคุณผู้หญิง"มีอะไรหรือเปล่าครับ? หรือเป็นเพราะอยู่บ้านตระกูลศรีทองไม่สะดวกสบาย? หรือรู้สึกว่าที่นั่นไม่ดี? ผมสามารถเรียกคนไปซ่อมแซมได้นะครับ"เมื่อได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงเป็นใยของคณภษิต หัวใจที่เย็นเป็นน้ำแข็งก็เริ่มร้อน "เปล่าเลยค่ะ คุณอย่าเดามั่วนะคะ เป็นเพราะอยู่ปีสี่แล้วเลยอาจจะยุ่งมาก ดังนั้นฉันรู้สึกว่ามาพักหอพักนักศึกษาน่าจะสะดวกมากกว่า คุณวางใจเถอะ หากฉันมีเวลาจะกลับไปเยี่ยมวรพลค่ะ อีกอย่างฉันจะดูแลตัวเองดีๆ ถ้าอย่างนั้นตามนี้นะคะ สวัสดีค่ะ"ไม่นาน วัจสาก็พูดจบ และรีบวางสายทันที เป็นดังที่คิดต้องใจแข็ง ไม่เช่นนั้นก็คงวางสายเร็วแบบนี้ไม่ได้ อีกอย่างวัดจสาไม่ค่อยวางสายโทรศัพท์คนอื่นก่อนกลางคืน เวลาสามทุ่มตรงเป็นเวลาตอนที่ธัชชัยก้าวเข้าประตูใหญ่ของบ้านตระกูลศรีทองพอดี และไม่ลืมอยากจะเจอผู้หญิงคนนั้น เพราะอยากให้ร่างกายอ่อนนุ่มของเธอมาคลี่คลายความเหนื่อยล้าของร่างกายตัวเองแต่กลับไม่เห็นเงาร่างของผู้หญิงคุ้นเคยนั่งอยู่บนโซฟาเลย ทันใดนั้นคิ้วเรียวยาวที่หล่อเข้มของเขาก็ชิดติดกัน และนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ "ป้าอ้อย คุณผู้หญิงล่ะ? เรียกเธอออกมาหน่อย!"ภรรยาไม่นั่งในห้องโถงรอสามีกลับมาหรอ แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?คณภษิตที่ยืนอยู่ด้านข้างกำลังคิดอยู่ว่าจะบอกเขาเรื่องที่คุณผู้หญิงไปพักที่หอพักนักศึกษายังไง แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ธัชชัยจะสนใจว่าคุณผู้หญิงไปไหนด้วย ในใจของเขาตอนนี้ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวลป้าอ้อยทำหน้าทำตาขอให้คณภษิตช่วย เธอไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงไปไหน…ดูเหมือนว่าหลังจากไปเรียนวันแรกวันนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย"คุณผู้หญิง…ไม่ได้อยู่บ้านครับ…" เมื่อคณภษิตเห็นสีหน้าของธัชชัยยิ่งเคร่งเครียด ก็อดใจไม่ได้ที่จะลุกลี้ลุกลน เพราะถ้าหากท่านชัยรู้ว่าคุณผู้หญิงอยู่โรงเรียน ไม่แน่อาจจะให้คนที่นั่นส่งเธอกลับมา…"ไม่อยู่บ้านอีกแล้ว? ครั้งนี้ไปไหนแล้วล่ะ? บ้านเดิมขุนทดหรอ? สถานสงเคราะห์? หรือว่าไปหนีเที่ยวเล่นข้างนอก? นิสัยเสียไม่ยอมเปลี่ยนจริงๆ!" เมื่อธัชชัยนึกถึงตอนเมื่อก่อนตอนที่เธอปิดบังตัวเองเพื่อออกไปเต้น เขาก็โมโหขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ เห็นบ้านศรีทองเป็นอะไรกัน? แล้วเห็นตัวเองเป็นใครด้วย?คณภษิตพูดอย่างระมัดระวังว่า : "คุณผู้หญิง ตอนนี้พักอยู่ที่หอพักนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยอยู่""อยู่หอหรอ?" ธัชชัยที่จบมาไม่กี่ปี เมื่อได้ยินมหาวิทยาลัยหรือหอพักก็รู้สึกไกลตัวมาก เพราะสมัยตอนที่เขาเป็นนักศึกษานั้น เขามักจะอยู่บ้าน หรือซื้อห้องข้างนอกเลย"ใช่ครับ เพราะงานในช่วงปีสี่มีเยอะมาก ดังนั้นคุณผู้หญิงเลยคิดว่าพักที่นั่นจะสะดวกมากกว่า เลยตัดสินใจจะย้ายเข้าไปพรุ่งนี้" คณภษิตรีบอธิบายขึ้นคิ้วคมเข้มของธัชชัยติดกันเหมือนที่คิดไว้ ผู้หญิงคนนี้กำลังหลบซ่อนตัวเองอยู่! เมื่อก่อนหนีกลับบ้านเดิมขดทดหรืออาจจะไปสถานสงเคราะห์เพื่อหลบซ่อนจากเขา ตอนนี้ยังจะหนีไปหอพักนักศึกษาอีกหรอ? กล้าหาญไม่ใช่น้อยเลยเพียงแต่ตัวเองจะไปพักที่หอพักของมหาวิทยาลัยจริงหรอ? เมื่อธัชชัยคิดสักพักก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมมันคงไม่สะดวกจริงๆ…นี่แทบจะเป็นความคิดที่เหลือเชื่อเกิน หลังจากพูดจบ ธัชชัยก็ยิ้มแย้ม"คณภษิต" จู่ๆธัชชัยก็เรียกขึ้นทันทีธัชชัยที่ตอนแรกดูเหมือนเหม่อลอยอยู่ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที "ท่านชัยมีอะไรจะสั่งการไหมครับ?""โทรหาผู้หญิงคนนั้นให้กลับมา บอกว่าให้กลับมาปรนนิบัติผม!"คณภษิตพูดขึ้นว่า : "คุณผู้หญิงปิดเครื่องครับ ผมโทรทั้งวันแล้ว แต่เธอก็ไม่เปิดเครื่องอีก มีเพียงตอนเที่ยงที่เธอโทรกลับมาแปบเดียว ดูเหมือนจะยุ่งมาก" ที่จริงไม่ได้ยุ่งหรอก แต่กลัวว่าธัชชัยจะดุด่ามากกว่า…อีกอย่างคุณผู้หญิงก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าท่านชัยต้องโมโหแบบนี้ ดังนั้นเลยปิดเครื่องไว้ตั้งนานแล้ว เหมือนจะคาดการณ์มาแล้ว!ภายในดวงตาของธัชชัยเผยแววตาโกรธเคืองแวบหนึ่ง "ดีมาก ไม่เพียงรู้จักวางแผน ตอนนี้ยังรู้จักหนีแล้วด้วย! มีการพัฒนาจริงๆ!" ไม่นานก็ถามขึ้นว่า : "มีเพียงเบอร์ของแม่เธอหรอ? แล้วเบอร์ของหอพักล่ะ?"คณภษิตไม่มีกะจิตกะใจโทรหาแล้ว "ท่านชัยครับ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว อีกอย่างคุณผู้หญิงกับเพื่อนร่วมหอคงจะนอนกันแล้ว วันนี้เธอเพิ่งพักเข้าไป ดังนั้นยังทันทีจะถามเบอร์โทรศัพท์ของหอพัก พรุ่งนี้ผมจะถามให้แน่นอนครับ!"