วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 831 แม่บุญธรรมของเด็ก
ตอนที่ 831 แม่บุญธรรมของเด็ก
แวววัยเป็นเพื่อนสนิทกับของเธอ คงไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น
เธอตั้งท้องได้สามเดือนแล้ว แต่กลับไม่ลืมที่จะมาส่งอาหารเที่ยงให้วัจสาทุกวัน
จริงๆเธอก็คงจะเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน ดังนั้นจึงต้องออกมาสูดอากาศข้างนอก แล้วออกมาโม้กับวัจสาเพื่อแก้เหงา
“สาจ๋า แม่บุญธรรมของลูกฉัน มาส่งข้าวเที่ยงให้แกแล้ว!”
แวววัยร้องไห้อย่างมีความสุข กำลังเดินเข้ามาจากข้างนอก แต่เธอไม่รู้ว่าวันนี้ธัชชัยกับอยู่โรงเรียนสอนเต้นด้วย แล้วยังอยู่ในห้องซ้อมเต้นอีกด้วย
แวววัยที่รู้สึกหวาดกลัว จึงใช้ผ้าคุมท้องของตัวเองไว้ จริงๆเธอแค่ตั้งครรภ์ได้แค่สามเดือน มันคงจะดูไม่ออกเลย แต่แวววัยก็รู้สึกกังวล
“แวววัย ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือน ทำไมคุณอ้วนขึ้นแบบนี้? กลมเหมือนลูกบอลเลย!”
ธัชชัยพูดขึ้นอย่างสุขุม
จริงๆสองเดือนที่ผ่านมา แวววัยอ้วนขึ้นเยอะจริงๆ จริงๆเธอชอบออกกำลังกาย แต่พอเธอละเลยในการออกกำลังกาย เลยทำให้เธออ้วนขึ้นก็คงเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างแวววัยยังเป็นคนอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว และเป็นผู้หญิงที่อยากอาหารบ่อยๆ
แต่เธอก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่ธัชชัยพูด เธอไม่ได้อ้วนกลมเหมือนลูกบอลตลอดนั้น!
แวววัยยิ่งรู้สึกใจไม่ดี ไม่รู้ว่าธัชชัยได้ยินเรื่องเมื่อกี้ที่เธอบอกว่าแม่บุญธรรมของลูก
เธอจึงมองข้ามความคิดบ้าๆของผู้ชายคนนี้หรอก พวกเขาก็คงจะไม่มาคิดวิเคราะห์คำพูดของเธอหรอก ธัชชัยก็คงนึกว่าคำพูดของแวววัยที่บอกว่าแม่บุญธรรม ก็คงใช้ในการเรียกตัวเองเท่านั้น
“เด็ก” คนนั้นที่หมายถึงก็คงจะเป็นตะวัน
“พูดจบหรือยัง? แล้วยังมาบอกว่าฉันตัวกลมเหมือนลูกบอลอีก? คุณไม่รู้ว่าผู้หญิงเกลียดเพศตรงข้ามว่าเธออ้วนหรือไง? พูดแบบนี้คุณคงไม่มีข้าวเที่ยงจะกินหรอก!”
พอเห็นธัชชัยไม่ได้ไตร่ถามถึงคำที่เธอพูดขึ้น แวววัยจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“อย่าเลย ถ้าทำให้ผมหิวตาย วัจสาของผมก็คงปวดใจแย่!” ธัชชัยส่งสายตาให้วัจสาที่นั่งอยู่ข้างๆ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหอมเธอ
วัจสาจึงมองเขาอย่างไม่พอใจ “คุณหิวใช่ไหม ทำให้เขาหิวตายเลยฉันจะได้สบายใจหน่อย!”
“งั้น กับข้าวหนึ่งมื้อห้าหมื่นบาท คุณว่าไง?”
“ดิว!”
สำหรับงานเล็กๆน้อยๆแบบนี้สำหรับธัชชัยแล้วเป็นเรื่องเล็กมากๆ แต่สำหรับแวววัยที่เป็นคนขาดแคลนเงินแล้ว ก็เหมือนขนมที่ตกลงมาจากฟ้า
วัจสาเห็นเพื่อนสนิทที่เห็นแก่เงินมากกว่าเพื่อนตัวเอง เลยพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “แวววัย แกพอเถอะ ต้องหน้าเงินแล้วทิ้งเพื่อนแบบนี้เลยหรอ?”
“นี่ สองผัวเมียจะได้ปรับความเข้าใจกันโดยดี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? เอาบัตรเครดิตของคุณมา มื้อนี้ถือว่าฉันเลี้ยงก็แล้วกัน ฉันไม่อยากเป็นก้างขวางคออยู่อย่างนี้!”
แวววัยเลยรีบจับบัตรจากมือของธัชชัยไป แล้วก็ออกจากที่นั่น
“สา ป้อนผมสิ!”
พอแวววัยไม่อยู่ ธัชชัยจึงใช้วิธีการอ้อนเมียแบบนี้วัจสาจึงกลอกตามองบนใส่เขา ตัวเองจึงเปิดข้าวกล่องแล้วกินข้าวคนเดียวธัชชัยจึงดึงข้อมืออันขาวผ่องของเธอ จากนั้นก็เอาเนื้อที่คีบอยู่ตรงตะเกียบยัดเข้าปากตัวเอง“ที่แท้อาหารที่เมียป้อน มันหอมจริงๆ!”น้ำเสียงของธัชชัยที่เต็มไปความน่าดึงดูด กำลังฉุดวิญญาณของคนอื่นไปแบบนี้วัจสาจึงพูดขึ้นอย่างสุดคำบรรยาย “ธัชชัย หน้าของคุณล่ะ?”“หน้า? คุณก็ลองจูบดูสิจะได้รู้ว่าหน้าผมอยู่หรือไม่อยู่?”ธัชชัยจึงหันหน้าอันหล่อเหลาของเขาไปหาเธอวัจสาจึงนิ่งเงียบไปทันทีทันใดนั้นก็ถึงตอนดึกแล้ว คุณป้าคนหนึ่งที่มาเรียนเต้นก็ได้เข้ามาถาม “น้องสาจ๋า ทำไมอดีตสามีของหนูยังมีตามรังควานหนูแบบนี้ล่ะ?”วัจสาไม่รู้ว่าควรตอบยังไง จึงตอบกลับเสียงอ่อน “เขา…..เขาหน้าด้านค่ะ”“แต่ว่าพวกหนูไม่ได้หย่ากันแล้วหรอ? งั้นก็ควรแยกทางกันอย่างโดยดี ถ้านิสัยของคนเราเข้ากันไม่ได้ ก็คงจะทำให้สองฝ่ายต้องทรมาน ไม่งั้นป้าแนะนำหนุ่มๆให้รู้จักไหมจ้า!”คุณป้าที่เหมือนจะวางแผนไว้ตั้งแต่แรกก็ควักมือถือของตัวเองออกมาแล้วเปิดรูป“หนูดูผู้ชายคนนี้สิ เขาเป็นวิศวกร ปีนี้อายุสามสิบห้า ยังไม่ได้แต่งงาน เงินเดือนก็คงจะได้ประมาณหกเจ็ดหมื่น!”“คุณน้าคะ……ขอบคุณคุณที่หวังดีนะ แต่ช่วงนี้หนูยังไม่อยาก……”“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่หนูบอกไม่อยากก็ไม่อยากก็ได้ พอนึกว่าตอนนี้ยังสาวอยู่ แต่ยังไงก็เป็นผู้หญิงที่เคยหย่า แล้วยังมีลูกติดถ้าได้ไปแต่งงานใหม่”“คุณน้าคะ……หนู……”“อย่าทำเป็นเกรงใจหน่อยเลย เดี๋ยวป้าช่วยหนูนักเจอเขาไหม แค่ครึ่งชั่วโมงเขาก็มาที่นี่ได้แล้ว หนูก็ถือว่าแค่พบปะกัน ถ้าชอบก็ค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ ถ้าไม่ชอบก็แยกย้ายกัน”รอจนใกล้จะเลิกงาน วัจสารอไปนานมาก นึกไม่ถึงว่าธัชชัยไปรับตะวันกลับจากโรงเรียนแล้วหรือเป็นเพราะลูกชายซน ถึงถูกอาจารย์ลงโทษไม่ให้กลับบ้าน? หรือว่าเด็กน้อยแอบวิ่งไปไหนมา ธัชชัยจึงหาเขาไม่เจอ? หรือสองพ่อลูกไปเที่ยวไหนกันมา?วัจสาที่กำลังโทรหาธัชชัย ก็มีผู้ชายที่ถือช่อกุหลาบมาหาเธอสิ่งแรกที่วัจสาคิดถึงก็คือ ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นหนุ่มวิศวกรที่คุณน้าคนนั้นแนะนำให้แน่ๆเลยแต่ทำไมถึงบอกว่าอายุแค่สามสิบห้า แต่หน้าตาดูแก่กว่าน้าปยุตของตัวเองซะอีก?“คุณ…….คุณคือคุณวัจสาใช่ไหมครับ? สวยกว่าในรูปตั้งเยอะ! ผม…..ผมชื่อสุวิต เป็นคุณพี่แนะนำมา”วัจสานึกไม่ถึงว่าคนอื่นยังทำงานอยู่เลย ทำไมคุณน้าคนนั้นถึงได้เรียกตัวเขามาแบบนี้ แล้วยังให้เขาดูรูปของเธออีก? เธอแอบถ่ายตัวเองหรอ?วัจสาที่รู้สึกอับอาย พอเห็นสุวิตที่ดูเขินอายมากกว่าตัวเอง เธอจึงรู้สึกโล่งอกเบาๆ“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อวัจสาค่ะ”วัจสาได้แต่พูดถึงสถานการณ์ที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้ อีกอย่างเธอไม่ได้คิดจะหาคู่ครองใหม่ ตอนนี้ในใจของเธอคิดแต่เรื่องที่จะทำให้ตัวเองรวยอย่างเดียว!“คุณน้าคนนั้นน่าจะพูดเรื่องของฉันให้คุณฟังแล้ว ฉันแค่หย่ามาก่อน และยังมีลูกอายุห้าขวบ!”วัจสาแค่อยากจะให้เขารู้สึกลำบากและถอยห่างออกไปจากเธอผู้หญิงที่มีลูกติดอายุห้าขวบ แล้วยังเป็นแม่หม้าย ผู้ชายส่วนมากก็คงรับไม่ได้ยังไม่อยากจะรับเลี้ยงลูกของผู้ชายคนอื่น“อืม พี่เขาบอกผมแล้วครับ คุณวางใจเถอะ ผมรู้ว่าคนที่เป็นพ่อคนแม่คน ก็ย่อมกังวลเรื่องลูกตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็จะเลี้ยงดูลูกของคุณเหมือนลูกแท้ๆของผม เพราะว่า…..เพราะว่าผมก็ชอบเด็กครับ”คำพูดของสุวิตทำให้วัจสาซาบซึ้งใจจริงๆ มันฟังดูจริงใจมาก เหมือนดอกไม้กลางบึงดูๆแล้วเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งจริงๆ แต่ตอนนี้ตัวเองแค่……“ขอบคุณนะคะ แต่ว่าฉัน……ฉันยังไม่ทันได้เตรียมใจเลยค่ะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ”“ไม่เป็นไรๆ คุณไม่ต้องเร่งรีบหรอก……ผม…..วันนี้ผมมาก็เพื่อจะมาคบคุณเป็นเพื่อนเท่านั้น!” สุวิต เริ่มรู้สึกกังวล และอยากจะแก้ตัวแทนตัวเอง กลัวว่าวัจสาจะคิดว่าเขาคิดไม่ดีกับเธอ“อืม……ฉันจะเลิกงานแล้ว เชิญคุณกลับได้แล้วค่ะ…….”วัจสาเป็นคนที่มีจิตใจที่งดงาม เธอปฏิเสธผู้ชายที่ทำงานวิศวกรคนนั้นด้วยทางอ้อม แต่ว่าดูท่าทางสุวิตแล้ว เหมือนเขาจะไม่ยอมแพ้แค่ตอนนี้ก็ไม่ควรไล่เขาออกมาหรือเปล่า รู้สึกจะไม่มีมารยาทหน่อยๆ อีกอย่างเขาก็บอกแล้วว่าจะขอคบเป็นเพื่อน เขาไม่ได้ทำอะไรตัวเอง“งั้นฉันไปส่งคุณนะคะ!”“ไม่เป็นไรครับ!”“ไม่เป็นไรคะ เดินไปไม่กี่ก้าว”……“หม่ามี๊! รีบลงมารับลูกชายสุดที่รักเร็วๆ…..เร็วๆสิ…….”ใต้ตึกของโรงเรียนสอนเต้น มีเสียงของลูกชายเขาดังขึ้นเผอิญมาช่วยวัจสาหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่อึดอัดใจนี่สักที“ต้องขอโทษทีนะคะ ลูกฉันมาแล้ว ฉันไปรับเขาก่อน……”วัจสาจึงรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง และสุวิตเองก็ตามมาด้วย ยังไงเขาก็จะออกจากที่นี่ไปด้วย ถือโอกาสไปเจอหน้าลูกชายของวัจสาหน่อย และช่อดอกไม้ที่อยู่บนมือยังไม่ได้ให้เธอเลยหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนสอนเต้น ก็ได้รถเบนท์ลี่ย์สุดหรูจอดอยู่สองพ่อลูกก็สวมใส่สุดสูทที่เป็นทางการ แล้วจับช่อดอกไม้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูรถจริงๆธัชชัยชอบที่ตัวเองวิ่งอย่างมีเสน่ห์ แต่ว่าผู้หญิงบอกว่าเธอชอบผู้ชายที่สุขุมและเป็นผู้ใหญ่ ธัชชัยและลูกชายจึงเลือกรถเบนท์ลี่ย์เท่และสุขุมมารอรับซินเดอเรลล่าที่รอนั่งกระเช้ารถอยู่“ตะวัน ทำไมผมกลับมาช้าขนาดนี้?”พอดูสองพ่อลูกที่แต่งตัวอย่างเป็นทางการ วัจสาก็ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือดีใจดี มิอาจล่าพวกเขาจึงมาช้าขนาดนี้ สองพ่อลูกไปแต่งตัวมานี่เองเด็กน้อยไม่ได้ตอบวัจสา แต่กลับดูคนที่อยู่ข้างหลังของหม่ามี๊ สุวิตที่ถือช่อดอกไม้ลิลลี่อยู่“คุณเป็นใคร? คุณจะมาจีบหม่ามี๊ของผมหรอ?” เด็กน้อยถามสุวิตขึ้นอย่างไม่มีมารยาทสองสามวันมานี้ เขาแค่ได้ยินธัชชัยบอกว่าจะจีบหม่ามี๊ก็มากพอจะทนแล้ว อีกอย่างแดดดี้กำลังทำเรื่องที่จีบหม่ามี๊มาตลอดมาแต่ทำไมจู่ๆก็มีอีกคนโผล่ออกมาแบบนี้? อีกอย่างยังดูแก่ขนาดนี้“สวัสดีครับ อาชื่อสุวิตนะ แค่อยากจะคบเป็นเพื่อนกับหม่ามี๊ของผมเท่านั้น”สุวิตเห็นเด็กน้อยถามตัวเอง จึงรีบแนะนำตัวขึ้นมาโดยเร็ว“ผมไม่สนว่าคุณจะชื่ออะไร! ถ้าอยากจะเป็นเพื่อนกับหม่ามี๊ของผม ก็ต้องถามผมก่อน!”เด็กน้อยบ่นเป็นชุด“ตะวัน ผมห้ามเสียมารยาทแบบนี้!” วัจสาตำหนิขึ้นอย่างอ่อนโยน ตอนที่เธอวิ่งออกมา เหมือนเธอจะมองข้ามและไม่สนใจชายวิศวกรที่อยู่ข้างหลังเธอไปจริงๆพอเห็นธัชชัยที่ไม่พูดไม่จา วัจสาจึงค่อยๆแนะนำเขาขึ้นมา“คุณสุวิตคะ เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก นี่เป็นลูกชายของฉัน ตะวันเองค่ะ เขาซุกซนหน่อยๆ คุณอย่าได้ใส่ใจเลยนะคะ คนๆนั้น……อดีตสามีของฉันเอง”นี่เป็นครั้งแรกที่วัจสาแนะนำธัชชัยอย่างเป็นทางการขนาดนี้ ตอนที่เธอบอกว่าอดีตสามี ในใจของเธอก็เจ็บแสบเบาๆ“อ่อ สวัสดีครับ คุณพี่อดีตสามีคุณวัจสา”สุวิตเป็นที่ซื่อบื้อ เขาไม่ได้สังเกตเห็นบรรยากาศรอบตัวเขาไม่ดี แล้วยังยื่นมือไปทักทายธัชชัยอย่างเป็นมิตรและสีหน้านั้นของธัชชัย เย็นชาและน่าเกรงขามมากๆ“หยุดเดี๋ยว ใครบอกให้คุณเรียกพี่? ดูตัวเองก่อน แก่ซะขนาดนี้ แล้วยังเรียกผมว่าพี่?”นัยน์ตาของธัชชัยเต็มไปด้วยความเย็นชา “อีกอย่าง คนจนๆอย่างคุณ ยังคิดจะมาจีบผู้หญิงของผม?”ธัชชัยพูดขึ้นอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ไม่รู้หรอว่าซินเดอเรลล่ารออัศวินขี่ม้าขาวมารับ? คุณถือว่าป็นตัวอะไร? อับจนและเป็นคนเดินดินขนาดนี้!”