วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 803 ความสามัคคีเท่านั้นที่จะเอาชนะได้2
ตอนที่ 803 ความสามัคคีเท่านั้นที่จะเอาชนะได้ 2
แวววัยตะโกนบอกวัจสา
วัจสาเหนื่อยจนแทบไม่อยากขยับตัวแล้ว จึงตะโกนกลับไป “เธอก็เซ็นให้ฉันหน่อยสิ!”
เมื่อเห็นแวววัยไม่ทำตาย เธอที่ไม่รู้เรื่องจึงเริ่มขยับตัวด้วยความเหนื่อยล้า
พบกลับสองพ่อลูกหล่อเหลายืนถือดอกไม้อยู่หน้าประตู
อดยอมรับไม่ได้ ว่าธัชชัยเป็นผู้ชายที่หล่อมากจริงๆ และในความหล่อเหลานั้น มีความขี้อ่อยและความชั่วร้ายอยู่ เป็นความชั่วร้ายที่ดี
เมื่อเห็นวัจสา ธัชชัยจึงรีบยื่นดอกไม้ไปให้ แล้วฉีกยิ้มพลายเสน่ห์ขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
“ดอกไม้สวยๆสำหรับคนสวย เชิญเซ็นรับครับ คุณภรรยาที่งามยิ่งกว่าดอกไม้!”
คำชมของผู้ชายมักมีการเตรียมคำพูดที่สวยหรูไว้อยู่แล้ว
แต่ตะวันพูดสู้ไม่ได้ กลัวว่าคุณพ่อจะได้คะแนนมากมากกว่าตัวเอง จึงรีบยื่นคาเนชั่นในมือไป
“หม่ามี๊ ดอกไม้ให้หม่ามี๊ หม่ามี๊สวยกว่าดอกไม้นี้ร้อยเท่าพันเท่าเลย!”
หนูน้อยเลียนแบบได้เหมือนมาก จนวัจสาอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้ม
แต่วัจสายังคงมีความงอแงคำว่า “ภรรยา” จากปากของธัชชัย เป็นคำที่วัจสาเคยรอคอยในเมื่อก่อน หวังว่าจะได้ยินคำนี้จากธัชชัย คงจะดีใจน่าดู แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้นหลายปีมานี้เธออาจจะลำบากมามาก จนไม่อาจใช้คำหวานมาลบล้างมันได้ผ่านมาได้อย่างไร มีเพียงตัวเธอที่รู้ดีที่สุดศักดิ์ศรีของเธอถูกเหยียบจนจมแทบเท้าไปหมดแล้วยังเก็บขึ้นมาใหม่ได้ไหม?“เป็นอะไรครับ คุณภรรยาที่รัก? ประทับใจจนพูดไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะ?”ชายหนุ่มเดินขึ้นหน้าเล็กน้อย แล้วกระซิบที่ข้างหูวัจสา “ไม่ต้องพูดอะไรนะ ให้ฉันได้จูบ…”ได้ยินเพียงเสียงปั้ง ไม่เพียงแต่ไม่ได้จูบภรรยา ยังเกือบถูกประตูบานนั้นปิดกระแทกหน้าอีกด้วยธัชชัยนิ่งไป พลางยกมือขึ้นมาลูบจมูกของตัวเองที่ถูกกระแทกจนเจ็บ เหมือนกับยังไม่ได้สติจากการถูกหญิงสาวปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทุกอย่างต้องจบภายในหนึ่งจูบไม่ใช่เหรอ?ทำไมต่างจากที่คิดเยอะเลย?“แย่แล้ว ธัชชัยนายมันคนลามก คิดจะลวนลามหม่ามี๊ฉันอย่างเดียวเลย แผนผู้ชายอ่อนหวานครั้งนี้ก็ใช้ไม่ได้ ฉันว่าหม่ามี๊ดูโกรธกว่าเดิมด้วย”เมื่อเห็นว่าพ่อของเขาแพ้ หนูน้อยก้เริ่มดีใจ“ไม่ แผนการผู้ชายอ่อนหวานใช้ไม่ได้ ฉันคงพูดไร้สาระมากไป ต้องเจอปุ๊บแล้วจับเธอจูบถึงจะใช้ได้!”ธัชชัยลูบคางตัวเอง พลางครุ่นคิดถึงสาเหตุที่พ่ายแพ้“ชิ ฉันบอกแล้วว่านายไม่ได้ ตอนนี้เป็นไงล่ะ? ฉันถูกยืนทำโทษไปด้วยเลย”หนูน้อยค่อยๆมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง กลัวคนอื่นจะเห็นท่าทางเงอะงะของตัวเอง ถึงแม้ว่าการถูกหม่ามี๊ทิ้งไว้ข้างนอก จะเป็นเรื่องที่ไม่น่ารื่นเริงซักเท่าไหร่“นายไหวนายไปเลย! เจ้าเด็กนี่ก็รู้แต่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น”ปล่อยไก่ต่อหน้าลูกชาย ทำให้ธัชชัยเริ่มรู้สึกไม่พอใจวัจสา ทำไมเธอถึงขี้งอนขนาดนี้?เขาวางมาดตัวเองต่ำขนาดนี้ แถมยังมีดอกไม้ และคำพูดหวานๆ ทำไมเธอถึงยังไม่หายโกรธ?“หึ เธอจะจ้องฉันทำไม! หม่ามี๊รักฉันที่สุด ฉันเป็นดั่งชีวิตของหม่ามี๊!”หนูน้อยพูดด้วยความจองหอง เป็นเหมือนธัชชัยที่จองหองในอีกฉบับหนึ่ง“หม่ามี๊…ลูกชายที่รักหม่ามี๊รอข้างนอกจนเหนื่อยแล้วครับ! น่าสงสารจัง…ทั้งหิวทั้งเหนื่อยเลยเนี่ย…เปิดประตูให้ผมหน่อยนะหม่ามี๊…หม่ามี๊ที่รักของผม”เสียงขี้อ้อนของหนูน้อยลอยเข้ามา แถมยังจงใจลากเสียงยาวๆ ฟังแล้วดูน่ารักน่าเอ็นดูมากภายในห้องพัก แวววัยก็ไม่ได้นั่งดูเงียบๆ แต่เธอเตือนวัจสา เพื่อเปิดทางให้สองพ่อลูกที่อยู่ด้านนอก“วัจสา คนเราอะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ต้องมองไปข้างหน้า! เมื่อก่อนที่เธอลำบากขนาดนั้น ก็เพื่อครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้โอกาสที่ดีมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ทำไมเธอถึงปล่อยมันไปล่ะ?”ถึงแม้แวววัยจะช่วยสองคนพ่อลูกอยู่ แต่เธอยังหวังว่าให้วัจสามีชีวิตที่ดี ดังนั้นสิ่งที่เธอพูดเตือนค่อนข้างที่จะมีเหตุผลครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา? วัจสาเงยหน้า เพื่อที่ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา“หม่ามี๊ หม่ามี๊…ลูกชายแย่แล้ว! ผมออกมาจากท้องหม่ามี๊ หม่ามี๊จะไม่รับธัชชัยก็ได้ แต่ทำไมไม่เอาผมไปด้วยล่ะ? หม่ามี๊เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ…ข้างนอก…ข้างนอกหนาวมากเลย!”อ้อนไม่ได้ผม หนูน้อยจึงเริ่มคิดหาทางและแวววัยได้ใจสลายไปกับเสียงน่ารักขี้อ้อนของหนูน้อยไปแล้ว“วัจสา เธอได้ยินไหม? ลูกเลี้ยงของฉันอยู่ข้างนอกน่าสงสารขนาดไหน เขาแต่งตัวน่ารักขนาดนั้น เธอยังไม่รู้สึกอะไรหน่อยเหรอ? เธอไม่เปิดประตู งั้นฉันไปเปิดเอง!”ไม่ทันรอให้วัจสาตอบกลับ แวววัยก็รีบเดินไปเปิดประตูให้ทั้งสองพ่อลูก